ตอนที่ 87 ภายในใจของหนานกงยวี่
ภายหลังจากกลับมาแล้ว ในห้องประชุมที่สว่างไสวด้วยแสงไฟทั่วพระตำหนักแห่งองค์ราชันมัจจุราช เหล่าผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหลายล้วนต้องรายงานเรื่องราวความคืบหน้าต่าง ๆ ให้แก่เจ้านายของตน
“............ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่กองทัพกิเลนเหล็กกำลังเผชิญอยู่ยามนี้พ่ะย่ะค่ะ”
[center][img]https://s26.postimg.org/h1bmej57t/f3512feb7b5940e2b952dc35206786f8--dragon-eyes-dr.jpg[/img][/center]
กิเลนเหล็ก Picture Credit https://i.pinimg.com/736x/f3/51/2f/f3512feb7b5940e2b952dc35206786f8--dragon-eyes-dragon-art.jpg
พยัคฆ์ขาวไป่หู่รายงานจบไปกว่าค่อนวันแล้วทว่าทันทีที่เขาเงยหน้าขึ้นกลับได้เห็นนายท่านผู้มีปกติไร้หัวใจแลดูใจลอย แม้ว่าการแสดงออกบนใบหน้าจะยังคงเย็นชาเฉยเมย หากแต่ดวงตาคู่งามประดุจดวงดารานั้นกลับส่งประกายแวววาวเหมือนดั่งพระองค์ท่านกำลังนึกถึงเรื่องสนุกอยู่
ไป่หู่อ้าปากค้างกระทั่งคางเกือบชนพื้น พวกเขาทุกคนต่างรู้ดีว่าตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ ใบหน้าของพระองค์ท่านถูกจัดสีหน้าไว้ราวกับมารปีศาจที่เยาะหยันผู้คนอยู่เป็นปกติ นัยน์ตาที่ล้ำลึกประดุจบ่อน้ำโบราณที่นิ่งสงบประดุจดั่งว่าใต้หล้านี้ไม่มีผู้ใดหรือสิ่งใดสามารถกระตุ้นความสนใจของคนผู้นี้ได้
โดยปกติแล้วระหว่างการแถลงรายงานประจำวัน พระองค์ท่านเพียงฟังรายงานแค่ช่วงต้นเริ่มแรกก็สามารถล่วงรู้เรื่องราวส่วนที่เหลือทั้งหมดได้โดยไม่ต้องเสียเวลารับฟังต่อ ดังนั้นจึงไม่เคยรั้งรอให้พวกเขารายงานไปจนเสร็จสิ้นก็สามารถให้คำแนะนำสั่งการลงมาได้อย่างละเอียดแม่นยำ
ทว่าวันนี้ พระองค์ท่านกำลังใจลอยเป็นแน่ ไป่หู่รายงานจบไปนานแล้วหากแต่บัญชาการของพระองค์ท่านยังไม่หลุดลอดออกมาให้ได้ยิน นี่...นี่มันเกินกว่าจะจินตนาการไปถึงโดยแท้
พระองค์ท่านกำลังคิดถึงเรื่องใดอยู่ ? ไป่หู่ไม่อาจแน่ชัดได้ หากแต่ยังอดมิได้ที่จะแอบลอบชำเลืองมองริมฝีปากที่เม้มเล็กน้อยนั้น
รอยสีพีชจาง ๆ บนริมฝีปากล่างแลดูเหมือนรอยถูกกัด...
ภายในใจของไป่หู่เต้นระทึก พระองค์ท่านคือผู้บรรลุขอบเขตพลังปราณระดับห้าเคลื่อนย้ายจิตวิญญาณ ด้วยพลังยุทธสูงส่งเยี่ยงนี้เขาย่อมสามารถรักษาแผลสะกิดเล็กน้อยแค่นี้ได้...ทว่าพระองค์ท่านกลับเก็บรอยแผลนี้ไว้ ที่สุดแล้ว ผู้ใดกระทำ ?
ไป่หู่เลียบ ๆ เคียง ๆ ทิ้งหางตาไปทางมังกรฟ้าชิงหลงผู้ยืนอยู่ด้านหลังพระองค์ท่านราวกับไม่มีตัวตน อดมิได้ที่จะไถ่ถามออกไปผ่านสายตาคู่นั้น ‘วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับนายท่าน ?’
สีหน้าของชิงหลงเย็นชา ร่องรอยแห่งความสับสนและขุ่นเคืองปรากฏในแววตา
ขณะที่ในหัวไป่หู่เริ่มจะงุนงงขึ้นมาอย่างหนัก หนานกงยวี่จึงเพิ่งคืนกลับมาจากการจ่อมจมในห้วงอารมณ์และได้เห็นไป่หู่จับจ้องอยู่ด้วยความสับสน ชายหนุ่มเพียงเอ่ยขึ้นแผ่วเบา “ข้าเข้าใจสถานการณ์ของกองทัพกิเลนเหล็กดี เมื่อเหตุการณ์ยามนี้ไม่ปกติ เจ้าจงสั่งการให้พวกเขาซ้อมรบไปก่อนในช่วงนี้ หากเกิดสิ่งใดขึ้นจงให้อู่ชินเป็นผู้บัญชาการ”
“พ่ะย่ะค่ะ นายท่าน” ไป่หู่รีบดึงสติกลับคืนมาพลางตอบรับคำสั่งอย่างนอบน้อม “กระหม่อมจะสั่งการลงไปที่อู่ซินพ่ะย่ะค่ะ”
“หากไม่มีอะไรแล้ว พวกเจ้าออกไปได้” หนานกงยวี่กล่าวขึ้นพร้อมยกมือส่งสัญญาณให้ทุกคนออกไป
พวกเขารับคำสั่งโดยพลัน ภายใต้การนำของไป่หู่ ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหมดถอนตัวออกจากห้องโถง ติดตามด้วยชิงหลงผู้ได้รับคำสั่งให้ออกไปเช่นกัน
หนานกงยวี่อยู่เพียงลำพังในห้องโถงใหญ่ ชายหนุ่มยกมือขึ้นสัมผัสลงบนริมฝีปากล่างที่มีรอยกัดเล็ก ๆ อย่างแผ่วเบาด้วยมุมปากที่ยกยิ้มขึ้นอ่อนบาง
เจ้าตัวน้อยกำลังทำสิ่งใดอยู่ ? จะคิดถึงเขาบ้างไหม ?
ภายในแววตาของหนานกงยวี่เงาร่างของผู้งดงามสูงสง่าภาพหนึ่งปรากฏขึ้นมาทีละน้อย คนผู้นั้นคือสาวน้อยแรกรุ่นผู้ปลอมแปลงกายเป็นบุรุษเพศ การปลอมแปลงของนางไร้ที่ติไม่อาจบ่งหาข้อบกพร่องแม้เพียงเล็กน้อย ไม่เว้นกระทั่งโอวหยางจื้อโซวงผู้เป็นยอดฝีมือระดับต้น ๆ แห่งอาณาจักรยังไม่อาจมองทะลุผ่านวิชาปลอมตัวของนางได้
หากมิใช่เพราะเขาสามารถจดจำดวงตาสีม่วงคู่นั้นได้แต่แรก บางทีเขาเองก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าซีเย่วยอดหมออัจฉริยะผู้สูงสง่าผ่าเผยประดุจไข่มุกเม็ดงามจะกลับกลายเป็นน่าหลานเกอซีบุตรีแห่งภรรยาผู้เป็นเพียงอนุ สตรีอัปลักษณ์ผู้ถูกตะกูลน่าหลานทอดทิ้ง ช่างเหนือความคาดหมายเหลือเกินว่าคนทั้งสองจะเป็นบุคคลเดียวกัน
ภายในห้วงความคิดพลันปรากฏภาพการเคลื่อนไหวของคนทั้งคู่ยามเมื่ออยู่ในรถม้า เรือนร่างที่งดงามของสาวน้อยนั้นอ่อนนุ่ม กรุ่นกลิ่นหอมรัญจวญกำจาย ริมฝีปากของนางยิ่งนิ่มละมุนกว่ากลีบบุปผา ภาพฉากครั้งนั้นปรากฏขึ้นภายในห้วงใจของชายหนุ่มซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนทำให้เขารู้สึกปั่นป่วนภายในกายร้อนรุ่ม
ไม่เคยมีผู้ใดสามารถกระตุ้นแรงอารมณ์ของเขาให้สั่นไหวดั่งสาวน้อยนางนี้ได้ มันทำให้เขาอยากจะครอบครองนางไปนานแสนนาน กระหายที่จะได้เห็นทุกรอยแย้มยิ้มทุกความขุ่นข้องหมองใจที่ปรากฏบนดวงหน้านั้น
***จบตอน ภายในใจของหนานกงยวี่***