ตอนที่แล้วSB:ตอนที่ 5 ตระกูลเซวียถอนหมั้น
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปSB:ตอนที่ 7 ความเละเทะอย่างสมบูรณ์แบบ

SB:ตอนที่ 6 ลู่หยาง ปะทะ หลี่ยี่


SB:ตอนที่ 6 ลู่หยาง ปะทะ หลี่ยี่

“ยิ่งไปกว่านั้น ขุนนางท่านนั้นถึงกับมอบสุนัขป่าจันทราเงินให้กับข้า ฮ่าๆ ลู่หยางเจ้านี่ช่างโง่เขลาจริงๆ

เดิมทีแล้วทั้งหมดนี่ควรเป็นเจ้าที่ได้รับมัน เจ้าต้องโทษตัวเจ้าเองที่โง่เขลาและซื่อเกินไป” ยิ่งหลี่ยี่พูด เขายิ่งลำพองใจ เขามองไปที่ลู่หยางราวกับมองคนโง่ปัญญาอ่อน ในความคิดเขา ตราบเท่าที่เขาได้เงิน เขายอมสละทุกอย่างบนโลกใบนี้

บัดนี้ เขาไม่กลัวที่จะเปิดเผยความจริงที่ว่าลู่หยางถูกลอบสังหาร เพราะบัดนี้เขาเป็นถึงผู้ฝึกอสูร เขาจะทำอะไรก็ได้ และไม่มีใครกล้าที่จะวิจารณ์เขา

“สวรรค์ ความจริงเป็นเยี่ยงนี้นี่เอง เจ้าหลี่ยี่คนนี้ช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน ช่างน่ารังเกียจจริงๆ”

“เหตุใดตระกูลเซวียเราถึงได้ยกบุตรสาวให้คนทรยศเช่นนี้”

“ชู่วว อย่าลืมว่าตอนนี้หลี่ยี่มันเป็นผู้ฝึกอสูร ถ้าเจ้ามีเรื่องกับมันเจ้าไม่ตายดีแน่” ดูหลี่ต้าซวงเป็นตัวอย่างสิ

“..”

ผู้คนเมืองชิงหยางล้วนเป็นคนธรรมดา แม้รับรู้ความจริงแต่พวกเขาก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไร

“ฮึ่ม” จะถกเถียงกันไปทำไม บัดนี้หลี่ยี่เป็นเขยตระกูลเซวียแล้ว ข้าไม่ต้องการได้ยินข่าวลือเหล่านี้อีกต่อไป” สีหน้าเซวียเซิงก่างบิดเบี้ยวเขาอดไม่ได้ที่จะตวาดใส่ชาวบ้านที่กำลังวิจารณ์เขา ยิ่งไปกว่านั้นภายใต้คำสั่งของหลี่ยี่สุนัขป่าเห่าขู่ไปที่เหล่าฝูงชน ปากแดงเลือดของมันทำให้คนเสียวไปถึงสันหลัง หากนายมันไม่รั้งมันไว้ มันคงกระโจนไปกัดกินผู้คนแล้ว

“ฮึ่ม เจ้าเอาสัตว์เดรัจฉานมาเป็นเขยแล้วยังลำพองใจอีก สักวันมันจะทรยศเจ้า” ลู่หยางอดก่นด่าไม่ได้เมื่อเห็นท่าทีของเซวียเซิง คนอย่างหลี่ยี่ที่ขายเพื่อนได้เพื่อเพียงแค่เม็ดยา มันก็ขายแม้กระทั่งภรรยาหรือพ่อของมันได้เพื่อสิ่งที่มันต้องการ

“เจ้าเด็กเหลือขอ หยุดพูดไร้สาระเดี๋ยวนี้” เมื่อเซวียเซิงได้ยิน ตาของมันกระตุกไปชั่ววูบ เพื่อที่จะอยู่ในแคว้นเซียงหยางต่อ เพื่อที่จะพัฒนาหน้าที่การงานของเขา เขาจะสนใจเรื่องพวกนี้ไม่ได้

การพัฒนาของพรรคมนุษย์และวิชาฝึกอสูรจะต้องถูกต่อต้านโดยพวกสัตว์อสูร ทั่วทั้งทวีป สัตว์อสูรปรากฏขึ้นเป็นบางครั้ง ในเมืองเล็กๆการป้องกันอ่อนด้อยอย่างชิงหยาง มีแต่คนสามัญชนธรรมดา เมื่อไรก็ตามที่ฝูงอสูรจู่โจม เมืองจะถูกถล่มทันที เรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้นเป็นประจำแทบจะทุกวันบนทวีป

แคว้นที่มีพรรคมนุษย์ที่แข็งแกร่งเท่านั้นถึงสามารถต้านการบุกและปกป้องชีวิตของผู้คนจากเหล่าอสูรได้ ทว่าจำนวนของพรรคมนุษย์มีมากมายแต่พื้นที่อยู่อาศัยมีจำกัด เหล่ายอดฝีมือหัวกะทิเท่านั้นที่จะได้สภาพแวดล้อมที่ดี ในแคว้นของพรรคมนุษย์ค่าที่อยู่อาศัยนั้นสูงเสมอซึ่งสามัญชนคนธรรมดาไม่สามารถจ่ายได้ไหว

ดูอย่างแคว้นเซียงหยาง ค่าที่พักอย่างต่ำก็ร้อยตำลึงเงินต่อตารางเมตร บ้านหลังที่เล็กที่สุดก็ห้าสิบตารางเมตร คิดเป็นราคาห้าพันตำลึงเงิน

ทว่า นักฝึกอสูรนั้นแตกต่างออกไป คนอย่างหลี่ยี่ผู้เป็นนักฝึกอสูร แม้มันไม่มีเงินพอจะซื้อบ้านแต่มันสามารถหยิบยืมจากแคว้นเซียงหยางได้ มันสามารถครอบครองบ้านได้ทันที

นี่คืออภิสิทธิ์ของนักฝึกอสูร ยิ่งนักฝึกอสูรมีวิชาแก่กล้า มันก็ยิ่งได้รับอภิสิทธิ์สูงขึ้น สามัญชนไม่มีโอกาสนี้ หากพวกมันต้องการบ้าน พวกมันต้องจ่ายด้วยเต็มราคาไม่มีข้อแม้

ดังนั้นเพื่อที่จะประจบหลี่ยี่ เขาตัดสินใจยกเลิกการหมั้นหมายกับลู่หยางทันที กระทั่งเซวียหลิงหลิงก็ไม่ปฏิเสธ เพราะนางเองก็ต้องการชีวิตที่มั่นคง

“เจ้าหาที่ตายแล้ว” หลี่ยี่สีหน้ามืดมนเมื่อถูกลู่หยางเปรียบกับสัตว์เดรัจฉาน มันจ้องมองไปที่ลู่หยางอย่างเย็นชาด้วยจิตฆ่าฟัน

“ลู่หยาง เจ้ายังไม่เข้าใจรึ เจ้าเป็นเพียงสามัญชน แต่ข้าเป็นถึงนักฝึกอสูรถ้าข้าต้องการสังหารเจ้านั้นง่ายยิ่งกว่าขยี้มดให้ตาย”

“โอ้ เช่นนั้นรึ?” รืมฝีปากลู่หยางยกยิ้มขึ้นเยาะเย้ย

“แม้ข้าไม่ต้องการก่อเรื่อง แต่ข้าคิดว่าเจ้าควรรับรู้สถานะของเจ้า ยังไม่สายที่เจ้าจะก้มหัวขอโทษยอมรับผิดต่อข้า ไม่เช่นนั้น ข้าจะให้เจ้าได้ตามรอยหลี่ต้าซวงซะ” เมื่อเห็นลู่หยางยังไม่ยอม ความโกรธแค้นหลี่ยี่พุ่งขึ้น น้ำเสียงเขาแฝงจิตฆ่าฟัน สัตว์เลี้ยงสงครามของมันส่งเสียงคำรามประกาศศักดาร่วมกับเจ้านายมันทำให้ฝูงชนล่าถอยด้วยความกลัว

“พระเจ้า นี่คือพลังของสัตว์อสูรหรอกรึ แค่เสียงคำรามมันก็ทำให้ข้ากลัวจนหัวหดแล้ว”

“ดูที่กรงเล็บของมัน ข้าว่าแม้แต่นักล่าที่แกร่งที่สุดในเมืองชิงหยางยังต้องพ่ายแพ้”

“เฮยะ ลู่หยางจบเห่แล้ว สุนัขป่าของหลี่ยี่พึ่งกัดแขนหลี่ต้าซวงออก”

“ลู่หยาง เจ้าอย่าพึ่งวู่วาม”

ชาวบ้านบางคนที่ไม่ต้องการเห็นการนองเลือดกล่าวเตือน เพราะสถานะของนักฝึกอสูรนั้นสูงส่ง ฆ่าคนเพียงไม่กี่คนไม่ใช่เรื่องใหญ่ ไม่มีใครทวงความยุติธรรมเพื่อคนอ่อนแอ

“อ๊า หยาง อย่าวู่วามนัก” บุตรชายของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อย และสามารถสังหารสัตว์อสูรที่แข็งแกร่งได้ แต่นางไม่คิดว่าลู่หยางจะสามารถต่อกรกับสัตว์ที่น่ากลัวอย่างอสูรดุร้ายนี่ได้

“อ๊า หยาง มานี่เร็วเข้า นั่นเป็นสุนัขป่าที่กัดแขนท่านลุงซ่วงขาดนะ” ป้าหวังตกใจกลัว เธอไม่ต้องการให้เด็กคนนี้ตาย เขาอายุแค่16!

“ท่านแม่ ป้าหวัง ไม่ต้องการ มันก็แค่สัตว์ป่า ข้าเอามันอยู่!” ลู่หยางส่ายหัว เขาไม่แตกตื่นต่อหน้าสุนัขป่าจันทราเงิน

“ฮ่าๆ เจ้าขี้โม้อย่างน่าไม่อาย” เจ้าคิดว่ามันเป็นเพียงแค่สุนัขธรรมดางั้นรึ ข้าจะบอกให้ว่านี่คือ สุนัขป่าจันทราเงินของแท้ โอ้อย่างเจ้าน่ะฆ่าได้แค่กระต่ายเท่านั้นแหละ” หลี่ยี่เย้ยเยาะ

“เจ้าเด็กนี่โอหังเกินไป หลี่ยี่แสดงให้มันเห็นความน่ากลัวของอสูรคลั่ง” เซวียเซิ่งก่างทนดูได้ เจ้าเด็กนี่โอ้อวดเหลือเกิน

“ลู่หยาง อย่าไร้เดียงสา นี่ไม่ใช่เหยื่อที่เจ้าเคยล่าเหมือนเมื่อก่อน”เซวียหลิงหลิงส่ายหัว นางรู้สึกว่าลู่หยางยังเด็กเกินไป

“ต้าเฮย ฉีกเจ้าสัตว์ป่านี่ให้เป็นชิ้นซะ” ลู่หยางไม่สนใจคนเหล่านี้ และออกคำสั่งแก่ต้าเฮยที่อยู่ข้างๆ

“ฮ่าๆ นี่ข้าฝันไปรึ” เจ้าจะใช้หมาอ่อนแอในตระกูลเจ้ามาต่อกรกับสัตว์เลี้ยงสงครามของข้า?”เมื่อเห็นต้าเฮยออกมา หลี่ยี่เยาะเย้ย

ผู้คนโดยรอบต่างตะลึงงัน ใครไม่รู้จักสุนัขต้าเฮยของตระกูลลู่บ้าง? แม้มันจะดุร้ายเล็กน้อยแต่สัตว์สงครามของหลี่ยี่นั้นเป็นอสูรร้ายโดยแท้ ไม่ว่าสัตว์จะดุแค่ไหน มันก็จะถูกฉีกเป็นชิ้นๆต่อหน้าอสูรสงครามของหลี่ยี่เพียงแค่กระบวนท่าเดียว

ลู่หยางมันโง่รึ?

ลู่หยางส่งสุนัขต้าเฮยออกมา เจ้าควรรู้ว่าสุนัขของหลี่ยี่นั้นเป็นสัตว์อสูรร้ายโดยแท้

“ฆ่าสัตว์เลี้ยงสงครามของมัน ถือว่าเป็นดอกเบี้ยสำหรับข้า”ลู่หยางเย้ย

ฮ่าๆแม้ข้าไม่รู้ทำไมต้าเฮยมันถึงตัวโตเช่นนี้ ยังไงมันก็เป็นเพียงแค่สุนัขอ่อนแอ วายุเงินฉีกมันให้เป็นชิ้นๆซะ”

หลี่ยี่โมโหเมื่อเห็นลู่หยางไม่เกรงกลัวซ้ำยังจะฆ่าสุนัขสงครามของเขา

เพราะสุนัขป่าจันทราเงินมันรวดเร็วมาก หลี่ยี่จึงตั้งชื่อให้มันว่าวายุเงิน

“อู๋ว !” เมื่อได้รับคำสั่ง มันคำรามอย่างตื่นเต้นและกระโจนไปที่ต้าเฮยอย่างดุร้าย มันรวดเร็วมากทุกคนต่างหลับตาลง สุนัขธรรมดาจะไปสู้ความเร็วนั่นได้อย่างไร พวกมันมองภาพออกว่าต้าเฮยจะถูกฉีกเป็นชิ้น ขณะที่หลี่ยี่มีสีหน้าเย้ยหยัน มันมั่นใจในวายุเงินของมันมาก

ว่ากันตามตรงมันถือเป็นการหยามเกียรติ์ที่จะให้วายุเงินของมันไปจัดการกับสุนัขบ้าน แต่เขาไม่สนใจ แค่ต้องการให้ทุกคนตะลึง เขาต้องการให้ลู่หยางตกใจกลัวและคุกเข่าลงขอโทษและเสียใจที่ต่อกรกับนักฝึกอสูรอย่างเขา

“ฮ่าๆ”เมื่อคิดได้ดังนี้หลี่ยี่หัวเราะออกมา เขาไม่สนใจการต่อสู้เลยด้วยซ้ำ เขาจ้องมองไปที่หน้าของลู่หยางมันคาดหวังจะเห็นสีหน้าตกใจกลัวของลู่หยาง ทันใดนั้น มันรู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ ลู่หยางมันยังยิ้มอยู่ตลอดเวลาไม่มีสีหน้าหวาดกลัวอย่างที่มันอยากจะเห็น เดี๋ยวนะ ทำไมเสียงร้องมันเหมือน มันเหมือน...

เป็นวายุเงินที่ถูกต้าเฮยข่มอยู่ ต้าเฮยมีสายเลือดปราชญ์แม้จะเพียงน้อย แต่ก็เพียงพอที่จะข่มวายุเงินได้

“เป็นไปได้อย่างไร!” ราวกับหลี่ยี่ถูกบีบคอ มันพูดไม่ออก มันตะโกน“เป็นไปไม่ได้!”

“ฮึ่ม ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ เจ้าทรยศ ขโมยความสำเร็จของข้าเพื่อเป็นนักฝึกอสูร บัดนี้เจ้าใช้พลังของนักฝึกอสูรทำร้ายข้าและครอบครัว เจ้าสมควรตาย ข้าจะจัดการกับเจ้า ข้าอยากรู้ว่านักฝึกอสูรแน่แค่ไหน เจ้าอย่ามาโอหังแถวนี้” ลู่หยางมองที่หลี่ยี่ด้วยจิตฆ่าฟัน