ตอนที่ 125 มิอาจยอมรับ
แผงหน้าผากของมันบิดรูปยามเมื่อหัวหน้ามือสังหารใช้สายตาเพ่งแลดูซากชิ้นเนื้อ และคราบโลหิตที่ติดเปื้อนเปรอะอยู่กับพื้นเท้า คาดว่านั่นคือเศษชิ้นส่วนเนื้อหัวใจผสมปนเปอยู่กับกองโลหิต
นัยน์ตาของนักล่าสังหารที่เหลือล้วนอัดแน่นไปด้วยอาการแห่งความสะเทือนขวัญระคนคั่งแค้นยามเมื่อพวกมันจับจ้องกลับมายังร่างของเกอซี
พวกมันไม่เคยคิดฝันเลยว่า ที่ผ่านมานับแรมปีพวกมันล้วนเป็นฝ่ายบุกทำลาย ทว่าเพียงเสี้ยวนาทีพวกมันกลับกลายเป็นฝ่ายถูกโจมตีเสียได้ มนุษย์สามัญไร้ค่าผู้ไม่มีแม้พลังฝีมือกลับกล้าต่อกรเหิมเกริม ทั้งยังสามารถบีบบังคับให้ยอดฝีมือระดับพลิกผันอเวจีต้องตกอยู่ในสภาพที่จนตรอก ไม่เพียงแค่เสี่ยวปาต้องจบชีวิตลง ยามนี้กระทั่งเสี่ยวหวูยังต้องตายในสภาพที่น่าเอน็จอนาถยิ่ง
ยามนี้ สีหน้าเหล่ามือสังหารจากองค์กรปีศาจสยบแดนดินมิต่างกับซากศพ พวกมันไม่กล้าประเมินความสามารถของสตรีเบื้องหน้าว่าเป็นเพียงหญิงสามัญผู้อ่อนแออีกต่อไป
หากทว่าภายในใจของเกอซีกลับกำลังเปล่งเสียงหัวเราะด้วยความขุ่นเคืองและขื่นขม
แท้ที่จริงแล้ว พิษที่นางใช้ ใช่ว่าจะรุนแรงร้ายกาจอย่างยากจะจัดการ การจะสามารถฝ่าพลังป้องกันของผู้มีพลังยุทธนับได้ว่าเป็นความลำบากยิ่ง สิ่งที่เกิดขึ้นกับเสี่ยวหวูเมื่อครู่ หากนางไม่สุ่มเสี่ยงชีวิตของตนด้วยการไม่หลบหลีกพลังสายฟ้าอย่างที่พวกมันมิอาจคาดถึง นางก็คงไม่อาจทำให้มันลดการป้องกันตัวแล้วฉวยโอกาสเสียบมีดสั้นอาบยาพิษตรงเข้าสู่จุดตันเถียนได้ หากเกิดความพลั้งพลาด พิษย่อมไม่อาจแทรกซึมเข้าสู่ร่างกาย พลังปราณภายในของมันผู้นั้นย่อมสามารถขับถ่ายพิษออกจากร่างกายได้โดยธรรมชาติ
เช่นนั้นครานี้นับเป็นโอกาสการโจมตีกลับครั้งสุดท้าย ไม่เหลือโอกาสให้อีกเป็นคราที่สอง
แน่นอนอย่างยิ่งว่าร่างของหัวหน้ามือสังหารเคลื่อนหายจากสายตาไปอย่างรวดเร็ว และเมื่อร่างนั้นปรากฏขึ้นอีกครา กระบี่ด้ามยาวที่ปลดปล่อยพลังปราณเพลิงอย่างคุกรุ่นในมือพุ่งเข้าจู่โจมตรงมายังร่างของหญิงสาวอย่างโหดเหี้ยม
ความเจ็บปวดรวดร้าวระเบิดไปตลอดทั่วทั้งช่วงอกและกลางท้องทันทีที่ปลายด้ามกระบี่ยาวแทรกผ่านเข้ามาในร่าง โลหิตสีแดงชาดสด ๆ หลั่งรินไหลนองลงท่วมผืนธรณี
ร่างของหญิงสาวค่อย ๆ เริ่มแสดงอาการด้านชา กายค่อย ๆ ทรุดร่วง ดวงตาค่อย ๆ พร่าเลือนลาง นางรับรู้ได้ถึงพลังชีวิตภายในที่ค่อย ๆ รินไหลถ่ายเทออกจากกายไปเรื่อย ๆ ทีละน้อยในสภาวะที่ภายในหูอื้ออึงมึนงง
นางกำลังจะตายงั้นหรือ ? นางเพิ่งเริ่มต้นชีวิตใหม่ในร่างนี้เท่านั้น โชคชะตากลับนำพาให้นางต้องมาจบชีวิตลงในดินแดนรกร้างอย่างเงียบงันเช่นนี้กระนั้นหรือ ?
มิอาจยอมรับ ! มิอาจยอมรับได้.....อย่างแท้จริง ! พลังปราณภายในยังไม่แข็งแกร่ง จุดตันเถียนยังไม่ได้รับการเปิดผนึกให้ฟื้นตื่น ทั้งยังมิได้.......ตอบแทนหนานกงยวี่ผู้มักคอยให้ความช่วยเหลือ จะจบชีวิตลงเยี่ยงนี้ได้อย่างไร ? !
คล้ายหัวหน้ามือสังหารจะฉุกคิดบางสิ่งขึ้นมาได้ กระบี่ด้ามยาวที่แทงทะลุร่างของอีกฝ่ายพุ่งกลับคืนมาในอุ้งมือ
ความร้อนจากพลังเพลิงระเหยคราบโลหิตบนด้ามกระบี่ไปสิ้น ทว่าทั่วร่างของเกอซียามนี้ไร้สิ้นความรู้สึกโดยสมบูรณ์ ร่างของนางทรุดลงคุกเข่าอยู่กลางแอ่งโลหิตที่พื้นเท้า
แม้กระทั่งในยามนี้ มือสังหารทั้งสองกลับยังมิอาจคลายใจลงได้ กระทั่งที่สุดมือสังหารที่ยืนอยู่ทางซ้ายจึงค่อยถ่ายถอนลมหายใจออกมา
“นางเป็นเพียงคนธรรมดาสามัญอย่างแท้จริง นางไม่อาจต้านทานแรงพลังกระบี่ของพี่ใหญ่ได้ เสี่ยวหวูกับเสี่ยวปาโชคไม่ดีเอาเสียเลยที่ต้องกลลวงของนาง”
หัวหน้ามือสังหารผู้ได้ชื่อว่าพี่ใหญ่สืบเท้าก้าวตรงออกมายืนตระหง่านอยู่เบื้องหน้าเกอซี มันก้มลงมองนางด้วยท่าทีองอาจในแววตาล้วนอัดแน่นด้วยความคั่งแค้น น้ำเสียงเน้นคำดุดันเปล่งออกมา “ข้าเตือนเจ้าแล้ว หากเจ้ากล้าสังหารน้องข้า ข้าจะฉีกร่างเจ้าเป็นชิ้น ๆ ให้เจ้าต้องตายตกไปในสภาพที่ไร้ดินกลบหน้า เช่นนั้น นางแพศยา จงไปตายซะ !”
ปลายกระบี่ด้ามยาวที่คุกกรุ่นไปด้วยเปลวเพลิงถูกชักขึ้นสูง มันพุ่งตรงดิ่งเข้าหาร่างของเกอซีอีกครั้งในทันที
มือสังหารที่อยู่ทางด้านซ้ายชักฝ่าเท้าของตนถอยกลับสองก้าวพลางส่งเสียงร้องตะโกนลั่น “บั่นแขนขานางออกมาก่อน เชือดนางโสโครกนี้ให้เป็นชิ้น ๆ ! ข้าอยากดูสิว่านางจะยังกล้าเล่นลูกไม้ใดได้อีก !”
เห็นกระบี่ด้ามยาวพุ่งตรงเข้ามา เกอซีรับรู้ได้ว่ายามนี้ไม่อาจหลงเหลือความหวังแห่งการรอดชีวิตอีกแล้ว หญิงสาวพริ้มดวงตาลงอย่างหมดอาลัยก่อนจะหยิบโอสถพิษสกัดโลหิตยั้งลมออกมาอย่างเนิบช้า
หากต้องพบจุดจบภายใต้น้ำมือนักล่าสังหารกลุ่มนี้ นางสมควรจบชีวิตลงด้วยมือของตนเอง !
ทว่าทันทีที่เกอซีกำลังจะกลืนโอสถพิษล่วงลำคอไป ขุมพลังหนาแน่นที่ข่มเหงผู้คนด้วยพลังอำนาจอย่างยากที่จะต้านทานระเบิดพวยพุ่งทะลวงผ่านฟากฟ้าลงมา
ทั่วทั้งร่างของหญิงสาวที่ต้องปลายคมกระบี่ยามนี้ประดุจดั่งว่าวที่ขาดหลุดลอย เรือนกายของนางเอนเอียงซวนเซก่อนจะร่วงหล่นลงสู่ผืนดิน
มือสังหารที่ร่ำร้องส่งเสียงตะโกนอยู่เมื่อครู่รับรู้ได้ถึงความเย็นยะเยือกแข็งตัวของเส้นโลหิตทั่วร่างอันเกิดจากความตื่นผวาต่อยอดฝีมือผู้แข็งแกร่งที่กำลังจะปรากฏกาย ทั่วทั้งร่างของมันสั่นสะท้าน เสียงดัง ‘ตุ้บ’ มันทรุดลงไปกองคุกเข่าอยู่กับพื้น
***จบตอน มิอาจยอมรับ***