ตอนที่แล้วMATOP ตอนที่ 7
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปMATOP ตอนที่ 9

MATOP ตอนที่ 8


ในที่สุดโรแลนด์ก็สามารถทานอาหารกลางวันที่ไม่ค่อยจะสะดวกสบายมากนักด้วยมีดและส้อม แม้ว่าเขาจะชื่นชมของที่ระลึกจากชาวบ้าน แต่ถ้าพูดอย่างตรงไปตรงมา อาหารนั้นก็ไม่ได้มีรสชาติที่ดีมากนัก มันถูกต้มมากเกินไป หรือไม่ก็ทำด้วยส่วนผสมที่แปลก ๆ

ผัดปลากับเห็ดและไก่ฟ้านึ่งกับมะเขือเทศ… โรแลนด์คงจะล้มโต๊ะถ้าสิ่งนี้ถูกนำมาเสิร์ฟในร้านอาหารจริง ๆ แต่เนื่องจากเขาอยู่ในเกม เขาจึงต้องอดทนกินมันลงไป

นอกจากนี้มีดและส้อมก็ทำจากไม้ ความทื่อของพวกมันทำให้โรแลนด์เพลิดเพลินกับอาหารมื้อนี้ได้ยากขึ้น อันที่จริงมีเพียงพวกเจ้าสัวและขุนนางเท่านั้นที่จะสามารถซื้อมีดและส้อมเหล็กภายในเกมนี้

แม้แต่จานก็ยังทำมาจากไม้ ไม่ยากเลยที่จะจินตนาการถึงชีวิตที่น่าสงสารของประชาชนในโลกนี้ ครอบครัวของเด็กทั้งสามคนนั้น คงต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้อาหารมื้อใหญ่นี้กับโรแลนด์

หลังอาหารกลางวัน ความเหนื่อยอ่อนจากดีบัฟของโรแลนด์ก็หายไป โรแลนด์รู้สึกถึงความคล่องแคล่วและกระฉับกระเฉงอีกครั้ง

มันเป็นความรู้สึกที่แปลกมาก เมื่อเขาเหนื่อยอ่อนทุกอย่างนั้นดูเหมือนถูกปกคลุมไปด้วยผ้าปิดหน้า แต่เมื่อสถานะเหนื่อยอ่อนสิ้นสุดลงไม่เพียงแต่ความรู้สึกเหมือนผ้าปิดหน้านั้นหายไป แต่ทุกอย่างกลับสว่างกว่าเดิมมาก ราวกับว่าสปอตไลท์กำลังส่องลงมาบนโลก

ตอนนี้อารมณ์ของเขาดีขึ้นมากแล้ว เขาก็รู้สึกสบายใจมากขึ้น โรแลนด์สังเกตกระท่อมที่เป็นของเขาด้วยความสนใจ บ้านมีความกว้างประมาณสามสิบตารางเมตร นอกจากเสาค้ำยันที่ทำจากไม้ บ้านทั้งหลังก็ประกอบขึ้นมาจากหญ้าแห้ง แม้แต่พื้นก็ถูกปูไว้ด้วยหญ้าเช่นกัน

หญ้าแห้งนั้นเป็นสีเหลืองทองและยังคงมีกลิ่นแห้ง ๆ ของแสงแดด บ้านหลังนี้คงจะดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างมากในโลกของความเป็นจริง แต่ที่นี่นั้นเป็นเพียงแค่กระท่อมทั่วไป

ตู้และเตียงนั้นถูกทำขึ้นมาแบบง่าย  ๆ พวกมันทำจากไม้กระดานหลายแผ่นและมีกลิ่นเฉพาะตัวของวัสดุที่ทำมาจากไม้

โรแลนด์รู้สึกขอบคุณชาวบ้านเป็นอย่างมาก ถ้าเป็นตัวเขาเองนั้นคงต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งวันในการสร้างกระท่อมแบบนี้ แต่ชาวบ้านกลับทำให้เสร็จได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

ตอนนี้เขามีสถานที่ที่จะพักเหนื่อย โรแลนด์ก็ไม่ต้องรีบออกไปจากเมืองอีกแล้ว เขาตัดสินใจจะพักที่นี่และหางานทำเพื่อเลี้ยงชีพตัวเองก่อน เขาจะไม่จากไปที่อื่นจนกว่าเขาจะชินกับการร่ายคาถาทั้งสาม

ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะถูกฆ่าอีก หากเขาพบเจอกับสัตว์ประหลาด เช่นแมงมุมยักษ์นั่น

โรแลนด์พักอยู่บนเตียงสักครู่ จากนั้นเขาก็เดินไปที่ด้านหลังของวิหาร พร้อมที่จะฝึกซ้อมร่ายคาถา

เขาเรียกหนังสือเวทมนตร์จากระบบและดูคาถาของตัวละครทั้งสามคาถา

Inferior Fireball (คาถาระดับหนึ่ง)

Hand of Magic (คาถาระดับหนึ่ง)

ความสามารถทางภาษา (คาถาระดับสอง)

โรแลนด์เริ่มเปิดใช้งาน Inferior Fireball เช่นเดียวกับเมื่อเขาใช้ความสามารถทางภาษาวงกลมแปลก ๆ ที่มีจุดสีน้ำเงินจำนวนมากก็โผล่ขึ้นมาในหัวของเขา จุดเริ่มต้นซึ่งใหญ่กว่าจุดอื่น ๆ จะพุ่งเป็นเส้นสีแดงไปยังจุดสีน้ำเงินอื่น ๆ

เช่นเดียวกับครั้งแรก ที่เส้นสีแดงค่อย ๆ หลุดล่วงลงมาหลังจากสั่นสะเทือนอยู่สักพักหนึ่ง ต่างกันตรงที่ผลที่ตามมานั้นรุนแรงกว่านี้มาก แต่ครั้งนี้หัวของโรแลนด์ไม่ได้ระเบิด เขายังคงมีชีวิตอยู่ แม้ว่าจะมีอาการปวดหัวอยู่บ้างเล็กน้อย

“เกมนี้มันสมจริงมากเกินไป มันแม่งท้าทายมาก” โรแลนด์ทำอะไรไม่ได้นอกจากบ่น “พวก Mage จะหาเลี้ยงชีวิตได้ยังไง ในเมื่อมันยากมากที่จะเสกคาถาแต่ละที ?”

แม้ว่าเขาจะบ่น แต่โรแลนด์ก็พยายามจะทดลองอีกครั้งเมื่ออาการปวดหัวนั้นหายไป แต่เขากลับล้มเหลวอีกครั้ง จากนั้นความพยายามของเขาก็ล้มเหลวอีกครั้งในสิบนาทีต่อมา

หลังจากเขาพยายามทำซ้ำ ๆ มากกว่า 10 ครั้งจมูกของโรแลนด์ก็เริ่มมีเลือดออก ถึงกระนั้นโรแลนด์ก็ปิดจมูกไว้และหัวเราะออกมาเบา ๆ ถึงแม้มันจะล้มเหลวแต่มันก็เป็นบทเรียนที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ แม้ว่าโรแลนด์จะยังไม่สามารถร่ายคาถาใด ๆ ออกมาได้ แต่เขาก็ค้นพบสิ่งที่ไม่คาดคิดบางอย่าง

ทันใดนั้นรัศมีเรืองรองก็ปรากฏขึ้นเหนือหัวของโรแลนด์และครอบคลุมตัวของเขาไว้อย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดในหัวของเขานั้นถูกรักษาให้หายไป เขาหันหลังกลับและเห็นฟอลเคนเดินเข้ามาหาเขาอย่างช้าๆ

“ขอบคุณครับ” โรแลนด์โบกมือให้กับชายชรา

ฟอลเคนจ้องไปที่โรแลนด์เมื่อเขาเดินเข้ามาหา แม้ว่าเขาจะไม่ได้พูดอะไร แต่เขาก็ตกตะลึงอย่างมากในใจ เขาสามารถบอกได้ว่าโรแลนด์นั้นเป็นคนฉลาดและมีความเป็นผู้ใช้เวทมนตร์โดยกำเนิด และศักยภาพของผู้ชายคนนี้ยังอยู่เหนือจินตนาการของเขา

โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้เวทมนตร์ที่ยอดเยี่ยมนั้นจะต้องพักอย่างต่ำ 3 วัน เมื่อพวกเขาล้มเหลวติดต่อกัน 2 หรือ 3 ครั้งในการร่ายเวทมนตร์ มิฉะนั้นสมองของพวกเขาจะได้รับบาดเจ็บ แต่ชายหนุ่มคนนี้กลับล้มเหลวไปตั้งกี่ครั้ง ? อย่างน้อยก็ 15 ครั้ง จากมุมมองที่ฟอลเคนเห็น กระนั้นเขาก็ยังดูแข็งแรงแม้จมูกของเขาจะมีเลือดไหลออกมา

หรือว่าพวกบุตรทองคำทุกคนนั้นจะเป็นสัตว์ประหลาด ?

