ตอนที่แล้วบทที่ 25 ผู้ที่คาดไม่ถึง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 27 แขกไม่ได้รับเชิญ

บทที่ 26 แย่งชิงบอส


บทที่ 26  แย่งชิงบอส

เมนี่ได้มอบหมายงานให้กับหัวหน้าสาขา 1 เพื่อที่จะให้เขากระจายแผนของเธอไปยังหัวหน้าสาขาต่างๆ โดยหัวหน้าสาขา 1 บอกแค่หน้าที่หลักเท่านั้นว่า หัวหน้าสาขาใด ควรทำอะไร

เขาจะไม่บอกหน้าที่ของสาขา 2 ให้สาขา 3 ฟัง ก็เพราะว่า ในทุกๆสาขา ย่อมมีสายสืบอยู่ในกิลด์ สายสืบพวกนี้ ยากที่เราจะจับตัวมันได้ พวกเขาเหล่านี้ ย่อมถูกฝึกเรื่องการเป็นสายสืบมาเป็นอย่างดี บุคลิกนิสัยของพวกคนเหล่านี้ย่อมทำตัวได้แนบเนียน

ซาโดบังคับ 007ZA เดินตามหลัง BloodyRose ไปตามพุ่มหญ้า ต้นไม้ โดยการก้าวเดินของพวกเขาในครั้งนี้ เน้นการปิดบังตัวมากกว่าการจะเข้าถึงตัวกลุ่มของ วาย ให้ได้ไวที่สุด พวกเขาไม่อาจคาดเดาได้ว่า นอกจากวายและเอสแล้ว จะมีนักกีฬาอาชีพคนใดที่ดักซุ้มอยู่อีกใน Map นี้

ส่วนทางฝั่งของลูกกิลด์สาขาต่างๆ เริ่มปะทะกันนัวเนียแล้ว กิลด์ RBM สาขาระดับล่าง เริ่มทำตัวเป็นกำแพง สกัดกลุ่มกิลด์ระดับTop ที่คาดว่าจะมีนักกีฬาอาชีพปรากฏตัวขึ้น

ทำให้ทางฝั่งกิลด์ของ 3HL เริ่มตั้งตัวขึ้นมาได้บ้างจากการโดนรุมอยู่ตั้งนาน แต่จำนวนประชากรของ 3HL เหลือจำนวนน้อยเป็นอย่างมาก แม้จะตั้งตัวได้แล้วในขณะนี้

วายเริ่มสังเกตเห็นแล้วเช่นกันในขณะสู้กับฮาร์ปปี้ ความผิดปกติของกิลด์ RBM ที่กำลังทำอยู่ในตอนนี้ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมา เขาถึงกับพอรู้ตัวแล้วว่า กลุ่มของ RBM กำลังทำการวางแผนแย่งบอสจากเขา แต่จะมีกลุ่มใดอีกบ้าง นอกจาก RBM

เหมยที่ได้รับมอบหมายหน้าที่ให้สกัดอัศวินของเอสไว้  ไม่ได้ตามเมนี่และซาโดไปตามพุ่มไม้ เธอเดินออกไปทางขวา และหาจังหวะเหมาะๆ เพื่อลอบโจมตีอัศวินของเอส

ค้อนในมือขวาของ IceRose ยกขึ้น พร้อมกับมวลสายฟ้าที่อัดแน่นอยู่ภายในค้อน เมื่อค้อนกระทบกับพื้น สายฟ้าที่อยู่ภายในค้อนก่อตัวเป็นลูกศร มุ่งจู่โจมไปยังกลุ่มของเอสทันที สกิลนี้มีชื่อว่า ศรสายฟ้า

ความเร็วในการเคลื่อนที่ของศรสายฟ้า นับว่าเร็วพอๆกับไม้กวาดควงสว่านของแม่มด แต่ศรสายฟ้าเส้นนี้ถูกใช้ออกมาในแนวเรียดดิน เพื่อทำให้คู่ต่อสู้สังเกตุศรสายฟ้าเส้นนี้ได้ยากยิ่งขึ้น

แต่อีกฝั่งก็นักกีฬาอาชีพเช่นกัน ความสับปลับเช่นนี้ย่อมเจออยู่บ่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้เล่นหญิงหรือผู้เล่นชาย ย่อมมีความสับปลับอยู่ในตัวเองทั้งนั้น

อัศวินของเอสมีหน้าที่คุ้มครองและสนับสนุนการโจมตีป้องกันต่างๆ เขาเห็นศรนี้เคลื่อนไหวพุ่งเป้ามาที่เขาเป็นคนแรก จากนั้นไม่กี่วินาที วายและขุนช้างเหลือบไปเห็นศรนี้เช่นกัน

แต่มีมือดีระดับขั้นพระกาฬช่วยคุ้มครองเอาไว้อยู่ เพียงศรสายฟ้าเส้นเดียวมิอาจเข้าถึงตัวพวกเขาอย่างแน่นอน

ระหว่างศรสายฟ้ากำลังพุ่งเข้ามา Unsteady เตรียมยกโล่ขึ้นป้องกันแล้ว แต่ทว่าศรสายฟ้าเส้นนี้กับเปลี่ยนเส้นทางเอาดื้อๆ

เอาจริงๆ คือ แฉลบมากกว่า เพราะ สกิลศรสายฟ้าไม่ใช่ สกิลประเภทพวก วายุมังกรคู่ ที่จะสามารถบังคับทิศทางได้จากตัวผู้เล่น

มันเป็นสกิลประเภทเดียวกันกับลำแสงคู่ขนานของนักดาบคู่ แต่การใช้งานมันออกมาคราวนี้ กลับเล็งเห็นก้อนหินที่มีขนาดไม่ใหญ่กองอยู่ตามMap เพื่อใช้มันเปลี่ยนทิศทางของสกิล

ในเมื่อมันแฉลบไปแล้ว อัศวินสายป้องกันที่เคลื่อนไหวได้ช้า จะไปตามทันสายฟ้าได้อย่างไร ทางเดียวที่ทำได้ คือ พิมพ์ “ระวัง”

หลังจากรีบเคาะข้อความออกไป หากสายฟ้าเส้นนี้พุ่งเป้าไปที่ Tear วายคงบังคับตัวละครหลบไปได้ทัน แต่สายฟ้าเส้นนี้ดันแฉลบไปทาง Mammoth ซะอย่างนั้น

ขุนช้างจะหลบได้ทันหรือ ? ไม่ทันแน่นอน พวกเขาเคยร่วมทีมกันครั้งแรก ยังไม่ได้รู้ใจกันอะไรขนาดนั้น แล้วการจะรู้ใจกันกับขุนช้าง เป็นเรื่องง่ายเสียที่ไหน

ดีไม่ดี คำว่า “ระวัง” ที่เอสพิมพ์ออกไป อาจทำให้สถานการณ์ของขุนช้างแย่ลงหรือดีขึ้นยังไม่รู้เลย

ตู๊มมมมมมมมม !!

ศรสายฟ้าแฉลบใส่ Mammoth เข้าเต็มๆ วายที่ผูกติดความเกียจชังไว้กับบอส ระหว่างต่อสู้เขาก็เห็นสถานการณ์ทั้งหมด แต่ช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ

ตัวของ Mammoth ลอยกระเด็นไป เอสมองเห็นถึงทิศทางที่ Mammoth ลอยไป จึงรีบบังคับตัว Unsteady วิ่งเข้าไปคุ้มครองอย่างรวดเร็ว แต่ทว่าไม่ทัน เงาหนึ่งโฉบออกมาจากพุ่มไม้ มาพร้อมกับการล็อคคอ

Unsteady วิ่งเข้ามาสุดชีวิต แต่ก็ดูเหมือนไม่ทันการ ระเบิดเวทย์มนตร์ถูกปาทิ้งไว้ตรงหน้าของอัศวิน

Tear ที่กำลังต่อสู้กับฮาร์ปปี้อยู่ สบโอกาสเข้าช่วยMammoth ทวนยาวแทงเข้าใส่ฮาร์ปปี้ สกิลแทงกระชาก การกระชากครั้งนี้ ไม่ได้กระชากลงพื้น เขากระชากไปทางฝั่งของ 007ZA ที่ทำการล็อคคอขุนช้างเอาไว้อยู่

แต่ด้วยแรงจากการกระชากบอส มันยังมีความเร็วไม่เพียงพอ เพราะบอสมีการป้องกันสถานะในระดับสูง แต่เทพแห่งสงคราม ย่อมมีความเทพในขณะออกศึก เรื่องแค่นี้วายย่อมรู้ และเขาก็เตรียมการมาอย่างดีแล้ว

สกิลพยัคฆ์ขาวพุ่งชนใช้งานออกมา พุ่งชนใส่ฮาร์ปปี้ที่กำลังลอยไปทางฝั่งของ 007ZA เท่านี้แรงพุ่งก็เพิ่มสูงมากถึงหลายเท่า

แต่ทางฝั่งของซาโด ก็มีเทพปกปักคุ้มครองอยู่เช่นกัน หลังจากเมนี่ขี่ไม้กวาดออกมาและทิ้งระเบิดเวทย์มนตร์ขัดขวางอัศวินไว้ชั่วขณะ  สกิลไม้กวาดปัดเป่า ถูกใช้งานออกมาในทันที

ร่างของฮาร์ปปี้ลอยมา ไม้กวาดปัดขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็ว แต่ผลของสกิลพยัคฆ์ขาวพุ่งชนยังไม่หมด หลังจาก BloodyRose ปัดฮาร์ปปี้ขึ้นฟ้าไปแล้ว สิ่งที่ต้องรับมือต่อจากนี้ คือ พยัคฆ์ขาวพุ่งชน

ในจุดนี้เมนี่ก็เตรียมการมาอย่างดี ไม้กวาดควงสว่านถูกใช้งานตามต่อ ความรุนแรง การกระแทก ของทั้ง 2 สกิลต่างเท่ากัน เมื่อพุ่งชนกันอาจะกระเด็นไปด้วยกันทั้งคู่

ตู้มมมมมมมมมมมมมมม !!

ไม้กวาดควงสว่าน ปะทะกับ พยัคฆ์ขาวพุ่งชน แล้วก็กระเด็นจริงๆ ทั้ง Tear และ BloodyRose ต่างกระเด็นถอยหลังตามกันไป แต่ร่างของ Tear กระเด็นไปไกลมากกว่า เพราะใช้ผลของ พยัคฆ์ขาวพุ่งชนใส่ฮาร์ปปี้ไปแล้ว

ขณะพุ่งชนะกันเสร็จ มีร่างหนึ่งตกลงมายังพื้นดิน HP ลดฮวบ เหลือเพียง 32% เท่านั้น ทุกคนต่างรีบหันไปดูร่างนี้ แล้วก็เห็นอย่างรวดเร็ว ร่างของคนคนนั้นก็ คือ Mammoth

ร่างของเขาตกลงมายังพื้นดิน ไม่มีใครแปลกใจที่ร่างของเขาตกลงมา แต่ที่แปลกใจ คือ HP ลดไปเยอะเป็นอย่างมาก ผู้เล่นไม่สามารถทำดาเมจได้ไวขนาดนี้ แต่บอสสามารถทำได้

ซึ่งก็คือในจังหวะที่โดนล็อคคอ และเมนี่ส่งร่างของฮาร์ปปี้ไปบนฟ้า ซาโดเล็งเห็นโอกาสนี้จึงทำการส่งขุนช้างไปหาฮาร์ปปี้เสียเลย ด้วยฮาร์ปปี้ที่เป็นนก เมื่อมันลอยขึ้นฟ้าไปสูงเกินที่ระบบกำหนด ตัวของมันจะสามารถกลับมาตั้งหลักได้ทันที พร้อมระเบิดพลังลม ปัดเป่าผู้เล่นที่เข้าใกล้มัน

Mammothโดนส่งขึ้นไปในจังหวะนั้นพอดิบพอดี ด้วยดาเมจจากการล็อคคอ หมัดอัปเปอร์คัตมีผล *2 และแรงระเบิดจากบอสย่อมรุนแรง เมื่อโดนเข้าไป ตัวละครหล่นลงมาบนพื้นอย่างหนักหน่วง ดาเมจจึง * ไปอีก 1.5 เท่า

การโจมตีจากบอสในขณะอยู่บนฟ้า ไม่ใช่ว่าใครๆก็สามารถจะเก็บตัวได้ทัน เพราะแรงพุ่งมันสูงมาก ยิ่งเป็นการระเบิดแบบ Auto แรงพุ่งยิ่งสูง ไวเสียยิ่งกว่าการขี่ไม้กวาดในระดับสูงสุด

Unsteady รีบวิ่งปรี่เข้าช่วย Mammoth แต่ก็ถูก IceRose เตรียมเข้าสกัดไว้

สกิลค้อนคลื่นเสียง ใช้งานออกมา เพื่อชะลอการเคลื่อนที่ ค้อนตีลงบนพื้นเกิดแรงสั่นสะเทือน ทำให้ Unsteady หมอบลงไปกับพื้นช้าๆ

อัศวินไม่ใช่ว่ามีพลังป้องกันสูงแล้วจะเป็นแค่กระสอบทรายรอให้คนทุบตีเท่านั้น  สกิลเกราะทองคำ เปิดใช้งาน ต้านดาเมจ 50% และไม่ได้กระทบใดๆทั้งสิ้นเป็นเวลา 2 วินาที

ชุดสวมใส่ของ Unsteady เปลี่ยนเป็นสีทองชั่วคราว เหมยรู้ทันทีว่า สกิลเกราะทองคำถูกใช้งานออกมาแล้ว แต่เธอก็ถอยไม่ได้ เพราะว่าหน้าที่ของเธอ คือ ตัดอัศวินคนนี้ให้ห่างออกจากวาย

“เกราะทองคำแล้วไง แค่ 2 วินาทีเท่านั้น” เหมยนึกในใจ

IceRose วิ่งเข้าใส่พร้อมควงค้อนในมือขวาอย่างรวดเร็ว สกิลติดตัวของช่างเหล็ก เจาะเกราะ

หากทำการควงค้อนได้นานเท่าไหร่ และทำการโจมตีออกไปภายในระยะเวลาที่กำหนด ค้อนอันนี้จะทำการเจาะเกราะคู่ต่อสู่  อัศวินที่มีพลังป้องกันสูง หากรับเข้าไปเต็มๆ อาจจะจุกและเจ็บตัวหนักได้เหมือนกัน

เมื่อทำการควงค้อนแล้ว ก็ต้องรีบโจมตี อย่าให้การควงค้อนในครั้งนี้หมดผลประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง

ร่างของ IceRose วิ่งเข้าจู่โจมอย่างรวดเร็ว เป้าหมายจะเป็นใครไม่ได้ ถ้าไม่ใช่อัศวิน สกิลค้อนสลาตัน เปิดใช้งานตามติด  เงาค้อนยักษ์ปรากฏขึ้นตรงส่วนศีรษะของ IceRose

เป็นค้อนที่กำลังทำการฟาดลงมาใส่อัศวิน เอสก็ไม่มีทางเลือกมากนัก สายป้องกัน คือ ต้องแบกดาเมจจากการโจมตีไว้เสมอ แต่บางครั้งถ้าดาเมจหนักเกินไป ก็ไม่คุ้มค่าแก่การแบก

เอสไม่มีความลังเล สกิลโล่สะท้อนถูกใช้งานออกมา ด้านหน้าโล่แปลเปลี่ยนเป็นเพชร เหมยรู้ตัวอย่างรวดเร็ว จึงรีบกดยกเลิกสกิลสลาตันอย่างรวดเร็ว เหมยไม่กล้าแบกรับผลสะท้อนอันหนักหน่วงเช่นนี้ได้จริงๆ

ในเมื่อเหมยหยุดการโจมตี เอสจึงได้โอกาสสวนคืน สกิลพุ่งชนเปิดใช้งานออกมาอย่างรวดเร็ว ร่างของ Unsteady วิ่งออกไปด้านหน้าพร้อมกับโล่ในมือซ้ายของตน

แม้จะมีโล่บังทัศนวิสัยด้านหน้า แต่ระบบก็ทำการแปลงโล่อันนี้ให้เป็นโล่ที่ล่องหนในขณะใช้สกิลโล่กระแทก เพราะจะสามารถทำให้ผู้เล่นที่บังคับตัวละครอัศวิน มองเห็นสิ่งต่างๆขณะยกโล่ขึ้นมากระแทกได้

หลังจากเพชรปรากฏบนหน้าโล่ของ Unsteady เหมยก็รู้ตัวทันทีแล้วว่า สกิลโล่สะท้อนได้ถูกใช้งานออกมาแล้ว พุ่งชนก็ตามมาติดๆ  เธอต้องตกเป็นฝ่ายตั้งรับแน่นอน ทว่าเหมยก็ไม่เลือกที่จะหนี เพราะหน้าที่ของเธอ คือ ตัดขาดการเชื่อมต่อของเอสกับวาย

สกิลกายเหล็กถูกใช้งานออกมา พร้อมรับแรงกระแทกอันนี้เอาไว้ ผลจากการพุ่งชนไม่สามารถทำให้ IceRose กระเด็นกลับหลังได้ อีกทั้งยังเสริมพลังป้องกันจากเกราะเหล็กถึง 30% และเสริมพลังโจมตี 5%

ทางฝั่งของขุนช้าง หลังจาก Mammoth หล่นลงมาบนพื้นอย่างหนักหน่วง เขาไม่มีเวลาพิมพ์ไปหาซาโดเลย ในใจของเขากำลังเครียดแค้นซาโดเป็นอย่างมาก

อุส่ามีน้ำใจชวนเข้าปาร์ตี้ของเทพแห่งสงคราม ไม่เข้าไม่ว่า แต่ดันมาลอบโจมตีตนซะอย่างนั้น ยังไม่พอ ยังส่งตนไปหาฮาร์ปปี้อีกด้วย

เสร็จจากงานนี้ต้องเคลียร์กันให้รู้เรื่องแล้ว แต่ตอนนี้ยังไม่มีเวลา เพราะสถานการณ์ทางฝั่งของตนไม่สู้ดีนัก

ขุนช้างกำลังมึนงงจากการโดนฮาร์ปปี้สอยร่วงบนพื้น เอาจริงๆโดยฝีมือของเขาก็สามารถเก็บตัวได้ทันจากการโจมตีโดยฉับพลันของฮาร์ปปี้คราวนี้

แต่ทว่าเขารู้สึกช็อคไปชั่วขณะกับเรื่องของซาโดอยู่ครู่หนึ่ง ที่แอบเล่นงานเขาทีเผลอ เขาไม่คิดว่าไอ้คนที่เขาเรียกว่าน้องชายได้เพียงแค่ 2 ครั้ง กลับมาทำร้ายเขาได้รวดเร็วขนาดนี้

แต่จะทำไงได้ บนสนามรบหากไม่ใช่ปาร์ตี้เดียวกันหรือกิลด์เดียวกัน ก็สามารถต่อสู้กันได้หมด ถึงแม้ว่านอกจอจะเป็นเพื่อนกันก็ตาม

Mammoth หล่นลงไปบนพื้นเก็บตัวไม่ทัน ซาโดที่ล็อคคอขุนช้างแล้วโยนไปให้บอส ก็สามารถลงถึงพื้นก่อนได้อย่างปลอดภัย ซาโดไม่มีทางปล่อยให้ขุนช้างได้ตั้งหลักทันอย่างแน่นอน คนล้มต้องรีบกระทืบซ้ำ ก่อนที่เขาจะใช้ก้าวพริบตาหนีออกไปได้

สกิลท้าสู้เปิดใช้งานออกมาทันที และ BloodyRose ก็บินมาทางตนเช่นกัน การบินมาครั้งนี้มารวดเร็วเป็นอย่างมาก บินมาพร้อมกับไม้กวาดที่ติดไปด้วยไฟ ทั้งๆที่เมื่อครู่กระเด็นไปพร้อมกับ Tear อยู่แท้ๆเลย

แต่ Tear ยังไม่สามารถเข้ามาช่วยเหลือตนได้ทัน เพราะอะไรถึงวายมาไม่ทัน? ง่ายเลยๆ อย่างแรก วายยังโดนฮาร์ปปี้ผูกความเกียจชังเอาไว้ อย่างที่2 สำคัญกว่า แม่มดขี่ไม้กวาดย่อมมีการเคลื่อนที่ที่เร็วกว่าวาย อย่างที่3 ผลของการกระแทก Tear โดนกระแทกไปไกลกว่า

จริงๆแล้ววายไม่ได้เคลื่อนที่ช้า แต่เป็นเมนี่ต่างหากที่เคลื่อนที่ได้รวดเร็วเกินไป เทพแห่งแสง ย่อมไม่ได้มาง่ายๆหากไม่รวดเร็วเหมือนแสงจริงๆ

ระหว่าง Bloody Rose ขี่ไม้กวาด ลูกบอลพลังวิญญาณ ลูกบอลพลังเวทย์มนตร์ได้เข้าจู่โจมสกัด Tear เอาไว้ เพื่อไม่ให้เข้ามาช่วยเหลือ Mammoth

วายสามารถแบกดาเมจจากสกิลกระจอกๆนี้ได้ แต่วายไม่สามารถรับสกิลกระจอกๆนี้เอาไว้ เพราะถ้าหากรับสกิลพวกนี้ไป ตัวละครจะเกิดอาการหยุดชะงักและถอยหลังไปเล็กน้อย เรื่องดาเมจนั้นจิ๊บจ๊อย

จากนั้นหละ? ฮาร์ปปี้มันไม่ยืนดูเฉยๆอย่างแน่นอน และการเคลื่อนที่ไป หลบหลีกไป จะเข้าช่วยเหลือขุนช้างได้ไวกว่าเมนี่งั้นหรือ? ไม่มีทาง ขุนช้างรู้ชะตาชีวิตตัวเองแล้ว วายและเอสก็รู้ชะตาชีวิตของขุนช้างเช่นกัน

ไม่ใช่ว่าขุนช้างเล่นไม่ดี แต่ทางฝั่งของเมนี่ที่รับซาโดเข้ามา มีความเข้าขามากกว่าฝั่งของวายที่รับขุนช้างเข้าไป อีกอย่างคือ เมนี่ไม่ได้ผูกติดกับบอสเหมือนทางฝั่งของวาย

จังหวะนี้วายหมดหนทางจริงๆ การเจอกับเมนี่ เป็นอะไรที่รับมือยากมาก อัศวินก็โดนเกาะติดอยู่ตลอดเวลาโดยช่างเหล็กของเหมย

Mammoth ล้มลงอย่างรวดเร็ว วายสั่งให้ เอส ถอยกลับมาป้องกันตนอย่างรวดเร็ว

แม้ในตอนนี้ ฮาร์ปปี้จะเหลือ HP ไม่มากเท่าไหร่ แต่การทำดาเมจหลักๆคนเดียว และมี 2 นักกีฬาอาชีพ กับอีก 1 ว่าที่นักกีฬาอาชีพในอนาคตคอยก่อกวน มันยากเป็นอย่างยิ่งที่ตนจะสามารถเก็บบอสตนนี้เอาไว้ได้

แต่เทพสงครามจะยอมแพ้งั้นหรือ? ไม่มีทาง ยิ่งสถานการณ์ฝั่งตนเสียเปรียบเท่าไหร่ ศักยภาพของวายจะแสดงออกมามากเท่านั้น ตอนนี้ยังคาดเดาได้ยากว่าวายจะแพ้

ขุนช้างที่กลับไปเกิดยังเมือง Prisoner Tower  ต้องรออีก 30 นาทีกว่าตนจะสามารถออกไปสู้รบกับอีกฝั่งได้

หลังจากการตายใน Map แล้ว จะต้องรอ 30 นาที ถึงสามารถฟื้นฟู HP กลับมาได้เป็นปกติ และยังติดสถานะยมทูตหลอกหลอนบนศีรษะ มีผลให้เคลื่อนที่ช้าลง 50%

ยังไงแล้วขุนช้างก็ไม่สามารถกลับไปช่วยวายได้ทัน จึงระบายความคับแค้นใจออกไปหาซาโดทันที

“ไอ้น้องเลว นายแทงข้างหลังฉัน ฉันอุส่าไว้ใจนาย ฉันอุส่าชวนนายเข้าปาร์ตี้ท่านเทพสงคราม แต่ดูนายทำกับฉัน” และยังมีอีกสารพัดมากมาย

ซาโดที่เห็นแชทจุดสีแดงขึ้นทางช่องแชท ก็ไม่ได้เปิดอ่านใดๆ เพราะเขาสามารถคาดเดาได้เลยว่า แชทนี้ ต้องเป็นของงขุนช้างอย่างแน่นอน ไว้ค่อยอ่านทีหลังจะดีกว่า

ตอนนี้แม้จะอยู่ในสถานการณ์ 3-2 แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ อีกฝั่งคือนักกีฬาอาชีพ แล้วไม่รู้ว่ายังมีใครคอยดักซุ่มอยู่ระแวกนี้หรือเปล่า

ส่วนทางฝั่งลูกกิลด์ต่างๆ ก็ตีกันเองอย่างเมามัน เพื่อปกป้องนักกีฬาอาชีพของทางฝั่งตนเอง ไม่ให้มีใครเข้าถึงตัวของพวกเขาได้

กิลด์ของเมนี่ก็เริ่มไม่ไหวจากการเริ่มโดนรุมโดยหลายๆกิลด์ สาขา 1 ทีแรกจะให้มากำจัดบอส กลับต้องเปลี่ยนแผนเป็นคุ้มกันวงนอกแทน ส่วนเรื่องบอสและวาย คงต้องเป็นพวกเธอที่ต้องลงมือกำจัดเองแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด