ตอนที่แล้วตอนที่ 179: เควสที่อุบัติขึ้นมา!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 181: นักดาบทูเซนบาช

ตอนที่ 180: วงกตปริศนา (ตอนฟรี)


ตอนที่ 180: วงกตปริศนา

ติ๊ง!

จากนั้นหน้าต่างแจ้งเตือนสำหรับการทำเควสก็ปรากฏขึ้นมา

[วงกตปริศนา]

เป้าหมาย: ผ่านเขาวงกตนี้ไปให้ได้

รางวัล: ดาบแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์ มิตรา

จำนวนคนที่สามารถเข้าไปข้างในได้: 0/1

- ภารกิจนี้จะเกิดขึ้นกับเฉพาะผู้ที่มีไอเทม "ร่องรอยของดาบแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์" เท่านั้น

- หากใช้ไอเทม "ร่องรอยของดาบแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์" แล้ว ผู้ใช้จะได้รับการเสริมพลังด้วยบัตร 'ไฮ-พาส' และจะไปถึงห้องของบอสที่นั่นได้อย่างปลอดภัย

“โอ้?”

เมื่อได้อ่านข้อความทั้งหมดนี้จบคังชอลอินก็ลอบยิ้มออกมาด้วยความพอใจ

“ชอลอิน…? มีอะไรอย่างนั้นเหรอ?”

“ได้รับเควสใหม่น่ะ”

“เควส?”

“คุณจำตอนงานสมัชชาได้ไหม?”

“ได้สิ”

“ดูเหมือนว่าสิ่งที่ผมได้รับเป็นรางวัลสำหรับการได้อันดับ 1 ในตอนนั้นก็คือแผนที่ที่จะใช้จัดการกับเขาวงกตตรงนี้ หึ…ไอ้พวกงี่เง่า”

คังชอลอินบ่นด้วยความประหลาดใจ

เมื่อคิดว่าดันเจี้ยนที่ปรากฏขึ้นมาจะเป็นดันเจี้ยนที่คังชอลอินกำลังมองหาอยู่แบบนี้แล้วนั้น ไม่ว่าจะเป็นอัลเบรทช์ วิลเฮล์มหรืออเล็กซ์ รอสตร์ไชลด์เองก็ตาม พวกเขากำลังช่วยเหลือคังชอลอินเป็นอย่างมากในตอนนี้

“อย่างนี้นี่เอง…”

“มันคือรางวัลที่ดีอย่างมาก”

“อะไรอย่างนั้นเหรอ?”

“ไอเทมมหากาพย์”

“...!”

“แล้วมันก็เป็นดาบซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องการในตอนนี้อยู่ด้วยพอดี”

"ว้าว!"

ลีแชรินอุทาน

“ยินดีด้วยค่ะ!”

“ขอบคุณ”

คังชอลอินพยายามจะลุกขึ้นมานั่ง...

“ไม่ได้นะ!”

แต่ลีแชรินก็หยุดการกระทำนั้นของเขาโดยการก้มตัวเองลงไปทับเพื่อขวางไม่ให้เขาได้ไปไหน

“ไม่ได้!”

“...?”

“ขอร้องเถอะค่ะ… อย่าไปดันเจี้ยนด้วยสภาพร่างกายที่ยัง…”

“ลีแชริน”

“2 วัน…อย่างน้อยก็ 1 วัน”

“ผมไม่ได้จะไปไหน”

“เอ๋?”

“ผมเอง...ก็เป็นคนเหมือนกันนะคุณ”

คังชอลอินพูดด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเหนื่อยล้า

“อย่างที่คุณพูดมา ผมตั้งใจจะนอนพักสักวันก่อน”

“โอ้…”

“มันไม่เหมือนกับดันเจี้ยนที่จะหายไปในทันทีถ้าผมไม่รีบไปซะตั้งแต่ตอนนี้ผมเลยคิดว่าจะอยู่พักสักวันเพื่อฟื้นสภาพร่างกาย ด้วยสภาพแบบนี้ผมคงไม่สามารถออกไปต่อสู้กับบอสที่อยู่ภายในดันเจี้ยนแห่งนั้นได้หรอก”

แม้ว่าคังชอลอินจะเป็นคนที่โด่งดังในเรื่องการแสดงพลังที่มากล้นอยู่เสมอแต่เขาก็ไม่ได้คิดที่จะเดินทางเข้าสู่เขาวงกตด้วยสภาพที่เขาเองก็รู้ตัวอยู่แล้วว่าจะไม่สามารถเอาชนะบอสในนั้นได้

“โอ้…ถ้างั้นก็ขอโทษที…”

“ไม่เป็นไร แค่…ลุกออกไปก็พอ”

“...?”

“ผมหายใจไม่ออก”

ตามคำพูดของคังชอลอิน ลีแชรินรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วกลับไปนั่งตามปกติของเธออีกครั้ง

ครืด...ครืด...

จากนั้นโทรศัพท์ของลีแชรินก็เกิดส่งเสียงร้องดังขึ้นมา

“ควักจองโทรเข้ามาน่ะ”

“ส่งมาให้ผม”

เมื่อพูดออกไปแบบนั้น ลีแชรินก็ยื่นโทรศัพท์มือถือให้เขาไปทันทีก่อนที่คังชอลอินจะเป็นคนกดรับสาย

- คุณแชริน! น นายท่าน…นายท่านไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหมครับ?

“ฉันเอง”

- ...ห๊ะ?

"ฉันไม่เป็นอะไร"

-น นายท่าน... นายท่านไม่เป็นอะไรแน่ ๆ ใช่ไหมครับ?!!

“แค่กระทบกระเทือนเล็กน้อย”

-...อย่างที่คิดไว้ไม่มีผิด

เช่นเดียวกับลีแชรินและเจ้าหน้าที่คนอื่น ๆ บนรถฉุกเฉิน ควักจองเองก็รู้สึกประหลาดใจกับการได้ยินเสียงของคังชอลอินที่ฟังดูแล้วมันไม่น่าจะเป็นเสียงของคนที่ได้รับบาดเจ็บจากการโดนแรงของขีปนาวุธได้เลย

- อย่างไรก็ตาม...ดีแล้วล่ะครับที่ตอนนี้นายท่านปลอดภัย

“ขอบใจ แล้วตอนนี้นายวางแผนเพื่อจัดการกับเรื่องที่เกิดได้หรือยัง?”

- เรียบร้อยแล้วครับ ผมได้วางแผนเพื่อแยกนักผจญภัยออกเป็นกลุ่มละ 5 ถึง 7 คนแล้วจะทำการส่งพวกเขาไปยังดันเจี้ยนเพื่อจัดการกับสิ่งที่โผล่ออกมา ส่วนดันเจี้ยนที่มีระดับสูงยิ่งไปกว่านั้นผมจะปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าคนโง่....เอิ่ม ผมหมายถึงจอมราชันย์โดเรียนและเพื่อน ๆ ของเขาน่ะครับ

“เพื่อน ๆ ?”

- เอ่อ...ใช่ครับ...เขานำเพื่อนแปลก ๆ มาด้วย 3 คนและกำลังรอรับคำสั่งอยู่ที่บ้านของนายท่านน่ะครับ

คังชอลอินให้ความสนใจกับคำว่า ‘เพื่อนแปลก ๆ’ ที่ควักจองกำลังพูดถึง

“พวกนั้นมีชื่อว่าจอห์น ‘ซาฟารี’, เดวิด ‘โครม’ แล้วก็ณอน ‘ไฟร์ฟอกซ์’ ใช่ไหม?”

- ช ใช่แล้วครับ

“...ไอ้พวกนั้นมันกำลังอยู่ที่บ้านของฉัน? พร้อมกับโดเรียน?”

- ครับ…

“ฮู่ว…”

คังชอลอินพ่นลมหายใจที่เต็มไปด้วยความโกรธออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้อยู่

จอห์น ซาฟารี เดิมทีคือทหารจากเดลตาฟอร์ซ

เดวิด โครม เดิมทีคือเนวีซีล

และก็ณอน ไฟร์ฟอกซ์เดิมทีก็คือกรีนเบอเรต์

ทั้งสามคนคือเพื่อนของโดเรียนและเคยเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยพิเศษมากันก่อนแล้วทั้งนั้น

นอกจากนี้พวกเขายังเป็นคนที่ไม่ค่อยมีสติดีในหลาย ๆ ด้านและยังเป็นคนที่คล้ายกับโดเรียนเป็นอย่างมากทีเดียว

พวกเขาไม่ใช่คนเลวแต่พวกเขาเป็นคนที่น่าเบื่อหน่ายเกินกว่าจะคบหาด้วยได้

“ไล่พวกมันออกจากบ้านฉันไปเดี๋ยวนี้”

- ...ครับ?

“ฉันบอกว่าให้ไปไล่พวกมันออกจากบ้านของฉัน เดี๋ยวนี้!”

- ต แต่…นายท่าน…เห็นได้ชัดว่าพวกเขาต้องการมาปกป้องแม่ของนายท่าน...

“ปกติแล้วแม่ของฉันจะอยู่กับใคร?”

- ก็ลูกสาวของนายท่าน…อ่า เข้าใจแล้วครับ

ตราบใดที่อาร์เชลลียังอยู่ข้าง ๆ  แม่ของคังชอลอินก็จะไม่ได้รับอันตรายใด ๆ ทั้งนั้น

และเนื่องจากบ้านของคังชอลอินตอนนี้ได้รับการร่ายเวทย์ไว้ทุกประเภทแล้วดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีสัตว์ประหลาดโผล่เข้ามาใกล้กับบ้านของเขา

“ฉันรับประกันเลยว่าพวกนั้นจะต้องกำลังหาอาหารที่บ้านของฉันกินอยู่โดยอ้างว่าที่พวกเขาไปอยู่ที่นั่นก็เพื่อมาปกป้องแม่และลูกของฉัน…”

- ฮ่า ๆ ราวกับว่า…

“รับประกันได้เลย”

- ...งั้นผมจะรีบไปตรวจสอบให้เดี๋ยวนี้เลยครับ

เมื่อพูดออกไปแบบนั้นเสร็จ ควักจองก็หันไปพูดอะไรบางอย่างกับใครบางคน

- นายท่าน พวกเราเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นแล้วล่ะครับ!

“มีอะไร?”

- ไอ้พวกนั้น…ผมคิดว่าไอ้พวกนั้นมันกำลังเทกระจาดตู้เย็นของนายท่านกันอยู่น่ะสิครับ…!

“... รีบไปไล่พวกมันออกจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้!”

คังชอลอินคำรามเสียงดังจนลั่นรถฉุกเฉิน

.

.

.

ในขณะที่คังชอลอินกำลังนอนพักเพื่อรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอยู่นั้น ทั่วทั้งเกาหลีใต้ก็กำลังวุ่นวายกันไปใหญ่

[ข่าว] เสนาธิการทหารบกโอเซมินถูกจับในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม

[ข่าว] พลโทโกยงชานถูกเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นพลเอกอย่างรวดเร็ว

[ข่าว] พลเอกโกยงชานกล่าวว่า “ผู้อำนวยการคังคือฮีโร่สำหรับพวกเรา… การกระทำของเขาทำให้เราเหล่ากองทัพต้องรู้สึกอับอาย”

ข่าวส่วนใหญ่กำลังบอกเล่าถึงเรื่องการจับตัวโอเซมินที่เป็นคนออกคำสั่งให้ยิงขีปนาวุธใส่สัตว์ประหลาดทั้ง ๆ ที่คังชอลอินยังคงต่อสู้อยู่และโกยงชานที่เป็นคนพยายามหยุดยั้งเขาก็ได้ขึ้นมารับตำแหน่งพลเอก

และยังไม่หมดแค่เพียงเท่านั้น...

[ข่าว] รองกรรมการผู้จัดการจากบริษัทแกแล็คซี่ระบุว่า “ทั้งมือและเท้าของผมยังคงสั่นไม่หายเพราะช็อคจากการถูกทรยศ”

[ข่าว] นักผจญภัยระบุว่า “เราไม่ต้องการถูกโจมตีจากพันธมิตรของพวกเรากันเอง เช่นเดียวกับผู้อำนวยการคังชอลอิน พวกเราไม่ใช่ของใช้สิ้นเปลืองของใคร”

ภายใต้การควบคุมของควักจอง เหล่านักผจญภัยเริ่มทำการคว่ำบาตร

[ข่าว] พลเมืองออกความคิดเห็นว่า “นี่หรือคือสิ่งที่รัฐบาลควรทำ”

[ข่าว] รัฐบาลจะขอความช่วยเหลือจากบริษัทแกแล็คซี่...

[ข่าว] ประกาศจากท่านประธานาธิบดี “ขอโอกาสให้พวกเราอีกสักครั้ง”

และในที่สุด กลุ่มผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ภาครัฐก็ต้องออกมาเคลื่อนไหว

มันสมเหตุสมผลแล้วเมื่อพวกเขาคิดที่จะคว่ำบาตรบริษัทแกแล็คซี่ออกไปอีกนานเท่าไหร่ ตำแหน่งของพวกเขาก็จะเริ่มถูกคุกคามมากยิ่งขึ้นตามเท่านั้น

ด้วยเหตุนี้ เจ้าหน้าที่ภาครัฐที่เคยพยายามคิดหาวิธีที่ดีที่สุดที่จะเก็บภาษีเป็นจำนวนมากจากบริษัทแกแล็คซี่จึงต้องออกมาร้องขอความช่วยเหลืออย่างช่วยไม่ได้

.

.

.

2 วันต่อมา ภายในห้องประชุมลับใต้ดินที่ยออีโด ควักจองกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้หัวโต๊ะโดยไขว้ขาวางไว้บนโต๊ะพร้อมกับเคี้ยวหมากฝรั่ง

แต่พวกกลุ่มผู้มีอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่กำลังนั่งอยู่ภายในห้องเดียวกันกับเขานั้นกลับกำลังนั่งกันอย่างนิ่งเงียบสนิทเพราะกลัวว่ามันอาจจะมีอะไรเกิดอะไรมาได้หากพวกเขาเผลอไปทำอะไรที่ไม่น่าพอใจต่อเขาเข้า

“ไอ้พวกโง่”

และขณะนั้นเองควักจองก็เริ่มหัวเราะเยาะใส่พวกเจ้าหน้าที่

“สิ่งเหล่านี้คือเงื่อนไขของเรา พวกคุณสามารถตัดสินใจกันเอาเองได้เลยว่าจะยอมลงชื่อในสัญญานี้หรือไม่”

ควักของว่าพลางโยนกองกระดาษไปที่กลางโต๊ะ โดยเนื้อหาภายในนั้นระบุไว้ว่า

ทันทีที่เหล่าเจ้าหน้าที่ได้อ่านสิ่งนั้นจบ พวกเขาต่างพากันอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจ

“น นี่มันอะไรกัน…”

“ช่างไม่สมเหตุสมผล…”

“เงื่อนไขพวกนี้มันเลวร้ายเกินไป…”

แน่นอนว่าพวกเขาจะต้องไม่เห็นด้วยกับมัน

“ทำไมล่ะ ไม่ชอบกันหรอกเหรอ?”

ควักจองหัวเราะ

“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องเซ็นสัญญากับเราก็ได้นะ”

มันคือข้อเรียกร้องที่มากเกินไปอย่างนั้นหรือ?

แน่นอนว่าไม่เลย!

