ตอนที่ 79 พิษประหลาด
ภายใต้สายตาที่ตื่นตระหนกของฮูหยินโอวหยาง เกอซีค่อย ๆ ปักเข็มเงินลงไปในจุดต่าง ๆ บนกระดูกสันหลังของโอวหยางฮ่าวเซวียน หญิงสาวแทรกฝังมันลงไปอย่างต่อเนื่องกระทั่งปลายเข็มเหลือให้เห็นแค่เพียงความยาวเท่าเรียวนิ้ว
พลังปราณอ่อนบางสายหนึ่งถูกรวบรวมส่งผ่านสู่แผ่นหลังของเกอซี มันเดินทางผ่านเส้นชีพจรลงสู่ปลายนิ้วก่อนจะไหลลงสู่แท่งเข็มเงินแล้วแทรกซึมลงสู่ร่างของโอวหยางฮ่าวเซวียน
ภาพที่ชัดเจนราวเครื่องเอ็กซเรย์ปรากฏขึ้นในใจของเกอซีทันที เส้นทางเดินของชีพจรลมปราณทั่วร่างของโอวหยางฮ่าวเซวียนแสดงขึ้นมาอย่างเด่นชัด
นางสามารถเห็นจุดพลังปราณของเขาได้อย่างครบถ้วน จุดที่ถูกปิดกั้นทั้งห้า บาดแผลเล็ก ๆ ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ ภายใต้แรงขับดันจากพลังวัตรที่ส่งผ่าน แท่งเข็มเงินที่ปักฝังอยู่บนร่างของโอวหยางฮ่าวเซวียนสั่นสะท้าน กระแสพลังลมปราณค่อย ๆ ไหลถ่ายเทลงไปราวกับสายน้ำที่เพิ่มพูน พลังวัตรที่แผ่กระจายซ่านไปทั่วร่างเริ่มทำหน้าที่ซ่อมแซมรักษาเส้นชีพจรลมปราณที่ฉีกขาดของโอวหยางฮ่าวเซวียน
“อ๊ากกก อ๊ากกกก--- ! !” โอวหยางฮ่าวเซวียนเปล่งเสียงร้องโหยหวนดังลั่นอย่างไม่อาจฝืนทนได้อีกต่อไป
สีหน้าของฮูหยินโอวหยางซีดเผือดราวกับคนตาย นางหุนหันรีบตรงเข้าหาบุตรชาย ทว่าโอวหยางจื้อโซวงซึ่งมีสีหน้าไม่ต่างกันฉุดรั้งไว้เสียก่อน
เขาย่อมรู้ได้กระจ่างชัดว่าการรบกวนกระบวนการรักษาทางการแพทย์นั้นย่อมจะส่งผลต่อผลการรักษา และทำให้ความพยายามทั้งหมดแต่แรกเริ่มต้องสูญสิ้นไปเปล่า หากเป็นเช่นนั้น ความหวังในการเยียวยารักษาฮ่าวเซวียนย่อมต้องพังทลายลงอย่างแน่นอน
เสียงร้องโหยหวนของโอวหยางฮ่าวเซวียนทำให้เกอซีปวดแก้วหู หญิงสาวฉวยเอาเศษผ้าที่อยู่ข้างกายยัดอุดปากโอวหยางฮ่าวเซวียนอย่างไม่ลังเล เพียงเท่านั้น เสียงที่คงเหลืออยู่ภายในห้องจึงกลายเป็นเสียงร้องอู้อี้ของโอวหยางฮ่าวเซวียนระคนเสียงพยายามสะกดกลั้นอาการสะอึกสะอื้นของฮูหยินโอวหยาง
เบื้องหลังของเกอซี มุมปากของหนานกงยวี่ยกขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มอ่อนบางยามเมื่อเขาทาบฝ่ามือลงบนแผ่นหลังของหญิงสาว
เกอซีหาได้ใส่ใจต่อการตอบสนองของผู้คนรอบด้าน หญิงสาวเริ่มตรวจดูชีพจรของโอวหยางฮ่าวเซวียนด้วยความเคร่งเครียด
ติดตามมากับเส้นชีพจรลมปราณที่กำลังได้รับการฟื้นฟู คือพลังวัตรในกายที่เริ่มไหลเคลื่อนเข้าสู่ภาวะปกติอีกครั้งเป็นเหตุให้พิษที่คั่งค้างในเส้นชีพจรถูกขับเคลื่อนรวดเร็วยิ่งขึ้น