“นายค้นพบอะไรบ้างไหม ?” ฟอลเคนระงับความประหลาดใจของเขาและถามโรแลนด์ด้วยเสียงเบา ๆ

“ผมรู้แล้วว่าเวทมนต์มันคืออะไร”

โรแลนด์ยื่นมือออกมาและมีลูกบอลสว่าง ๆ อยู่บนมือของเขาในทันที มันดูค่อนข้างสวยงาม

“พลังเวทย์มนตร์แห่งไฟ” ฟอลเคนพึมพำอย่างอิจฉาและโหยหา กระนั้นอารมณ์ก็ถูกแทนที่ด้วยความโล่งใจเพียงไม่กี่นาทีต่อมา “ตอนนี้นายเข้าใจถึงพลังแห่งเวทมนตร์แล้ว มันก็คงไม่นานที่นายจะเสกคาถาออกมาได้”

อย่างไรก็ตามโรแลนด์ถอนหายใจออกมา “มีจุดมากมายในคาถา ผมจำพวกมันได้ไม่หมด แม้ว่าผมจะได้เรียนรู้วิธีใช้เวทย์มนตร์ นอกจากนี้ดูเหมือนว่าจุดที่แตกต่างกันจะส่งผลให้เกิดผลของเวทมนตร์ที่แตกต่างกัน”

ความล้มเหลวของเขาไม่เพียงแต่สอนให้เขารู้วิธีใช้เวทมนตร์ แต่ยังแจ้งให้เขาทราบถึงความสัมพันธ์ระหว่างจุดในคาถา แต่ปัญหาคือมีจุดมากเกินไปและมันยากที่จะควบคุมการไหลของพลังงานซึ่งทำให้ร่ายคาถานั้นยากมากขึ้น

ฟอลเคนหันหลังกลับและเดินออกไป เขาไม่ต้องการจะอยู่ตรงนั้นอยู่อีกต่อไปแล้ว สุดท้ายแล้วสิ่งที่คนธรรมดานั้นอยากจะเห็น ก็คืออัจฉริยะที่เติบโตอย่างรวดเร็วซึ่งมันจะทำให้คนธรรมดาอย่างเขาอิจฉา แต่ตามคำสอนของเทพธิดาแห่งชีวิต ความอิจฉาริษยานั้นเป็นบาป

ถึงแม้ว่าฟอลเคนจะเดินออกไปแล้ว เสียงของเขายังคงลอยจากที่ไกล ๆ อย่างเศร้าสร้อย

“Mage มือใหม่นั้นต้องเริ่มจากการเปล่งคำร่ายคาถาก่อนเพื่อร่ายเวทมนตร์”

โรแลนด์แข็งทื่ออยู่ครู่หนึ่ง ราวกับว่าเขาถูกฟ้าผ่า จากนั้นเขาก็รู้แจ้งขึ้นมาในทันที

เขาหยิบกิ่งไม้ออกมาแล้ววาดจุดต่าง ๆ ลงบนพื้น เขาสังเกตอย่างตั้งใจซักพักหนึ่งก่อนที่จะนับจำนวนจุดทั้งหมด เขาดีใจในตอนแรก ต่อมาก็เงียบลง แต่ในภายหลังเขาก็เกรี้ยวกราดออกมา

เขาขว้างกิ่งไม้ทิ้งไปแล้วสบถกับท้องฟ้า “ไอ้คนสร้างเกมบ้าเอ้ย นี่มันไม่ใช่สูตรคณิตศาสตร์ใช่ไหม ? มันจำเป็นไหม ที่จะต้องทำให้มันซับซ้อนแบบนี้ ? ฉันแค่ต้องการจะเล่นเกม! ทำไมแกถึงเกลียด Mage นัก ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด