ตอนที่ 11 เริ่มเคลื่อนไหว
เช้าวันรุ่งขึ้นลี่หลินต้องแบกสังขารที่ยังคงปวดระบมอยู่บ้างมาฝึกซ้อมนอกเวลากับเจ้าปีศาจชั่วร้าย เธอไม่เข้าใจทำไมเขาถึงคอยกลั่นแกล้งเธอ ทั้งที่เธอเองก็พยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเขามาตลอด ยกเว้นวันแรกที่พบกันที่เธอเผลอแสดงท่าทางไม่ชอบเขาออกมา หรือว่าเขาจะผูกใจเจ็บเพราะเรื่องแค่นั้น?
จิตใจคับแคบ! อูย ขาเธอยังปวดอยู่เลยไม่รู้วันนี้จะต้องพบเจอกับอะไรอีก แค่คิดลี่หลินก็อยากเป็นลมแล้ว
เธอเดินเข้ามาภายในบริเวณสนามฝึกซ้อมของศิษย์ชั้นหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ยังคงเงียบเชียบอยู่ เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดสำนักศึกษา จะเห็นก็แค่อาจารย์บางคนมาเดินตรวจตราสำรวจความเรียบร้อยบางคนเท่านั้น
เวลาผ่านไป ก๊าๆๆๆ….
ลี่หลิน “..…”
ยามเฉินแล้ว (07.00-08.59) จนพวกลูกศิษย์ทั้งหลายเริ่มทยอยเข้าสำนักศึกษา เธอยังไม่เห็นแม้แต่เงาหัวของเจ้าปีศาจนั้น!
“รังแกกันเกินไปแล้ว! เจ้าปีศาจชั่วนั่นนัดตั้งแต่หกโมงเช้าตอนนี้เวลาไหนกัน ทำไมยังไม่มาอีก!”ลี่หลินโมโห เธอยืนรออยู่ตรงนี้เกือบสองชั่วโมงแล้ว เขาก็ยังไม่โผล่มาสักที ถ้าไม่กลั่นแกล้งแล้วจะเรียกว่าอะไร!
“ใครรังแกเจ้ากัน ข้าอยู่ตรงนี้ตลอดเจ้าไม่สังเกตเห็นข้าเอง”เสียงไพเราะนุ่มนวลดังขึ้นมาจากบริเวณบนต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ข้างสนามฝึก
ลี่หลินแหงนหน้าไปมองก็พบกับชายหนุ่มนอนเอามือเท้าคางบนกิ่งไม้ใหญ่อย่างสบายอารมณ์ วันนี้ชายหนุ่มก็ยังใส่ชุดสีแดงเหมือนเดิม ชายผ้าพลิ้วไหวไปมาตามแรงลม ใบหน้างดงามอย่างร้ายกาจกำลังอมยิ้มนิดๆมองมาที่เธอ
เขาอยู่ตรงนี้มาตลอดหรือ ทำไมเธอถึงไม่สังเกตเห็นเลยล่ะ?
“แล้วอีกอย่างเจ้าเรียกใครว่าเป็นเจ้าปีศาจกัน หืม”เสียงหรงจวิ้นหลานยังคงนุ่มนวล แต่คราวนี้แฝงด้วยรังสีอัตรายมาบางส่วน
ลี่หลินรู้สึกเสียวสันหลังวาบ แต่ก็รีบปฏิเสธกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็ว
“ใครพูดกัน ท่านคงหูฝาดแล้ว ว่าแต่ท่านอยู่ตรงนี้มาตลอดทำไมไม่ให้สุ่มให้เสียงบ้างเล่า”ปล่อยให้เธอยืนรอตั้งนาน แถมเผลอด่าให้เขาได้ยินอีก
เห็นนางเฉไฉไม่ยอมรับ หรงจวิ้นหลานก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก เขาลุกนั่งตัวตรงก่อนจะพูดออกมาอย่างสบายไม่มีท่าทางสำนึกผิดเลยสักนิด
“ข้ากำลังฝึกความอดทนให้กับเจ้า อะไรกันยืนแค่นี้เจ้าก็ทนไม่ไหวแล้วหรือ”
ฝึกความอดทนบ้าบออะไร ตั้งใจแกล้งเธอซะมากกว่า! ลี่หลินสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อระงับโทสะก่อนจะปั้นสีหน้ายิ้มแย้มตอบกลับไป
“ที่ไหนกัน ในเมื่ออาจารย์โผล่ (หัว) ออกมาแล้ว ก็รีบสอนเข้าเถอะเจ้าค่ะ ข้ายังไม่ได้ทานข้าวเช้าเลยต้องรีบกลับไปทานก่อนเข้าเรียนนะเจ้าคะ”ที่จริงเธอก็ทานขนมรองท้องมาแล้ว แต่เขาดันให้เธอรอเป็นสองชั่วโมงเธอก็เริ่มหิวอีกแล้วล่ะ
“พอดีเลย ข้าเองก็ยังไม่ได้ทานอะไรมาเหมือนกัน พวกเราไปหาอะไรทานด้วยกันก่อนค่อยมาฝึกทีหลัง”หรงจวิ้นหลานกระโดดลงมาจากต้นไม้อย่างพลิ้วไหวสง่างาม
“เกรงว่าจะไม่เหมาะสมเจ้าค่ะอาจารย์ งั้นก็เริ่มฝึกซ้อมเถอะข้าทนได้”ใครจะไปอยากทานข้าวกับท่านกัน!
“มีอะไรไม่เหมาะ เจ้าเป็นถึงศิษย์เอกของข้า แค่ศิษย์กับอาจารย์ทานข้าวด้วยกันเป็นเรื่องปกติ ตามข้ามาก็พอ ไม่ต้องพูดมาก”พูดจบหรงจวิ้นหลานก็หมุนตัวเดินไปทางเรือนที่พักชั่วคราวในสำนักศึกษาของเขา โดยไม่ให้โอกาสนางได้ปฏิเสธทั้งสิ้น
ลี่หลิน “…..”
ลี่หลินมองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มอย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สูดลมหายใจเข้าลึกนับหนึ่งถึงสิบก่อนจะก้าวตามหลังเขาไปอย่างหงุดหงิด
เป็นอย่างนี้ตลอดหนึ่งสัปดาห์ ลี่หลินต้องตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่อไปฝึกเพิ่มเติมกับอาจารย์ปีศาจจอมโหด แต่ล่ะวันเธอต้องสะบักสะบอมกลับมาตลอด จนถึงวันนี้เธอทนไม่ไหวแล้ว!
ลี่หลินบุกไปหาบิดาที่ห้องหนังสือหลังจากกลับมาจากฝึกฝน เธอพูดไปร้องห่มร้องไห้ไป (การแสดง) เล่าถึงเหตุการณ์ที่เผชิญตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
“ท่านพ่อข้าไม่ไหวแล้วจริงๆ ท่านต้องช่วยข้านะ”
ลี่ไท่จงมองหน้าบุตรสาวก่อนจะถอนหายใจ“เฮ้อ จะให้พ่อช่วยอย่างไร พ่อเองก็ทำอะไรเขาไม่ได้ ตามความจริงแล้วก็ได้ผลอยู่ไม่ใช่หรือ วรยุทธของเจ้าก้าวหน้าขึ้นมากนี่”
“ได้ผลอยู่ก็จริง แต่ข้าทนรับการฝึกแบบโหดนี่ไม่ไหว ท่านดูข้าสิเจ้าคะ ทั้งผอมทั้งคล้ำลงตั้งเยอะ”ลี่หลินยื่นแขนที่คล้ำลงเล็กน้อยจากการตากแดดให้บิดาดู
ลี่ไท่จงส่ายหน้าอย่างจนใจ ไม่รู้ลูกสาวคนนี้ไปทำอะไรให้ประมุขหรงไม่พอใจขนาดนั้น อีกฝ่ายถึงได้เข้มงวดเฉพาะเจาะจงกับบุตรสาวคนนี้ของเขานัก
“เจ้าทนอีกหน่อย พ่อได้ยินมาว่าพอเขาทำธุระเสร็จ เขาก็จะจากไปแล้ว เจ้าเองก็จะได้กลับไปเรียนตามปกติ”
ธุระ? ธุระอะไรกัน? ลี่หลินครุ่นคิด ในที่สุดเธอก็นึกขึ้นมาได้ เรื่องกระบี่จันทรา! เธอลืมไปได้อย่างไรกันนะ ที่เจ้าปีศาจยังอยู่ที่นี่เพราะยังตามหากระบี่ยังไม่เจอ!
“ข้าเข้าใจแล้ว ว่าแต่ท่านพ่อพี่สี่เป็นอะไรไป ช่วงนี้ท่าทางนางแปลกๆ”เธอสังเกตุว่าช่วงนี้ ลี่อินเอาแต่ใจลอยครุ่นคิดอะไรสักอย่าง บางครั้งพอเห็นหน้าเธอก็ไม่ได้คุยเล่นอย่างสนิทสนมเหมือนแต่ก่อน
“อืม พ่อก็ว่าแปลกอยู่บ้าง วันก่อนก็มาถามพ่อเรื่องกระบี่จันทรา”สำหรับเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ความลับอะไรมากมาย คนในหุบเขาต่างรู้เรื่องนี้ดี แต่ไม่มีใครทราบว่าที่ซ่อนกระบี่จันทราอยู่ตรงไหนเท่านั้น แม้แต่เขาเองยังมีข้อมูลเกี่ยวกับกระบี่ไม่มาก
“อย่างงั้นหรือ”เริ่มแล้วสินะ เจ้าปีศาจคงเริ่มถามข้อมูลจากลี่อินแล้ว