ตอนที่ 14 การต่อสู้ของสัตว์เทพ
ลี่หลินสับสนไปหมดแล้ว นี่เธอหลุดเข้ามาในเนื้อเรื่องนิยายแท้ๆ แต่มันเหมือนจะมีส่วนที่ต่างออกไป หรือเธอจะไม่ได้หลุดเข้ามาในนิยาย แต่เป็นอีกมิติหนึ่ง? ไม่น่าจะใช่นะ เพราะข้อมูลต่างๆ ก็เหมือนในนิยายเป๊ะๆ แต่ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ล่ะ?
“เอาล่ะเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง ตอนนี้เจ้าส่งจิ้งจอกเทพสวรรค์มาให้ข้าก่อน” หรงจวิ้นหลานขัดความคิดสับสนของนางไว้ ก่อนจะวกกลับมาที่เรื่องสำคัญตอนนี้
ลี่หลินที่ถูกเรื่องราวที่ไม่เป็นไปตามแบบที่เธอคิดทำเอาสับสนจนเธอหมดอารมณ์ที่จะสนใจเรื่องราวตรงหน้า ได้แต่ตอบกลับไปอย่างเฉื่อยชา
“ท่านก็มาเอาไปเองสิ มันเกาะเสื้อข้าซะแน่น ข้าแกะไม่ออกหรอก”
หรงจวิ้นหลานเห็นนางคล้ายจะหมดอารมณ์สนใจ ก็ไม่ได้ว่าอะไรเดินเข้าไปหานางอย่างช้าๆ แต่ทันใดนั้นเจ้าจิ้งจอกน้อยที่เอาแต่ส่งเสียงขู่อยู่ตลอด จู่ๆ ก็กระโจนใส่เขาอย่างรวดเร็วจนเขาหลบแทบไม่ทัน เขากลับมาตั้งสติได้ทันทีพร้อมหลบเจ้าจิ้งจอกน้อยที่เร่งความเร็วจนเห็นแค่แสงสีขาวแว้บไปมา
อีกฝ่ายจู่โจมอีกฝ่ายหลบหลีกไม่มีใครได้เปรียบ หรงจวิ้นหลานหรี่ตาลงก่อนจะสะบัดมือออกไป
“พยัคฆ์เพลิง!”
หลังจากหรงจวิ้นหลานสะบัดมือออกไป จู่ๆ ก็ปรากฏเสือตัวใหญ่ที่ขนทั้งร่างเป็นสีแดงเพลิง มันก็คือสัตว์เทพของกระบี่โลกันตร์ มันก้าวออกมาพร้อมกับส่งเสียงคำรามดังลั่นถ้ำ ก่อนจะกระโจนเข้าใส่จิ้งจอกสวรรค์ด้วยความเร็วที่ไม่เข้ากับรูปร่าง ความรวดเร็วนั้นสูสีกับจิ้งจอกสวรรค์เลยที่เดียว!
หรงจวิ้นหลานถอยออกมายืนกอดอกพิงผนังถ้ำ มองดูสัตว์เทพทั้งสองต่อสู้กัน เขาไม่มีทางเปลืองแรงไปกับเรื่องแบบนี้หรอก ปล่อยให้ทั้งสองต่อสู้กันถึงแม้จะไม่มีฝ่ายใดชนะแต่ก็ต้องมียามที่อ่อนแรงจากการต่อสู้อย่างยาวนานอยู่แล้ว ถึงเวลานั้นเขาค่อยฉวยโอกาสจับเจ้าจิ้งจอกนั่นซะ แค่นี้ก็หมดเรื่อง
ส่วนทางลี่หลินนั้น ตอนนี้เธอมองภาพตรงหน้าด้วยอาการปากอ้าตาค้าง นี่มันจะแฟนตาซีไปแล้ว! ตอนนี้สิ่งที่เธอเห็นมีเพียงแสงสีแดงและแสงสีขาวพัวพันกันไปมาอยากจะแยกแยะออก แสงเหล่านั้นชนซ้ายชนขวารอบผนังถ้ำจนเกิดเสียงดังตึงตังไปมา จนเธอหวั่นกลัวว่าถ้ำพวกนี้จะเกิดเสียหายจนกระทั่งถล่มลงมาทับเธอตายอีกรอบ
ลี่หลินหันไปมองหรงจวิ้นหลานก็พบว่าเขากำลังกอดอกมองการต่อสู้ด้วยท่าทางผ่อนคลาย ไม่มีความกังวลอะไรทั้งสิ้น ใบหน้าเขายังประดับด้วยรอยยิ้มน้อยๆ เหมือนอย่างเคย
“นี่ท่านไม่กลัวถ้ำจะถล่มลงมาจากการกระแทกของพวกเขาเลยหรือ” ในที่สุดลี่หลินก็ตัดสินใจถามออกไป ทำอะไรเข้าสักอย่างสิไม่งั้นได้ตายกันหมดนี่หรอก!
หรงจวิ้นหลานละสายตามามองสาวน้อยที่ยืนอย่างกระวนกระวาย ก่อนจะตอบกลับไปอย่างสบายอารมณ์เหมือนปกติ
“ไม่ต้องห่วงหรอก ถ้าเกิดขึ้นจริงข้าพาเจ้าออกไปอย่างปลอดภัยแน่นอน”
ลี่หลิน “…..”
เธอเกลียดท่าทางไม่ทุกข์ร้อนของเขาที่สุด นี่ถ้าพวกสัตว์สองตัวนั่นไม่สู้กันตรงละแวกทางเข้า เธอเองก็อยากจะไปจากสถานที่แห่งนี้ไวๆ เลยด้วยซ้ำ แต่ในเมื่อทำอะไรไม่ได้เธอก็ได้แต่ยืนอย่างกระวนกระวายเหมือนเดิม หวังว่าเขาจะรักษาคำพูดที่จะพาเธอออกไปอย่างปลอดภัยก็แล้วกัน