TB:บทที่ 9 ดื่ม!
TB:บทที่ 9 ดื่ม!
หลังจากที่ฉางกวงหนานนำเพชรไปเก็บไว้ในที่ตู้เซฟแล้ว เขาได้ก้าวออกจากร้านไปพร้อมกับเลขานุการสาวสวยสุดเซ็กซี่และเฉินหลง
รถของฉางกวงหนานคือออดี้ A6 ซึ่งมันดูดีมีราคาเหมือนกับเจ้าของของมัน
"คุณเฉินหลง คุณชอบทานอาหารจีนหรืออาหารตะวันตก?" ฉางกวงหนานถามเฉินหลงหลังจากที่เข้าไปในรถเรียบร้อยแล้ว
"อาหารจีนครับ กับอาหารตะวันตกผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร" เฉินหลงตอบโดยได้ไม่ถามความเห็นจากฉางกวงหนาน
"ถ้าคุณเฉินไม่ว่าอะไร ผมจะพาคุณเฉินหลงไปร้านอร่อยๆร้านนึงครับ" ฉางกวงหนานตอบ
“ไม่มีปัญหาครับ ตามใจคุณฉางเลย” เฉินหลงหัวเราะ เขาไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว
"คุณเฉิน ตอนนี้ทำอะไรอยู่เหรอคะ?" เลขาของฉางกวงหนาน เฮอชิงชิง และเฉินหลงนั่งอยู่ที่นั่งด้านหลังด้วยกัน เมื่อรถสตาร์ทมือเธอก็เริ่มสัมผัสที่กางเกงของเฉินหลง
ในฐานะเลขาของฉางกวงหนาน แน่นอนว่าเฮอชิงชิงรู้วิธีจัดการกับปัญหาให้เจ้านายของเธอ
"ผมเพิ่งถูกไล่ออกจากงานครับ" เฉินหลงพูดความจริง
“คุณเฉิน คุณอย่าพูดเล่นสิ คุณก็เป็นคนดีคนนึง เขาสมควรไล่คุณออกเหรอคะ?” เมื่อได้ยินคำตอบของเฉินหลง เฮอชิงชิงหัวเราะ
ในเวลาเดียวกัน ร่างกายของเธอก็ขยับเข้าไปใกล้ชิดกับเฉินหลงมากขึ้น
และเมื่อเฮอชิงชิงหัวเราะออกมา ดวงตาของเฉินหลงก็ไปสะดุดกับหน้าอกของเธอในทันทีเนื่องจากว่ามันสั่นไหวในขณะที่เธอกำลังหัวเราะ
"ไม่ครับ ผมถูกไล่ออก แต่ก็ต้องขอบคุณที่เขาไล่ผมออก เพราะมันทำให้ผมมีโอกาสที่จะได้นั่งอยู่ในรถคันเดียวกันกับคุณไงล่ะครับ แต่ถ้าเป็นสองสามวันที่แล้ว คุณคงไม่มีทางรู้จักผม" เฉินหลงลอบกลืนน้ำลายลงคอและหันไปสบตากับอีกฝ่ายอย่างยากลำบาก
ในฐานะที่เขายังเวอร์จิ้น เฮอชิงชิงเป็นคนที่น่าสนใจมาก
"คุณเฉิน คุณถูกไล่ออกจริงๆเหรอคะ?" เมื่อเห็นว่าเฉินหลงดูไม่เหมือนคนโกหก เฮอชิงชิงจึงถามอีกฝ่าย ดวงตาของเธอเบิกกว้างขึ้น
"ครับ" เฉินหลงพยักหน้าตอบจริงจัง
"ถ้าตอนนี้คุณเป็นเศรษฐีแล้ว คุณเฉิน คุณน่าจะไปตอกหน้าคนที่ไล่คุณออกสักครั้งนะคะ" เฮอชิงชิงคิดว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรมกับเฉินหลงเลย
เขาไม่รู้ว่าที่เฮอชิงชิงวางมือไว้บนต้นขาของเฉินหลงนั้นเธอตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ
เฉินหลงถูกอีกฝ่ายหยอกเย้าจนเขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
เฮอชิงชิงไม่ได้ไวต่อความรู้สึกเหมือนกับเฉินหลง แน่นอนว่าการตอบสนองของร่างกายของเฉินหลงอยู่ในสายตาของเธอ
"แล้วถ้าหากว่าคุณได้เจออีกฝ่ายข้างนอกอีกครั้งละคะ แต่เมืองใหญ่ขนาดนี้ใหญ่คงไม่เจอหรอกค่ะ” เฮอชิงชิงอดไม่ได้ที่จะลอบเลียริมฝีปากล่างของเธอ
"ครับ ถ้าผมเจอไอ้หมูตอนอีก ผมจะสมน้ำหน้าเขาให้หนำใจไปเลย" เฉินหลงพยายามรวบรวมสติ
อย่างไรก็ตามมือของเฮอชิงชิงที่ลูบคลำอยู่ที่ต้นขาของเฉินหลงอย่างอ่อนโยน ซึ่งทำให้เฉินหลงไม่สามารถรวบรวมสติเอาไว้ได้เลย
"คุณเฉิน ฉันขอถามคำถามส่วนตัวได้ไหมคะ? " เฮอเห็นว่าเฉินหลงนั้นมีท่าทางเขินอาย เธอจึงเริ่มเข้าเรื่อง
"คำถามอะไรครับ เชิญถามมาได้เลยครับ" เฉินหลงพยายามควบคุมตัวเองในขณะที่ตอบอีกฝ่าย
"คุณบอกฉันได้ไหมว่าคุณไปเอาเพชรทั้งสองเม็ดมาจากที่ไหน? แน่นอนว่า ถ้าคุณไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรค่ะ" เฮอชิงชิงพูดอย่างนุ่มนวลที่ใบหูของเฉินหลงและเธอได้เป่าหูของเฉินหลงเป็นครั้งคราว
"นั่นไม่ใช่ปัญหาเลยครับ ผมเจอเพชรแถวริมแม่น้ำ" ด้วยเหตุนั้นเฉินหลงนำมือของเขาไปวางบนต้นขาของเฮอชิงชิง
เฮอชิงชิงสวมกระโปรงที่สั้นและรัดรูปสีดำ เมื่อมือของเฉินหลงกำลังสัมผัสอยู่ที่ต้นขาของเฮอชิงชิง เฮอชิงชิงก็รู้สึกตื่นเต้น
เฮอชิงชิงยังคงหยอกล้อเขาอยู่ แน่นอนว่าเฉินหลงไม่มีทางปล่อยให้อีกฝ่ายแกล้งเขาฝ่ายเดียว ฉวยโอกาสตอนเธอเผลอแล้วจู่โจมเท่านั้นที่จะจัดการเธอได้
"คุณเฉิน เป็นเรื่องจริงเหรอคะที่คุณเจอมันแถวริมแม่น้ำ?" หลังจากได้ยินคำพูดของเฉินหลง เฮอชิงชิงก็จ้องมองเขาอีกครั้ง เธอไม่ได้สนใจมือของเฉินหลงเลยสักนิด
"ครับ นั่นคือเหตุผลที่ทำให้ผมได้มานั่งในรถคันเดียวกันกับคุณในตอนนี้" เฉินหลงพูดและเลื่อนมือของเขาไปที่กระโปรงของเฮอชิงชิง
เธอไม่ได้ชี้โพรงให้กระรอกอย่างเขาอยู่รึไง? แน่นอนว่าเฉินหลงยังคงทำมันต่อไป
"คุณเฉิน คุณโกหก" ในตอนนี้ ในที่สุดเฮอชิงชิงก็รู้สึกว่ามือของเฉินหลงนั้นแปลกไป เธอนำมือของเฉินหลงกลับไปวางไว้บนตังของเขา แล้วทาบมือลงบนมือของเขา
"ใช่ไหมล่ะครับ?" ทันทีที่เฉินหลงบีบมันแรงๆ ดวงตาของเฮอชิงชิงก็สว่างขึ้นจากนั้นเธอดึงมือกลับมา
"ฉันเกลียดคุณ" เฮอชิงชิงหน้าแดง
บนใบหน้าของเฉินหลงปรากฏรอยยิ้มและเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
เขาไม่รู้ว่าเฮอชิงชิงรู้ในสิ่งที่เธอต้องการจะรู้แล้วหรือเป็นเพราะความทะลึ่งของเฉินหลงกันแน่ แต่เฮอชิงชิงไม่ต้องการให้เฉินหลงเป็นฝ่ายได้เปรียบอีก จากนั้นระหว่างทางเธอก็ไม่ได้หยอกเย้าเฉินหลงอีกเลย นั่นทำให้เฉินหลงเป็นปลื้มมาก
ฉางกวงหนานขับรถเข้าไปในซอยเล็กๆและจอดรถอยู่ข้างนอกร้านอาหาร
"เป็นร้านที่มีชื่อเสียง" หลังจากลงจากรถแล้ว เฉินหลงมองดูชื่อของโรงแรมแล้วพูดพร้อมรอยยิ้ม
"นอกจากจะเป็นร้านที่มีชื่อเสียงแล้วที่สำคัญอาหารที่นี่ก็อร่อยมาก" ฉางกวงหนานก็ลงจากรถเช่นกัน
จากนั้นคนทั้งสามก็เดินเข้าไปในร้านอาหาร
ภายในร้านอาหาร เฉินหลงพบว่ามีแขกอยู่ที่โต๊ะประมาณสี่หรือห้าโต๊ะ
"กวงหนาน นายมาที่นี่อีกแล้ว ฉันจองโต๊ะข้างบนไว้ให้นายเรียบร้อย ไปนั่งรอก่อนสิ เดี๋ยวฉันจะนำอาหารไปเสิร์ฟให้" ชายที่รุ่นราวคราวเดียวกันกับจางกวงหนานกล่าว เมื่อเขาเห็นจางกวงหนานเดินเข้ามาในร้าน เขาก็รู้สึกตื่นเต้น
"ใช่ เร็วๆสิ ฉันหิวแล้ว" ฉางกวงหนานเองก็คุ้นเคยกับชายคนนั้นเช่นกัน
จากนั้นก็พาเฉินหลงเดินขึ้นไปชั้นบน
หลังจากนั่งรออยู่สักครู่ ไม่นานนักอาหารก็มาเสิร์ฟเต็มโต๊ะ
ปลาเพิร์ชเริศรส เป็ดปักกิ่ง ซี่โครงผัดซีอิ้ว ซุปเต้าเจี้ยว หมูหยองและอาหารอื่นๆอีกมากมาย
อาหารเหล่านี้ไม่ใช่แค่ขายดีเท่านั้น มันยังมีรสชาติที่อร่อยถูกปากคนที่ได้ทานอีกด้วย
แน่นอนว่างานเลี้ยงจะขาดไวน์ไปไม่ได้ ทั้งฉางกวงหนานและเฮอชิงชิงต่างดื่มไวน์กันทั้งคู่และเฉินหลงเองก็ไม่ปฏิเสธมันเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม หลังจากดื่มไวน์ขวดเล็กไปหนึ่งขวด เฉินหลงพบว่าร่างกายของเขากำลังเผาผลาญไวน์ที่ดื่มไปอย่างรวดเร็ว นั่นทำให้เฉินหลงไม่รู้สึกถึงความมึนเมาเลยสักนิด
"คุณเฉิน คุณดื่มเก่งเหมือนกันนะคะ ไว้วันหลังฉันจะพาคุณไปดื่มอีกก็แล้วกัน" หลังจากเห็นว่าเฉินหลงดื่มไวน์ไปสองสามอึกแล้ว มันกลับไม่เกิดปฏิกิริยาใดๆขึ้นกับเขาเลย แน่นอนว่าเฮอชิงชิงจะต้องลงแรงมากขึ้น
เนื่องจากว่าเฮอชิงชิงไม่เชื่อคำพูดที่ออกมาจากปากของเฉินหลง สิ่งเดียวที่เธอสามารถทำได้คือมอมเฉินหลง เธอคิดว่าถ้าเขาเมาแล้วเขาจะต้องพูดความจริงออกมาอย่างแน่นอน
"คุณเฮอกับผู้จัดการฉางก็ดื่มเก่งเหมือนกัน มาดื่มกันเถอะครับ" เฉินหลงพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
"คุณเฉิน ไวน์นี้มีไว้สำหรับคุณ แน่นอนว่าคุณดื่มมันได้และถ้าหากคุณต้องการดื่มกับผม ผมก็จะดื่มไปพร้อมกับคุณเช่นกัน แต่ถึงอย่างนั้นคุณควรจะชนแก้วและดื่มมันให้กับสาวสวยทางด้านนี้ก่อนนะครับ" ความสามารถในการโน้มน้าวใจคนให้ดื่มของฉางกวงหนานนั้นนับว่าเก่งทีเดียว
"ได้เลย มาครับ คุณเฮอ ดื่มครับ" เฉินหลงยกแก้วขึ้นและชนแก้วกับเฮอชิงชิง
ถ้าพวกคุณทั้งสองอยากให้ผมเมา ถ้าอย่างนั้นมาดูกันว่าใครจะเป็นฝ่ายเมาก่อน
"ใช่ แบบนั้นแหละ" ฉางกวงหนานกำลังทำเรื่องให้ยุ่งยาก
เฉินหลงเงยหน้าขึ้นแล้วกระดกไวน์เข้าปากไป หลังจากนั้นเขาก็ยื่นแก้วไปทางเฮอชิงชิงเป็นสัญญาณว่าเขาได้ดื่มมันจนหมดแก้วเรียบร้อยแล้ว
เมื่อเห็นว่าเฉินหลงดื่มไวน์แล้ว เฮอชิงชิงก็ได้ดื่มไวน์ในแก้วตามอีกฝ่ายไป
เฉินหลงเป็นฝ่ายได้เปรียบมากกว่าเฮอชิงชิงเพราะว่าหลังจากที่เขาดื่มไวน์ไปแล้วกลับไม่มีอาการใดๆเกิดขึ้นกับเขา