เมื่อเรารักกันแล้ว
“ใครอะพี่บิว ?”
ส้มซ่าถามขึ้นเมื่อเห็นว่าพี่ชายพาใครคนหนึ่งกลับมาที่บ้านด้วย
วันนี้พี่ชายของหล่อนบอกว่าจะออกไปซ้อมดนตรี และออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้าก่อนที่เจ้าหล่อนจะไปโรงเรียนเสียอีก
“ใครล่ะ”
บิวพูดยิ้ม ๆ พลางเดินนำผู้ชายอีกคนเข้ามาในตัวบ้าน
“เฮ้ยพี่…” ส้มซ่าอ้าปากค้าง “อร๊าย พี่เพ้นท์ ! พี่เพ้นท์จริง ๆ ด้วย”
เด็กสาวพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นแต่ถ้าจะให้ชัดเจนกว่านี้คือส้มซ่าแทบจะกระโดดโลดเต้น
ส้มซ่านั้นชอบเพ้นท์มาก เหมือนกับแฟนเพลงสาว ๆ ที่มักจะกรี๊ดกร๊าดเพ้นท์เป็นพิเศษในวง ส้มซ่าดีใจมาก ไม่นึกไม่ฝันว่าหลังกลับจากโรงเรียนอันแสนน่าเบื่อหล่อนจะได้เจอเซอร์ไพรส์แบบนี้
“ไปไงมาไงคะเนี่ย คือหนู… หนูเป็นน้องของพี่บิวชื่อส้มซ่าค่ะ”
“สวัสดีครับส้มซ่า”
เพ้นท์กล่าวทักทาย พลางยื่นมือออกมาวางบนศีรษะของเด็กสาวตัวเล็กแล้วยิ้มให้
บิวมองเห็นน้องสาวยิ้มกว้างทำหน้าเหมือนจะลอยละล่องไปในอากาศ ก็ได้แต่พูดว่า
“น้อย ๆ หน่อย ทีพี่ชายตัวเองไม่เห็นจะกรี๊ดกร๊าดแบบนี้บ้างเลย”
ส้มซ่าย่นจมูก
ไม่รู้บิวคิดไปเองหรือเปล่าว่าเพ้นท์น่ารักขึ้น ...หมายถึงนิสัย ตั้งแต่คบกันมา
เมื่อก่อนเพ้นท์ไม่ใช่คนที่จะเข้าถึงได้ง่ายและยิ้มกับคนทั่วไปได้ง่ายเหมือนตอนนี้ จะว่าไปอีกฝ่ายเริ่มเปลี่ยนท่าทีก็ตั้งแต่ที่ลงเอยกับเขานี่แหละ
ตอนแรกแค่กะว่าน่าจะถึงเวลาที่จะพาเพ้นท์มาเที่ยวที่บ้านบ้าง เพราะตัวเขาเป็นฝ่ายไปที่คอนโดของอีกฝ่ายตลอดเลย แต่เพราะอยากอยู่กับเพ้นท์ตามลำพัง บิวจึงแกล้งบอกให้ส้มซ่าไปช่วยรับนางแหวว มารดาของเขาซึ่งจะกลับมาจากต่างจังหวัดพร้อมกับน้าลิลลี่ ซึ่งเป็นญาติ
นางแหววบอกว่าจะกลับมาถึงในช่วงเย็น และจะแวะไปรับประทานอาหารค่ำกับน้าลิลลี่ก่อนจะกลับมา ซึ่งหล่อนได้ชวนบุตรชายและบุตรสาวให้ไปพบปะกับน้าสาวและครอบครัวด้วย
ห้างสรรพสินค้าที่พวกแม่ ๆ จะไปก็อยู่ไม่ไกลจากแถวนี้ แน่นอนว่าส้มซ่าสามารถนั่งรถเมล์ไปได้เองสบายมาก และแน่นอนว่าวันนี้ส้มซ่าเองก็รีบกลับจากโรงเรียนเพื่อการนี้ด้วย ที่กลับมาเร็วก็เพราะจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าออกไปเจอกับมารดาและน้าลิลลี่นั่นเอง
บิวโทรศัพท์ไปบอกมารดาว่าขอบาย ส่วนเหตุผลนั้นอาจฟังดูไม่ดีนักเพราะเขาเกิดความอยากอยู่กับผู้ชายข้าง ๆ นี้ตามลำพังมากกว่า แม้ตอนแรกกะว่าถ้ามารดามาถึงแล้วก็จะแนะนำให้รู้จักเสียเลย
ส้มซ่าเข้าบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและออกไปอย่างรวดเร็ว แม้ใจจริงจะอยากสนทนากับเพื่อนร่วมวงของพี่ชายให้มากกว่านี้
ร่างเล็กหันมามองที่บิวแวบหนึ่ง ก่อนจะยกริมฝีปากขึ้นเป็นรอยยิ้มแล้วทำเสียง จุ๊ ๆๆ
บิวรู้ว่าน้องสาวจะสื่ออะไร สำหรับสาววายเต็มขั้นอย่างส้มซ่า คงจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างได้ไม่ยาก
ภายหลังส้มซ่าออกไป บิวก็พาเพ้นท์เข้ามาในห้องซึ่งมีแต่โปสเตอร์รูปวงเฮฟวีเมทัลติดอยู่เต็มไปหมด
“...ว้าว” เพ้นท์อุทานออกมาเบา ๆ “วง Scorpions, Deep Purple, Black Sabbath เยอะแยะไปหมดเลย”
“ใช่แล้ว” บิวยิ้ม “ก็พวกเขาเหล่านั้นน่ะนะ เป็นไอดอลของฉันเลยล่ะ”
“หึหึ”
มือกีตาร์หน้าหวานยิ้มที่มุมปากเมื่อมองเห็นคนพูดทำหน้าเหมือนภาคภูมิใจกับตนเองเสียเต็มประดา
“...ไอดอลของฉันด้วย”
ร่างสูงโปร่งเดินเข้ามาหา สองมือสอดเข้ามากอดเอวของบิวเอาไว้หลวม ๆ แล้วเกยใบหน้ากับบ่าของร่างซึ่งสูงเท่า ๆ กัน
บิวจับมือของคนที่กอดอยู่ที่เอว เห็นเพ้นท์มองมาด้วยแววตาหวานเยิ้มอย่างที่คาดไม่ถึงก็ชวนให้กระดากอาย
เพ้นท์แสดงออกต่อเขาอย่างตรงไปตรงมามากขึ้นตั้งแต่ที่คบกัน บิวเพิ่งมารู้ทีหลังจากปากของเจ้าตัวว่าแท้จริงชายหนุ่มไม่ได้เกลียดหรือไม่ชอบอะไรเขาแบบที่เข้าใจ
นักร้องนำช้อนตัวมือกีตาร์ขึ้นในอ้อมแขน เพ้นท์ยกมือขึ้นโอบรอบคอของเขาอัตโนมัติ เผลอแป๊บเดียวก็รู้สึกได้ว่าแผ่นหลังสัมผัสกับที่นอน บิวตามลงมา ‘นอน’ ทับ จนต้องอุทธรณ์ออกมาว่า “หนัก”
คนตัวหนักยิ้ม ไม่ยอมลุกขึ้นง่าย ๆ
ในทางตรงกันข้ามแขนของบิวก็โอบกอดเพ้นท์แน่นขึ้น ๆ ก่อนจะยกตัวขึ้นมาเพื่อให้ใบหน้าซึ่งวางอยู่บนแผ่นอกเรียบเนียน อยู่ในระดับเดียวกับอีกฝ่าย
บิวซุกหน้าลงกับใบหน้าของคนรัก ใช้ปลายจมูกถูไถกับปลายจมูกของอีกฝ่าย เป็นการคลอเคลียที่น่ารักมากเกินกว่าจะมีเจตนาอื่น ...ล่ะมั้ง (?)
“ทำแบบนี้จะดีเหรอ ?”
“ทำอะไร ?”
“ก็ทำ…”
เพ้นท์หน้าแดง ทั้งที่ตอนแรกตนเองเป็นฝ่ายยั่วเย้ากันก่อนแท้ ๆ
“ไม่มี ‘ดี’ หรือ ‘ไม่ดี’ แล้วล่ะ มาถึงที่นี่แล้วจะกลับง่าย ๆ งั้นเหรอ”
“...”
“แม่กับน้าลิลลี่น่ะ คุยกันนานจะตายไป แถมส้มซ่าก็ไม่อยู่…”
บิวว่า แกล้งลากนิ้วไปบนแผ่นอกขาวภายใต้เสื้อโปโลซึ่งตอนนี้สะท้อนขึ้นลงตามการหายใจ (และเสียงหัวใจ)
“อา…”
เพ้นท์ครางออกมาเบา ๆ เมื่อปล่อยตนเองไปกับบทเพลงรักที่บิวบรรเลงขึ้น สมองเป็นสีขาวโพลนไปหมด เขาไม่รับรู้สิ่งใดอีกต่อไปแล้วนอกจากคำว่า ‘รัก’ และ ‘รัก’ เท่านั้น
...คือความรักที่เอ่อล้นเต็มหัวใจนั่นเอง
-จบ-
ใจสิงห์