บทที่ 47: รับสมัครผู้คุ้มกันที่มีเรียวขาสวยงาม
เกี่ยวกับการหาคนเพิ่ม
ผู้ที่อยู่อาศัยในเมืองแห่งรุ่งอรุณมีความกระตือรือร้นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพราะหลังจากที่วิลเลียมมายังเมืองนี้เขาก็เที่ยวต่อสู้ไปทั่ว… ทำตัวเป็นคนเผด็จการและฉกฉวยที่นู่นทีที่นี่ทีไปเรื่อย ซึ่งทำให้เขาได้รับทรัพยากรจำนวนมาก แต่เขาก็ไม่เคยสูญเสียทหารไปสักคนในสงคราม
การดูแลขององครักษ์เอลฟ์นั้นดีมากจนทำให้ผู้คนอิจฉาตาร้อน
แม้กระทั่งหลังจากที่คนแคระทั้ง 300 ตนเข้าร่วมกับพวกเขาก็ได้รับการปกป้องที่ดีมากเช่นกัน
ในวันที่วิลเลียมประกาศรับสมัตร ก็มีผู้เชี่ยวชาญที่ไม่ต้องการทำฟาร์มอีกต่อไปมากกว่า 3,000 คน กระตือรือร้นที่จะเข้าร่วม…
นี่รวมถึงชาวเมืองในอดีตที่แต่เดิมก็เป็นผู้เชี่ยวชาญมากกว่าครึ่งของชาวเมืองในเมืองชายแดนอยู่แล้ว
สำหรับครึ่งเอลฟ์ทั้ง 500 ตนที่ยังไม่ได้ออกจากเมืองไป ดูเหมือนว่าจะมีประมาณ 300 ตนที่ตั้งใจจะเข้าร่วมกับกองทัพ
พวกเขาแทบจะไม่ต้องคิด
วิลเลียมปล่อยให้เหล่าเอลฟ์พวกนี้ได้ตัดสินใจก่อนเพราะพลังการต่อสู้ของครึ่งเอลฟ์ไม่ได้ดีไปกว่าพวกมนุษย์นัก พวกเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญแต่แรกอยู่แล้ว และเหตุผลที่พวกเขามาที่เมืองชายแดนแห่งนี้ก็เพราะว่าเคยทำความผิดบางอย่างมาก่อน แต่กำลังของพวกเขาก็โดดเด่นเช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น แม้ว่าสายเลือดของครึ่งเอลฟ์จะด้อยกว่าเอลฟ์เล็กน้อย แต่พวกเขาก็ล้วนมีสายเลือดระดับเริ่มต้น, ระดับกลาง, ระดับสูง และแม้แต่สายเลือดระดับแกรนด์มาสเตอร์
ศักยภาพทางสายเลือดของมนุษย์นั้นแย่กว่ามาก พวกเขาหลายคนไม่ได้มีแม้กระทั่งสายเลือดระดับเริ่มต้นและไม่สามารถก้าวเข้าสู้การเป็นผู้เชี่ยวชาญได้
แต่เมื่อคิดถึงจำนวนมนุษย์ในทวีปรีเจนดารีแล้ว ก็จะเข้าใจได้ว่าจำนวนสามารถเปลี่ยนฐานะได้…
ความสามารถติดตัวของมนุษย์นั้นแสนจะธรรมดา แต่พวกเขาก็ยังครอบครองพื้นที่ที่กว้างขวาง เจริญรุ่งเรือง และอุดมสมบูรณ์ที่สุดของทวีปรีเจนดารีด้วยจำนวนที่ทรงพลัง
“ตามจริงแล้ว เอลฟ์, เผ่าพันธุ์ที่มีปีก, และครึ่งเอลฟ์ยังถือว่าดี พวกเขามีเพียงไม่กี่ตนเท่านั้นและยังอยู่ในฝ่ายดีหรือค่ายกลาง พวกเขาสามารถเลือกที่จะอาศัยในที่ที่มีทรัพยากรเพียงพอได้”
“แต่สถานที่ที่คนแคระ, ก็อปลิน, และโนมส์อาศัยอยู่นั้น โดยทั่วไปแล้วไม่มีใครที่ต้องการไปปล้นพวกเขา”
“แต่เผ่าพันธุ์ที่เป็นกลางเผ่าพันธุ์อื่นๆเช่น โถวเหยิน, มนุษย์หมาป่า, ออร์ค, โทรล, และอื่นๆนั้น สามารถครอบครองพื้นที่ที่ห่างไกลที่ไม่มีอะไรกินมากนัก...” วิลเลียมถอนหายใจเล็กน้อย แต่นี่คือสถานการณ์ปัจจุบัน
‘พระเจ้า’ไม่มีประวัติศาสตร์จึงไม่ได้ถูกรวมเอาไว้
ยุคแรกเป็นยุคของมังกร
ยุคที่สองเป็นของเอลฟ์และคนแคระ
ส่วนยุคที่สามซึ่งอยู่ในปัจจุบันเป็นยุคของมนุษย์!
และยุคที่สี่กำลังจะปรากฏขึ้น…
หายนะที่เกิดจากเหล่าทวยเทพและปีศาจไม่ได้เกิดขึ้นในทวีปรีเจนดารีเพียงเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมไปทั่วโลก
ไม่ว่าพระเจ้าและปีศาจจะเป็นเช่นไร พวกเขาก็มีอยู่จริงๆและเป็นสิ่งที่มีชีวิตชนิดหนึ่ง
ตนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกเขาจะกลายเป็นพระเจ้าและปีศาจที่มีตำแหน่ง กล่าวคือพวกเขามีสองฝ่าย กลุ่มคนที่มีชื่อเสียงที่ดีจะถูกเรียกว่าพระเจ้า ส่วนกลุ่มคนชั่วร้ายที่เต็มไปด้วยการฆ่าฟันจะกลายเป็นปีศาจ
ตัวอย่างเช่น เทพแห่งแสง, ลอร์ดแห่งเวทมนตร์ และเทพีแห่งโชคลาภเป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายสว่างในสายตามนุษย์
แต่ปีศาจในโลกแห่งความมืด, เทพแห่งความชั่วร้าย, ลอร์ดแห่งปีศาจ, เทพีแห่งความพังพินาศนั้นถูกเชื่อว่าเป็นเผ่าพันธุ์ปีศาจ
“มาเลย พี่ชายคนนี้จะทดสอบสายเลือดของเจ้าเอง!” วิลเลียมมองไปยังแถวของผู้เชี่ยวชาญหญิงสาวที่ยาวเหยียดด้านหลัง
ผู้หญิงในโลกแห่งนี้นั้นง่ายต่อการถูกเลือกปฏิบัติและมีเหล่าผู้เชี่ยวชาญหญิงสาวหลายคนที่ถูกกดขี่และได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างกันออกไป โชคดีที่วิลเลียมไม่ได้สนใจในเรื่องนั้น ใครบอกกันว่าผู้หญิงด้อยกว่าผู้ชาย?
เขากำลังจะสร้างกลุ่มผู้คุ้มกันสาวสวยขึ้นมา!
ถูกแล้ว
ในอนาคตผู้คุ้มกันที่ปกป้องเมืองจะไม่ใช่ผู้หญิงทั้งหมด แต่ส่วนใหญ่ของพวกเขาจะเป็นหญิงสาวที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ!
มันอาจดูเป็นวิธีที่ไม่เหมาะไม่ควร แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้เกิดขึ้นเพราะผลประโยชน์ที่เห็นแก่ตัวของเขาเอง เขาไม่ได้เป็นผู้ชายมากตัณหาเสียหน่อย!
เขาต้องการใช้วิธีที่พิเศษเช่นนี้เพื่อดึงดูดผู้เล่นชายจำนวนมาก…
ส่วนวิธีในการดึงดูดผู้เล่นหญิงล่ะ?
แค่การพบปะกับNPCที่เป็นครึ่งเอลฟ์ก็เพียงพอแล้ว พวกเขานั้นตัวสูงและหล่อเหลา นอกจากนั้นที่นี่ยังมีบุคคลที่หล่อเหลาที่สุดอยู่คนหนึ่ง นั่นคือเขาเอง…
เขาไม่อาจเชื่อได้ว่า…
เมื่อผู้เล่นได้เห็นอาณาเขตของขุนนางคนอื่นๆที่เต็มไปด้วยกลุ่มผู้ชายกล้ามปูที่กำลังลาดตระเวน เฝ้าระวัง และแม้แต่จ้องมองและข่มขู่ผู้คนโดยไม่มีความรู้สึกแล้ว แน่นอนว่าเหล่าผู้เล่นจะต้องโยนตัวพวกเขาเองเข้ามาสู่อ้อมแขนของวิลเลียม
คุณต้องรู้ไว้ว่า
ผู้เล่นเข้ามายังโลกแห่งนี้ในนามของการได้รับเลือกจากพระเจ้า
การได้รับเลือกจากพระเจ้าคืออะไร?
สิ่งมีชีวิตที่ถูกเลือกสรรโดยสวรรค์
สำหรับสังคมระบบศักดินาของเผ่าพันธุ์ทั้งหมด คำว่า ‘สวรรค์’ นั้นเปรียบได้กับพระเจ้าหรือแม้กระทั่งยิ่งใหญ่กว่า
แต่เหล่าทวยเทพในโลกใบนี้ต่างก็ให้ความสนใจกับทวีปรีเจนดารีแห่งนี้
แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถสืบสายเลือดและไม่ทราบว่าผู้เล่นมาจากที่ใด แต่พวกเขาก็ยังมีทัศนคติที่แตกต่างไปจากผู้เล่น และพวกเขาจะส่งจดหมายเพื่อบอกในเหล่าผู้เล่นเชื่อในลัทธิของพวกเขา เพื่อตรวจสอบ เฝ้าระวังและอื่นๆ
มันไม่ใช่แค่พระเจ้า แต่ชาวพื้นเมืองทุกคนต่างมีทัศนคติที่แตกต่างไปจากผู้เล่นเช่นกัน
“แล้วฉันเป็นใครกัน? ฉันเป็นผู้ช่วยชีวิตของคุณไง เป็นคนเดียวที่รักคุณ และไม่ได้สนใจกับการฟื้นคืนชีพของคุณ ไม่สนว่าคุณจะมาจากที่ไหนก็ตาม”
วิลเลียมเช็ดริมฝีปากของเขา แม้ว่าเขาจะน้ำลายไหล ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาก็ไม่ได้ดูน่าเกลียดเลยสักนิด
หญิงสาวตรงหน้านั้นหน้าแดงระเรื่อ แต่ความประทับใจที่ดียังคงเพิ่มขึ้น
ในขณะที่เธอคิดว่าเธออาจจะถูกท่านลอร์ดพาตัวไปและไม่ช้าก็คงกลายเป็นภรรยาของเขา
น่าเสียดายที่วิลเลียมเพียงมองไปที่ขาเรียวยาวของเธอ ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้ามีคุณสมบัติ ต่อไป”
เวลาในการรับสมัครผ่านไปรวดเร็วมาก
อาจดูเหมือนวิลเลียมเลือกคนด้วยการตบไหล่ของพวกเขา แต่จริงๆแล้วเขากำลังตรวจสอบพวกเขาอย่างละเอียด…
กล่าวโดยย่อคือเขาให้กำลังใจเล็กๆน้อยๆ เพื่อให้คนที่ไม่ได้ถูกเลือกจะได้ทำงานอย่างดีต่อไปและเพื่อให้คนที่มีคุณสมบัติทำงานอย่างหนัก…
ในที่สุดเมื่อปากเขาแห้งผาก เขาก็ได้เลือกผู้สมัครหน้าใหม่ 1,000 คน และผู้เชี่ยวชาญเพศหญิง 200 คนเพื่อเป็นผู้คุ้มกันเมืองได้สำเร็จ
ในบรรดาผู้สมัครมี 930 คนเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเริ่มต้น และมี 270 คนเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับกลาง
“มีผู้สมัครจำนวนมากที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับกลาง” ลอทเนอร์ดูบันทึกการรับสมัครและอุทานด้วยความประหลาดใจ
“ตอนนี้ส่วนใหญ่ขององครักษ์ทั้งห้าร้อยตนของเราได้เข้าสู่ระดับกลางและถึงแม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งเข้าสู่ระดับกลาง แต่เราก็มีชุดเกราะและอาวุธที่ดีที่สุด”
“สำหรับสมาชิกใหม่ให้เกราะสีฟ้าที่ยอดเยี่ยมแก่พวกเขาแล้วนำพวกเขาไปฝึกซ้อม!”
วิลเลียมยิ้ม เมื่อเร็วๆนี้แฟรี่ตัวน้อยทีโมได้ทำงานอย่างหนัก การผลิตสมุนไพรเวทย์กำลังเพิ่มขึ้น และหลังจากที่ผู้วิเศษได้ทำโพชั่นออกมา องครักษ์เอลฟ์ที่เลเวลไม่ได้ต่ำมากก็ดื่มไปเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ วิลเลียมมักออกไปลาดตระเวนกับเหล่าองครักษ์ และหากพวกเขากำจัดเผ่าพันธุ์ต่างๆเช่นนี้ไปเรื่อยๆอีกหลายเดือน พวกเขาก็จะเข้าสู่ระดับกลาง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือสายเลือดเอลฟ์ส่วนใหญ่นั้นอยู่ในระดับกลาง สูง และแม้กระทั่งแกรนด์มาสเตอร์และระดับอีปิค
ในพวกเขานั้นไม่มีตนที่มีสายเลือดระดับเริ่มต้น และระดับกลางก็พบเห็นได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ท้ายที่สุดแล้ว มีเอลฟ์เพียง 30 ล้านตนในทวีปรีเจนดารี หากศักยภาพทางสายเลือดของพวกเขาไม่ดีเท่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ มันก็เป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะมีชีวิตรอดอยู่ได้