ตอนที่แล้วบทที่ 231 ทะลวงระดับ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 233 ข้าจะฆ่าเจ้า !

บทที่ 232 สามารถฆ่าได้ง่ายๆ


บทที่ 232 สามารถฆ่าได้ง่ายๆ

" แม่นางฉาว จิตวิญญานสัมพัสพระเจ้าของเจ้านี่มหัศจรรย์ยิ่งนัก แล้วตอนนี้เจ้ารู้ตำแหน่งของฉื่อหยานและคนจากตระกูลหยางทั้งหมดที่อยู่ที่นี่หรือไม่ ?" บนเนินทราย หลังจากที่พานโจวพยายามปล่อยพลังวิญญายของเขาออกไป แต่ก็ไม่พบอะไร ในที่สุดเขาก็ถามฉาวจื่อหลาน ด้วยความหวังว่า หญิงสาวคนนี้จะมีคำตอบที่น่าพอใจ

ฉาวจื่อหลาน ขมวดคิ้วเข้าหากัน หลับตาและเงียบลง จากนั้นนางจึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นในฉับพลัน และส่ายหน้า " ข้ารู้สึกได้ว่าสถานที่แห่งนี้มีพลังบางอย่างรบกวนอยู่ ตอนนี้ข้าคิดว่าพวกตระกูลหยางคงออกจากที่แห่งนี้ไปแล้ว แล้วข้าเองก็ไม่รู้ด้วยว่าพวกเขาไปทางไหน " ของพวกเขา

" ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็แปลว่าเราหลงอยู่ทีนี่งั้นรึ ? " พานโจว ส่ายหัว ระเบิดหัวเราะ " สถานที่ๆแล้วร้ายแห่งนี้ไร้ซึ่งทางกลับ แปลว่าเราจะต้องติดอยู่ที่นี่ตลอดไปใช่หรือไม่ ? "

" ข้าเองก็ไม่อยากอยู่ที่นี่เหมือนันแหละ ! " สีหน้าของฉาวจื่อหลานมองไปอย่างดูถูก . " แม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าทางออกอยู่ที่ไหน แต่ทั้งหมดนี้ เราก็ยังสามารถค้นหาไปรอบ ๆและอาจจะพบกับบางสิ่งที่ผิดปกติได้ หึ ! คนที่สร้างสถานที่แห่งนี้ขึ้นมาไม่ทิ้งร่องรอยใดๆไว้เลย หืมม ข้าต้องการเวลา "

" การได้อยู่ร่วมสถานที่เดียวกับแม่นางฉาวนับว่าเป็นเกียรติของข้าแล้ว " พานโจวพูดพร้อมดวงตาของเขาที่ส่องประกายออกมา

ฉาวจื่อหลาน ไม่ตอบ ดวงตาที่งดงามของนางกลายเป็นประหลาดแต่นางก็ไม่ได้แสดงออกมา

" ศิษย์พี่ ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี ? " เหอซิงเหมิน และเซี่ยกุ่ย ทั้งคู่ยืนอยู่บนเนินทราย

โดยมีนักรบระดับปฐพีจากดินแดนปีศาจมหัสจรรย์อีกห้าคนยื่นอยู่รอบๆพวกเขา นักรบทั้งห้าเหล่านี้ ถือว่าพวกตนโชคดีที่ได้ติดตามมายังที่แห่งนี้

นักรบห้าคนยืนรอบๆเหอซิงเหมินและเซี่ยกุ่ยอย่างงียบๆ ป้องกันนักรบจากกลุ่มอื่นๆเพื่อไม่ให้ได้ยินสิ่งที่พวกเขาพูด

ใบหน้าของเซี่ยกุยกำลังครุ่นคิดพร้อมกับแววตาที่ส่องประกายเย็นชา เขาพูด " เจ้าถามข้า แล้วข้าจะถามใคร ? "

" ศิษย์พี่ท่านไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะ " เหอซิงเหมิน อารมณ์เสียเล็กน้อย ใบหน้าที่สวยงามของนางดูเหมือนว่านางกำลังจะร้องไห้ " ข้าจำได้ว่าท่านเคยเป็นห่วงข้ามาก แต่ทำไมท่านจึงพูดเช่นนี้กับข้า? ทำไมกัน ? "

สายตาของเซี่ยกุ่ยจ้องมองไปอย่างดุร้าย " เจ้าไม่รู้จริงๆรึว่าทำไมข้าถึงเป็นเช่นนี้ ? "

" ข้าไม่รู้ ! ! ! ! " เหอซิงเหมิน กลัวที่เห็นเซี่ยกุ่ยจ้องมาด้วยความโกรธ ดูเหมือนนางจะตกใจและก้าวถอยหลังไป แต่ก็ยังพยายามแสดงออกอย่างกล้าหาญและกล่าวว่า

" เมื่อเรามาถึงทะเลท้องฟ้า เจ้านั้นไม่เต็มใจจะมาที่นี่ จากนั้น ข้าก็สัมพัสได้ถึงความรู้สึกของจ้า เจ้าไม่ได้เข้าข้างฝ่ายดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ด้วยใจจริงทั้งหมดของเจ้า แต่ข้าก็ไม่คิดจริงๆว่าความคิดของเราจะต่างดีนขนาดนี้ ! ข้ารู้ดีว่าการต่อสู้ของเจ้ากับหยางซู่นั้นเป็นเพียงแค่การตบตา ! "

เซี่ยกุยก็ตะโกนขึ้นขณะที่เขาพูดเน้นประโยคสุดท้าย

เหอซิงเหมินร่างที่บอบบางก็สั่นเทา

" ศิษย์พี่ท่านรู้ได้อย่างไร ? "

" หึ ! ! " เซี่ยกุยหัวเราะอย่างเย็นชา " ทำไมข้าจะไม่รู้กัน ! เจ้านั้นไม่ได้ใช้จิตวิญญานต่อสู้ในการรับมือกับนางเลยด้วยซ้ำ หากเจ้าไม่ใช้แล้วเจ้าจะสู้ได้อย่างไร ? เจ้าคิดว่าฉาวจื่อหลาน ซูหยานซิง พานโจว และคนอื่นๆโง่งั้นรึ? พวกเขาแค่ไม่อยากจะยุ่งเท่านั้น ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไป เกียรติของเจ้า และเกียรติของดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ต้องป่นปี้แน่ ! ข้าไม่ต้องการให้มีคนบอกว่าเราที่มาจากดินแดนปีศาจมหัศจรรย์นั้น ยังมีเยื้่อใยต่อตระกูลหยางอยู่ ! "

" ศิษย์พี่ ความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับหยาง… หยางสู่นั้นดีเสมอมา ดังนั้น ข้าจะไม่ฆ่านางเด็ดขาด !" เหอซิงเหมิน ส่ายหน้า ด้วยดวงตาที่แดงก่ำ

" นี่คือสงคราม ! เจ้าอย่าได้ปล่อยให้ความรู้สึกส่วนตัว รบกวนเจ้าเด็ดขาด ! " หน้าของเซี่ยกุย โกรธ และดุร้าย " เจ้าไม่ได้ใช้พลังทั้งหมดของเจ้าเพื่อจัดการกับฉื่อหยานและหยางซู่ . หยางซู่อาจจะใช้ แต่กับฉื่อหยานทำไมเจ้าถึงเอาชนะมันไม่ได้ ? ข้าสงสัยจริงๆว่าข้าควรพาเจ้าไปพร้อมๆกับเราดีหรือไม่หลังจากเรื่องทั้งหมด ถ้ามันคือการตัดสินใจที่ผิดพลาดข้าก็จะจบมันตอนนี้ ! "

เหอซิงเหมิน ขบฟันของนางแน่น โดยไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกกล่าวหา "ข้าไม่สามารถมองดูสิ่งที่เกิดขึ้น และแกล้งทำเป็นว่าข้าไม่เห็นอะไรเลยได้หลอกนะ แต่ถ้ามันเกิดขึ้นอีกครั้งอย่าหาว่าข้าใจดำก็แล้วกัน "

เซี่ยกุยพูดอย่างเย็นชาว่า " เจ้าจงจำไว้ ดินแดนปีศาจมหัศจรรย์นั้นมีส่วนร่วมในสงครามครั้งนี้ จากนี้ไป ไม่ว่าจะเป็นใครจากตระูลหยาง ตอนนี้มันก็นับเป็นศัตรูคู่แค้นของเรา นี้คือสิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ข้าและเจ้านั้นเป็นนักรบที่โดดเด่นที่สุดในดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ ทุกอย่างที่เราทำมันส่งผลต่อดินแดนปีศาจมัศจรรย์ เจ้าเข้าใจไหม ! ? "

เหอซิงเหมินก้มหน้าลงและไม่พูดอะไร

" เจ้าก็คิดเอาเองเสียเถอะ ข้าได้พูดทุกสิ่งที่ข้าควรพูดแล้วและข้าก็หวังว่าครั้งต่อไปเจ้้าจะไม่ทำให้เราผิดหวัง ถ้ามันเกิดขึ้นอีกครั้ง เราทั้งสองจะไม่ใช่ศิษย์พี่และศิษย์น้องกันอีกต่อไป และข้าก็จะเป็นคนแรกที่ขับไล่เจ้าออกไป " เซี่ยกุยจากไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา เขาพิจารณาอนาคตของดินแดนปีศาจมหัศจรรย์และเพื่ออนาคตของเขาเอง เขาต้องฆ่าและจัดการพวกตระกูลหยางทั้งหมด นี่คือคำสาบานที่เขาให้ไว้กับตัวเอง

อย่างไรก็ตาม ด้วยสิ่งที่ดินแดนปีศาจมหัศจรรย์ทำในทะเลเคียร่า เมื่อตระกูลหยางฟื้นฟูหรือกลับมามีจุดยืนครั้งได้ ดินแดนปีศาจมหัศจรรย์จะเป็นที่แรก ที่จะถูกตระกูลหยางกำจัด

เปลวไฟสีแดงของแกนเพลิงลอยไปมาเป็นเส้นโค้งอยู่ด้านหน้า เกิดเป็นแสงไฟไปทั่วทุกที่ โดยที่มันเคลื่อนไหวเป็นเส้นโค้งด้วยความเร็ว

หลังเปลวไฟเคลื่อนไหวไปมา ก็ปรากฏเป็นรูปร่างขนาดใหญ่ ซึ่งดูคล้ายกับวิญญานที่มาจากความตาย และมันก็เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเหมือนกับสายฟ้าฟาด มันเคลื่อนไหวโค้งไปมา และรักษาระยะห่างกับเปลวไฟสิบเมตร

แกนเพลิงบินอย่างรวดเร็วในอากาศ พลังไฟได้กระจายออกไป ฉื่อหยาน ยังสึกพลังงานร้อนที่เหลือทน

จากระยะทาง 10 เมตรนี่คือระยะที่ใกล้ที่สุดเท่าที่ฉื่อหยานจะทนไหว

ถ้าเขาลดระยะห่างระหว่างตัวเองกับแกนเพลิงมากว่านี้ พลังไฟจะทำให้เขาหายใจได้อย่างยากลำบากขึ้น พลังปราณลึกลับของเขากำลังดูดซับพลังของแกนเพลิง เขาปลดปล่อยพลังออมาอย่างมามายเพื่อป้องกันตัวเองให้รอดจากความร้อนที่กำลังเผาไหม้ นี้ทำให้สูญเสียพลังปราณลึกลับเป็นจำนวนมาก และมันก็ทำให้ร่างกายของเขาเหนื่อยล้าอย่างรวดเร็ว

ดังนั้น สิบเมตรคือระยะทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขาที่จะทำให้เข้าก้าวเข้าสู่ระดับปฐพีได้ ฉื่อหยานรู้สึกว่าพลังงานในร่างกายของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้เป็นเพียงแต่เพิ่มพลังให้เขาเท่านั้น มันยังเพิ่มความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพลังต่างๆให้เขาเช่นกัน ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพลังปราณลึกลับของเขาถูกพัฒนาเพิ่มขึ้นไปสู่ระดับใหม่ที่สูงขึ้น

ตอนนี้เขาสามารถควบคุมพลังปราณลึกลับของเขาได้อย่างลื่นไหล . การไหลของพลังปราณลึกลับของเขาเป็นไปตามที่เขาคิด ด้วยความคิดที่เขาคิดขึ้นมาในใจของเขา พลังปราณลึกลับก็จะลอยออกจากทุกส่วนของร่างกายและ เปลี่ยนไปตามความคิดของเขา และมันก็จะเกิดเป็นรูปร่างใดๆก็ตาม ตามที่ขาคิด

พลังปราณลึกลับไร้ซึ่งการลั่วไหลและเปลี่ยนเป็นไปตามที่เขาคิด

มันเปลี่ยนเป็นรูปร่างต่างๆ เช่น นก , ต้นไม้ , กระบอง 3 ท่อน หรือแม้กระทั่งอาวุธที่เขาต้องการ เพียงแค่เขาจินตนาการสิ่งที่ต้องการ จากนั้นก็ใช้จิตสำนึกของเขาควบคุมพลังปราณลึกลัย จากนั้นทันทีมันก็จะแปลงเป็นรูปแบบที่เขาต้องการได้อย่างน่าอัศจรรย์ นกที่เกิดจากพลังปราณลึกลับสามารถบินได้อย่างอิสระอยู่บนท้อง้า , พืชพรรณและต้นไม้ ดูมีชีวิตชีวา ส่วนอาวุธก็จะดูแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ระดับปฐพีเป็นระดับที่สามารถควบคุมหรือโคจรพลังในร่างกายได้อย่างใจนึก ตอนแรกนั้นพลังปราณลึกลับนั้นเป็นเพียงพลังส่วนหนึ่งในร่างของเขาเท่านั้น แต่ตอนนี้ตอนนี้พลังปราณลึกลับกลายเป็นเหมือนส่วนหนึ่งกับร่างของเขา เป็นแกนพลังที่เขาสามารถควบคุมได้ดั่งใจ

" มันอยู่อีกไกลแค่ไหนกัน ? " ฉื่อหยานตั้งสมาธิของเขาและ ร่างของเขาก็พุ่งไปอย่างรวดเร็ว เขาหยุดเล็กน้อยแล้วหยิบเม็ดยาฟื้นฟูขึ้นมา และกลืนมันทั้งหมด เขาชะลอความเร็วลง และรอให้ผลของเม็ดยากระจายไปทั่วร่างของเขา

ในหุบเหวสนามรบ การกินเม็ดยาฟื้นฟูเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในการฟื้นฟูพลังปราณลึกลับ นั้นก็เพราะ กลิ่นอายธรรมชาติที่นี่นั้นบางเบาเป็นอย่างมา ซึ่งก็ต้องใช้เวลาเป็นสิบเท่าในการฟื้นฟูหากเทียบกับที่อื่น ทันทีที่แกนเพลิงตระหนักได้ว่าฉื่อหยานกำลังลดตัวลง มันก็จะชะลอตัวลงเช่นกัน พร้อมกับแสดงออกอย่างมีความสุขและกระตือรือร้น

" รวดเร็วอะไรเช่นนี้ ? " ฉื่อหยานระวังตัวอย่างรอบคอบ เขาหยุดปล่อยจิตสำนึกวิญญานของเขาไปรอบๆ

จิตสำนึกวิญญานเป็นเหมือนกับคลื่นพลังไปแพร่กระจายออกไป แต่มันก็ถูกปิดกั้นบางส่วน ในสถานที่แห่งนี้ไม่ได้สะดวกสบายเช่นเดียวกับเมื่ออยู่ด้านนอก จิตสำนึกวิญญานกระจายออกไปอย่างเชื่องช้า และระยะที่ขยายออกไปก็หดเล็กลง

" หือ ? มีร่องรอยของสิ่งมีชีวิต !  " ในทันที ก็ปรากฏร่องรอยที่ไม่ชัดเจนขึ้น จากความรู้สึก ด้วยความรู้สึกที่จิตสำนึกวิญญานของเขาสัมพัสได้มันเป็นเหมือนกับการเคลื่อนไหวของสิ่งมีชีวิต ร่องรอยนี้ย่อมเป็นของนักรบระดับปฐพีแน่นอน ฉื่อหยานจิตใจของเขาก็กระตุก สัญชาตญาณของเขาบอกว่าเป็นนักรบของหยางมู่ ถึงแม้จะไม่ใช่หยางมู่ บางทีนี่อาจจะเป็นนักรบบางส่วนของเขา แต่ไม่ว่าอย่างไร เขายังคงต้องเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้และหาวิธีออกไปอยู่

ที่นี่เขาเคลื่อนไหวตามแกนเพลิง เขาไม่รู้ว่าเขาเคลื่อนไหวมานานแค่ไนแล้ว เขามีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับสถานที่แห่งนี้และตอนนี้เขาก็เหงาเป็นอย่างมาก เขาต้องการที่จะคุยกับใครสักคน

ฉื่อหยานสั่งแกนเพลิงให้กลับมา แกนเพลิงบิ้วเบี้ยวไปมาเหมือนไม่เต็มใจและค่อยๆ เข้าไปในแหวนสายโลหิต แกนเพลิงนั้นเป็นเหมือนับเปลวไฟจากแสงอาทิตย์ , พลังของมันแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก แต่ตอนนี้มันกลับไม่พัฒนาใดๆเลย ยังคงมีหลายสิ่งที่อีกมากมายที่สามารถจัดการกับมันได้ ถ้าไม่เช่นนั้นเปลวเหมันเยือกแข็งคงไม่ถูกผลึกหลายครั้งเช่นนี้

บนโลกนี้มีของแปลกประหลาดที่มีค่ามากมาย มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เปลวไฟนภาจะใช้ชีวิตอย่างอิสระได้ ตัวอย่างเช่นเขาสามารถใช้ประโยชน์จากไข่มุกรวมวิญญานเพื่อดูดกลืนวิญญานของปรมจารย์อสูรและแยกวิญญานออกจากร่างของมัน นอกจากนี้ก็อาจจะมีสมบัติมหัศจรรย์บางอย่างที่สามารถกำหราบเปลวไฟนภาได้ก็เป็นได้ ดังนั้น แกนเพลิงจะปลอดภัยมากกว่าเมื่ออยู่ในแหวนสายโลหิต

หลังจากแกนเพลิงได้เข้าไปในแหวนสายโลหิต ฉื่อหยานก็ถอนจิตสำนึกวิญญานของเขากลับมา และเขาก็เคลื่อนที่ไปยังทิศทางที่เขาสัมพัสได้

หลังจากนั้น ครึ่งชั่วโมงต่อมา ฉื่อหยานก็แอบอยู่หลังเนินทรายลูกหนึ่ง ทันทีที่เขามาถึงเขาก็แอบอยู่หลังเนินทรายทันที เขากำลังมองไปยังใครบางคนที่อยู่ไกลออกไปและกำลังเดินเข้ามาใกล้

จากหลังเนินทราย , ฉื่อหยาน ก็เห็นคนกำลังเดินมาด้วยระยะห่างพอสมควร และเขาก็ลดหัวของเขาลงไปหลังเนินทรายจนไม่สามารถมองเห็นสิ่งต่างๆต่อได้อย่างชัดเจนนัก อย่างไรก็ตาม ฉื่อหยาน ก็ไม่ได้รีบร้อน และ รอคอยอย่างใจเย็น

ในที่สุดเขาก็พบหญิงสาวงดงามคนหนึ่งสวมเกราะสีแดงยินอยู่ท่ามกลางคนมากมาย แม้ว่าเขาไม่สามารถเห็นรูปร่างของนาง แต่ฉื่อหยานก็ยังสามารถรับรู้ได้ถึงร่างกายที่เร่าร้อนของนางด้วยเสื้อผ้าเช่นนั้น สมควรเป็นเหอซิงเหมินแน่นอน

หลังจากที่เห็นร่างของเหอซิงเมิน ฉื่อหยาน็เห็นใครบางคนกำลังเดินมา และก็เป็นคนที่เขารู้จักเช่นกัน ตามความทรงจำของเขา นั่นย่อมเป็นเซี่ยกุ่ยแน่นอน

มองไปอีกครั้ง สักพัก เขาก็ส่งจิตสำนึกวิญญานออกไป แล้วเขาก็เห็นฉาวจื่อหลาน พานโจว กู่หลินหลง ซูหยานซิง พวกเขาล้วนแต่เป็นนักรบที่โดดเด่น แต่พวกเขาไม่ได้อยู่รวมกับกลุ่มของเซี่ยกุ่ย

จิตสำนึกวิญญาณเป็นเหมือนกับตาทิพย์ เขาค่อยๆตระหนักได้ถึงความแข็งแกร่งของกลุ่มคนเหล่านั้น ฉื่อหยานค่อยๆหดศีรษะกลับไป จากนั้นเขาก็ใช้ดรรชนีย์ทะลวงขุดลงไปซ่อนอยู่ใต้ทราย ค่อยๆหายใจ เขาเริ่มที่จะซ่อนพลังทั้งหมดในร่างของเขาและลบกลิ่นอายออกไป

ทั้งหมดมีนักรบระดับปฐพีด้วยกัน 11 คน รวมทั้ง เซี่ยกุย และเหอซิงเหมิน . ไม่มีใครเลยที่อยู่ในนภาที่สามของระดับปฐพี

" ข้าสามารถฆ่าพวกมันทั้งหมดได้อย่างงายดาย ! " ฉื่อหยานคิดอยู่ในใจ

_______________________________________

ปัจจุบันเรื่องนี้แต่งไปจนถึงตอนที่ 1394 แล้วนะคะ มี 30 กลุ่ม แบ่งเป็นกลุ่มละ 50 ตอน หากสนใจอ่านติดตามได้ที่เพจด้านล่างเลยค่ะ

ติดตามข่าวสารต่าง ๆ ได้ที่เพจของเรา  >>GOS เทพเจ้าล่าสังหาร << ฝากกดไลท์กดแชร์เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้แปลด้วยครับ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด