SB:ตอนที่ 12 ผลแดงชาดพัฒนาสัตว์เลี้ยงสงคราม

SB:ตอนที่12 ผลแดงชาดพัฒนาสัตว์เลี้ยงสงคราม

ลำตัวใหญ่ของอสรพิษเกล็ดทมิฬรัดพยัคฆ์เพลิงสีชาดแน่น ทำให้พยัคฆ์เพลิงสีชาดถึงกับร้องอย่างโกรธแค้น อสรพิษเกล็ดทมิฬอ้าปากกว้างหวังจะกลืนกินพยัคฆ์เพลิงสีชาดเข้าไปทั้งตัว

“โฮก!” ในชั่วเวลาวิกฤตินั้น พลังงานรุนแรงพุ่งออกมาจากลำตัวของพยัคฆ์เพลิงสีชาด บอลเพลิงสีชาดพุ่งออกมาจากปากของมัน อุณหภูมิที่สูงจนน่ากลัวเผาไหม้ป่ากลายเป็นธุลี

“บ้าชิบบ บ้าเอ้ย” มันพ่นไฟได้ด้วย!” ลู่หยางที่ซ่อนตัวอยู่ดวงตาเบิกกว้าง เขาตกตะลึง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นความสามารถขนาดนี้ตั้งแต่เขาเกิดใหม่

“ซีดด ซีดดด” อสรพิษเกล็ดทมิฬไม่ทันระวังตัว ถูกบอลเพลิงเผากลางลำตัวอย่างเจ็บปวด หางของมันฟาดอย่างบ้าคลั่งไปที่พยัคฆ์เพลิงสีชาด ทว่า อสรพิษเกล็ดทมิฬบ้าคลั่งได้ไม่นานมันก็หมดแรงเฮือกสุดท้าย นอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นที่น่าตกใจคืออสรพิษสามารถปลดปล่อยความเย็นสุดขั้วดับเพลิงชาดที่เผาผลาญมันอยู่จนหมดก่อนมันจะหมดแรง สองอสูรร้ายปะทะกันจนเสมอ ลู่หยางมิกล้าบุ่มบ่าม พยัคฆ์เพลิงสีชาดมันยังไม่ตาย

“หืมม กลิ่นช่างหอมนัก นี่มันกลิ่นอะไรกัน” ลู่หยางได้กลิ่นหอมบางอย่าง

ในเวลาเดียวกัน อสูรที่สาหัสทั้งสองตัวร้องคำราม มันพยามลุกขึ้น ท้ายที่สุดมีเพียงแค่พยัคฆ์สีชาดที่คลานขึ้นมาไหว

“เอ๋ ผลอะไรช่างสวยงาม ใช่ผลจิตวิญญาณในตำนานหรือไม่?”ลู่หยางตาลุกวาว เขาเห็นพืชประหลาดห่างออกไป มีผลแดงชาดสามผลออกผลอยู่ นั่นเป็นต้นตอที่ส่งกลิ่นหอม

“บ้าชิบบ ข้าต้องได้ผลนั่นมาครอบครอง” ลู่หยางลังเลชั่วครู่ เขากัดฟันและค่อยๆย่องไป

ผลจิตวิญญาณเป็นชนิดหนึ่งของยาจิตวิญญาณ กระทั่งผู้ฝึกอสูรยังต้องการ พวกเขาสามารถใช้มันแลกเม็ดยาชักนำจิตเพื่อกลายเป็นนักฝึกอสูรได้

“โฮก!”ทว่า ไม่ว่าลู่หยางจะระมัดระวังเพียงใด พยัคฆ์เพลิงสีชาดก็พบเขาแม้มันบาดเจ็บสาหัสแต่นั่นก็ทำให้ลู่หยางใจเต้น

เขาวาดมือปล่อยสัตว์เลี้ยงสงครามสิบตัวออกมา พร้อมออกคำสั่งให้สองตนโจมตีหยั่งเชิง

พยัคฆ์เพลิงสีชาดเงยหน้าคำราม มันส่งสายตาเหยียดหยาม มันกระโจนขึ้นไปที่สุนัขยักษ์ตนหนึ่ง ฉั่ว! มันหักคอสุนัขพันธ์ยักษ์นั่นด้วยกระบวนท่าเดียว

“บ้าชิบ ป่าเถื่อนจริงๆ” ลู่หยางสีหน้าเปลี่ยน เขาถึงกับสบถออกมา พยัคฆ์เพลิงสีชาดชั้นยอดทั้งที่มันบาดเจ็บสาหัสเยี่ยงนี้มันยังสามารถฆ่าสัตว์เลี้ยงสงครามของเขาอย่างง่ายดาย

เจ้าพยัคฆ์นี่มันเหี้ยมโหดนัก ลู่หยางคิดไปกับบอลเพลิงที่มันพ่นออกมาเมื่อครู่แล้วยิ่งใจเต้น

“วิชาคุมอสูร จงสยบต่อข้า!” ลู่หยางใช้วิชาคุมอสูรอย่างตื่นเต้น แม้เขามีเพียงโอกาสสำเร็จ30%แต่ถ้าเขาสำเร็จหล่ะ?

“ติ้ง ควบคุมล้มเหลว”ทว่า โชคไม่เข้าข้างเขา ความจริงอันแสนโหดร้ายนั้นยิ่งทำให้พยัคฆ์มุ่งเป้ามาที่เขาด้วยโทสะ

“โจมตี!” ลู่หยางออกคำสั่งสุนัขยักษ์ทุกตัวโจมตี เขาพาดสายเกากัณฑ์ไปที่พยัคฆ์เพลิงสีชาด

เขาไม่ต้องการผสานร่างตอนนี้เพราะมันจะทำให้กำลังเขาเพิ่มขึ้นมากไป เกาทัณฑ์เขามิอาจรับไหว

“ดูเหมือนข้าต้องไปแคว้นเซียงหยางเพื่อหาเกาทัณฑ์คันใหม่เสียที” ลู่หยางคิดขึ้น เกาทัณฑ์ที่ดีที่สุดในเมืองชิงหยางไม่ดีพอสำหรับเขา มีเพียงแคว้นเซียงหยางที่มีอาวุธคุณภาพเยี่ยมสำหรับผู้ฝึกอสูร

“ฟิ้วว” สุนัขยักษ์พัวพันอยู่กับพยัคฆ์ ศรของเขาพุ่งแหวกอากาศถูกเป้าหมาย ทว่า พลังของมันช่างน้อยนิดและไม่ก่อให้เกิดอาการบาดเจ็บต่อพยัคฆ์เพลิงสีชาด ศรนี้ยิ่งทำให้มันโกรธ มันโจมตีอย่างบ้าคลั่งจนสัตว์เลี้ยงเขาตายไปอีกหนึ่งตัว

“บ้าชิบ ข้าไม่เชื่อว่าวันนี้ข้าจะปราบเจ้าไม่ได้!” หลังจากคูลดาวสิบวินาทีผ่านไป ลู่หยางกัดฟันใช้วิชาคุมอสูรอีกรอบ ทว่า ผลลัพธ์เป็นเช่นเดิม จากนั้น ลู่หยางใช้วิชาคุมอสูรอีกหกครั้งติด ผลลัพธ์ล้มเหลวทั้งหกรอบ!

เขาเริ่มสูญเสียอสูรสงครามไปมากขึ้นเรื่อยๆ บัดนี้เหลือเพียงสี่ตัว ลู่หยางถึงกับใจเสีย สุนัขยักษ์เหล่านี้เขาเตรียมไว้สำหรับการพัฒนาสายเลือดของต้าเฮย ลู่หยางคาดว่ามันต้องใช้อสูรร้ายธรรมดาถึงสามสิบตนในการปราบพยัคฆ์บาดเจ็บตนนี้

เมื่อเห็นว่าอสูรของเขามิอาจรับมือพยัคฆ์เพลิงสีชาดได้ สีหน้าลู่หยางจริงจัง เขาผสานร่างกับอสูรสามตนรวมถึงต้าเฮย

หากเป็นพยัคฆ์เพลิงสีชาดที่มิบาดเจ็บลู่หยางคงล่าถอยไปนานแล้ว แต่เจ้านี่มันบาดเจ็บสาหัสและอ่อนล้าเต็มทน นี่มันโอกาสของเขา ในเมื่อเขาสูญเสียไปเยอะ เขาต้องได้บางสิ่งกลับมา!

แม้ลู่หยางผสานกับอสูรเขา ทว่า เขายังมิอาจต่อกรซึ่งหน้ากับมันได้ ดีที่พยัคฆ์นี่บาดเจ็บส่งผลให้ความว่องไวมันด้อยกว่าเขา

“บัดซบจริงๆ ข้าไม่เชื่อว่าดวงข้าจะกุดขนาดนี้”ลู่หยางเริ่มรน เขาแทบจะทนไม่ไหวอีกต่อไป

เจ้าพยัคฆ์เองก็ไม่ต่างกัน มันเต็มไปด้วยบาดแผลใกล้จะล้มลงเต็มทน แต่ดวงตามันจ้องมองลู่หยางอย่างโกรธแค้น ยิ่งลู่หยางใช้วิชาควบคุมต่ออสูรบ่อยครั้งมากเพียงไร มันยิ่งโกรธแค้นมากเท่านั้น นี่เป็นครั้งที่สิบแล้ว โทสะของมันถึงขีดสุด

“โฮก!” มันคำรามด้วยความโกรธ มันอ้าปากขึ้น พลังอันบ้าคลั่งควบรวมในปากมัน นี่เป็นกระบวนท่าสุดท้ายที่รุนแรงที่สุดของมัน

“อะไรกัน มันยังมีแรงพ่นไฟอีกรึ!?” ลู่หยางตะลึง เขาเห็นพลังของบอลเพลิงนี้มาก่อน หากโดนเข้าไปเขากลายเป็นเถ้าธุลีแน่

ลู่หยางอยากร่ำไห้แต่มิมีน้ำตาออกมา นี่เป็นเพราะความโลภ ความไม่รอบคอบโดยแท้ เขาไม่คาดว่ามันจะมีแรงใช้บอลเพลิงนี้อีก ทว่า ทันใดนั้นเจ้าพยัคฆ์ร้องอย่างเจ็บปวดและล้มฟุบลง พลังงานในปากมันจางหายไป

“หืมม?” ลู่หยางดวงตาลุกวาว สีหน้าเขาดีขึ้นทันที เขาหัวเราะออกมา

“ติ้ง ควบคุมสำเร็จ”

“ติ๊ง คำเตือน สัตว์เลี้ยงกำลังจะตาย ต้องนำมันใส่กระเป๋าสัตว์เลี้ยงทันที”

เขาวาดมือและทันใดนั้นพยัคฆ์เพลิงสีชาดอันตรธานหายไป ในกระเป๋าของเขามีระบบฟื้นฟูสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าอสูรจะบาดเจ็บสาหัสเพียงใด มันสามารถฟื้นฟูอย่างเต็มที่ในชั่วระยะเวลาหนึ่ง หลังจากลู่หยางได้ครอบครองอสูรชั้นต้นสายเลือดชั้นยอด ขีดจำกัดของเขาถูกพังทลายลง เขารู้สึกว่าร่างกายเขาแข็งแกร่งขึ้น

“ช่างเป็นพลังที่แข็งแกร่งเหลือเกิน ข้าสงสัยว่าคราวนี้ข้าแกร่งขึ้นเพียงใด” ลู่หยางรู้สึกถึงพลังที่พลุ่งพล่านในร่าง ลู่หยางอยากจะลองกำลังตน เขาชกไปที่ต้นไม้ใหญ่

“ตู๊มม” ต้นไม้หนาเท่าตัวคนหักครึ่งลงทันที ลู่หยางถึงกับตะลึงงัน เขามองที่ข้อมูลในระบบคุมอสูร

“ตัวตน ลู่หยาง”

“สถานะ ผู้ฝึกอสูร”

“ระดับ เริ่มต้น”

“กำลังกาย 2,150 จิน”

“อายุขัย 16/100”

อายุขัยนั่นหมายถึงลู่หยางอายุสิบหกปีในตอนนี้ ซึ่งเท่ากับว่าลู่หยางมีอายุได้ถึงร้อยปี

“อย่างที่คาด อสูรสายเลือดชั้นยอด มันทำให้ข้าแกร่งขึ้นมากกว่าพันจิน” ลู่หยางตื่นเต้น เขาปิดระบบข้อมูล และเปิดข้อมูลพื้นฐาน

“ตัวตน ลู่หยาง(ผู้ฝึกอสูรชั้นต้น)”

“วิชาควบคุมอสูร : เริ่มต้น (ระดับดารา หนึ่งดารา)”

“สัตว์เลี้ยงสงคราม สุนัขดำ 1, หมาพันธ์ยักษ์ 4, พยัคฆ์เพลิงสีชาด 1”

“ทักษะ ผสานร่าง ระดับ 1 (8), ระดับ 2(1)

ความเปลี่ยนแปลงหลักมาจากอสูรเลี้ยงสงครามชั้นต้นสายเลือดชั้นยอดเพิ่มมาหนึ่งตน รวมถึงทักษะผสานร่าง ระดับ1หมายถึงสามารถผสานอสูรสายเลือดสามัญแปดตน ระดับ2สามารถผสานอสูรสายเลือดชั้นยอดหนึ่งตน

ในครั้งนี้แม้เขาสูญเสียสุนัขยักษ์หกตน ทว่า ผลตอบแทนช่างงดงามยิ่งนัก

เมื่อพยัคฆ์เพลิงสีชาดถูกปราบ อสรพิษเกล็ดทมิฬสิ้นชีพ เขาไม่มีอันตรายอันใดอีก ลู่หยางมองไปที่ผลสีชาดสามผล กลิ่นช่างหอมหวน ลู่หยางเคยได้ยินว่าหากเมื่อใดพืชสมุนไพรโตเต็มที่มันจะส่งกลิ่นหอมหวน

“ติ้ง” พบผลแดงชาดสามารถเพิ่มอัตราเติบโตของอสูรเลี้ยงได้สิบจุด เขาหยิบมันขึ้นมาไม่คาดว่าระบบจะส่งข้อมูลขึ้นมา

เขาไม่คาดว่าจะมีข่าวดีถึงสองต่อในวันนี้ ในระบบฝึกอสูร อสูรสงครามจะมีข้อมูลที่เกี่ยวข้อง เช่นต้าเฮย

“อสูรสงคราม สุนัขดำ”

“ระดับ อสูรชั้นต้น”

“สายโลหิต:สามัญ(มีเสี้ยวของสายเลือดปราชญ์)”

“ความสามารถเทวะเฉพาะตัว ไม่มี)

“อัตราเติบโต 2/10’