ตอนที่แล้วบทที่ 178.2 หาสมบัติ
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 179.2 โอนย้ายแม่ของดงซูบิน

บทที่ 179.1 โอนย้ายแม่ของดงซูบิน


บทที่ 179.1 โอนย้ายแม่ของดงซูบิน

ผู้แปล loop

ในเช้าวันรุ่งขึ้น.

ดงซูบินเดินทางเข้ามาในสำนักงานเขตด้วยอาการปวดหัว ตอนนี้เขาดูทุกข์ทรมานมากจากอาการเมาค้างหลังจากการดื่มเมื่อคืนที่ผ่านมาและสิ่งแรกที่เขาทำหลังจากไปถึงที่ทำงานของเขาก็คือการจิบชาสักสองสามคำ เขาคิดเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำในวันแรกหลังจากได้รับมอบหมายหน้าที่ หลังจากจิบชาจนเสร็จแล้ว ดงซูบินตัดสินใจไปเยี่ยมสถานีตำรวจฮุ่ยเทียนเพื่อตรวจดูความเรียบร้อบ

ดงซูบินยกหูโทรศัพท์แล้วโทรไปที่สำนักงาน “สวัสดีผมดงซูบินนะ”

ฮูซินเลียน ตอบ “หัวหน้าซูบิน ต้องการอะไรหรือเปล่า”

“มีรถยนต์กี่คันในสำนักงานตอนนี้?”

“โอ้นอกเหนือจากทีมสืบสวนและตำรวจจราจรมีรถตำรวจ 4 คันสงวนสิทธ์ไว้สำหรับผู้นำ นอกจากนี้ยังมีรถยนต์พลเรือนอีก 2 คัน” สำนักรักษาความปลอดภัยสาธารณะหยานไท่มณฑลไม่ได้กำหนดยานพาหนะให้กับผู้นำแต่ละคน รถตำรวจ 3 คันถูกสงวนไว้สำหรับหัวหน้าสำนักผู้ตัดสินคดีทางการเมืองและรองหัวหน้าผู้บริหารและไม่มีใครสามารถใช้งานรถพวกนั้นได้ รถตำรวจและรถพลเรือนสองคันที่เหลือจะต้องแบ่งให้กับผู้นำคนอื่น ๆใช้ หรือในกรณีฉุกเฉิน ดูเหมือนว่าตอนนี้รถสำนักงานค่อนข้างจะคลาดแคลนสักหน่อย แต่ก็ไม่เป็นไร ฉินหยงมีหน้าที่ดูแลแผนกการจราจรและทางแผนกจะจองรถให้ดงซูบินเอง ผู้ตัดสินทางการเมืองสามารถใช้รถของหน่วยงานของตนและเหมือนกันกับผู้บริหารสำนักงาน มีเพียงดงซูบิน และผู้นำคนอื่น ๆ เท่านั้นที่ไม่ได้รับประโยชน์นี้

ดงซูบิน กล่าว “อย่างงั้นช่วยเตรียมรถให้ฉันด้วย ผมต้องไปที่หมู่บ้านฮุ่ยเทียน”

ฮูซินเลียน ตอบ "ตกลง. รถยนต์พลเรือน 2 คันยังอยู่แถวๆนี้ คันแรกคือ บูกลินเอ็มพีวี และอีกคันหนึ่คือ พลาสซอล หัวหน้าต้องการรถแบบไหน

“ถ้าอย่างงั้นขอเป็นบูกลินเอ็มพีวี” นี่เป็นครั้งแรกที่ ดงซูบินไปที่หมู่บ้านเพื่อตรวจดู ด้วยรถเอ็มพีวี ขนาด 7 ที่นั่งจะทำให้เขาดูดีและน่าเคารพสำหรับคนในพื้ที่

“อย่างงั้นจะให้ฉันจะจัดคนขับรถให้ไหม?”

ดงซูบินรู้ว่าระดับตำแหน่งของเขาจะมีคนขับรถให้ นอกเหนือจากสถานีตำรวจฮุ่ยเทียนแล้วเขาไม่ได้ควบคุมแผนกอื่นๆฮูซินเลียน น่าจะให้คนจากทีมลาดตระเวนหรือคนจากสำนักงานของเธอมาเป็นคนขับของเขา ดงซูบินจึงตอบกลับไปว่า "ไม่จำเป็น. ผมจะขับเอง ขอบคุณ ขอโทษที่ต้องรบกวนคุณด้วยนะ."

