ตอนที่ 180: วงกตปริศนา (ตอนฟรี)
ตอนที่ 180: วงกตปริศนา
ติ๊ง!
จากนั้นหน้าต่างแจ้งเตือนสำหรับการทำเควสก็ปรากฏขึ้นมา
[วงกตปริศนา]
เป้าหมาย: ผ่านเขาวงกตนี้ไปให้ได้
รางวัล: ดาบแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ มิตรา
จำนวนคนที่สามารถเข้าไปข้างในได้: 0/1
- ภารกิจนี้จะเกิดขึ้นกับเฉพาะผู้ที่มีไอเทม "ร่องรอยของดาบแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์" เท่านั้น
- หากใช้ไอเทม "ร่องรอยของดาบแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์" แล้ว ผู้ใช้จะได้รับการเสริมพลังด้วยบัตร 'ไฮ-พาส' และจะไปถึงห้องของบอสที่นั่นได้อย่างปลอดภัย
“โอ้?”
เมื่อได้อ่านข้อความทั้งหมดนี้จบคังชอลอินก็ลอบยิ้มออกมาด้วยความพอใจ
“ชอลอิน…? มีอะไรอย่างนั้นเหรอ?”
“ได้รับเควสใหม่น่ะ”
“เควส?”
“คุณจำตอนงานสมัชชาได้ไหม?”
“ได้สิ”
“ดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมได้รับเป็นรางวัลสำหรับการได้อันดับ 1 ในตอนนั้นก็คือแผนที่ที่จะใช้จัดการกับเขาวงกตตรงนี้ หึ…ไอ้พวกงี่เง่า”
คังชอลอินบ่นด้วยความประหลาดใจ
เมื่อคิดว่าดันเจี้ยนที่ปรากฏขึ้นมาจะเป็นดันเจี้ยนที่คังชอลอินกำลังมองหาอยู่แบบนี้แล้วนั้น ไม่ว่าจะเป็นอัลเบรทช์ วิลเฮล์มหรืออเล็กซ์ รอสตร์ไชลด์เองก็ตาม พวกเขากำลังช่วยเหลือคังชอลอินเป็นอย่างมากในตอนนี้
“อย่างนี้นี่เอง…”
“มันคือรางวัลที่ดีอย่างมาก”
“อะไรอย่างนั้นเหรอ?”
“ไอเทมมหากาพย์”
“...!”
“แล้วมันก็เป็นดาบซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องการในตอนนี้อยู่ด้วยพอดี”
"ว้าว!"
ลีแชรินอุทาน
“ยินดีด้วยค่ะ!”
“ขอบคุณ”
คังชอลอินพยายามจะลุกขึ้นมานั่ง...
“ไม่ได้นะ!”
แต่ลีแชรินก็หยุดการกระทำนั้นของเขาโดยการก้มตัวเองลงไปทับเพื่อขวางไม่ให้เขาได้ไปไหน
“ไม่ได้!”
“...?”
“ขอร้องเถอะค่ะ… อย่าไปดันเจี้ยนด้วยสภาพร่างกายที่ยัง…”
“ลีแชริน”
“2 วัน…อย่างน้อยก็ 1 วัน”
“ผมไม่ได้จะไปไหน”
“เอ๋?”
“ผมเอง...ก็เป็นคนเหมือนกันนะคุณ”
คังชอลอินพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเหนื่อยล้า
“อย่างที่คุณพูดมา ผมตั้งใจจะนอนพักสักวันก่อน”
“โอ้…”
“มันไม่เหมือนกับดันเจี้ยนที่จะหายไปในทันทีถ้าผมไม่รีบไปซะตั้งแต่ตอนนี้ผมเลยคิดว่าจะอยู่พักสักวันเพื่อฟื้นสภาพร่างกาย ด้วยสภาพแบบนี้ผมคงไม่สามารถออกไปต่อสู้กับบอสที่อยู่ภายในดันเจี้ยนแห่งนั้นได้หรอก”
แม้ว่าคังชอลอินจะเป็นคนที่โด่งดังในเรื่องการแสดงพลังที่มากล้นอยู่เสมอแต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะเดินทางเข้าสู่เขาวงกตด้วยสภาพที่เขาเองก็รู้ตัวอยู่แล้วว่าจะไม่สามารถเอาชนะบอสในนั้นได้
“โอ้…ถ้างั้นก็ขอโทษที…”
“ไม่เป็นไร แค่…ลุกออกไปก็พอ”
“...?”
“ผมหายใจไม่ออก”
ตามคำพูดของคังชอลอิน ลีแชรินรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วกลับไปนั่งตามปกติของเธออีกครั้ง
ครืด...ครืด...
จากนั้นโทรศัพท์ของลีแชรินก็เกิดส่งเสียงร้องดังขึ้นมา
“ควักจองโทรเข้ามาน่ะ”
“ส่งมาให้ผม”
เมื่อพูดออกไปแบบนั้น ลีแชรินก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เขาไปทันทีก่อนที่คังชอลอินจะเป็นคนกดรับสาย
- คุณแชริน! น นายท่าน…นายท่านไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหมครับ?
“ฉันเอง”
- ...ห๊ะ?
"ฉันไม่เป็นอะไร"
-น นายท่าน... นายท่านไม่เป็นอะไรแน่ ๆ ใช่ไหมครับ?!!
“แค่กระทบกระเทือนเล็กน้อย”
-...อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด
เช่นเดียวกับลีแชรินและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ บนรถฉุกเฉิน ควักจองเองก็รู้สึกประหลาดใจกับการได้ยินเสียงของคังชอลอินที่ฟังดูแล้วมันไม่น่าจะเป็นเสียงของคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการโดนแรงของขีปนาวุธได้เลย
- อย่างไรก็ตาม...ดีแล้วล่ะครับที่ตอนนี้นายท่านปลอดภัย
“ขอบใจ แล้วตอนนี้นายวางแผนเพื่อจัดการกับเรื่องที่เกิดได้หรือยัง?”
- เรียบร้อยแล้วครับ ผมได้วางแผนเพื่อแยกนักผจญภัยออกเป็นกลุ่มละ 5 ถึง 7 คนแล้วจะทำการส่งพวกเขาไปยังดันเจี้ยนเพื่อจัดการกับสิ่งที่โผล่ออกมา ส่วนดันเจี้ยนที่มีระดับสูงยิ่งไปกว่านั้นผมจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าคนโง่....เอิ่ม ผมหมายถึงจอมราชันย์โดเรียนและเพื่อน ๆ ของเขาน่ะครับ
“เพื่อน ๆ ?”
- เอ่อ...ใช่ครับ...เขานำเพื่อนแปลก ๆ มาด้วย 3 คนและกำลังรอรับคำสั่งอยู่ที่บ้านของนายท่านน่ะครับ
คังชอลอินให้ความสนใจกับคำว่า ‘เพื่อนแปลก ๆ’ ที่ควักจองกำลังพูดถึง
“พวกนั้นมีชื่อว่าจอห์น ‘ซาฟารี’, เดวิด ‘โครม’ แล้วก็ณอน ‘ไฟร์ฟอกซ์’ ใช่ไหม?”
- ช ใช่แล้วครับ
“...ไอ้พวกนั้นมันกำลังอยู่ที่บ้านของฉัน? พร้อมกับโดเรียน?”
- ครับ…
“ฮู่ว…”
คังชอลอินพ่นลมหายใจที่เต็มไปด้วยความโกรธออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้อยู่
จอห์น ซาฟารี เดิมทีคือทหารจากเดลตาฟอร์ซ
เดวิด โครม เดิมทีคือเนวีซีล
และก็ณอน ไฟร์ฟอกซ์เดิมทีก็คือกรีนเบอเรต์
ทั้งสามคนคือเพื่อนของโดเรียนและเคยเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษมากันก่อนแล้วทั้งนั้น
นอกจากนี้พวกเขายังเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสติดีในหลาย ๆ ด้านและยังเป็นคนที่คล้ายกับโดเรียนเป็นอย่างมากทีเดียว
พวกเขาไม่ใช่คนเลวแต่พวกเขาเป็นคนที่น่าเบื่อหน่ายเกินกว่าจะคบหาด้วยได้
“ไล่พวกมันออกจากบ้านฉันไปเดี๋ยวนี้”
- ...ครับ?
“ฉันบอกว่าให้ไปไล่พวกมันออกจากบ้านของฉัน เดี๋ยวนี้!”
- ต แต่…นายท่าน…เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการมาปกป้องแม่ของนายท่าน...
“ปกติแล้วแม่ของฉันจะอยู่กับใคร?”
- ก็ลูกสาวของนายท่าน…อ่า เข้าใจแล้วครับ
ตราบใดที่อาร์เชลลียังอยู่ข้าง ๆ แม่ของคังชอลอินก็จะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ทั้งนั้น
และเนื่องจากบ้านของคังชอลอินตอนนี้ได้รับการร่ายเวทย์ไว้ทุกประเภทแล้วดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสัตว์ประหลาดโผล่เข้ามาใกล้กับบ้านของเขา
“ฉันรับประกันเลยว่าพวกนั้นจะต้องกำลังหาอาหารที่บ้านของฉันกินอยู่โดยอ้างว่าที่พวกเขาไปอยู่ที่นั่นก็เพื่อมาปกป้องแม่และลูกของฉัน…”
- ฮ่า ๆ ราวกับว่า…
“รับประกันได้เลย”
- ...งั้นผมจะรีบไปตรวจสอบให้เดี๋ยวนี้เลยครับ
เมื่อพูดออกไปแบบนั้นเสร็จ ควักจองก็หันไปพูดอะไรบางอย่างกับใครบางคน
- นายท่าน พวกเราเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นแล้วล่ะครับ!
“มีอะไร?”
- ไอ้พวกนั้น…ผมคิดว่าไอ้พวกนั้นมันกำลังเทกระจาดตู้เย็นของนายท่านกันอยู่น่ะสิครับ…!
“... รีบไปไล่พวกมันออกจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!”
คังชอลอินคำรามเสียงดังจนลั่นรถฉุกเฉิน
.
.
.
ในขณะที่คังชอลอินกำลังนอนพักเพื่อรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นั้น ทั่วทั้งเกาหลีใต้ก็กำลังวุ่นวายกันไปใหญ่
[ข่าว] เสนาธิการทหารบกโอเซมินถูกจับในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม
[ข่าว] พลโทโกยงชานถูกเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นพลเอกอย่างรวดเร็ว
[ข่าว] พลเอกโกยงชานกล่าวว่า “ผู้อำนวยการคังคือฮีโร่สำหรับพวกเรา… การกระทำของเขาทำให้เราเหล่ากองทัพต้องรู้สึกอับอาย”
ข่าวส่วนใหญ่กำลังบอกเล่าถึงเรื่องการจับตัวโอเซมินที่เป็นคนออกคำสั่งให้ยิงขีปนาวุธใส่สัตว์ประหลาดทั้ง ๆ ที่คังชอลอินยังคงต่อสู้อยู่และโกยงชานที่เป็นคนพยายามหยุดยั้งเขาก็ได้ขึ้นมารับตำแหน่งพลเอก
และยังไม่หมดแค่เพียงเท่านั้น...
[ข่าว] รองกรรมการผู้จัดการจากบริษัทแกแล็คซี่ระบุว่า “ทั้งมือและเท้าของผมยังคงสั่นไม่หายเพราะช็อคจากการถูกทรยศ”
[ข่าว] นักผจญภัยระบุว่า “เราไม่ต้องการถูกโจมตีจากพันธมิตรของพวกเรากันเอง เช่นเดียวกับผู้อำนวยการคังชอลอิน พวกเราไม่ใช่ของใช้สิ้นเปลืองของใคร”
ภายใต้การควบคุมของควักจอง เหล่านักผจญภัยเริ่มทำการคว่ำบาตร
[ข่าว] พลเมืองออกความคิดเห็นว่า “นี่หรือคือสิ่งที่รัฐบาลควรทำ”
[ข่าว] รัฐบาลจะขอความช่วยเหลือจากบริษัทแกแล็คซี่...
[ข่าว] ประกาศจากท่านประธานาธิบดี “ขอโอกาสให้พวกเราอีกสักครั้ง”
และในที่สุด กลุ่มผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ภาครัฐก็ต้องออกมาเคลื่อนไหว
มันสมเหตุสมผลแล้วเมื่อพวกเขาคิดที่จะคว่ำบาตรบริษัทแกแล็คซี่ออกไปอีกนานเท่าไหร่ ตำแหน่งของพวกเขาก็จะเริ่มถูกคุกคามมากยิ่งขึ้นตามเท่านั้น
ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เคยพยายามคิดหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะเก็บภาษีเป็นจำนวนมากจากบริษัทแกแล็คซี่จึงต้องออกมาร้องขอความช่วยเหลืออย่างช่วยไม่ได้
.
.
.
2 วันต่อมา ภายในห้องประชุมลับใต้ดินที่ยออีโด ควักจองกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หัวโต๊ะโดยไขว้ขาวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับเคี้ยวหมากฝรั่ง
แต่พวกกลุ่มผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่กำลังนั่งอยู่ภายในห้องเดียวกันกับเขานั้นกลับกำลังนั่งกันอย่างนิ่งเงียบสนิทเพราะกลัวว่ามันอาจจะมีอะไรเกิดอะไรมาได้หากพวกเขาเผลอไปทำอะไรที่ไม่น่าพอใจต่อเขาเข้า
“ไอ้พวกโง่”
และขณะนั้นเองควักจองก็เริ่มหัวเราะเยาะใส่พวกเจ้าหน้าที่
“สิ่งเหล่านี้คือเงื่อนไขของเรา พวกคุณสามารถตัดสินใจกันเอาเองได้เลยว่าจะยอมลงชื่อในสัญญานี้หรือไม่”
ควักของว่าพลางโยนกองกระดาษไปที่กลางโต๊ะ โดยเนื้อหาภายในนั้นระบุไว้ว่า
ทันทีที่เหล่าเจ้าหน้าที่ได้อ่านสิ่งนั้นจบ พวกเขาต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ
“น นี่มันอะไรกัน…”
“ช่างไม่สมเหตุสมผล…”
“เงื่อนไขพวกนี้มันเลวร้ายเกินไป…”
แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องไม่เห็นด้วยกับมัน
“ทำไมล่ะ ไม่ชอบกันหรอกเหรอ?”
ควักจองหัวเราะ
“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเซ็นสัญญากับเราก็ได้นะ”
มันคือข้อเรียกร้องที่มากเกินไปอย่างนั้นหรือ?
แน่นอนว่าไม่เลย!
หากไม่ยอมเพิกเฉยต่อคำเตือนจากพวกเขาซะตั้งแต่แรกและพยายามป่าวประกาศเพื่อเตือนภัยอันตรายของแพนเจียเวิลด์ให้ประชาชนได้รับรู้ เงื่อนไขที่เกิดขึ้นก็คงจะไม่เลวร้ายแบบนี้
ท่าทีของเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ในตอนที่ชายชราควอนไปเข้าพบเพื่อชี้แจงเรื่องนั้นได้กลายเป็นคนละคนกับในตอนนี้ไปโดยสิ้นเชิง...คนพวกนี้คือกลุ่มคนที่โลภมากอย่างกับหมูสกปรกโดยไม่สนใจเลยว่าพวกเขาจะพูดเตือนอะไรออกไปเพราะได้รับสินบนที่จากริเวอร์มูนกรุ๊ปมาแล้ว คนพวกนี้ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะพยายามหาข้อตกลงร่วมกันด้วยดีด้วยได้
“ฉันจะให้เวลาพวกคุณอีก 10 วินาที” ควักจองว่า
“งั้นลองฟังสิ่งที่ราชันย์ของผมพูดก่อนที่พวกคุณจะได้ตัดสินใจกันเป็นครั้งสุดท้าย”
ทันทีที่เขาพูดแบบนั้นจบ ควักจองก็กดเปิดข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้าขึ้นมา
ชึ้บ!
- ไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจาในครั้งนี้อีกต่อไป
เสียงของคังชอลอินที่ดังขึ้นมานั้นช่างแน่วแน่เป็นอย่างยิ่ง
.
.
.
ในขณะเดียวกัน
“ฮ่า ๆ ๆ...”
คังชอลอินกำลังหัวเราะร่าอย่างสบายใจ
หลังจากได้พักผ่อนมานานกว่า 24 ชั่วโมงแล้วในตอนนี้เขาก็กำลังเดินทางผ่านวงกตปริศนาอยู่ เขาต้องการได้รับมิตรามาให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อที่จะได้นำมันกลับโลกไปสังหารมังกรกระดูก
และผลลัพธ์ที่ตามมาด้วยนั้น...
“พวกนั้นบอกว่ามันเป็นบัตรไฮพาส แต่…”
คังชอลพึมพำพลางหัวเราะด้วยความประหลาดใจ
5 ชั่วโมง...
นั่นคือระยะเวลาที่คังชอลอินใช้เพื่อออกจากเขาวงกตที่ลึกลับแห่งนี้
สิ่งที่ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนสำหรับคนอื่น ๆ แต่สำหรับคังชอลอินแล้วเขากลับใช้เวลาไปแค่เพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น
-ท่านได้เดินทางมาถึงห้องของบอสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นบัตรไฮพาสนี้จะหายไป
กล่องการแจ้งเตือนได้โผล่ขึ้นมา
“บอสงั้นเหรอ เหอะ”
ขณะนี้คังชอลอินกำลังยืนอยู่ที่ขอบเขาวงกตปริศนาซึ่งตรงหน้าของเขาก็คือประตูที่นำไปสู่บอสที่เฝ้าคุ้มกันดันเจี้ยนแห่งนี้
เอี๊ยด…
โดยไร้ซึ่งความลังเลใด ๆ คังชอลอินผลักประตูบานนั้นเพื่อเปิดมันออก
และ...
“มาแล้วหรือ!! ในที่สุดก็มีคนมาถึงที่นี่สักที!!”
ชายชราคนหนึ่งหันมากล่าวทักทายคังชอลอินด้วยความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง
.
.
สามารถกดติดตามเพื่อรับอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับนิยายได้ก่อนใครที่ทาง แปลได้แปลเถอะ