บทที่ 28 สะกดรอยตาม
เจิ้งเหวินเฉียวเดินไปขึ้นรถ BMW ของเขาแล้วขับไปยังสถานที่ลับตาคนแห่งหนึ่ง เย่โม่ตามรถคันนั้นไป ไม่นานเจิ้งเหวินเฉียวก็หยุดรถ ที่นั่นมีชายวัย 40 กว่าปีพยุงหญิงสาวรีบร้อนเดินตรงเข้ามาหา เจิ้งเหวินเฉียวรีบลงจากรถไปช่วยทันที
ที่เย่โม่แปลกใจก็คือเขารู้จักหญิงสาวที่ถูกเจิ้งเหวินเฉียวและชายวัย 40 พยุงคนนี้ เธอคือหยุนปิง อาจารย์เย็นชาที่สอนวิชาภาษาอังกฤษของเย่โม่นั่นเอง
ทำไมหยุนปิงถึงมารอเจิ้งเหวินเฉียวตรงนี้ได้? แต่เขาก็แค่สงสัยเล็กน้อยเท่านั้น เย่โม่ไม่เก็บมาใส่ใจนัก ดูจากท่าทางของหยุนปิงแล้วคงเมามากหรืออะไรสักอย่างจนต้องให้คนอื่นประคองแบบนี้
ภายใต้แสงไฟสีเหลืองจางๆ บนท้องถนน เจิ้งเหวินเฉียวรีบพาตัวหยุนปิงไปขึ้นรถของตน ถึงเย่โม่จะไม่รู้ว่าหยุนปิงและเจิ้งเหวินเฉียวมีความสัมพันธ์กันแบบไหน แต่การที่เมาแล้วถูกอุ้มขึ้นรถแบบนี้มองยังไงก็มีปัญหาแล้ว เพียงแต่ตลอดมาเย่โม่ไม่ได้มีความรู้สึกดีๆ ต่อตัวหยุนปิงแม้แต่น้อย เธอจะเป็นยังไงเขาไม่สนใจ วันนี้เย่โม่เพียงจ้องจะจัดการกับเจิ้งเหวินเฉียวเท่านั้น
รถ BMW พ่นควันขับออกไปทันที เย่โม่ตามหลังไปเงียบๆ โชคดีว่าเป็นเขตตัวเมืองรถคันนี้จึงขับไม่เร็วนัก อีกอย่างท่า ‘เท้าเงาเมฆา’ ของเย่โม่มีความเร็วเพียงพอที่จะตามทัน
ผ่านไป 10 นาทีกว่า รถ BMW คันนั้นก็ขับตรงไปยังเขตชุมชนที่ค่อนข้างเงียบสงบแห่งหนึ่ง เย่โม่ไม่อาจเข้าทางประตูหลักได้ หลังจากเช็คให้แน่ใจแล้วว่าบริเวณนี้ไม่มีกล้องวงจรปิด เย่โม่ก็กระโดดข้ามกำแพงเข้าไปในเขตชุมชนนั้น จ้องมองรถของเจิ้งเหวินเฉียวจากไกลๆ
รถแล่นไปหยุดตรงหน้าตึกแห่งหนึ่ง เจิ้งเหวินเฉียวและผู้ชายอีกคนพยุงหยุนปิงเข้าไปในตึกนั้นอย่างรวดเร็ว เย่โม่ทำได้แต่มองเท่านั้น เวลานี้พลังปราณของเขาอยู่แค่ระดับ 1 เท่านั้น ถ้าฝึกถึงระดับ 3 ล่ะก็เขาคงใช้วิชาล่องหนตามขึ้นไปแล้ว ถ้าตามไปตอนนี้ก็มีแต่จะถูกพบตัวเท่านั้น ในเมื่อเป็นแบบนี้จะลงมือสั่งสอนเจิ้งเหวินเฉียวตรงบรรไดคงไม่เหมาะเท่าไหร่ ทางเลือกที่ดีที่สุดคือต้องจัดการข้างในเท่านั้น
เขารอที่ชั้นล่างสักพักหนึ่ง จากนั้นไม่นานไฟจากห้องๆ หนึ่งบนชั้น 4 ก็สว่างวาบขึ้น ตอนนี้เย่โม่รู้แล้วว่าพวกเขาขึ้นไปชั้น 4 เย่โม่ปีนขึ้นไปตามหน้าต่างอย่างไม่ลังเล ไม่นานเขาก็เข้าไปข้างในห้องที่สว่างผ่านทางห้องครัว
“คุณชายเจิ้ง ผมพร้อมเริ่มแล้ว” ได้ยินแบบนั้นเย่โม่ก็รู้ได้ว่าเป็นชายอีกคนที่พูดขึ้นมา
“งั้นเริ่มเลย จำไว้ว่าตอนกูขึ้นขย่มนังนี่ก็ถ่ายให้มันชัดๆ ล่ะ เก็บรายละเอียดให้ดี โดยเฉพาะตอนที่นังนี่คราง ถ่ายไว้ให้หมด กูไม่เชื่อว่าถ้ามีวิดีโอนี้อยู่มันจะไม่ยอมอีก!” หลังจากเสียงของเจิ้งเหวินเฉียวหายไป เย่โม่ก็ได้ยินเสียงราวกับมีคนกำลังฉีกเสื้อผ้าดังแควก
2 คนนี้อยากจะข่มขืนหยุนปิงแล้วถ่ายเก็บไว้นี่เอง ไม่รู้ว่าเธอไปขัดใจ 2 คนนี้มาจากไหน หรือว่าเธอครอบครองอะไรไว้ในมือถึงได้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นได้ ตอนแรกเย่โม่คิดว่าเสียงฉีกเสื้อผ้าจะเป็นเจิ้งเหวินเฉียวที่ทำ แต่พอเขาถีบประตูเข้าไปกลับพบว่าเป็นหยุนปิงที่ฉีกทึ้งเสื้อผ้าของตัวเอง
ใบหน้าของเธอแดงเปล่งปลั่ง แววตาเลื่อนลอย ดูก็รู้ว่าตกอยู่ภายใต้ฤทธิ์ยา เสื้อผ้าตรงหน้าอกของเธอถูกถอดลงมาครึ่งหนึ่ง เผยให้เห็นเต้าขาวกลมทั้งสองข้าง ทั้งอวบอูมและเต่งตึง แม้แต่เย่โม่เองยังรู้สึกตะลึงลานไปครู่หนึ่ง
“แกเป็นใคร!?” ตอนที่เย่โม่ถีบประตูเข้ามานั้น เจิ้งเหวินเฉียวและชายอีกคนที่ถือกล้องวิดีโออยู่ก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ทว่าเมื่อพวกเขาเห็นว่าเย่โม่เดินปกปิดหน้าตาเข้ามาคนเดียว พวกเขาก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกทันที ตัวเจิ้งเหวินเฉียวรู้ว่าชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเขาเป็นผู้ฝึกวิทยายุทธ แถมยังฝีมือไม่เลวด้วย
“เฮ้ยเพื่อน! นายคิดจะทำอะไร? ถ้านายอยากได้เงินล่ะก็...พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องมาขัดแย้งกัน อีกอย่างพวกเราเล่นกับนังนี่เสร็จก็อาจเหลือไว้ให้นายเล่นด้วยก็ได้ เกรดดีเลยล่ะ...” เจิ้งเหวินเฉียวพูดพลางจ้องมองเย่โม่อย่างระแวดระวัง ขณะเดียวกันเขาก็สวมเสื้อที่ยังถอดไม่เสร็จขึ้นอย่างช้าๆ
“เศษสวะ!” เย่โม่พูดแค่ 2 คำนี้แล้วยกเท้าขึ้นถีบ เจิ้งเหวินเฉียวที่มือยังอยู่ที่หัวเข็มขัดถูกถีบจนลอยไปกระแทกผนัง ร่างของเขาร่วงลงมาแล้วสลบไปทันที
ชายวัยกลางคนที่ถือกล้องมองไปยังเย่โม่ที่มาถึงก็ลงมือโดยไม่พูดไม่จา เขารีบโยนกล้องไปอีกทาง เขาดึงมีดออกมาจากข้างเอวแล้วแทงไปที่เย่โม่ การเคลื่อนไหวนี้นับได้ว่ารวดเร็ว แต่คนที่เขาเผชิญหน้ากลับเป็นเย่โม่ ในสายตาของเย่โม่แล้วชายตรงหน้ายังฝีมือแย่กว่าฟางเว่ยเฉิงที่เขาประมือด้วยครั้งที่แล้วอีก เย่โม่ลงมือทันทีด้วยการเตะต่อเนื่องไป 2 ครั้ง เพียงกระบวนท่าเดียวก็ส่งชายที่เจิ้งเหวินเฉียวคิดว่าฝีมือไม่เลวลอยกระเด็นไป
ขณะที่ร่างของชายวัยกลางคนกำลังปลิวอยู่นั้น กล้องวิดีโอของเขาที่โยนไว้ข้างๆ ก็ถูกชนจนกระเด็นไปกระแทกผนังด้านบน จากนั้นจึงตกลงมากระแทกพื้นแตกกระจาย ส่วนชายวัยกลางคนก็ลอยไปกระแทกทับอยู่บนตัวของเจิ้งเหวินเฉียว
“ช้าไว้เพื่อน! นายรู้ไหมว่าเขาเป็นใคร? เขาเป็นลูกของนายกเทศมนตรีเจิ้ง หรือว่านายจะไม่กลัว...” ชายวัยกลางคนที่ถูกเย่โม่ถีบลงไปนอนกองกับพื้น เขายังพยายามข่มขู่เย่โม่อยู่
เย่โม่ยิ้มหยัน เขาเตะไปที่หัวของชายคนนั้นอีกครั้ง “กลัวน้องสาวนายสิ!”
ชายคนนั้นร้องครวญครางออกมาคำหนึ่งแล้วก็สลบเหมือดไปทันที
เย่โม่มองไปรอบๆ ห้อง ที่ผนังห้องมีรูปภาพของหยุนปิงแขวนเอาไว้อยู่ แล้วยังมีรูปที่หยุนปิงอุ้มเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งเอาไว้ด้วย เขาคิดว่านี่คงเป็นห้องของเธอ เจิ้งเหวินเฉียวคนนี้มีจิตใจอำมหิต ทำเรื่องแบบนี้กับหยุนปิงในห้องของเธอเองแล้วยังอัดวิดีโอเอาไว้อีก คาดว่าถ้าหยุนปิงไม่ชิงฆ่าตัวตายก็คงตกอยู่ในกำมือของเจิ้งเหวินเฉียวไปแล้ว
ไม่รู้ว่าเจิ้งเหวินเฉียวต้องการอะไรจากหยุนปิงกันแน่ คงไม่ใช่แค่อยากนอนกับเธอแน่
เย่โม่ไม่อยากจะยุ่งกับเรื่องเหล่านี้ เขายกตัวเจิ้งเหวินเฉียวและชายวัยกลางคนขึ้นมา เขาไม่อยากจะจัดการสั่งสอนทั้ง 2 คนนี้ในห้องของหยุนปิง อีกอย่างสภาพของเธอก็ยังดูไม่เหมาะสมนัก
ขณะที่เย่โม่กำลังเดินไปทางประตูเสียงครวญครางของหยุนปิงก็ดังขึ้น ตามมาด้วยเสียงฉีกทึ้งเสื้อผ้าอีกครั้งหนึ่ง เย่โม่หันกลับไปมองโดยไม่รู้ตัว หยุนปิงถอดไปถึงกางเกงในที่ปิดไว้ไม่อยู่แล้ว
หยุนปิงที่ตอนนี้เนื้อตัวเกือบเปลือยเปล่านอนลงบนเตียง กางเกงในบนตัวเธอยังถอดไม่เสร็จดีนัก กางเกงในสีชมพูซีทรูลายดอกไม้ของเธอ ทำให้เย่โม่ที่เห็นภาพนี้ถึงกับใจเต้นระรัว
แต่ไม่นานเย่โม่ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ยาปลุกเซ็กส์ที่หยุนปิงโดนดูท่าจะรุนแรงเกินไปแล้ว หากหยุนปิงไม่ได้มีเซ็กส์กับใครล่ะก็คาดว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อร่างกายของเธอได้ ไม่แน่ว่าอาจจะพิการเลยก็ได้ เขาได้แต่ด่าความชั่วร้ายของเจิ้งเหวินเฉียวในใจ
เย่โม่มองร่างกายขาวอมชมพูดของหยุนปิง เย่โม่ถอนหายใจ เขาทิ้งเจิ้งเหวินเฉียวและชายวัยกลางคนไว้นอกประตู เย่โม่เดินมาตรงหน้าเตียงของหยุนปิง เขาคิดจะช่วยเธอขับฤทธิ์ยาออกจากร่างกาย
แต่ตอนที่เขาเดินมาถึงนั้นเองก็ถูกหยุนปิงกอดเอาไว้ ราวกับคนจมน้ำกอดขอนไม้อย่างไรอย่างนั้น
ร่างกายอันอบอุ่นอ่อนนุ่มพร้อมด้วยกลิ่มหอมจางๆ พุ่งเข้าสู่อ้อมอกของเย่โม่ เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกวูบวาบขึ้นมา ดูเหมือนหยุนปิงจะถอนหายใจด้วยความโล่งอก นิ้วมือของเธอลูบตรงแผ่นหลังของเย่โม่ บดเบียดเรือนร่างไปที่เย่โม่ไม่หยุดราวกับต้องการจะถูไถจนเข้าไปในร่างของเย่โม่
ใจของเย่โม่เผาไหม้ด้วยไฟร้อนแรง ทว่าตอนนี้ปราณของเขาอยู่ที่ระดับ 1 แล้ว หลังได้พบเจอกับความเย้ายวนเขาก็ได้สติขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เย่โม่ทาบมือไปบนหัวของหยุนปิง ภายใต้ลมปราณของเขา แก๊สที่มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ก็ได้ถูกเย่โม่ดึงออกมาจากร่างกายของหยุนปิง
ขณะที่เย่โม่กำลังดึงส่วนประกอบของยาปลุกเซ็กส์ออกมาจากร่างของหยุนปิง เธอก็ค่อยๆ รู้สึกผ่อนคลายลง
ผ่านไปครู่ใหญ่ ร่างกายของเย่โม่ก็เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ แต่ในที่สุดเขาก็ขับยาออกจากร่างของหยุนปิงได้ เย่โม่ถอนหายใจ เขาถอดผ้าสีดำที่ปิดใบหน้าออกมาซับเหงื่อตรงหน้าผาก
เวลาที่นี้เองที่หยุนปิงตื่นขึ้นมาพอดี เธอรู้สึกทันทีว่าร่างกายของเธอตอนนี้เกือบจะเปลือยเปล่า เธอรู้สึกตื่นตระหนกเมื่อเห็นเย่โม่ที่กำลังเช็ดเหงื่ออยู่ ความอัปยศนี้ทำให้หยุนปิงหมดสติไปอีกครั้งทันที