พิษในกายพยายามกำซาบแผ่ขยาย หากแต่โอสถที่เกอซีมอบให้ฮ่าวเซวียนก่อนหน้านี้ยังคงทำหน้าที่ยับยั้งสิ่งมีชีวิตน้อย ๆ ไม่ให้ผลิตเพิ่มขึ้นมาอีก ย่อมกล่าวได้ว่า โดยแท้จริงแล้วพิษชนิดนี้สามารถเพิ่มปริมาณแตกขยายตัวออกไปได้ด้วยตัวมันเอง สิ่งนี้หาใช่โอสถพิษธรรมดาทั่วไป หากแต่เป็นสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวที่มีพิษร้ายแรงอย่างยิ่ง
พลังลมปราณจากเกอซีพวยพุ่งผลักดันลงไปในเส้นชีพจรปราณของโอวหยางฮ่าวเซวียนอย่างเร็วรี่มันตรงเข้ารุกรานสู่จุดตันเถียนของเขา ทันทีที่มันสามารถเจาะทะลวงเข้าสู่จุดตันเถียนทำให้เกอซีรู้สึกราวกับถูกถลกหนังศีรษะจนเกิดความรู้สึกด้านชากระทั่งฝ่ามือที่กำลังคีบแท่งเข็มขนาดใหญ่เกือบจะคลายออก
ภายใต้พลังการ “สำรวจอวัยวะภายใน” ด้วยกำลังจากกระแสพลังปราณทำให้เกอซีสามารถเห็นได้ชัดว่าจุดตันเถียนของโอวหยาฮ่าวเซวียนคือจุดรวมพิษร้ายนั่นเอง แม้ภายนอกอาจแลดูเป็นปกติ หากทว่าภายในกลับแปรเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทจากผลแห่งพิษร้าย พิษเคลื่อนตัวเดินทางมุ่งตรงไปตามเส้นชีพจรลมปราณที่แตกระแหงทับกันไปมาอย่างซับซ้อน มันดูคล้ายหมู่หนอนตัวน้อย ๆ จำนวนมหาศาลที่กำลังคืบคลานขยับอยู่ในร่างของโอวหยางฮ่าวเซวียน ภาพที่ปรากฏทั้งน่าพิศวงทั้งน่าขนลุก
เกอซีไม่อาจรั้งรอลังเลได้อีก หญิงสาวรีบคว้าแท่งเข็มเงินจำนวนมากฝังแทรกเพิ่มลงไปรอบจุดตันเถียน พลังลมปราณจากหนานกงยวี่ถูกเร่งเร้ารวบรวมพลุ่งพล่านรุนแรงอย่างหนักหน่วง เพื่อส่งผ่านแทรกลงไปในแท่งเข็มเงินเหล่านั้น
เพียงไม่นานพิษมีชีวิตหยุดการแพร่กระจายขยายตัว ก่อนจะถูกบีบเค้นให้เข้ามารวมอยู่ที่แท่งเข็มเงิน พวกมันดิ้นขลุกขลักอยู่ที่ปลายแท่งเข็มกระทั่งค่อย ๆ ถูกขับซึมออกมานอกผิวกาย
ทั้งหมดนั้นใช้เวลาหลายช่วงลมหายใจนับแต่แท่งเข็มเงินถูกปักลงสู่ร่างของโอวหยางฮ่าวเซวียน กระทั่งแท่งเข็มเริ่มถูกห่อหุ้มไปด้วยละอองหนาสีดำหนิท
ละอองหนาสีดำซึ่งไม่อาจแจ้งส่วนประกอบส่งกลิ่นเน่าเหม็นรุนแรง แม้มันดูเหมือนของเหลวสีดำตามปกติ หากแต่กลับดูคล้ายมีสิ่งมีชีวิตที่ขยับกระดุกกระดิกตลอดเวลา
ฉากที่พิศวงเกินบรรยายถึงเพียงนี้ทำให้ใบหน้าของโอวหยางจื้อโซวง และฮูหยินโอวหยางผู้กำลังจับจ้องกลับกลายเป็นสีม่วง ทั่วร่างสั่นเทา
“จับไว้เร็ว......” คำกล่าวยังไม่ทันสิ้นสุด หนานกงยวี่รีบคว้าขวดกระเบื้องเคลือบออกมา ด้วยพลังชีวิตที่แผ่กระจายอยู่โดยตลอดทั่วทั้งห้องทำให้ของเหลวสีดำถูกจับอย่างง่ายดายโดยไร้แรงต่อต้าน
ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วยาม* ที่แท่งเข็มเงินจะหยุดคายของเหลวสีดำออกมา ท้ายที่สุด ใบหน้าที่เจ็บปวดทรมานของโอวหยางฮ่าวเซวียนกลับค่อย ๆ ผ่อนคลายคืนสู่ความนิ่งสงบ
*ครึ่งชั่วยาม คือ หนึ่งชั่วโมง
***จบตอน พิษประหลาด***