ตอนที่ 9 ศิษย์เอก
ฮือๆๆๆ เธออยากจะบ้าตาย เจ้าปีศาจนั่น (เปลี่ยนฉายาแล้ว) กลั่นแกล้งเธอชัดๆ ไหนจะให้ท่องคัมภีร์ยากๆก่อนเป็นคนแรก ท่องเป็นเล่มๆ ไหนจะให้คัดตัวอักษรตัวยากๆ ช่วงสอนวรยุทธก็เน้นเธอเป็นพิเศษ ไหนจะคำพูดน่าตบนั้นอีก
‘ท่านี้ต้องทำแบบนี้ ข้าบอกเจ้าไปกี่หนแล้ว'
ลี่หลิน:บอกกี่ครั้งกัน บอกแค่ครั้งเดียวใครจะไปจำได้!
‘กระโดดสูงกว่านี้ ไม่ๆ ยังไม่พอ กางขาขึ้นอีก เฮ้อ เจ้านี่แม้แต่เด็กห้าขวบก็ทำได้แล้ว’
ลี่หลิน:ฉันพึ่งเรียนได้สามวันเองเว้ย จะให้เก่งเหมือนเด็กห้าขวบที่เรียนเป็นครึ่งปีได้อย่างไร!
‘ไม่ได้ๆ ถ้าเป็นอย่างนี้เจ้าต้องเรียนนอกเวลาเพิ่มเติม ไม่อย่างนั้นไม่ทันเพื่อนๆร่วมชั้นแน่ๆ’
ลี่หลิน:...กร๊าซซซซ (พ่นไฟ)
แค่คิดเธอก็รู้สึกอยากกระโดดถีบขาคู่ใส่เจ้าปีศาจร้ายนั่นอีกแล้ว ทำอย่างไรดี ตอนนี้เธอสะบักสะบอมไปทั้งตัว บางที่ยังฟกช้ำดำเขียวด้วยซ้ำ แทบจะลุกไม่ขึ้น นี่ถ้าไม่ได้พี่สี่มาตามและช่วยพยุงกลับบ้าน เธอได้เป็นนอนให้ยุงหามในสำนักศึกษาแน่ๆ
“คุณหนูอย่าขยับบ่อยสิเจ้าคะ ข้าทายาให้ท่านไม่ถนัด”เสี่ยวจิงปรามคุณหนูที่ไม่ชอบอยูนิ่งๆ
“เสี่ยวจิง ข้าไม่ไหวแล้ว เจ้าช่วยไปบอกท่านพ่อให้ข้าหน่อยว่าข้าไม่ไปเรียนแล้ว”ลี่หลินโอดครวญ
“คงไม่ได้แล้วล่ะเจ้าค่ะ เมื่อสักครู่นี้ก่อนที่ท่านจะกลับมานายท่านได้สั่งให้อาหวนมาแจ้งว่า ต่อไปนี้ท่านได้กลายเป็นศิษย์เอกของประมุขหรงแห่งวังอัคคี ต้องน้อมรับคำสั่งสอนให้ดี ต้องตั้งใจเรียนวรยุทธให้เก่งๆเจ้าค่ะ”
“ศิษย์เอก!? ของเจ้าปีศาจนั่น! ทำไม…โอ๊ยๆๆเจ็บ”ลี่หลินทะลึ่งพรวดลุกขึ้นทำให้กระทบตรงที่ซ้ำ รู้สึกเจ็บจนน้ำตาเล็ด
ทำไมอยู่ดีๆเจ้าปีศาจถึงรับเธอเป็นศิษย์เอก เกิดอะไรขึ้น?
“คุณหนู! เฮ้อ ข้าบอกให้ท่านนอนนิ่งๆนี่เจ้าคะ”เสี่ยวจิงรู้สึกเอือมระอาเล็กน้อย ตั้งแต่คุณหนูฟื้นขึ้นมาก็เอาแต่ซุกซนไปนั่นมานี่ ไม่อยู่เฉยๆ บางครั้งก็ทำให้นางปวดหัว แต่ในใจลึกๆนางเองก็ชอบคุณหนูที่เป็นแบบนี้ดูมีชีวิตชีวาดี
“เสี่ยวจิงนับวันเจ้ายิ่งเหมือนคนแก่นะ บ่นได้ทุกวัน”ลี่หลินหรี่ตาลง แต่เธอก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเสี่ยวจิงเติบโตขึ้นมาพร้อมเจ้าของร่างนี้ สนิทกันอย่างกับพี่กับน้อง ทำให้เธอได้ซึบซับความรู้สึกดีๆนั้นมาด้วย
“เป็นเพราะใครกันล่ะเจ้าคะ”เสี่ยวจิงที่อายุสิบหกทำหน้าบี้งอย่างงอนๆ
“เอาล่ะๆ ข้าไม่ล้อเจ้าแล้ว ว่าแต่ข้าสังเกตนานแล้ว ยาที่เจ้าทาให้ข้าคือยาอะไร ทำไมทาแล้วจึงรู้สึกเย็นสบาย ตรงที่เจ็บปวดก็ดูจะบรรเทาลงแล้ว”เธอรู้สึกสงสัย ยาสมัยนี้ดีขนาดนี้เชียวหรือ ทาปุ๊บหายปั๊บ
“อ๋อ นี่คือยาที่ประมุขหรงมอบให้มาเจ้าค่ะ ประมุขหรงบอกว่าต้องทาทุกเช้าค่ำจะได้ผลดีที่สุด”
ยาของเจ้าปีศาจ! “ข้าไม่ทาแล้ว เอาไปทิ้งซะ!”
“ไม่ได้เจ้าค่ะ ประมุขหรงบอกว่ายานี้ดีที่สุดแล้ว ถ้าท่านไม่ทาพรุ่งนี้เช้าจะมีแรงไปฝึกได้อย่างไร แถมบอกอีกว่าถ้าท่านใช้ข้ออ้างเจ็บป่วยเพื่อหนีการฝึก ประมุขหรงบอกว่า…เอ่อ จะ…จะ มาดึงท่านลุกจากที่นอนด้วยตัวเองเลยเจ้าค่ะ!”
ลี่หลิน:…กร๊าซซซ (พ่นไฟ)
ในเรือนรับรองตัวต้นเหตุกำลังนั่งจิบชาพลิกหน้าหนังสือไปมาอย่างสบายอารมณ์ โดยไม่สนใจว่าใครคนใดคนหนึ่งกำลังแช่งชักหักกระดูกหรือไม่ เขายิ้มอย่างอารมณ์ดีจนเหล่าองครักษ์ต่างพากันรู้สึกแปลกใจ