ตอนที่ 148 ชดใช้ด้วยชีวิต
เสียงแหลมบาดหูของจูเฉวี่ยแทรกค้านขึ้นทันที “ชิงหลง สมองเจ้าผิดปกติหรือไร ? ต้นหญ้าหยินยะเยือกคือพฤกษาพลังหยินที่มีฤทธิ์เย็น นางสารเลวนั่นต้องการอาศัยต้นหญ้าหยินยะเยือกทำให้นายท่านถึงแก่ชีวิตโดยแท้ ถึงเพียงนี้แล้ว เจ้าก็ยังเชื่อนางอีกงั้นหรือ ?”
ยิ่งกล่าวน้ำเสียงของนางกลับยิ่งสลด ทว่าจู่ ๆ เสียงของนางก็กลับร้องลั่นขึ้นมา “แม้ข้าจะไม่อาจรักษาอาการของนายท่านได้ ทว่าท่านอาจารย์ย่อมสามารถ ท่านคือผู้อาวุโสรุ่นที่สามของสมาพันธ์แพทย์ โรคใดที่หมดหนทางเยียวยารักษาล้วนไม่เกินความสามารถของท่าน หากเราเชิญท่านอาจารย์มาที่นี่ ท่านย่อมสามารถให้การรักษานายท่านได้อย่างแน่นอน !”
น้ำเสียงของจูเฉวี่ยสะดุดลงทันทีเมื่อหวูซินขยับมือ กลุ่มคลื่นพลังลมกำลังแข็งแกร่งสายหนึ่งพุ่งเข้าอัดกระแทกใส่ร่างของนางจนร่วงลงไปกองทรุดอยู่กับพื้น
นางหกคะเมนล้มไม่เป็นท่าอย่างน่าเวทนา หยาดโลหิตไหลซึมจากมุมปาก ใบหน้าของนางซีดเซียวราวซากศพ หญิงสาวกวาดตาดุร้ายถลึงจ้องทุกคนรอบกายด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
หวูซินตวัดสายตาที่คมกริบราวปลายกระบี่ใส่นางยามเมื่อเขาส่งเสียงขึ้นจมูกด้วยท่าทีเย็นชา “จูเฉวี่ย อย่าได้ลืมสัตย์สาบานของพวกเรา ! ผู้ใดที่แพร่งพรายอาการของนายท่านย่อมเสมือนหนึ่งผู้คิดคดทรยศ และมันผู้นั้นจะต้องรับทัณฑ์สวรรค์ แม้นว่าผู้ที่เจ้าเผยความลับออกไปคืออาจารย์ของเจ้าย่อมล้วนไม่ปรากฏความแตกต่างใด”
ภายใต้คลื่นพลังที่กดอัดของหวูซิน ร่างของจูเฉวี่ยพลันสั่นสะท้าน ครั้นเมื่อหวนรำลึกได้ว่า สาเหตุที่นางต้องอยู่ในสภาพที่อ่อนแอถึงเพียงนี้เนื่องด้วยเพราะหญิงแพศยาน่าหลานเกอซีผู้นั้น ความคั่งแค้นภายในใจกลับยิ่งพลุ่งโพลนโหมกระพือขึ้นในทันใด
“พวกเจ้ามันโง่เง่า ! ถูกนางหญิงไร้หัวนอนปลายเท้านั่นปั่นหัวเล่นกลับยังไม่รู้ตัว ย่อมชัดเจนอย่างยิ่งว่ามีเพียงความสามารถของท่านอาจารย์ข้าเท่านั้นที่สามารถรักษาอาการของนายท่านได้ ทว่ากลับไม่มีผู้ใดเชื่อถือข้า หรือกระทั่งอาจารย์ของข้า กลับกันพวกเจ้าถึงกับหลงเชื่อหญิงสารเลวนั่น”
จูเฉวี่ยส่งเสียงหัวเราะเยาะดังสนั่น ใบหน้าที่บิดเบี้ยวประสานเข้ากับรอยยิ้มที่น่าประหวั่น ผนวกรวมกับรอยแผลเป็นนั้นยิ่งส่งให้นางทั้งแลดูน่าเกลียดซ้ำยังให้ความรู้สึกที่น่ากลัว
“เรื่องนี้ นางแพศยานั่นย่อมไม่อาจรักษาอาการของนายท่านได้ ! ไม่เพียงเท่านั้น ! นางยังต้องการจ่ายต้นหญ้าหยินยะเยือกให้นายท่านเป็นส่วนประกอบโอสถอีก เห็นได้ชัดว่านางแพศยานั่นต้องการสังหารนายท่านโดยแท้…..หากนายท่านต้องประสบเหตุร้ายอันสืบเนื่องมาจากการตัดสินใจของพวกเจ้า ความผิดทั้งหมดทั้งมวลล้วนตกอยู่กับพวกเจ้าทั้งสิ้น ! พวกเจ้าต้องชดใช้ด้วยชีวิตจึงจะสาสม !”
กลุ่มพวกชิงหลงต่างหันมองสบสายตากันด้วยความรู้สึกสลดทดท้อ สีหน้าพวกเขาล้วนแสดงออกถึงความลังเลไม่แน่ใจ
จะอย่างไรเสีย หากเกอซียังมีจิตคิดผูกพยาบาท ล้วนย่อมเป็นได้ที่นางจะฉกฉวยโอกาสนี้ทำร้ายนายท่านให้ถึงแก่ชีวิต ทว่าหากพวกเขาไม่ยินยอมให้นายท่านรับการรักษาจากนาง หนทางการช่วยชีวิตนายท่านย่อมนับได้ว่าอับจนด้วยหนทาง
พวกเขาจำต้องเอ่ยปากร้องขอความช่วยเหลือจากสหพันธ์แพทย์จริงล่ะหรือ ? เช่นนั้น มิเท่ากับกลายเป็นการเชื้อเชิญความเดือดร้อนมาให้ในภายหลังกระนั้นหรือ ยังมี หากนายท่านรู้สึกตัวขึ้นมา นายท่านย่อมไม่มีทางเห็นด้วยกับการตัดสินใจเช่นนี้
ที่สุดแล้ว พวกเขาควรทำเช่นไร ?
“เจ้าบอกว่าหากข้ารักษาหนานกงยวี่ไม่ได้ พวกเขาจะต้องชดใช้ด้วยชีวิตงั้นหรือ เช่นนั้นหากข้ารักษาได้เล่า ?” น้ำเสียงใสกระจ่างเด่นชัดของอิสตรีกังวานขึ้นจากด้านใน
เบื้องหน้าสายตาทุกคน คือเกอซีผู้ปลอมแปลงโฉมในรูปของบุรุษ นางเหยียดย่างก้าวฝ่าเท้าออกมาจากห้องอย่างไม่เร่งร้อน แม้เรือนกายจะสวมใส่อาภรณ์แห่งบุรุษเพศไร้การแต่งเสริมใด ทว่าเพียงปราดสายตาผ่านทุกคนล้วนชัดแจ้งว่านางคือสตรีเพศ
ความงดงามพร่างพรายจับสายตาปรากฏขึ้นเบื้องหน้า เนื้อผิวขาวนวลละเอียดเนียนเป็นประกายระยิบระยับล้อแสงตะวัน เรือนผมเงางามดกดำชุ่มชื้น ปอยเส้นผมสยายระไล้ไปตามเรียวแก้มส่งให้ดวงหน้านั้นยิ่งเพริศพริ้งวิจิตรปานประหนึ่งภาพวาด ดวงตาที่สุกใสเป็นประกาย ไรฟันขาวเกลี้ยงเรียบลื่น นางประดุจดั่งเทพธิดาผู้จำแลงร่างขึ้นยามรุ่งอรุโณทัย ช่างงดงามเจริญตาจนทำให้ทุกผู้คนล้วนตกอยู่ในอาการตื่นตะลึง นัยน์ตาพร่าเลือนจิตใจว้าวุ่นสับสน ราวต้องมนต์ขลัง
ยามเมื่อนางปรากฏกายขึ้นเบื้องหน้าเช่นนี้ ทุกคนล้วนเพียงลอบนึกคิดอยู่ภายในใจว่า มิสงสัยเลยว่าเหตุใดนายท่านผู้เย็นชาไร้หัวใจไร้ความรู้สึกจึงปฏิบัติต่อคุณหนูน่าหลานผู้นี้แปลกแยกแตกต่างจากทุกผู้คนอย่างสิ้นเชิง
***จบตอน ชดใช้ด้วยชีวิต***