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่งฮูซินเลียนก็ส่งกุญแจรถไปที่สำนักงานให้กับดงซูบิน และพาเขาไปที่จอดรถ  ดงซูบินรู้สึกว่าเจ้าหน้าที่ ที่นี้ค่อนข้างมีท่าทีที่เป็นมิตรกับเขา

รถคือ บลูลิน จีแอลขนาด, 2.4 ลิตร ทางสำนักพึงจะซื้อรถคันนี้มาก่อนหน้าที่ดงซูบินจะเข้ามาไม่นาน

ดงซูบินลงไปนั่งในที่นั่งคนขับ อืม ... มันกว้างขวางดีและสะดวกสบาย หลังจากจบการศึกษาจากโรงเรียนมัธยมปลาย ดงซูบินก็ได้ทำใบขับขี่ไว้แต่เขาก็ไม่ได้ขับรถมานานมากแล้ว หลังจากนั้น เขาใช้เวลา 5 นาทีทำความคุ้นเคยกับการควบคุมและขับรถออกจากสำนักอย่างช้าๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่ ดงซูบินขับรถบนถนนและเขารักความรู้สึกนี้ การขับรถของสำนักแตกต่างจากการขับรถที่เขาซื้อเอง ทุกคนสามารถซื้อรถยนต์ได้ตราบใดที่เขาได้รับเงิน แต่ยานพาหนะความปลอดภัยสาธารณะแตกต่างกัน นี่คือสัญลักษณ์ที่แสดงถึงตำแหน่งหน้าที่การงานของเขา ต่อให้มีเงินมากพอก็ไม่สามารถขับรถคันนี้ได้

ณ สถานีตำรวจหมู่บ้านฮุ่ยเทียน

ดงซูบิน จอดรถไว้หน้าอาคาร 3 ชั้นของสถานี หัวหน้าสถานีหลิวหารได้รับข่าวว่าดงซูบินที่เป็นหัวหน้าของเขาจะมาที่นี้ เขาจึงเดินทางออกมาอย่างรวดเร็วจากสถานีพร้อมรองหัวหน้าสถานี เฉินฟา และ ลี่ซานเมียวหากดงซูบินไม่รับผิดชอบสถานีนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องต้อนรับเขาในลักษณะนี้ แต่ตอนนี้ดงซูบินเป็นหัวหน้าโดยตรงของพวกเขาและนี่เป็นสิ่งที่ต้องทำ การรักษาความปลอดภัยสาธารณะของทั้งมณฑลรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างดงซูบินและรองหัวหน้าบริหารหูอี้กิว เหตุการณ์นั้นสะท้อนให้เห็นว่าความสามารถและความกล้าหาญของดงซูบินเป็นอย่างไรหลิวหารและคนอื่น ๆ ก็กลัวว่าดงซูบินจะใช้อำนาจนี้กลั่นแกล้งพวกเขา

หลิวหาร กำลังบ่นอยู่ในใจ ทำไมหัวหน้าซูบินไม่ได้แจ้งล่วงหน้าก่อนที่จะมานะ? มันจะดีกว่าสำหรับการเตรียมความพร้อมในการเยี่ยมชมของเขา

ดงซูบินเห็นเจ้าหน้าที่ทุกคนในสถานีออกมารับเขาและส่ายหัว “ฉันไม่ชอบพิธีเหล่านี้ ให้หัวหน้าสถาณีตามฉันมา ส่วนคนอื่นกลับไปทำงาน” ดงซูฐินพูดอย่างเข็มขรึม แต่เขาเองก็ดีใจมากอยู่ภายในใจ

หลิวหารลังเลสักครู่และโบกมือให้เจ้าหน้าที่กลับไปทำงาน

“ผมเป็นตัวแทนของสถานีทั้งหมดเพื่อต้อนรับหัวหน้าซูบินในการตรวจดูพื้นที่ในวันนี้” หลิวหารยื่นมือสองข้างจับมือของดงซูบิน เขาก้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อยทำตัวเหมือนลูกน้องแม้ทุกคนจะแก่กว่าดงซูบินอยู่มากก็ตาม

ลี่ซานเมียวยิ้มและจับมือกับดงซูบินอย่างสุภาพตามด้วยรองหัวหน้าสถานีเฉินฟา

ระเบียบในเขตฯ ระบุว่าสถานีตำรวจที่มีเจ้าหน้าที่ต่ำกว่า 10 คนจะไม่มีรองหัวหน้าสถานี สถานีที่มีเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ 11 ถึง 20 จะมีรองหัวหน้าสถานี 1 คน ดังนั้นสถานีหมู่บ้านฮุ่ยเทียนจึงมีหัวหน้าสถานีรองหนึ่งคนเท่านั้น ชาย 3 คนนี้เป็นผู้นำอันดับต้น ๆ ของสถานี

ดงซูบินมาที่นี่เพื่อทำความคุ้นเคยกับพื้นดินและขอให้หลิวหาร พาเขาเดินไปดูรอบ สำนักงานของสถานี นอกจากนี้เขายังปฏิเสธหลิวหารเพื่อจัดการประชุมกับเจ้าหน้าที่ของสถานีทั้งหมดดงซูบินรับผิดชอบสถานีหมู่บ้านฮุ่ยเทียนแต่ในสถานี หลิวหาร เป็นหัวหน้าสถานี ดงซูบินรู้สึกว่าเขาไม่ควรเข้าไปยุ่งกับการทำงานของสถานีและแค่กำหนดทิศทางการทำงานทั่วไปสำหรับพวกเขาก็เพียงพอแล้ว

ในเวลาเที่ยง. หลิวหาร และคนอื่น ๆ เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับ ดงซูบิน

ดงซูบินไม่ได้ปฏิเสธมื้อเที่ยงของพวกเขาแต่อย่างใดเพราะมันจะกลายเป็นหยาบคายที่จะจากไปโดยไม่ได้กินอาหารกับหัวหน้าสถานี หลังจากทานอาหาร ดงซูบินไปแล้วก็ขับรถไปรอบ ๆ หมู่บ้านเพื่อทำความคุ้นเคยกับถนนที่นั่น

เมื่อเวลาประมาณบ่ายสี่โมง  ดงซูบินทำงานของเขาเสร็จและมีความเข้าใจพื้นที่

กลับเมืองเลยดีไหม? ตั้งแต่ฉันอยู่ที่นี่ฉันควรจะไปเยี่ยมแม่ของฉันก่อน!

โรงเรียนมัธยมหมู่บ้านฮุ่ยเทียน

ประตูโรงเรียนเป็นสนิมและอาคารเรียนสร้างขึ้นบนพื้นดินสีน้ำตาลอมเหลือง เมื่อลมพัดเมฆฝุ่นปกคลุมอาคารโรงเรียน ห่วงบาสเก็ตบอลและบอร์ดในสนามถูกทำลายและมีการวางลูกกรงแบบขนานที่มุมห้อง สภาพแวดล้อมของโรงเรียนดูยากจนและแม้แต่โรงเรียนที่แย่ที่สุดในปักกิ่งก็มีสภาพที่ดีกว่า ดงซูบินถอนหายใจเมื่อเขามองไปที่โรงเรียน นี่คือชนบบทและแม่ของเขาทำงานที่นี่มาหลายปี มันจะต้องเป็นเรื่องที่ยากสำหรับเธอ ดงซูบินคิดว่าเขาควรช่วยแม่ของเขาให้ย้ายไปโรงเรียนมัธยมในเมืองดีไหม

ดงซูบินขับรถมายังบริเวณโรงเรียนโดยไม่มีใครหยุดเขาได้ ยามที่ป้อมปราการไม่แม้แต่จะมองเขา

ดงซูบินจอดรถและเดินเข้าไปในอาคารโรงเรียน เขาถามครูคนหนึ่งซึ่งถามหาครูสอบภาษา

ในห้องทำงานบนชั้นสอง ล้วนเสี่ยวปิงและหัวหน้าทีมคุณครูภาษาของเธอ โจมเหม่ย กำลังพูด

โจวเหม่ยเป็นหญิงวัยกลางคนวัย 40 ปี ถึงแม้จะอายุมากแล้วแต่เธอก็ยังดูสวยอนู่ เธอกำลังยิ้มขณะที่ผลักเห็ดแห้งและราต้นไม้ไปยังมือของล้วนนเสี่ยวปิง“อาจารย์ล้วนไม่ต้องเกรงใจ สามีของฉันนำสิ่งนี้มาจากบ้านเกิดของเขาและเราเอามาฝากคุณนะ”

ล้วนเสี่ยวปิงพยายามปฏิเสธเธอ “นี่มันมากเกินไป ฉันขอแค่ครึ่งเดียวก็พอ”

โจวเหม่ยหัวเราะ “แค่รับไป นำทุกอย่างกลับมา”

ครูสอนภาษาคนอื่นเห็นว่าหัวหน้าทีมปฏิบัติต่อ ล้วนเสี่ยวปิงอย่างสุภาพ แต่ก็ไม่แปลกใจ ลูกชายของเธอได้กลายเป็นรองหัวหน้าสำนักความมั่นคงสาธารณะของเมือง และสถานะของเธอในโรงเรียนเปลี่ยนไป แม้แต่หัวหน้าแผนกและผู้นำโรงเรียนก็ปฏิบัติต่อ ล้วนเสี่ยวปิงด้วยความเคารพ

ล้วนเสี่ยวปิง รู้ว่าทุกคนปฏิบัติต่อเธออย่างสุภาพเพราะลูกชายของเธอและเธอก็ภูมิใจในตัวของดงซูบินมาก

ทันใดนั้นประตูสำนักงานก็เปิดออกและดงซูบินก็เดินเข้าไป

ล้วนเสี่ยวปิงรู้สึกประหลาดใจมาก “ซูบิน? ทำไมลูกถึงอยู่ที่นี่?”

โจวเหม่ยมองไปที่ดงซูบิน และเดินไปอย่างรวดเร็วเพื่อจับมือกัน “คุณเป็นหัวหน้าซูบินเหรอ? ยินดีที่ได้รู้จัก.”

ล้วนเสี่ยวปิง แนะนำ โจวเหม่ย “นี่คือหัวหน้าทีมของเรา โจวเหม่ย ลูกน่าจะเรียกเธอว่าป้าโจวนะ” หลังจากพูดสิ่งนี้ ล้วนเสี่ยวปิงก็ รู้สึกว่าสิ่งนี้ไม่ถูกต้อง

โจวเหม่ย โบกมืออย่างรวดเร็ว “ไม่…เพียงเรียกฉันว่าป้าโจวก็ได้”

ดงซูบิน ยิ้มแล้วจับมือเธอ “ป้าโจว ขอบคุณที่ดูแลแม่ผมมาหลายปี”

โจวเหม่ย รู้สึกยินดีเมื่อเธอได้ยิน ดงซูบินเรียกเธอว่าป้าโจว “มันเป็นหน้าที่ของฉัน” หลังจากพูดคุยกันสักครู่ โจวเหม่ย พูดกับ ล้วนเสี่ยวปิงว่า “อาจารย์ล้วนคุณไม่มีสอนแล้ว คุณควรกลับไปกับลูกชายของคุณนะ” เธอรู้ว่าดงซูบิน มาที่นี่เพื่อรับแม่ของเขา

ล้วนเสี่ยวปิง ตอบกลับ “ผู้อำนวยการหยู จะจัดการประชุมครูหลังจากนี้ ฉัน…”

โจวเหม่ย กล่าว "ทุกอย่างปกติดี. กลับไปเถอะ เดียวฉันจะช่วยดูเอง”

ดงซูบินถามแม่ของเขาผู้อำนวยการหยูคือใตน

ล้วนเสี่ยวปิงตอบ “เขาเป็นผู้อำนวยการกระทรวงศึกษาธิการของเมืองหยางไถ่ หยูเฉินซี มีการปะทะกันในโรงเรียนของแม่เมื่อสองวันก่อนและนักเรียน 4 ถึง 5 คนได้รับบาดเจ็บ ผู้ปกครองบางคนมีการร้องเรียนไปยังกระทรวงศึกษาธิการของมณฑลและผู้อำนวยการหยู มาที่นี่เพื่อตรวจสอบเหตุการณ์นี้ ลูกไม่เห็นพวกเขาตอนลูกเข้ามาหรอ?”

ดงซูบินพยักหน้า “ผมเห็นรถยนต์สองสามคันจอดอยู่ด้านนอก แต่ไม่เห็นใครเลย อืมมบุคลิกของ หยูเฉินซี เป็นอย่างไรบ้าง?”

ล้วนเสี่ยวปิงหยุดไปชั่วครู่หนึ่ง "ทำไมลูกถามเรื่องนี้?"

“แม่ที่นี่มันแย่มากเลยและมีฝุ่นเยอะไปหมด มันไม่ดีต่อสุขภาพของแม่ หากแม่เห็นด้วยผมจะพูดคุยกับกระทรวงศึกษาธิการของมณฑลเพื่อช่วยให้แม่ได้รับการโอนไปโรงเรียนในเขตเมือง” ถ้าดงซูบินเป็นรองหัวหน้าสำนักของกระทรวงวัฒนธรรมจะไม่มีใครมารบกวนเขา แต่ความปลอดภัยสาธารณะนั้นแตกต่างกัน แม้ว่าดงซูบินไม่สามารถถามโดยตรงกระทรวงศึกษาธิการของมณฑลว่าจะดูแลแม่ของเขาได้อย่างไงบ้าง

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด