บทที่ 303 เข้าตาจน
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ : แปลได้แล้ว
“เป็นไปไม่ได้!”
ผู้เชี่ยวชาญตระกูลราชวงศ์ที่อยู่ข้างกายเซี่ยอู๋หุ่ยมองหน้ากันขณะที่เว่ยกงกงปฏิเสธออกมาทันที “ตัวตนของเจียงอี้ ความเร็วในการเคลื่อนไหวและตอบสนองยังไม่ถึงขั้นสูงสุดของขอบเขตเสินโหยว และเขานั้นยังมีพลังเทียบได้เพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยว เขาอาจมีศิลาสวรรค์สามก้อน แต่ถึงเขาจะดูดซับพลังทั้งสามก้อนหมดแล้วก็แทบจะบรรลุขอบเขตเสินโหยวไม่ได้พะยะค่ะ”
“องค์รัชทายาท ท่านก็คงจะรู้สิ่งนี้เช่นกัน ทุกๆระดับขั้นของขอบเขตเสินโหยวนั้นต้องใช้แก่นแท้พลังมากมาย นอกจากนี้ ในระยะเวลาเพียงแค่นี้ แม้เจียงอี้จะมีศิลาสวรรค์มากมายนับไม่ถ้วน เขาก็ยังไม่สามารถก้าวหน้าได้มากนัก”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวขั้นสูงสุดที่เหลือต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย เมื่อไปถึงขอบเขตเสินโหยวแล้วมันก็ค่อนข้างที่จะบ่มเพาะพลังยากมาก และแม้ว่าเจียงอี้จะมีศิลาสวรรค์นับไม่ถ้วนแต่มันก็จะไร้ประโยชน์หากไม่มีร่างกายที่แข็งแกร่งก็จะไม่สามารถทนต่อแก่นแท้พลังที่รุนแรงได้ และการเสริมสร้างร่างกายนั้นจำเป็นที่จะต้องใช้เวลา
หลังจากที่ได้ยินคำอธิบายของเว่ยกงกงแล้ว เซี่ยอู๋หุ่ยก็สับสนมากยิ่งขึ้น “ในเมื่อมันไม่ได้อยู่ขั้นสูงสุดของขอบเขตเสินโหยว แล้วทำไมมันถึงได้แสดงการโจมตีรูปแบบเต๋าได้ล่ะ?”
“ข้าก็ไม่ทราบพะยะค่ะ หรือบางที.....เด็กนี่อาจจะมีพรสวรรค์ที่มีมาแต่กำเนิด?”
เว่ยกงกงและคนอื่นๆก็ไม่เข้าใจ เจียงอี้บรรลุกระบวนท่าเพลงดาบเงาวายุมาเนิ่นนานแล้ว แต่ก็ไม่มีผู้ใดรู้ได้ คนที่รู้นั้นล้วนแต่ตายไปแล้ว แน่นอนว่าในตอนนี้การรวมกันของดาบเงาวายุ เข้ากับมังกรเพลิงและเพลิงโลกานั้นทรงพลังเกินไป มันเลยดึงดูดให้ทุกคนเกิดความประหลาดใจมากมาย
ปัง!
ร่างของผู้บัญชาการทั้งสามถูกระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆและแต่ละศพนั้นมีแผลไหม้เกรียมอยู่ทั่ว ทหารที่อยู่รอบๆก็พบเจอกับโศกนาฏกรรมเช่นกัน เมื่อเพลิงโลกากระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง ก็มีคนกว่าร้อยคนที่สัมผัสกับเปลวเพลิง และยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้ผลกระทบของเจตจำนงสังหาร พวกเขาก็ไม่สามารถขยับเขยื้อนไปไหนได้
“ตาย!”
เจียงอี้ไม่ได้มีท่าทีที่จะหยุดขณะที่เขาหันกลับมาและปล่อยการโจมตีที่รุนแรงอีกครั้ง คราวนี้เป็นผู้บัญชาการสองคนที่กำลังจะโจมตีเขาจากทางซ้าย ซึ่งผู้บัญชาการสองคนนี้มีกำลังที่อ่อนแอกว่า พวกเขาจึงถูกฆ่าตายไปอย่างง่ายดาย
ฟึ่บ!
เจียงอี้ก็ยังคงมุ่งหน้าต่อไปและวิ่งตรงไปยังเซี่ยอู๋หุ่ย
“ตอนนี้แหละ!”
แม้จะมีดวงตาสีแดงเลือดของเจียงอี้ที่ปล่อยความกลัวเข้าไปในใจของผู้คน รอยยิ้มของเซี่ยอู๋หุ่ยก็ยิ่งแรงกล้ามากขึ้น เขาสั่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวที่อยู่ข้างๆเขา “พวกเจ้าสามคนจงไปเด็ดหัวเจียงอี้มาให้ข้า!”
“พะยะค่ะ!”
ในครั้งนี้ หน่วยลับขอบเขตเสินโหยวไม่มีความลังเลใดๆเนื่องจากเซี่ยถิงเวยสั่งให้พวกเขาฟังคำสั่งของเซี่ยอู๋หุ่ย เมื่อได้รับคำสั่งจากองค์ราชา พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องลังเลใดๆ ในฐานะผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของตระกูลราชวงศ์ พวกเขาก็ไม่ต้องเกรงกลัวผู้ใด และหากเกิดอะไรขึ้น เซี่ยถิงเวยจะเป็นผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้
ฟึ่บ ฟึ่บ!
หน่วยลับชั้นยอดทั้งสามของขอบเขตเสินโหยวได้ตามเหล่ากองทัพไปอย่างเงียบๆ พวกเขาค่อนข้างเร็วมากและหายไปซ่อนตัวอยู่ในกองทัพเหล่านั้น ซึ่งเจียงอี้ที่กำลังวิ่งตรงมาที่นี่ไม่สามารถมองเห็นพวกเขาได้
“ตาย ตาย ตาย!”
ในขณะที่เจียงอี้กำลังพุ่งไปอย่างป่าเถื่อน ทหารที่อยู่รอบๆต่างถูกแรงกดดันจากเจตจำนงสังหารทำให้เคลื่อนไหวไม่ได้ มีเพียงเหล่าแม่ทัพเท่านั้นที่สามารถเคลื่อนไหวได้ แต่เมื่ออยู่ภายใต้การโจมตีรูปแบบเต๋า พวกเขาก็ไม่สามารถต้านทานมันได้เลย บุคคลเพียงผู้เดียวกำลังบุกฝ่ากองทัพสองแสนคนแต่กลับรู้สึกราวกับว่าไม่มีผู้ใดจะสามารถหยุดเขาได้
ปึง! ปึง! ปึง!
เสียงกลองรบของอาณาจักรเสินหวู่เริ่มเปลี่ยนการตีกลองเป็นหนักสลับเบา จู่ๆกองทัพที่วิ่งมาก็เปลี่ยนรูปแบบค่ายทัพของพวกเขาและไม่ได้รีบพุ่งไปที่เจียงอี้อีกต่อไป แต่พวกเขากลับตั้งเจียงอี้เป็นศูนย์กลางและร่นถอยกลับไปสร้างวงกลมล้อมเขาห่างไปหลายร้อยเมตรจากศูนย์กลาง และแน่นอนว่าทหารหลายร้อยนายที่ถูกตรึงไว้โดยเจตจำนงสังหารหมู่ของเจียงอี้ก็ยังคงอยู่ที่เดิม
ฟึ่บ ฟึบ!
แทบจะในเวลาเดียวกัน ผู้บัญชาการขอบเขตเสินโหยวหลายร้อยคนรวมตัวกันปล่อยแก่นแท้พลังไปยังเจียงอี้จากระยะไกลซึ่งมันจะเป็นการหยุดยั้งการโจมตีของเจียงอี้ พวกเขา....ไม่สนใจชีวิตของทหารอาณาจักรเสินหวู่ที่ถูกตรึงไว้รอบข้างเจียงอี้เลย
ฟึ่บ ฟั่บ!
ด้วยลำแสงของแก่นแท้พลังที่ปล่อยออกมาที่เขาอย่างไม่สิ้นสุด เจียงอี้ก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยุดยั้งความรุนแรง เขาปล่อยเพลิงโลกาออกมาจากไข่มุกวิญญาณเพลิงอย่างต่อเนื่องเพื่อกันการโจมตีที่เข้ามานี้ ก่อนที่จะคิดพิจารณาเรื่องอื่นๆ
“อ๊ากก! อ๊ากกกกก!”
เมื่อเพลิงโลกาถูกปล่อยออกมา ทหารที่ถูกตรึงไว้ก็ถูกเผาด้วยความร้อนทันทีและจะเปล่งเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชออกมา
ปัง ปัง! ปัง! ปัง!
แก่นแท้พลังหลายสายนับไม่ถ้วนที่เหินไปจุดนั้น เปลี่ยนทหารที่ไม่ได้ถูกไฟไหม้กลายเป็นคนตายที่ถูกแยกออกเป็นชิ้นๆ ในที่สุด แก่นแท้พลังก็พุ่งเข้าไปยังเพลิงโลกาทำให้มันระเบิดและลดกำลังลงอย่างรวดเร็ว เจียงอี้อาจมีเพลิงโลกาเป็นเครื่องป้องกัน แต่การระเบิดที่เกิดจากการโจมตีจากแก่นแท้พลังสร้างคลื่นกระแทกขนาดใหญ่ซึ่งทำให้เลือดของเขาเดือดพล่านและทำให้อวัยวะต่างๆต้องกระตุก
แม่ทัพแห่งอาณาจักรเสินหวู่นั้นเป็นบุคคลที่มีความสามารถ และช่างเป็นคนที่ใจเหี้ยมนัก!
เจียงอี้ถอนหายใจด้วยความรวดร้าว กองทัพนั้นเปลี่ยนรูปแบบในทันทีและคำสั่งนี้ถูกส่งลงมาโดยตรง การไม่สนใจชีวิตของทหารไม่กี่ร้อยนายนั้น มันย่อมไม่ใช่ความเป็นผู้นำที่เซี่ยอู๋หุ่ยมีเป็นแน่
หลังจากการโจมตีระลอกแรกหยุดลง เขาก็รีบเดินไปข้างหน้าทันทีขณะที่มีมังกรเพลิงสองตัวพุ่งเข้าหากองทัพ เขาต้องรีบเข้าไปอยู่ท่ามกลางกองทัพ มิฉะนั้น เมื่อเพลิงโลกาของเขาหมดลง เขาจะถูกฉีกเป็นชิ้นๆทันที
สามร้อยเมตร สองร้อยเมตร....อีกร้อยเมตร!
เมื่อเห็นทหารด้านหน้าถูกปกคลุมด้วยเจตจำนงสังหารหมู่และเคลื่อนที่ไม่ได้อีกครั้ง เขาก็ปล่อยความโล่งใจออกมา อย่างน้อยในครั้งนี้ก็มีผู้บัญชาการขอบเขตเสินโหยวอยู่ใกล้ๆและพวกเขาคงจะไม่เปลี่ยนค่ายทัพและรวมตัวกันฆ่าผู้บัญชาการทั้งหมดเหล่านี้ไปด้วยหรอก ใช่ไหม?
“ย๊า!”
ดวงตาของเขาเพ่งเล็งไปยังผู้บัญชาการทั้งห้าขณะที่มังกรเพลิงกำลังรวมตัวกับดาบมังกรเพลิงในขณะที่อากาศรอบข้างค่อยๆเริ่มพัด เขากำลังเตรียมที่จะปล่อยวิชาการต่อสู้แบบผสมผสานเพื่อฆ่าเหล่าผู้บัญชาการเหล่านี้
“หืม?”
ในขณะนั้นเอง ก็มีเงาสามเงาเคลื่อนไหวอยู่ในกองทัพ หนึ่งในนั้นใช้ค้อนยักษ์ทุบลงที่พื้นพร้อมกับเกิดสิ่งแปลกประหลาดเกิดขึ้น
ผืนดินไม่ได้กลายเป็นรูขนาดใหญ่ ในทางกลับกันราวกับว่ามีหินยักษ์ชนเข้ากับทะเลสาบ ผืนดินสั่นสะเทือนตลอดเวลาและค่อนข้างปล่อยคลื่นที่รุนแรงออกมา ทหารที่พลังด้อยกว่าต่างโซซัดโซเซและล้มลงไปนั่งที่พื้นและเจียงอี้ก็เสียสมดุลของเขาไปเช่นกัน
การโจมตีรูปแบบเต๋าสวรรค์!
คำพูดนั้นเปล่งอยู่ภายในใจของเจียงอี้ในขณะที่เขาตระหนักได้ทันทีว่าบุคคลนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวขั้นสูงสุดที่คอยซุ่มโจมตีอยู่ หากผู้เชี่ยวชาญผู้นี้ยังไม่บรรลุไปถึงขั้นสูงสุดของขอบเขตเสินโหยวแล้ว เขาจะไม่สามารถเข้าใจรูปแบบเต๋าสวรรค์ได้
เขาดึงสติของตัวเองกลับมาและพยายามควบคุมร่างกายเพื่อเตรียมที่จะกระโดดขึ้นไป แต่ในอีกด้านหนึ่งก็มีบุคคลสองคนที่บินผ่านอากาศไปด้วยความเร็วสูง หนึ่งในนั้นกำลังจะยิงแสงสีม่วงออกมาจากนิ้วซึ่งไม่มีแม้แต่การโจมตีของแก่นแท้พลัง มันคือสายฟ้า!
ฟึ่บ ฟั่บ!
สายฟ้านั้นเร็วเกินไป มันโจมตีไปที่เจียงอี้และเขาก็รู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่าจริงๆ เส้นผมบนร่างกายทั้งหมดองเขานั้นตั้งเด่ออกมาในขณะที่เขารู้สึกว่ามันถูกเผาจนเกรียม ร่างของเขาเซไปมาขณะที่ตาขาวเกลือกกลิ้งเรื่อยๆ ซึ่งมันไม่ต่างจากผู้ที่ถูกฟ้าผ่าจริงๆเลย
นี่ก็เป็นอีกรูปแบบของเต๋าสวรรค์!
เจียงอี้ได้กลิ่นถ่านในร่างกายของเขาแล้วก็ตกใจ ของมองตรงไปที่ผู้เชี่ยวชาญคนสุดท้ายที่เหินมาและเห็นเขากวัดแกว่งดาบโค้งซึ่งส่องประกายด้วยแสง ซึ่งเห็นได้ชักว่ามันเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยม
ทันใดนั้น ใบมีดที่โค้งยาวก็แยกลงมาและปล่อยเงาของหัวสิงโตยักษ์ซึ่งคำรามออกมาพร้อมความปรารถนาที่จะฉีกเจียงอี้ออกเป็นชิ้นๆในขณะที่เจียงอี้รู้สึกได้กลิ่นความตาย
ข้าจะลองเสี่ยงดู! สวรรค์ อวยพรให้ข้าด้วย!
ความเร็วของเจียงอี้นั้นช้าเกินไปและร่างกายของเขาก็ยังมึนงงและเคลื่อนไหวไม่ได้ เขายังคงมีเพลิงโลกาเหลืออยู่บ้างแต่บุคคลนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวขั้นสูงสุดซึ่งกำลังใช้สิ่งประดิษฐ์ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้ เขารู้ดีว่ายังไงเพลิงโลกาของเขาก็จะไม่สามารถป้องกันการโจมตีที่ร้ายแรงนี้ได้
เขาไม่มีทางเลือกนอกจากใช้กระบวนท่าที่สิ้นหวังนี้ ดวงจิตวิญญาณของเขามีเปลวไฟที่ลุกโชนและโชติช่วง ก่อนที่เงาของหัวสิงโตที่เกิดขึ้นโดยสิ่งประดิษฐ์ดาบโค้งจะสามารถเข้าถึงเขาได้ จู่ๆร่างของเขาก็จางหายไป
ศาสตร์แปรผันดวงจิต!