ตอนที่ 115 การหมั้นหมายลุล่วงไปด้วยดี
คำกล่าวของฮูหยินน่าหลานยังมิทันจะสิ้นสุด จูจงป้าผู้ตกอยู่ภายใต้อำนาจการควบคุมจิตของเกอซีพลันหุนหันกระโดดร้องตะโกนลั่น “ไม่ใช่นาง ! ท่านพ่อ ไม่ใช่นางอัปลักษณ์ผู้นี้ ! สกุลน่าหลานคิดเล่นตลกกับข้ารึ ? นางหญิงอัปลัษณ์ ไร้ค่าไม่ได้เรื่องผู้นี้ นายน้อยเยี่ยงข้าหรือจะชายตามอง ? น่าหลานเฟ่ยเสวี่ยปากคอเราะร้ายอุปนิสัยก้าวร้าว ส่วนหญิงผู้นี้ทั้งอ่อนแอทั้งขี้ขลาด จะเป็นน่าหลานเฟ่ยเสวี่ยได้อย่างไร ? !”
สีหน้าของจูอี้ฉวินดำคล้ำในทันที สายตาเย็นยะเยียบสาดส่งมายังอีกฝ่าย “ฮูหยินน่าหลาน นี่หมายความเช่นไร ? นำสาวใช้ผู้ไม่มีหัวนอนปลายเท้ามาย้อมแมวเช่นนี้ ท่านคิดจะหยอกยั่วตระกูลจูของข้าให้เป็นดั่งตัวตลกกระนั้นหรือ ? เช่นนั้นก็จงอย่าได้ติเตียนที่ข้าจะต้องตั้งตนเป็นปฏิปักษ์กับพวกท่าน องค์ชายหกพ่ะย่ะค่ะ กลับถึงวังเมื่อไร กระหม่อมจะขอเข้าเฝ้ากุ้ยเฟย*เพื่อแจ้งเรื่องที่ตระกูลน่าหลานใช้อำนาจข่มเหงตระกูลจูของกระหม่อม ถึงตอนนั้น เราจะได้เห็นกันว่าบุตรีแห่งน่าหลานของพวกเจ้าจะยังสามารถออกเรือนกับผู้ใดได้อีกหรือไม่ !”
*กุ้ยเฟยคือ ตำแหน่งของพระชายาที่มีตำแหน่งสูง ในที่นี้หมายถึงจูเยราเยร่าน้องสาวของจูอี้ฉวิน พระมารดาขององค์ชายหก
องค์ชายหกยกยิ้มพลางพยักหน้าด้วยสีหน้าครื้นเครงที่ได้รับเกียรติให้เข้าร่วมชมละครการแสดงชุดเยี่ยม
ฮูหยินน่าหลานละล่ำละลักออกมาด้วยความร้อนรน “นางคือเกอซี คุณหนูสามแห่งตระกูลน่าหลานของพวกเรา หาใช่สาวใช้ไม่มีหัวนอนปลายเท้าไม่ หากนายใหญ่จูไม่เชื่อคำข้าก็สามารถไปตรวจสอบรายชื่อสกุลในตัวเมืองได้ ท่านจะทราบว่าเรือนน่าหลานมีคุณหนูสาม ผู้มีนามว่าน่าหลานเกอซีอยู่จริงหรือไม่”
ฮูหยินน่าหลานเว้นช่วงถอนหายใจยาวออกมาคราหนึ่งก่อนจะปั้นสีหน้าสลดด้วยท่าทีเศร้าใจ “ทั้งหมดเป็นความผิดของข้าเองที่อบรมบุตรสาวไม่ดี เมื่อสองวันก่อนที่เฟ่ยเสวี่ยออกเดินทางจากเรือนไป ตัวข้าเองก็มัวแต่เศร้าเสียใจจึงมิทันเฉลียวใจเลยว่าเกอซีจะแอบอ้างตนเป็นเฟ่ยเสวี่ย อีกทั้งนางยังไปขายตัวที่หอรื่นรมย์เพื่อหมายจะหาคู่ครองในฝัน ทั้งข้า และเฟ่ยเสวี่ยเพิ่งจะรู้เรื่องเมื่อไม่กี่วันมานี้ ที่ทราบเรื่องก็ด้วยเพราะสาวใช้ข้างกายของเกอซียอมเปิดเผยออกมา.....พวกเราจึงเพิ่งรู้ว่านางกับคุณชายจูมีความสัมพันธ์แนบแน่นต่อกันแล้ว แม้เรื่องนี้จะไร้เหตุผล ทว่าก็ทำให้ตระกูลจู และตระกูลน่าหลานของเราจะมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เมื่อเป็นชะตาลิขิตให้พวกเราสองตระกูลได้จัดพิธีสมรสขึ้นย่อมเป็นผลดีกับพวกเราทั้งสองตระกูลมิใช่หรือ ?”
เกอซีแทบจะอยากเข้าไปยืนปรบมือแสดงความชื่นชมให้ฮูหยินน่าหลาน สิ่งที่นางคาดเดาไว้ช่างถูกต้องมิได้ผิดเพี้ยนเอาเสียเลย
อีกทั้งคำล่าวยังแอบแฝงความนัยให้แก่จูอี้ฉวินว่าหากตระกูลจูหมายจะสร้างความสัมพันธ์กับตระกูลน่าหลานย่อมสมควรยอมรับตัวน่าหลานเกอซีไปแทน
ตระกูลที่มีชื่อเสียงโด่งดังอย่างน่าหลาน ผนวกเข้ากับทักษะการรักษาอันล้ำเลิศของน่าหลานเจิ้งเจ๋อ ผลพวงที่จะได้รับจากการสมรสระหว่างสองตระกูลย่อมนับได้ว่าเกินคำบรรยาย อาจเรียกได้ว่าไม่มีผู้ใดเสียเปรียบต่อกันเลย เช่นนั้นแล้วจะต้องกังวลไปไยว่าบุตรชายของตนจะได้สมรสกับคุณหนูคนไหนในตระกูลน่าหลาน ?
จูอี้ฉวินมีสีหน้าครุ่นคิดใคร่ครวญอย่างหนัก เขากำลังจะรับข้อเสนอนี้งั้นหรือ ?
เกอซีมีหรือจะยอมให้ฮูหยินน่าหลานได้ดั่งประสงค์ ? ไม่มีทาง !
ฉับพลันจูจงป้ากลับเอะอะโวยวายลั่นขึ้น “น่าหลานเกอซี ? นั่นมันเศษสวะแห่งสกุลน่าหลานมิใช่หรือ นางไร้สิ้นพลังฝีมือใบหน้าแสนอัปลัษณ์มิใช่หรือ ? หากข้าต้องสมรสกับนาง บุตรที่ได้จะเป็นเช่นไร มิเป็นคนไร้ค่าเยี่ยงนางล่ะหรือ ? !”
“ท่านพ่อ ข้าไม่อยากสมรสกับนาง ! ท่านเห็นท่าทางขลาดเขลาไร้ค่าของนางหรือไม่ คนเยี่ยงนี้หรือจะอาจสามารถไล่ต้อนข้าหัวซุกหัวซุนราวกับลูกสุกรได้ ? ไม่มีทาง พลังฝีมือของข้าอยู่ในขั้นที่เก้าของระดับพลังปราณขั้นเมล็ดพันธุ์เพาะบ่ม ข้าจะถูกสตรีผู้เส้นชีพจรพิการไร้สิ้นพลังยุทธทำร้ายได้อย่างไร ? หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไปข้าจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด ? ! ท่านพ่อ พวกน่าหลานมันเอาสตรีไร้ค่ามาเล่นตลกกับพวกเรา ท่านพ่อ ท่านอย่าได้ยอมพวกมันเด็ดขาด !”
สีหน้าของจูอี้ฉวินมืดมัวทันที
แม้สิ่งที่บุตรชายเอ่ยกล่าวช่างระคายหูทว่าทุกคำล้วนอิงความเป็นจริง
เขาปรายตาสังเกตดูสาวน้อยหน้าโง่ที่เอาแต่ก้มหน้าคุดคู้ที่อยู่ตรงหน้า เพียงปราดเดียวก็รับรู้ได้แล้วว่านางหาใช่แก้วตาดวงใจแห่งสกุลน่าหลาน หากบุตรชายของเขาเข้าพิธีสมรสกับหญิงผู้นี้ สกุลจูจะได้รับน้ำใจไมตรีจากตระกูลน่าหลานสักเท่าไรกันเชียว ? ในเมื่อนางคือเด็กเหลือขอที่ถูกตระกูลน่าหลานเขี่ยทิ้ง !
***จบตอน การหมั้นหมายลุล่วงไปด้วยดี***