ตอนที่ 5 : มื่อใดที่คุณหนูสี่เรียนรู้การวาด?
Power Up Artist Yang!
แม้ว่ายูเจี๋ยจะตั้งใจแน่วแน่มากเพื่อที่จะพูดคุยกับนายท่านของตระกูลหยางเกี่ยวกับการยกเลิกพิธีการหมั้นระหว่างเธอกับตระกูลหยู สิ่งนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเหมือนที่เธอจินตนาการ
เธอไม่จำเป็นต้องก้าวออกจากห้องก่อนที่เธอจะรู้ตัวว่าไม่มีทางที่เธอจะสามารถโน้มน้าวเจ้านายเก่าให้ยุติการหมั้นได้ เพื่อเริ่มต้นสิ่งต่างๆ หากการพูดคุยจะทำได้ ยู๋เจี๋ยคนเก่าก็คงจะไม่คิดลองทำก่อนที่เธอจะตัดสินใจหันไปหาเหล้าแน่ เห็นได้ชัดว่านี่เป็นสถานการณ์ที่ยูเจี๋ยพูดอะไรไม่ได้
ประการที่สองตามที่ฮุ่ยเอ๋อกล่าวว่าการแต่งงานครั้งนี้อาจเป็นสิ่งที่คนอื่นถือว่าเป็นที่ยอมรับ ไม่มีเหตุผลใดที่ยูเจี๋ยจะไม่แต่งงานกับเจ้านายใหญ่ของตระกูลหยู เธอเป็นลูกนอกสมรสคนที่สี่ในตระกูลหยางและสำหรับคนที่ชอบเธอ ตำแหน่งที่ดีที่สุดที่เธอจะได้รับจะเป็นภรรยาน้อยของผู้ชายบางคน บางคนอาจคิดว่าเธอโชคดีคนร่ำรวยในฐานะเจ้านายใหญ่ของตระกูลหยูเต็มใจที่จะรับเธอเป็นภรรยา
ริมฝีปากของยูเจี๋ยบิดไปมาตามความคิดและเธอกำศีรษะอย่างหงุดหงิด ในฐานะคนที่ข้ามมาจากสังคมสมัยใหม่มากกว่าความเชื่อ ยูเจี๋ยไม่เต็มใจแต่งงานกับแมงดาเก่าอย่างแน่นอน – นั่นเป็นการทำร้ายเธอจริงๆ! เธออยากจะใช้ชีวิตโสดและเป็นอิสระมากกว่า แต่ในยุคนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นแนวคิดต้องห้าม
ยูเจี๋ยหยุดเดินแล้วหันหลังกลับ ฮุ่ยเอ๋อมองไปที่ยูเจี๋ยอย่างประหลาดใจ
“คุณหนู คุณจะไม่ไปคุยกับนายท่านแล้วหรือ?”
“อะไรคือประเด็น?” ยูเจี๋ยถอนหายใจแล้วหันกลับไปนั่งที่โต๊ะเล็ก เธอเคาะนิ้วบนไม้ใช้ความคิดวางกลยุทธ์แก้ปัญหาที่พอเป็นไปได้ให้หลุดพ้นจาการหมั้นนี้ หลังจากนั้นครู่หนึ่งเธอหันหน้ากลับไปหาฮุ่ยเอ๋อ ความคิดใหม่เกิดขึ้นในใจ “ฮุ่ยเอ๋ ก่อนหน้านี้เจ้าบอกว่าข้าได้รับเบี้ยเลี้ยง ข้าได้รับเบี้ยเลี้ยงมากเท่าไหร่?”
นับนิ้วของเธอสักพัก ฮุ่ยเอ๋อหักลบ “ประมาณสิบตำลึงทุกครึ่งปีเจ้าค่ะคุณหนู ค่ากินอยู่ของท่านนั้นเป็นของส่วนรวมเรียบร้อยแล้ว อันนี้นับเป็นเบี้ยเลี้ยงพิเศษให้คุณหนู”
เพียงแค่สิบตำลึงรึ? ยู่เจี๋ยไม่รู้ว่ามูลค่าของสกุลเงินในโลกนี้ทำงานอย่างไร แต่สิบตำลึงไม่ได้ดูเหมือนเป็นจำนวนที่สูงมาก บางทีมันอาจเป็นเพราะจริงๆแล้วหยางยูเจี๋ยเป็นลูกนอกสมรส
“อืม…งั้น ถ้าข้าจะ…มีชีวิตอยู่กับเงินนั้นโดยไม่ได้ครอบคลุมค่าครองชีพฉันจะอยู่รอดได้นานแค่ไหน”
"คุณหนูท่านคิดอะไรอยู่เหรอ?" คิ้วของสาวใช้ยูเจี๋ยเลิกขึ้นสูงอย่างสงสัย "ท่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น"
ยูเจี๋ยยกนิ้วขึ้น “สมมุติ ฮุ่ยเอ๋อ สมมุติ”
ฮุ่ยเอ๋อลังเลครู่หนึ่งก่อนจะตอบ “ถ้าอย่างนั้น....อาจอยู่ได้แค่สามเดือน ถ้าท่านใช้อย่างประหยัดที่สุดต่อวัน”
สามเดือน? แค่นั้นมันไม่พอ!
“แต่คุณหนู” ฮุ่ยเอ๋อพูดต่อ “คืนก่อนท่านใช้ไปครึ่งตำลึงเพื่อซื้อไวน์ และก่อนหน้านั้นท่านใช้สามตำลึงซื้อสิ่งอื่นๆสำหรับตัวท่าน....เช่นด้ายและผ้าไหมเพื่อปัก...ท่านจำไม่ได้รึ? ดังนั้นหากท่านนับที่ใช้ทั้งหมด อย่างน้อยที่สุดท่านเหลือเพียงหกตำลึงเท่านั้น ไม่มากก็น้อย อย่างมากถ้าท่านพยายามใช้ชีวิตท่านให้รอดจะมีเวลาเพียงสองเดือนเท่านั้น”
สองเดือน? เลวร้ายลงไปอีก!
ยูเจี๋ยกำกำปั้นแน่น ทำไมหยางยูเจี๋ยคนก่อนถึงมีปัญหาในการจัดการเงินของเธอ? ‘อย่างน้อยเธอน่าจะทิ้งเงินทั้งหมดสิบตำลึงนั่นไว้ เอาละ...’
“เอาละ ฮุ่ยเอ๋อ ข้าขอบอกเจ้าว่าข้ากำลังคิดอะไรอยู่” ยู่เจี๋ยทัดผมที่ใบหนู “ต่อจากนี้ไปก่อนถึงพิธีแต่งงานกับครอบคัวหยู และอะไรก็ตาม ข้าจะเก็บเงินทั้งหมดของข้าเพื่อที่ข้าจะสามารถสำหรับหยุดการแต่งงาน ฟังเข้าท่าไหม?”
ฮุ่ยเอ๋อมองที่ยูเจี๋ยอย่างไม่เชื่อ คุณหนูสี่เป็นบ้าไปแล้วหรือ? ทำไมนางถึงคิดว่าจะละทิ้งความช่วยเหลือจากครอบครัว ถึงมันจะเล็กน้อยแต่นั่นคือ? “แต่คุณหนู วันแต่งงานได้กำหนดแล้วว่าเป็นวันที่สิบหกของเดือนถัดไป ปฏิทินบอกว่าเป็นวันที่เป็นมงคลที่สุดในการแต่งงาน ดังนั้นเป็นเหตุให้นายท่านตัดสินใจที่จะจัดงานวันนั้น”
“เดือนหน้า?” ยูเจี๋ยสะดุ้ง “นั่นไม่เร็วเกินไปหน่อยเหรอ?”
ฮุ่ยเอ๋อส่ายหัวของนาง
สูดหายใจลึก ๆ ยูเจี๋ยกัดกระพุ้งแก้มและโบกมือของเธอ "มาลองหาเงินกันเถอะ" เธอมองไปรอบ ๆ ห้องเพื่อค้นหาวัสดุที่คุ้นเคยซึ่งอาจกำลังนอนอยู่ที่ใดที่หนึ่งข้างนอกนั่น "บอกมา ฮุ่ยเอ๋อ ... มีแปรงและหมึกรึเปล่า? หรืออะไรก็ตามที่ใช้ในการวาด? "
ฮุ่ยเอ๋อคิดอยู่ครู่หนึ่ง เท่าที่เธอรู้คุณหนูสี่ของนางไม่เคยวาดหรือเรียนรู้วิธีการ - ดังนั้นทำไมนางถึงสนใจเรื่องแปลก ๆ อย่างกะทันหัน? เมื่อเช้าวันที่คุณหนูสี่ตื่นขึ้นมา นางทำตัวเหมือนคนอื่นโดยไม่รู้ตัวเลย ฮุ่ยเอ๋อคิดว่าเป็นความจริงที่ว่าคนหนูสี่ของนางอาจจะยังคงไม่ฟื้นตัวจากอาการเมาค้างของเธอและกลับมาเป็นคนเงียบขรึม แต่ยิ่งนางคิดถึงมันมาก พฤติกรรมของคุณหนูเหมือนกับคนแปลกหน้า
อย่างไรก็ตามฮุ่ยเอ๋อเชื่อฟังคำสั่งของคุณหนูสี่และมุ่งหน้าออกจากห้องเพื่อหาม้วนกระดาษและแปรงเพื่อให้เธอใช้
เพียงไม่กี่นาทีก่อนที่ฮุ่ยเอ๋อจะกลับมาพร้อมถืออุปกรณ์ในมือของเธอ เธอวางแปรงและหมึกพิมพ์อย่างระมัดระวัง เริ่มที่จะฝนหินหมึก และเติมน้ำเพื่อสร้างหมึก หมึกมีราคาถูกที่สุดและคุณภาพต่ำที่สุดในครัวเรือน แต่มันจะถูกใช้ทำงานในขณะนี้
เมื่อเห็นวัสดุดวงตาของยูเจี๋ยสว่างขึ้นและเธอหยิบแปรงขึ้นมาหมุนมันไว้ในมือของเธอ เท่าที่เธอจำได้พู่กันเหล่านี้ที่ฮุ่ยเอ๋อนำมาให้เธอ ดูคล้ายกับพู่กันจีนที่เคยใช้ในโรงเรียนสอนศิลปะในช่วงปิดเทอมที่พวกเขาศึกษาศิลปะวัฒนธรรม แม้ว่ามันจะดูเหมือนทศวรรษที่ผ่านมาว่ายูเจี๋ยเรียนรู้วิธีการเลียนแบบรูปแบบของศิลปินเก่า เธอยังสามารถผ่านการวาดภาพมาอย่างดี ทำไมแค่นี้จะไม่สามารถ?
จุ่มแปรงลงในหมึก ยูเจี๋ยเหวี่ยงข้อมือของเธอและทำสิ่งแรก เครื่องหมายตัวหนาบนม้วนกระดาษบาง ๆ
ฮุ่ยเอ๋อมองด้วยความสงสัยและความประหลาดใจ ใจของเธอยังคงพยายามที่จะรวมสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน คุณหนูสี่ดูเหมือนมืออาชีพ ยืนและเอนตัวไปมาบนกระดาษ การเคลื่อนไหวของนางแม่นยำและสะอาดตา แม้ว่าฮุ่ยเอ๋อไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับการวาดภาพ แต่นี่ก็ชัดเจนสำหรับทุกคนที่การเคลื่อนไหวของคุณหนูสี่ไม่ใช่คนที่ไม่เคยหยิบพู่กันมาก่อน!
เกิดอะไรขึ้น? เมื่อไหร่ที่คุณหนูสี่เรียนรู้วิธีการวาด? ทำไมนางถึงวาดได้ในคราแรก? พวกเขาไม่ได้พูดถึงค่าครองชีพของนางเมื่อสองนาทีก่อนใช่ไหม?
ฮุ่ยเอ๋อนั้นสับสนมากขึ้นกว่าเดิม