หากไม่ยอมเพิกเฉยต่อคำเตือนจากพวกเขาซะตั้งแต่แรกและพยายามป่าวประกาศเพื่อเตือนภัยอันตรายของแพนเจียเวิลด์ให้ประชาชนได้รับรู้ เงื่อนไขที่เกิดขึ้นก็คงจะไม่เลวร้ายแบบนี้

ท่าทีของเจ้าหน้าที่กลุ่มนี้ในตอนที่ชายชราควอนไปเข้าพบเพื่อชี้แจงเรื่องนั้นได้กลายเป็นคนละคนกับในตอนนี้ไปโดยสิ้นเชิง...คนพวกนี้คือกลุ่มคนที่โลภมากอย่างกับหมูสกปรกโดยไม่สนใจเลยว่าพวกเขาจะพูดเตือนอะไรออกไปเพราะได้รับสินบนที่จากริเวอร์มูนกรุ๊ปมาแล้ว คนพวกนี้ไม่ใช่คนที่พวกเขาจะพยายามหาข้อตกลงร่วมกันด้วยดีด้วยได้

“ฉันจะให้เวลาพวกคุณอีก 10 วินาที” ควักจองว่า

“งั้นลองฟังสิ่งที่ราชันย์ของผมพูดก่อนที่พวกคุณจะได้ตัดสินใจกันเป็นครั้งสุดท้าย”

ทันทีที่เขาพูดแบบนั้นจบ ควักจองก็กดเปิดข้อความที่บันทึกไว้ล่วงหน้าขึ้นมา

ชึ้บ!

- ไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจาในครั้งนี้อีกต่อไป

เสียงของคังชอลอินที่ดังขึ้นมานั้นช่างแน่วแน่เป็นอย่างยิ่ง

.

.

.

ในขณะเดียวกัน

“ฮ่า ๆ ๆ...”

คังชอลอินกำลังหัวเราะร่าอย่างสบายใจ

หลังจากได้พักผ่อนมานานกว่า 24 ชั่วโมงแล้วในตอนนี้เขาก็กำลังเดินทางผ่านวงกตปริศนาอยู่ เขาต้องการได้รับมิตรามาให้ได้โดยเร็วที่สุดเพื่อที่จะได้นำมันกลับโลกไปสังหารมังกรกระดูก

และผลลัพธ์ที่ตามมาด้วยนั้น...

“พวกนั้นบอกว่ามันเป็นบัตรไฮพาส แต่…”

คังชอลพึมพำพลางหัวเราะด้วยความประหลาดใจ

5 ชั่วโมง...

นั่นคือระยะเวลาที่คังชอลอินใช้เพื่อออกจากเขาวงกตที่ลึกลับแห่งนี้

สิ่งที่ต้องใช้เวลาเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือนสำหรับคนอื่น ๆ แต่สำหรับคังชอลอินแล้วเขากลับใช้เวลาไปแค่เพียง 5 ชั่วโมงเท่านั้น

-ท่านได้เดินทางมาถึงห้องของบอสเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ดังนั้นบัตรไฮพาสนี้จะหายไป

กล่องการแจ้งเตือนได้โผล่ขึ้นมา

“บอสงั้นเหรอ เหอะ”

ขณะนี้คังชอลอินกำลังยืนอยู่ที่ขอบเขาวงกตปริศนาซึ่งตรงหน้าของเขาก็คือประตูที่นำไปสู่บอสที่เฝ้าคุ้มกันดันเจี้ยนแห่งนี้

เอี๊ยด…

โดยไร้ซึ่งความลังเลใด ๆ คังชอลอินผลักประตูบานนั้นเพื่อเปิดมันออก

และ...

“มาแล้วหรือ!! ในที่สุดก็มีคนมาถึงที่นี่สักที!!”

ชายชราคนหนึ่งหันมากล่าวทักทายคังชอลอินด้วยความปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง

.

.

สามารถกดติดตามเพื่อรับอัพเดทข่าวสารเกี่ยวกับนิยายได้ก่อนใครที่ทาง แปลได้แปลเถอะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด