เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 874 สังหารในกระบวนท่าเดียว (อ่านฟรี)
เทพปีศาจหวนคืน บทที่ 874 สังหารในกระบวนท่าเดียว (อ่านฟรี)
แปลโดย iPAT
ท่ามกลางผู้บุกรุก คนที่ฟางหยวนต้องการเผชิญหน้ามากที่สุดก็คือ เซี่ยซ่งซื่อ
เหตุผลก็คือเซี่ยซ่งซื่อมีพลังการต่อสู้ต่ำที่สุดในกลุ่ม
นอกจากนั้นฟางหยวนยังเคยต่อสู้กับเซี่ยซ่งซื่อมาก่อน ครั้งนั้นเซี่ยซ่งซื่อถูกรุมทำร้ายโดยกองทัพภูตมนุษย์ของฟางหยวนกระทั่งอยู่ในสภาพที่น่าสมเพช
กล่าวได้ว่าเซี่ยซ่งซื่อเคยพ่ายแพ้ให้กับฟางหยวนมาก่อน ดังนั้นฟางหยวนจึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับเซี่ยซ่งซื่อเป็นอย่างดี
“แต่ข้าไม่สามารถประมาทในการต่อสู้ครั้งนี้” ฟางหยวนมองเซี่ยซ่งซื่อผ่านกระจกและไม่ได้ดูแคลนศัตรู
ราชสีห์จะใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดเพื่อล่ากระต่าย ฟางหยวนก็เช่นกัน
สิ่งสำคัญก็คือฟางหยวนมีความกังวลมากมาย
ประการแรก นี่ไม่ใช่การต่อสู้ตัวต่อตัว หากฟางหยวนลงมือ ฝ่ายตรงข้ามสามารถเรียกกำลังเสริมได้อย่างรวดเร็ว
ประการที่สอง พลังการต่อสู้ของเซี่ยซ่งซื่ออาจเพิ่มสูงขึ้นจากก่อนหน้า
ในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา ผู้อมตะไม่สามารถใช้วิญญาณระดับมนุษย์ แต่เซี่ยซ่งซื่อสามารถมาถึงที่นี่ นั่นหมายความว่าเขาต้องมีวิญญาณอมตะอย่างน้อยหนึ่งดวง
เรื่องนี้เห็นได้ชัดจากความเร็วในการเคลื่อนที่ของเขา
“ข้าต้องวางแผนและซุ่มโจมตีเพื่อให้แน่ใจว่าข้าจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ กระทั่งกำลังเสริมของเขาจะมาถึง ความเสี่ยงของข้าก็ต้องอยู่ในระดับต่ำ” ฟางหยวนเริ่มวางแผนชั่วอย่างรวดเร็ว
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วิญญาณความคิดชั่วสามารถช่วยเหลือได้มาก
เซี่ยซ่งซื่อเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น
‘นี่คือความแตกต่างระหว่างวิญญาณอมตะกับวิญญาณระดับมนุษย์ ช่างน่าตื่นเต้นนัก’ เซี่ยซ่งซื่อเพ่งจิตเข้าไปในมิติช่องว่างของตนและรู้สึกมีความสุข
ในมิติช่องว่างของเขามีวิญญาณอมตะที่เรียกว่าหัวใจน้ำแข็งพำนักอยู่
วิญญาณอมตะหัวใจน้ำแข็งไม่ใช่ของเซี่ยซ่งซื่อแต่เขายืมมาจากฉินไป่เฉิง
ในการบุกแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา แน่นอนว่านิกายเงาต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับสมาชิกของพวกเขา
ฉินไป่เฉิงไม่เพียงมอบวิญญาณอมตะระดับหกดวงนี้ให้กับเซี่ยซ่งซื่อแต่เขายังมอบท่าไม้ตายอมตะอีกหลายท่าที่ใช้วิญญาณอมตะหัวใจน้ำแข็งเป็นแกนกลาง
เซี่ยซ่งซื่อบ่มเพาะอยู่บนเส้นทางแห่งหิมะ แต่เส้นทางแห่งหิมะกับเส้นทางแห่งน้ำแข็งเป็นเส้นทางที่ไม่สามารถแยกจากกัน ดังนั้นวิญญาณและท่าไม้ตายบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งจึงถือว่าเหมาะสมกับเซี่ยซ่งซื่อเป็นอย่างมาก
วิญญาณอมตะหัวใจน้ำแข็งปลดปล่อยกลิ่นอายอันหนาวเย็นออกมาแต่หัวใจของเซี่ยซ่งซื่อกลับเต็มไปด้วยความเร้าร้อนและหลงใหล
ฉินไป่เฉิงสัญญากับเซี่ยซ่งซื่อว่าหากภารกิจประสบความสำเร็จ เขาจะมอบวิญญาณอมตะบนเส้นทางแห่งน้ำแข็งให้เป็นรางวัล
ดังนั้นเซี่ยซ่งซื่อจึงเต็มไปด้วยแรงกระตุ้น ตั้งแต่เข้ามาในแดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา เขาทำงานอย่างกระตือรือร้น
ก่อนหน้านี้เพื่อวิญญาณอมตะไก่ไม้ เขาทุ่มเทความพยายามทั้งหมดแต่กลับไม่ได้รับสิ่งใดตอบแทน
ตอนนี้เขามีโอกาสได้รับวิญญาณอมตะหัวใจน้ำแข็ง มันยังเหมาะสมกับเขามากกว่าวิญญาณอมตะไก่ไม้ แล้วเขาจะปล่อยโอกาสนี้ไปได้อย่างไร
“หอคอยเมฆา!” เซี่ยซ่งซื่อหยุดเท้าและอุทานด้วยความตื่นเต้น
หอคอยสูงปรากฎขึ้นในมุมมองสายตาของเซี่ยซ่งซื่อ “ผู้ใดจะคิดว่าข้าจะโชคดีพบมันจริงๆ”
ภารกิจที่เซี่ยซ่งซื่อได้รับในครั้งนี้ก็คือค้นหาหอคอยเมฆาและทำลายมัน
“หากข้าสามารถทำลายมัน ข้าจะได้รับรางวัลและผลประโยชน์มหาศาล แต่หอคอยเมฆาได้รับการปกป้องโดยสัตว์อสูรเดียวดาย ข้าต้องระวัง” เซี่ยซ่งซื่อสงบจิตใจลง
ราวกับตระหนักถึงความคิดของเซี่ยซ่งซื่อ สัตว์อสูรเดียวดายกระโดดลงมาจากหอคอยเมฆาทันที
มันก็คือราชสีห์อำพันที่ฟางหยวนจับมาจากถ้ำสวรรค์นภาแห่งดาวและมอบให้กับจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
ราชสีห์อำพันเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าที่ไร้เสียงตรงไปยังเซี่ยซ่งซื่อด้วยความเร็วสูง
‘จังหวะนี้!’ เซี่ยซ่งซื่อก้าวถอยหลังและสะบัดมือส่งพายุหิมะออกไป
นี่ไม่ใช่ท่าไม้ตายระดับมนุษย์แต่เป็นท่าไม้ตายอมตะหิมะเย็นจัด
ท่ามกลางพายุหิมะ ราชสีห์อำพันแทบไม่สามารถเปิดเปลือกตาขึ้น
ร่างกายของมันถูกกัดกร่อนด้วยน้ำค้างแข็งแต่มันยังวิ่งตรงไปข้างหน้า
ท่าไม้ตายหิมะเย็นจัดไม่สามารถจัดการราชสีห์อำพัน มันเพียงลดความเร็วของสัตว์อสูรเดียวดายตัวนี้เท่านั้น
ร่างกายของราชสีห์อำพันไม่ใหญ่โตนักแต่มันมีพละกำลังและความเร็วสูง
เซี่ยซ่งซื่อใช้ท่าไม้ตายนี้ลดข้อได้เปรียบของคู่ต่อสู้
เมื่อเห็นราชสีห์อำพันใกล้เข้ามา เซี่ยซ่งซื่อต้องถอยหลังอีกครั้ง
ท่าไม้ตายอมตะธารน้ำแข็ง!
ธารน้ำแข็งปรากฎขึ้นตามเส้นทางที่เขาล่าถอย
การเคลื่อนไหวของราชสีห์อำพันยิ่งช้าลงเมื่อมันวิ่งเข้าสู่ธารน้ำแข็ง
เซี่ยซ่งซิงหัวเราะ “เดรัจฉาน! รับดาบน้ำแข็งของข้า!”
ดาบน้ำแข็งขนาดใหญ่พุ่งเข้ากรีดเฉือนร่างกายของราชสีห์อำพันและทำให้มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
ราชสีห์อำพันเงยหน้าคำรามขึ้นสู่ท้องฟ้าขณะที่เปลวเพลิงลุกไหม้ขึ้นบนกรงเล็บทั้งสี่ทำให้การเคลื่อนไหวของมันกลายเป็นคล่องแคล่วมากขึ้น
ราชสีห์อำพันครอบครองวิญญาณจำนวนมากเอาไว้ด้วยความตั้งใจของจิตวิญญาณแผ่นดินหลางหยา
เนื่องจากราชสีห์หยกเป็นผู้พิกษ์แดนศักดิ์สิทธิ์หลางหยา มันจึงสามารถใช้วิญญาณเหล่านั้น
แต่พลังงานความเย็นที่ตกค้างอยู่ในร่างกายยังทำให้ความเร็วของมันลดลงไปมาก
สถานการณ์ของราชสีห์อำพันค่อนข้างเลวร้ายย ร่างกายของมันเต็มไปด้วยบาดแผลและเริ่มไอออกมาเป็นลิ่มเลือดน้ำแข็ง
“ฮ่าฮ่าฮ่า ยอดเยี่ยม!” เซี่ยซ่งซื่อหัวเราะเสียงดัง
เขาใช้การต่อสู้ครั้งนี้ทดสอบท่าไม้ตายอมตะที่ได้รับจากฉินไป่เฉิงขณะที่ผลลัพธ์ทำให้เขารู้สึกพึงพอใจมาก
“ต่อไปคือกระบวนท่าสุดท้าย ผนึกหัวใจน้ำแข็ง!” เซี่ยซิงซื่อหยุดล่าถอยแต่พุ่งเข้าไปหาราชสีห์อำพันโดยตรง
ความเร็วของเขาราวกับพญาอินทรีย์ที่พุ่งลงมาขย้ำเหยื่อ
แต่ก่อนที่เซี่ยซ่งซื่อจะเข้าถึงตัวราชสีห์อำพัน โล่แสงกลับส่องประกายขึ้น
“ฮืม ของเด็กเล่น!” เซี่ยซ่งซื่อเย้ยหยันและส่งดาบน้ำแข็งออกไปอีกครั้ง
“ปัง!”
โล่น้ำแข็งพังทลายลงขณะที่ดาบน้ำแข็งเจาะทะลวงเข้าไปในร่างกายของราชสีห์อำพันทำให้มันล้มลงบนพื้นทันที
เซี่ยซ่งซื่อใช้เท้าเหยียบแผ่นหลังของมันก่อนจะวางฝ่ามือทั้งสองข้างตามลงไป
ชั้นน้ำแข็งก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและแช่แข็งราชสีห์อำพันเอาไว้ภายใน
เซี่ยซ่งซื่อคิด ‘ผนึกหัวใจน้ำแข็งช่างทรงพลังนัก มันสามารถแช่แข็งสัตว์อสูรเดียวดายได้อย่างง่ายดาย แต่ท่าไม้ตายนี้ใช้พลังงานอมตะมากเกินไป’
อย่างไรก็ตามในจังหวะนี้เซี่ยซ่งซื่อกลับเกิดความคิดบางอย่าง ‘เหตุใดข้าไม่จับราชสีห์อำพันที่มีชีวิต? ข้าสามารถละลายน้ำแข็งหลังจากขายมันในสวรรค์สีเหลือง ฮ่าฮ่าฮ่า’
ขณะที่เซี่ยซ่งซื่อกำลังฝันถึงอนาคตที่สวยงาม ร่างน้ำแข็งของราชสีห์อำพันกลับระเบิดขึ้นอย่างกะทันหัน
กำปั้นยักษ์พุ่งออกมาคว้าจับเซี่ยซ่งซื่อเอาไว้โดยไม่คาดคิด
เซี่ยซ่งซื่อกลายเป็นมึนงง “นี่คือสิ่งใด? เกราะน้ำแข็ง!”
เกราะน้ำแข็งปรากฎขึ้นบนร่างกายของเขาและเริ่มแช่แข็งกำปั้นยักษ์
เซี่ยซ่งซื่อเผยรอยยิ้มชั่วร้าย ‘ด้วยสิ่งนี้ข้าสามารถทดสอบท่าไม้ตายอมตะสายป้องกันเกราะน้ำแข็ง’
มวลความเย็นระเบิดออกจากร่างของเซี่ยซ่งซื่อและผลักกำปั้นยักษ์ออกไปด้วยแรงมหาศาล
เซี่ยซ่งซื่อต้องการฉวยโอกาสนี้บินหนีไปแต่รอยยิ้มของเขากลับกลายเป็นแข็งค้าง
เหนือศีรษะของเขา กำปั้นยักษ์พุ่งลงมาจากด้านบนด้วยความเร็วสูงขณะที่เซี่ยซ่งซื่อไม่สามารถตอบสนอง
“บึม!”
เซี่ยซ่งซื่อกลายเป็นเศษเนื้อบดไปในพริบตา