TB:บทที่ 15 สถานีตำรวจ
TB:บทที่ 15 สถานีตำรวจ
"ฉันไม่รู้" ลูกน้องตัวจ้อยส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงความหวาดกลัว
เฉินหลงรู้สึกทึ่งกับคำตอบที่ได้รับจากอีกฝ่าย เขามีความคิดอะไรดีๆจึงยกขาขึ้นทำท่าพร้อมเตะ เมื่อเห็นเฉินหลงตั้งท่าแบบนั้น ลูกน้องคนนั้นก็รู้สึกกลัวฝ่าเท้าของอีกฝ่ายขึ้นมาในทันที
"ไม่รู้?" เฉินหลงหัวเราะเยาะ "ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้ง ถ้าแกยังตอบว่าไม่รู้อีก เห็นทีฉันคงต้องทำให้แกเป็นเหมือนเจ้านายของแกซะแล้วสิ"
เนื่องจากว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะพูดคำโกหกออกมาต่อหน้าเฉินหลง เพราะดวงตาของเขาสามารถอ่านใจได้
"ไม่ อย่า ยอมแล้ว บอกแล้ว บอกแล้ว คนที่จ้างให้เรามาทำเรื่องแบบนี้ คนคนนั้นคือจ้าวหงไป๋ เขาบอกว่า คุณขโมยแฟนเขาไป จึงให้พวกเรามาสั่งสอนคุณ แต่ก็ไม่ได้ให้จัดการให้ถึงตายเสียไปเลยซะทีเดียว" พอได้ยินคำของเฉินหลง ลูกนั้นคนนั้นก็ยอมเปิดปากพูดออกมาโดยเร็วในทันที
อันธพาลตัวเล็กแบบเขา ในตอนนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องความถูกต้องกันเลยสักนิด ใครก็ตามที่มีเงินมากกว่าและมีกำปั้นที่ใหญ่กว่า คนคนนั้นจะได้เป็นลูกพี่ ในตอนนี้ หลังจากที่เฉินหลงได้สั่งสอนพวกเขาไปสักพัก แน่นอนว่าเขาพูดความจริงออกมา
"จ้าวหงไป๋นี่เอง โอเค พวกแกไสหัวไปได้แล้ว" เฉินหลงพยักหน้า
เมื่อได้ยินว่าเฉินหลงยอมปล่อยพวกเขาไปแล้ว พวกลูกน้องต่างรีบพาหัวหน้าของพวกมันไปที่รถตู้แล้วขับออกไปในทันที
"เฉินหลง ฉันทำให้นายพลอยติดร่างแหไปด้วย" จี้โม่ซีรู้สึกเสียใจต่อเฉินหลง
"ไม่เป็นไรน่า อย่าคิดมากสิ ถือซะว่าได้ออกกำลังกายหลังอาหารเย็นก็แล้วกัน" ท่าทางของเฉินหลงไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิม
"ถ้างั้นในตอนนี้ก็ไปกันเถอะ" จี้โม่ซีกล่าว
"โอเค ไปกันดีกว่า เจ้าของร้านครับ คิดเงินด้วยครับ" เฉินหลงเรียกเจ้าของร้านมาเก็บเงินให้เรียบร้อย
"เฉินหลง อย่าบอกนะว่านายจะเลี้ยงฉันอีกแล้ว?" จี้โม่ซีรีบพูดขึ้นในทันที เมื่อเธอเห็นว่าเฉินหลงกำลังทำท่าจะจ่ายเงิน
"ไม่เป็นไร ครั้งนี้ให้ฉันจ่ายไปก่อน ไว้คราวหน้าเธอค่อยเลี้ยงฉันก็ยังไม่สาย อีกอย่างนะ คนอื่นก็กำลังมองดูพวกเราอยู่ด้วย เธอคงให้ได้อยากให้พวกเขามองเธอเป็นคนจ่ายเงินหรอกใช่ไหม?" เฉินหลงหยิบเงิน 200 หยวนออกมาแล้วส่งให้เจ้าของร้าน
เมื่อได้ยินเฉินหลงพูดดังนั้น จี้โม่ซีก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
เมื่อเฉินหลงกับเพื่อนสาวของเขาได้จากไปหลังจากที่จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว รถตำรวจก็ได้มาถึงที่เกิดเหตุพอดี
ตำรวจพวกนี้เหมือนพวกตัวรวจที่เห็นได้ตามในหนังและทีวี พวกเขาไม่มาถึงที่เกิดเหตุได้ทันเวลา แต่มาถึงหลังจากนั้นต่างหาก
"ไม่ทราบว่าใครเป็นคนเรียกตำรวจครับ?" ตำรวจสองนายและตำรวจผู้ช่วยตัวสูงห้าหรือหกคนก้าวลงมาจากรถตำรวจ หนึ่งในนั้นคือตำรวจหนุ่มกำลังเดินตรงมาหาเขา
"ฉันเป็นคนเรียกตำรวจเอง ฉันเป็นเจ้าของร้านนี้" เจ้าของร้านรีบตอบ
"คุณหมายความว่ามีการชกต่อยเกิดขึ้นที่นี่ใช่ไหมครับ แล้วคนพวกนั้นเป็นใครครับ?" ตำรวจหนุ่มถาม
"ก็ตอนแรกมีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งมาก่อน แล้วก็วิ่งหนีไปแล้ว ส่วนอีกฝ่ายช้ากว่าหน่อย แต่ก็ขับรถกลับไปแล้วเหมือนกัน" เจ้าของร้านชี้นิ้วไปที่คนสองคน เฉินหลงคนที่เดินตรงไปที่รถแลนด์โรเวอร์
เจ้าของร้านไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือมากพอ เฉินหลงเพิ่งจ่ายเงินค่าอาหารให้เขา เขาก็แค่ขายอาหารให้คนทั้งสองในทันทีก็เท่านั้น
หลังจากฟังความจากปากคำของเจ้าของร้าน ตำรวจหนุ่มจึงสั่งให้ตำรวจผู้ช่วยไปหยุดคนทั้งสองเอาไว้ในทันที
"ช้าก่อน พวกคุณทั้งสองคน" ตำรวจหนุ่มรีบเดินตรงไปที่เฉินหลงแล้วพูด
"คุณตำรวจ มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?" เฉินหลงถาม
หลังจากเขาเห็นจี้โม่ซีคนสวยแล้ว ตำรวจหนุ่มก็รู้สึกชื่นชมเขา แต่เขาก็ยังรำลึกหน้าที่ของเขาที่มาที่นี่ได้
"เมื่อกี้ พวกเราได้รับสายเข้ามาว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นที่นี่ เจ้าของร้านของที่นี่บอกว่าคุณเองก็มีส่วนร่วมในการทะเลาะวิวาทครั้งนี้ด้วยใช่ไหมครับ?" ตำรวจหนุ่มถาม
"คุณตำรวจครับ ให้ผมอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดให้ละเอียดก่อน นี่ไม่ได้เรียกว่าการทะเลาะวิวาทครับ มีคนจ้างวานคนพวกนั้นมาหาเรื่องเราที่นี่ พวกเราก็แค่ป้องกันตัวเองเท่านั้นเอง แต่ถ้าคุณยังไม่เชื่อผม คุณลองกลับไปถามเจ้าของร้านกับลูกค้าที่นั่งกินอยู่ในร้านดูสิครับ" เฉินหลงตอบอีกฝ่ายอย่างใจเย็น
"หลิวเทา รบกวนคุณถามชื่อของคนทั้งสองเอาไว้ด้วย ผมจะไปกลับไปถามเรื่องราวต่างๆจากเจ้าของร้านอีกครั้ง" ตำรวจหนุ่มคนหนึ่งกล่าวกับตำรวจผู้ช่วยที่สูงราวๆ 180 เซนติเมตร แล้วเดินกลับไปหาเจ้าของร้าน
"คุณชื่ออะไรครับ? คุณอาศัยอยู่ที่ไหนครับ? ไม่ทราบว่าพวกคุณได้นำบัตรประจำตัวประชาชนมาด้วยไหมครับ?" ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจหลิวเทาเริ่มทำการสืบสวนรายละเอียดเพิ่มเติมจากเฉินหลงและจี้โม่ซี
"ผมชื่อเฉินหลง บ้านเลขที่ 5 หมู่บ้าน XX ผมไม่ได้นำบัตรประชาชนมาด้วย แต่ผมสามารถบอกหมายเลขประจำตัวประชาชนให้กับคุณได้ครับ" เฉินหลงบอกหมายเลขบัตรประชาชนของเขา
ทางด้านจี้โม่ซีเองก็บอกรายละเอียดต่างๆของเธอเช่นกัน
ผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจหลิวเทาหยิบสมุดเล่มเล็กมาบันทึกข้อมูลของเฉินหลงและเพื่อนของเขา
"แล้วความทราบรายละเอียดของอีกฝ่ายไหมครับ?" หลิวเทาถามขึ้น
"ไม่ทราบครับ" เฉินหลงส่ายหัว
จริงๆแล้ว ถึงเฉินหลงจะรู้ว่าใครเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังพวกลูกน้องพวกนั้นจากปากของพวกมันแล้ว แต่เขาก็ไม่รู้จริงๆว่าชื่อของคนที่ถูกเขาเตะจนมีสารรูปยับเยินขนาดนั้นชื่ออะไร
จากนั้นหลิวเทาก็ได้ถามเฉินหลงเกี่ยวกับหน้าที่การงานของพวกเขา
เฉินหลงและจี้โม่ซีต่างก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
"ถ้าอย่างนั้นรอสักครู่ครับ" หลิวเทาพูดเอาไว้แล้วเดินไปหาตำรวจคนอื่น
สำหรับตำรวจอีกคนที่อายุประมาณห้าสิบ เขาไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้ แต่อายุของเขาในตอนนี้ เขาไม่สามารถก้าวหน้าขึ้นไปได้อีก ตอนนี้หน้าที่ของเขาคือให้งานเพื่อนร่วมงานที่อายุยังน้อยกับรอเวลาของการเกษียณ
"จงซาน ผมได้ข้อมูลของพวกเขามาแล้วครับ" หลิวเทาเดินไปหาหลี่จงซาน ตำรวจหนุ่มบอกรายละเอียดสั้นๆเกี่ยวกับประวัติต่างๆของเฉินหลงกับเพื่อนของเขา
"ผมจะบอกให้คุณทราบเรื่องบางอย่างเกี่ยวกับพวกเขา พวกเขามาทานบาร์บีคิว ต่อมาก็มีกลุ่มคนมาหาเรื่อง แล้วเขาก็จัดการสั่งสอนพวกมัน เขาบอกว่าชายที่ชื่อเฉินหลงใช้ขวดเบียร์ฟาดเข้าไปที่ขาของชายร่างหนาคนหนึ่ง แต่ผมไม่คิดว่าเฉินหลงจะต่อสู้เก่งขนาดนั้น" หลี่จงซานมองเฉินหลงยืนอยู่ข้างรถเป็นเวลานาน
"เขาไม่เพียงแค่ต่อสู้ได้เท่านั้น แต่เขายังรวยมากอีกด้วยครับ เขาขับรถแลนด์โรเวอร์ ไฮบริด พลัส ถ้าเขาเอารถคันนั้นไปขาย น่าจะได้ราคาเกือบๆสามล้านหยวนทีเดียว แล้วอีกอย่างคือ เขาอยู่ที่วิลล่าสำหรับพวกคนรวยๆเขาอยู่กันด้วยครับ" หลิวเทารู้สึกคุ้นเคยกับรถที่เป็นที่นิยมในตอนนี้
"แล้วประวัติของจี้โม่ซีล่ะ?" หลี่จงซานถาม
"ประวัติส่วนตัวของเธอนั้นธรรมดามาก ขายอสังหาริมทรัพย์ ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนนักเรียนสมัยมัธยมของทั้งคู่" หลิวเทากล่าว
"โอเค พาเขากลับไปด้วยแล้วลงบันทึกไว้" หลี่จงซานตอบ
ณ ที่แห่งนี้ พวกเขาไม่สามารถสืบหาหลักฐานใดๆได้ หลี่จงซานพร้อมจบเรื่อง
"หา? เรากำลังจะไปที่สถานีตำรวจกันเนี่ยนะ นี่เราเป็นผู้เสียหายนะ แล้วเรื่องที่พวกเราบอกพวกคุณไปล่ะ? ไหนคุณลองบอกเหตุผลดีๆว่าทำไมพวกเราจะต้องไปที่สถานีตำรวจกับพวกคุณหน่อยสิ พรุ่งนี้เราต้องไปทำงาน พวกเราไม่มีเวลาว่างมากพอที่จะไปสถานีตำรวจหรอกนะครับ" เมื่อได้ยินว่าจี้โม่ซีและเขาต้องไปที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึก เฉินหลงรู้สึกไม่ดีนัก
เฉินหลงรู้ว่านี่เป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากที่จะต้องไปที่สถานีตำรวจเพื่อลงบันทึก เพราะฉะนั้นเขาจึงไม่อยากไปสักเท่าไหร่
"แค่ไปลงบันทึกครับ มันจะไม่ทำให้พวกคุณเสียเวลามากนัก" หลี่จงซานกล่าว
"เฉินหลง ช่างเขาเถอะ ทำตามที่พวกเขาบอกกันเถอะ" จี้โม่ซีดึงเฉินหลงให้ออกมาเบาๆ
"ก็ได้ๆ" เฉินหลงพยักหน้าตอบ จากนั้นเขาก็หันหน้าไปมองหลี่จงซานแล้วพูดว่า "คุณตำรวจ ผมขอขับรถไปที่สถานีเองได้ไหมครับ?"
"ได้ครับ" หลี่จงซานตอบ
หลังจากนั้น เฉินหลงและจี้โม่ซีก็ขึ้นรถไปแล้วขับตามรถตำรวจไปยังสถานีตำรวจ
หลังจากเฉินหลงจากไปแล้ว การประมือของทั้งสองกับชายตัวใหญ่คนนั้น ได้กลายมาเป็นประเด็นการพูดคุยของเหล่าลูกค้าภายในร้านในทันที
เฉินหลงและจี้โม่ซีออกจากสถานีตำรวจไป หลังจากที่พวกเขาได้ลงบันทึกคำสารภาพโดยใช้เวลานานถึงสองชั่วโมงที่สถานีตำรวจ
ถึงเฉินหลงจะไม่ทำอะไรผิด แต่เขาก็ยังรู้สึกสบายใจหลังจากได้เดินออกมาจากสถานีตำรวจ ดูเหมือนว่าสถานที่แห่งนี้จะไม่เหมาะกับชื่อของเขาสักเท่าไหร่