เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 876 ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งดวงดาว (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 876 ท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งดวงดาว (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
ฮุ้ยฟงซื่อและอี้หลางซื่อมองฟางหยวนอย่างระมัดระวัง
ตอนนี้ฟางหยวนอยู่ในชุดคลุมสีน้ำเงินและมีแสงดาวส่องประกายระยิบระยังออกมาร่างกายตลอดเวลา
เขาไม่ใช่ผีดิบอมตะอีกต่อไปแต่เป็นชายผอมสูงที่มีผิวพันธุ์อ่อนเยาว์ราวกับเด็กทารกพร้อมกับเส้นผมสีขาว
เขาดูเหมือนผู้บ่มเพาะสันโดษที่เต็มไปด้วยสติปัญญา
หลังจากผสานวิญญาณอมตะเปลี่ยนรูปลักษณ์เข้าไปในท่าไม้ตายใบหน้าที่คลุมเครือ ฟางหยวนสามารถเปลี่ยนรูปลักษณ์ได้ดังใจปรารถนา
อี้หลางซื่อขมวดคิ้ว เขาไม่เคยได้ยินชื่อซิงเซียงซื่อมาก่อน
“เจ้าเป็นผู้อมตะของภาคเหนืองั้นหรือ?” ฮุ้ยฟงซื่อกล่าวด้วยการแสดงออกที่สงบนิ่งแต่ยังระวังผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งที่ซ่อนตัวอยู่
ฟางหยวนหัวเราะ “แน่นอนว่าข้าเป็นคนเหนือ ข้าเป็นผู้บ่มเพาะสันโดษที่ไม่ชื่อเสียง ข้าไม่สามารถเปรียบเทียบกับตัวตนที่โด่งดังเช่นท่านทั้งสอง”
ฟางหยวนรู้จักอี้หลางซื่อแต่ไม่รู้จักฮุ้ยฟงซื่อ แต่พิจารณาจากที่คนทั้งสองร่วมมือกัน เขาอนุมานว่าฮุ้ยฟงซื่อมีความแข็งแกร่งไม่ต่างจากอี้หลางซื่อ
“เมื่อเจ้ารู้จักพวกเรา เหตุใดยังไม่หลบหนี? หากพวกเราต่อสู้กันจริงๆ เจ้าจะตายในมือของข้า” ฮุ้ยฟงซื่อมองฟางหยวนด้วยสายตาแหลมคม
ฟางหยวนเผยรอยยิ้มขมขื่น “สัญญาต้องเป็นสัญญา แม้ข้าจะไม่เก่งเรื่องการต่อสู้ แต่ข้ายังต้องท้าทายพวกท่าน เชิญ!”
ฟางหยวนรู้สึกยินดีเนื่องจากท่าไม้ตายใบหน้าที่คลุมเครือทำงานได้เป็นอย่างดี
ฝ่ายตรงข้ามเป็นผู้อมตะระดับเจ็ด พวกเขาย่อมมีท่าไม้ตายอมตะสายตรวจสอบ อย่างไรก็ตามดูเหมือนพวกเขาจะไม่สงสัยในตัวฟางหยวน
หากคนทั้งสองค้นพบสถานะผีดิบอมตะของฟางหยวน พวกเขาคงโจมตีไปแล้ว ผู้อมตะระดับหกบนเส้นทางแห่งดวงดาวด้อยกว่าพวกเขาหนึ่งระดับแต่ผีดิบอมตะระดับหกกระทั่งอ่อนแอกว่า
แน่นอนว่ามีโอกาสที่พวกเขาจะค้นพบแล้วแต่กำลังตรวจสอบสถานการณ์
ฮุ้ยฟงซื่อลอบกล่าวกับอี้หลางซื่อ “เหตุใดเจ้าไม่โจมตี? ข้าจะช่วยสนับสนุนจากด้านข้าง”
อี้หลางซื่อยังกังวลเกี่ยวกับผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่งที่มีพลังการต่อสู้ระดับเจ็ด ‘มีฮุ้ยฟงซื่อเฝ้าระวังผู้อมตะลึกลับบนเส้นทางความแข็งแกร่ง ในการต่อสู้ข้าไม่จำเป็นต้องกังวลมากนัก ข้ารู้สึกว่ามีบางสิ่งผิดปกติแต่ไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด’
อี้หลางซื่อพยักหน้าตอบฮุ้ยฟงซื่อ
เขาเปิดปากคำรามก่อนจะพุ่งเข้าโจมตีฟางหยวน
เห็นปีศาจอมตะที่มีชื่อเสียงของภาคเหนือพุ่งเข้ามา ฟางหยวนยังเผยรอยยิ้มบาง
“มาเริ่มกันเถอะ!” ฟางหยวนผลักฝ่ามือทั้งสองข้างออกไปและกระตุ้นใช้ท่าไม้ตายอมตะ
กลุ่มเมฆขนาดใหญ่เท่าช้างสองหรือสามตัวหมุนวนขึ้นด้านหน้าพร้อมกับแสงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับ
ท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งดวงดาว โม่หินเมฆาดาว!
นี่คือท่าไม้ตายสายป้องกันของจักรพรรดิแห่งดวงดาวหว่านเซียง การโจมตีระยะไกลทั้งหมดจะถูกดูดกลืนเข้าไปและถูกบดทำลายโดยโม่หินเมฆาดาว
ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันคือท่าไม้ตายสายป้องกันที่ทรงพลัง
“อะวู้...”
อี้หลางซื่อในร่างหมาป่าคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้าและปลดปล่อยแสงสว่างออกมาจากร่างกาย
ในเวลาต่อมาเมื่อแสงสว่างเลือนหาย หมาป่าตัวโตกลับกลายเป็นหมาป่าตัวเล็ก ร่างกายของมันเหมือนรูปปั้นหินสีน้ำตาลที่มันเงา บนศีรษะของมันราวกับสวมหมวกทรงสามเหลี่ยมเอาไว้ขณะที่ดวงตาลุกไหม้ด้วยเปลวเพลิงสีเขียว
เปลือกตาของฟางหยวนกระตุกเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตชนิดนี้
มันคือสัตว์อสูรบรรพกาลที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับผู้อมตะระดับเจ็ด!
หมาป่าเวทย์!
หลังจากกลายร่างเป็นหมาป่าเวทย์ ความเร็วของอี้หลางซื่อเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า มันเหมือนเงาที่เคลื่อนที่ไปรอบๆ
‘รวดเร็วนัก! ท่าไม้ตายสายตรวจสอบของข้าไม่สามารถตรวจจับมัน’ หัวใจของฟางหยวนแทบกระโดดออกมาจากหน้าอก
ในการต่อสู้ ความเร็วเป็นปัจจัยสำคัญเสมอ
ฝ่ายที่เร็วกว่าจะสามารถโจมตีหรือล่าถอยได้อย่างง่ายดาย
ฝ่ายที่ช้ากว่าจะไม่สามารถโจมตีและไม่แม้แต่จะสามารถหลบหนี
อี้หลางซื่อเป็นผู้อมตะบนเส้นทางแห่งการเปลี่ยนแปลงที่มีชื่อเสียงของภาคเหนือ ในร่างมนุษย์ พลังการต่อสู้ของเขาอยู่บนจุดสูงสุดของระดับหก
แต่เมื่อเขาเปลี่ยนร่างเป็นสัตว์อสูร ความแข็งแกร่งของเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ฟางหยวนกลายเป็นฝ่ายเสียเปรียบแต่เขายังสงบนิ่ง
เขามีท่าไม้ตายปีกค้างคาวที่แท้จริงสามคู่ หากรวมกับวิญญาณอมตะความแข็งแกร่งของอินทรีย์มงกุฎเหล็ก ความเร็วของเขาจะเทียบเท่ากับท่าไม้ตายอมตะสายเคลื่อนไหว อย่างไรก็ตามมันยังเป็นท่าไม้ตายอมตะที่ไม่สมบูรณ์ ความเร็วของมันยังด้อยกว่าหมาป่าเวทย์เล็กน้อย
นอกจากนั้นหากฟางหยวนกระตุ้นใช้งานปีกค้างคาวที่แท้จริง มันจะเป็นการเปิดเผยตัวตนของเขาในฐานะผู้อมตะบนเส้นทางความแข็งแกร่ง
ดังนั้นฟางหยวนจึงไม่มีความคิดที่จะใช้มันในเวลานี้
อี้หลางซื่อเข้าประชิดตัวฟางหยวนอย่างรวดเร็ว
แต่ฟางหยวนกลับกระโดดเข้าไปในโม่หินเมฆาดาว
อี้หลางซื่อต้องการหลบเลี่ยงโม่หินเมฆาดาวแต่ตอนนี้ฟางหยวนกลับกระโดดเข้าไป เรื่องนี้อยู่นอกเหนือจากความคาดหวังของอี้หลางซื่ออย่างสิ้นเชิง
หมาป่าเวทย์คำรามอยู่ด้านนอกโม่หินเมฆาดาวและใช้กรงเล็บฟาดเข้าไป
แต่มันสามารถสร้างเพียงรอยขีดข่วนเล็กๆบนร่างกายของฟางหยวนเท่านั้น
หลังจากทั้งหมดร่างผีดิบอมตะมีพลังป้องกันที่ยอดเยี่ยม
อย่างไรก็ตามละอองเลือดที่กระจายอยู่ในอากาศกลับเปลี่ยนเป็นสีเขียวและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของมันออกมา เลือดผีดิบอมตะ!
‘โอ้ นี่คือจุดอ่อนของท่าไม้ตายใบหน้าที่คลุมเครือ’ ฟางหยวนจดจำเรื่องนี้เอาไว้ในใจ
เขาโบกมือเก็บเลือดผีดิบกลับเข้าไปและเผยรอยยิ้มบาง “ความเร็วของท่านอี้หลางซื่อช่างอัศจรรย์นัก แต่ข้าสงสัยว่าเหตุใดท่านไม่เข้ามาต่อสู้กับข้าที่นี่?”
โม่หินเมฆาดาวจะบดขยี้ศัตรูตลอดเวลาขณะที่ฟางหยวนไม่ได้รับอันตรายหรือผลกระทบใดๆจากมัน
หมาป่าเวทย์มองโม่หินเมฆาดาวด้วยดวงตาที่ลุกไหม้ไปด้วยเจตจำนงแห่งการต่อสู้
แต่ในเวลาต่อมาหมาป่าเวทย์กลับถอยกลับและยอมแพ้ที่จะพุ่งเข้าสู่โม่หินเมฆาดาว
‘เหตุใดข้าต้องต่อสู้กับเจ้า?’
‘เป้าหมายของข้าคือทำลายหอคอยเมฆาและรื้อถอนค่ายกลวิญญาณความสับสนของเมฆาทั้งสิบสอง’
อี้หลางซื่อลอบหัวเราะอยู่ภายใน
เหตุผลที่ฟางหยวนมาที่นี่เพื่อปกป้องหอคอยเมฆาและพยายามถ่วงเวลา
แต่ตอนนี้อี้หลางซื่อกลับเลือกที่จะโจมตีหอคอยเมฆาแทนการต่อสู้กับฟางหยวน นี่เป็นการบังคับให้ฟางหยวนเคลื่อนไหว
หากฟางหยวนยังยืนอยู่ในโม่หินเมฆาดาว อี้หลางซื่อจะสามารถทำลายหอคอยเมฆาและได้รับชัยชนะ แต่หากฟางหยวนไล่ตามไป เขาจะตกอยู่ในอันตราย ปัญหาสำคัญที่สุดก็คือความเร็วของอี้หลางซื่อที่เปลี่ยนร่างเป็นหมาป่าเวทย์
ฟางหยวนอยู่ในจุดที่ต้องตัดสินใจ
นี่คือผู้อมตะ นอกจากความแข็งแกร่ง พวกเขายังมีสติปัญญาและสามารถวางแผน
เห็นอี้หลางซื่อพุ่งเข้าโจมตีหอคอยเมฆาโดยตรง ฟางหยวนกลับไม่กังวล เขายังยืนอยู่ในโม่หินเมฆาดาวและเผยรอยยิ้มบาง
ท่าไม้ตายอมตะแส้อสรพิษดารา!
เส้แสงดาวหกเส้นที่มีส่วนปลายเหมือนศีรษะอสรพิษพุ่งออกจากโม่หินเมฆาดาว
เส้นอสรพิษดาราพุ่งเข้ารัดพันหมาป่าเวทย์ด้วยความเร็วสูง
“ท่านอี้หลางซื่อ ท่านจะไปที่ใด โปรดกลับมาต่อสู้กับข้า” ฟางหยวนหัวเราะขณะที่เขาเคลื่อนย้ายโม่หินเมฆาดาวไปพร้อมกับดึงแส้อสรพิษดาราและลากหมาป่าเวทย์เข้ามาในโม่หินเมฆาดาว
“โอ้ ท่าไม้ตายอมตะทั้งสองสามารถทำงานร่วมกัน นี่เป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยม” ฮุ้ยฟงซื่อเปิดปากชื่นชมมาจากอีกด้านหนึ่ง