SB:ตอนที่ 19 ชมรมการพนัน
SB:ตอนที่ 19 ชมรมการพนัน
ดังนั้น ลู่หยางตัดสินใจแลกหินผลึกหนึ่งร้อยหกสิบอัน เมื่อรวมกับที่ตัวเขามีอยู่ก่อนหน้านี้แล้วก็เท่ากับหนึ่งร้อยเก้าสิบหินผลึกชั้นต้น
“ติ้ง!” “ใช้หินผลึกชั้นต้นสิบอัน วิชาคุมอสูรจะเลื่อนไปที่สองดาว!”
“…”
“ติ้ง!” “ใช้หินผลึกชั้นต้นไปสิบอัน วิชาคุมอสูรยกระดับไปที่สิบดาว!”
หลังจากที่ได้ใช้หินผลึกทั้งหมดไปในชั่วพริบตา วิชาคุมอสูรของเขาก็เลื่อนขึ้นไปถึงระดับสมบูรณ์ที่สิบดาว ถึงจะเป็นการใช้จ่ายที่เจ็บปวดเล็กน้อย แต่เมื่อคิดถึงว่าเขาจะเอากลับคืนได้เร็วขึ้นสิบเท่าแล้วเขาก็รู้สึกว่ามันคุ้มค่า
ถึงตอนนี้ลู่หยางสามารถสังหารใครๆในห้องพนันพื้นฐานนี้ได้
“ถ้าข้าสามารถเป็นผู้จารึก แล้วจารึกวิชาคุมอสูรชั้นต้นสิบดาว ข้าจะได้มากมาย!” ตอนนี้ลู่หยางเป็นคนหิวเงินไปแล้ว ดวงตากลมของเขาแทบจะกลายเป็นรูปผลึกไปแล้ว
“เข้ามา เข้ามา เข้ามา! พนันเลย ใครดีใครได้!”
เมื่อมองไปข้างหน้า มันเป็นพื้นที่โล่งกว้าง ภายในกรงมีอสูรอยู่กรงละหนึ่งตัว หลายๆคนไปกระตุ้นเสียงร้องคำรามของพวกอสูรเหล่านี้ แต่กรงอสูรพวกนี้แข็งแรงมาก ไม่ว่าอสูรบ้าระห่ำจะดิ้นรนยังไงก็ไม่มีประโยชน์
“ทุ่งหมื่นอสูรนี้น่าอัศจรรย์จริงๆ ที่มีกรงกักขังและเลี้ยงอสูรตั้งมากมาย!”
ถึงจะเข้าใจในสถานการณ์แล้ว ลู่หยางก็ยังรู้สึกตกใจอยู่ดีเมื่อเห็นอสูรนับพันตัวถูกปฏิบัติราวกับสิ่งของ และถูกนำมาไว้ตรงหน้าเขา ขณะเดียวกันในใจก็คิดว่าระบบฝึกอสูรนั้นไม่สิ้นสุดทำให้เขาตื่นเต้นมาก นัยต์ตาเป็นประกาย ถ้าเขาสามารถเอาอสูรนับพันตัวเหล่านี้มาเป็นของเขาได้ก็จะไม่มีใครในเซียงหยางที่จะสยบเขาได้ ไม่ต้องมองว่าเขาไม่ได้มีผลึกมากมายเช่นนั้นลำพังทุ่งหมื่นอสูรก็จะไม่ยอมให้เขาทำสำเร็จแน่นอน ทุ่งหมื่นอสูรคือบ่อนพนันดังนั้นผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดคือเจ้ามือ
พื้นที่พนันชั้นต้นแบ่งออกเป็นสามส่วน ส่วนธรรมดา ส่วนชั้นยอดและส่วนจักรพรรดิ ทั้งสามส่วนนี้จะไม่เปิดพร้อมๆกันแต่พวกเขาต้องมาจากส่วนธรรมดาก่อน เมื่อพนันอสูรในพื้นที่ธรรมดาหมดแล้ว หรือหมดเวลา เขาจะปิดพื้นที่นี้และเปิดพื้นที่ชั้นยอดและต่อไป และต่อไป
อสูรชั้นต้นหกพันตัวถูกแบ่งเป็นหกร้อยซุ้มแต่ละซุ้มมีอสูรสิบตัว การแข่งขันใช้เวลาห้าชั่วโมง
“ข้าเดิมพันห้าที!” “อสูรร้ายตัวนี้ต้องมาเป็นสัตว์เลี้ยงสงครามของข้า” ลู่หยางสังเกตเห็นชายร่างกำยำคนหนึ่งลงพนันที่ยี่สิบห้าแก่นผลึกชั้นต้น ในเขตพื้นที่ปกติ การเดิมพันหนึ่งครั้งต่อแก่นผลึกชั้นต้นห้าแก่น
ชายร่างใหญ่คนนี้โชคดี เขาใช้วิชาคุมอสูรต่อเนื่องกันห้าครั้งและทำสำเร็จในครั้งหลังสุด ได้สัตว์เลี้ยงสงครามไปหนึ่งตัว
“ฮ่า ฮ่า!” ชายร่างใหญ่หัวเราะเสียงดังอย่างตื่นเต้น มีพลังแห่งความเกรี้ยวกราดออกมาจากร่างกายของเขาแน่นอนว่าเขาได้เสริมสร้างพลังความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของเขามาโดยตลอด
การเก็บเกี่ยวสัตว์เลี้ยงสงครามได้หนึ่งตัวถือเป็นกำไรมหาศาลอย่างแน่นอน สัตว์เลี้ยงสงครามไม่ใช่จะจับกันได้ง่ายๆ หากเสี่ยงเข้าป่า เข้าภูเขาไป อสูรดุร้ายที่นั่นมาอยู่ตรงหน้ารอให้ท่านใช้วิชาคุมอสูร ท่านก็ไม่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตัวท่านเองแล้ว
ทันที่ที่อสูรดุร้ายได้รับการฝึกให้เป็นสัตว์เลี้ยงสงครามแล้วนั้นคุณค่าของมันจะสูงขึ้นทันทีอย่างน้อยที่สุดสิบหรือหนึ่งร้อยเท่าดังนั้นคนมากมายเต็มใจที่จะเสี่ยงโชคที่ทุ่งหมื่นอสูรนี่
“ยินดีด้วย ลูกค้าท่านนี้ได้สัตว์เลี้ยงสงครามใหม่หนึ่งตัว ท่านเอามันไปได้เลย!” เจ้าของงานในซุ้มยิ้ม และตะโกนต่อ
“เข้ามา เข้ามา เข้ามาพนันกัน เห็นแขกท่านนี้มั้ย?”
“ยิ่งเดิมพันมาก ก็ยิ่งมีหวังจะสำเร็จมากขึ้น!”
ทุกๆคนดูเหมือนจะมีแรงจูงใจมากขึ้นเมื่อเห็นแบบอย่างที่เพิ่งผ่านมานี้ พวกเขาเพิ่มเงินพนันขึ้นหนึ่งต่อหนึ่ง อยากจะเป็นผู้โชคดีคนต่อไป น่าเสียดาย โชคมักหล่นใส่คนไม่กี่คนเท่านั้น
ลู่หยางแอบส่ายหัว ผู้ฝึกอสูรเหล่านี้ส่วนใหญ่แค่ฝึกฝนวิชาที่ระดับต่ำ ผิดกับลู่หยางที่มีระบบฝึกอสูรที่เคร่งครัด การฝึกฝนวิชาคุมอสูรแบ่งเป็นสามขอบเขต คือ ความสำเร็จน้อย ความสำเร็จมาก และความสมบูรณ์แบบ เมื่อวิชาคุมอสูรชั้นต้นหนึ่งดาวขึ้นถึงขอบเขตความสำเร็จน้อย อัตราความสำเร็จของอสูรชั้นต้นที่มีสายเลือดธรรมดาจะอยู่ที่ไม่มากกว่า 10% - 20 %% ขณะที่เมื่อถึงขอบเขตความสำเร็จมาก มันอยู่เพียงแค่ 30% - 40% และอัตราความสำเร็จสูงสุดอยู่ 60%
เวลาผ่านไปทีละนิดทีละนิด ในไม่ช้า ห้าชั่วโมงผ่านไป การพนันในพื่นที่ชั้นต้นจบลง มีอสูรเกือบๆสี่พันตัวจากหกพันตัวที่จากไป
ลู่หยางไม่ได้มีความเคลื่อนไหวใดใดระหว่างนี้ เขาเริ่มที่จะดูแคลนอสูรชั้นต้นที่มีสายเลือดปกติแล้ว แม้ว่าเขาจะมีความมั่นใจในตัวเอง เขาจะใช้ผลึกจำนวนมากโดยการใช้วิชาคุมอสูร และพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงจะถูกจัดเก็บไว้ก็มีจำกัดด้วย
“พื้นที่ชั้นยอดเปิดแล้ว เมื่อสักครู่เป็นแค่การอุ่นเครื่อง ตอนนี้เป็นการเริ่มบ่อนการพนันของจริง!”
“ดูสิ นายน้อยชาติตระกูลสูงส่งพวกนั้นกำลังออกมา มันไม่แตกต่างถ้าพวกเขาเกิดมาเพียบพร้อม พวกเขาฝึกวิชาคุมอสุรที่ระดับดาวสูงๆไม่ต้องกังวลเรื่องเงินทอง!”
“…”
เมื่อพื้นที่ชั้นยอดเปิด จำนวนอสูรเหลือหนึ่งพันตัว แต่บรรยากาศที่นี่ปะทุแรงกว่าเก่า ทุกคนถกเถียงกันอย่างตื่นเต้น
“เริ่มขึ้นแล้ว!” ลู่หยางมีท่าทีตื่นเต้น
การพนันในพื้นที่ชั้นยอดนี้ใช้แก่นผลึกสูงถึงห้าสิบแก่น การพนันในชั้นสุดท้ายยิ่งสูงขึ้นจนน่ากลัวเพราะใช้แก่นผลึกถึงห้าร้อยแก่น
“เอ๊ะ?” ซุนวูก็อยู่ที่นี่ด้วย!” ผู้คุมอสูรจากตระกูลขุนนางย่างก้าวขึ้นบนเวทีทีละคนทีละคน
“โอ้ เจ้าหนุ่มสามคนนั้นก็อยู่นี่ด้วย!” เป็นสามคนที่จะฉกฉวยผลสีชาดของเขาที่ภูเขาครั้งนั้น
ลู่หยางเลือกอยู่ที่ซุ้มห่างออกมา ตอนนี้เขาไม่ต้องการพบซุนวู หรือชายสามคนนั้น ไม่เช่นนั้น ต้องมีเรื่องยุ่งแน่
“ข้าเดิมพันสามครั้ง!” ชายผู้มีชาติตระกูลคนหนึ่งวางเดิมพันด้วยหินผลึกหนึ่งร้อยห้าสิบอัน
“เป็นนายน้อยซางฉง ได้ยินว่าซางฉงฝึกฝนวิชาคุมอสูรชั้นต้นที่ระดับห้าดาว ถ้าเป็นอย่างนั้นก็มีโอกาสที่จะสำเร็จสูง
ห้าดาว!” ข้าคิดว่านายน้อยซางฉงมีโอกาสชนะ 90% แน่นอน
“ดูสิ ช่องว่างระหว่างชนชั้นของคนเราสูงจริงๆ!”
“เฮอะ เฮอะ ข้าก็ว่าอย่างนั้น!” เมื่อมีคนพูดประจบสอพลอเช่นนั้น ซางฉงรู้สึกสบายใจมาก อีกทั้งยิ่งได้เห็นสายตาชื่นชมและความเคารพนับถือจากฝูงชนยิ่งทำให้เขามั่นใจและโอ้อวดเป็นอย่างมาก
เขาวางเบี้ยลงบนกรงและเริ่มใช้วิชาฝึกอสูร
กรงที่กักขังอสูรตั้งอยู่ไกลออกไป ถ้าไม่มีเบี้ยทุ่งหมื่นอสูร วิชาคุมอสูรจะไม่มีผลกับอสูรร้ายในกรง ลู่หยางเคยลองมาแล้ว เพราะอย่างนี้ทุ่งหมื่นอสูรถึงกล้าที่จะเอาเหล่าอสูรร้ายไว้ที่นี่ ให้คนเข้าใกล้ได้
“อืมม?” สีหน้าซางฉงเปลี่ยนไปทันที แน่ชัดว่าครั้งแรกเขาล้มเหลว ถึงจะไม่ได้คาดว่าจะต้องสำเร็จในครั้งแรก แต่กับการที่ถูกจับตามองอยู่นั้นเขาก็รู้สึกอาย
“ไม่ต้องห่วงหรอก!” “นายน้อยซางฉง ท่านยังมีโอกาสอีกสองครั้ง!” เจ้าของงานในซุ้มยิ้ม
“ถูกต้องแล้ว นายน้อยซาง ข้ายังไม่เคยเห็นใครในเซียงหยางทำได้ในครั้งแรก!”
“ถูกต้อง แม้แต่แม่นางหลออู๋ซวงก็ยังทำไม่ได้!”
ลูกน้องซางฉงหลายคนอยู่ข้างๆเขา พวกมันเริ่มพูดจาประจบทันที
“หื้ม!” “พวกเจ้าพูดถูก ข้ายังไม่ทันได้ตั้งตัว ครั้งนี้เราต้องเตรียมตัว” ซางฉงรู้สึกดีขึ้น
แต่ทว่า เขาพ่ายแพ้อีกเป็นครั้งที่สอง
“โว้ย!” “ข้าไม่เชื่อ!” ซางฉงไม่พอใจ และเขาก็พลาดอีกเป็นครั้งที่สาม
“นายน้อยซาง!” “สามครั้งน้อยเกินไป อสูรร้านเหล่านี้ต่างก็มีสายเลือดชั้นยอด!”
“ถูกแล้ว ถูกแล้ว ถูกแล้ว นายน้อยซาง อีกสามครั้ง?” พวกลูกน้องเริ่มประจบยกยอเจ้านายมันอีกครั้ง แม้แต่ผู้จัดงานก็ยิ้มให้กำลังใจเขา
“อืมม!” “เจ้าพูดถูก แต่สามครั้งน้อยไป”ซางฉงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย เขาโบกมือขวาหนึ่งครั้ง แล้วนำกระเป๋าบรรจุผลึกใบใหญ่หนึ่งใบออกมาจากวงแหวนอากาศ มีทั้งหมดสามร้อยผลึกซึ่งเท่ากับเดิมพันหกครั้ง
แต่ก่อนที่เขาจะเริ่มวางเงินเดิมพัน มีมืออีกข้างหนึ่งตบลงบนโต๊ะ
“ให้ข้าซื้อหนึ่งครั้ง!” ชายหนุ่มผู้หนึ่งแต่งกายแบบบ้านนอกเบียดเข้ามาข้างๆซางฉง
“ระยำ!” “เจ้าบ้านนอกนี้มาจากไหน ?”
“เหออ!” แม้แต่นายน้อยซางยังเดิมพันไม่สำเร็จ เจ้าบ้านนอกนี้จะเอาครั้งเดียว? หรือมันอยากตายเร็วๆ?”
“มันช่างไม่มีตาเอาซะเลย ไม่เห็นเหรอว่านายน้อยซางยังไม่เสร็จ?”
“…”
“เด็กน้อย!” อย่าเอาหินผลึกของเจ้ามาทิ้งเลย สามครั้งข้ายังสู้ไม่ได้เลย อยากให้ข้าฆ่าเจ้าในพริบตาเดียวเหรอ?” ซางฉงไม่สบอารมณ์อย่างมากเมื่อถูกขัดจังหวะขึ้นกลางคัน และเมื่อเขาเห็นเสื้อผ้าของลู่หยาง เขาก็หัวเราะเหยีดหยามอย่างเย็นชาขึ้นทันที