ตอนที่แล้วบทที่ 298 เอาชีวิตไปทิ้ง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 300 สายโลหิตสูญสิ้น

บทที่ 299 การต่อสู้ครั้งใหญ่มักจะเริ่มจากเรื่องของสตรี


สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ : แปลได้แล้ว

“รั่วเสวี่ย เจ้าต้องอดทนไว้ให้ได้จนกว่าข้าจะไปถึงนะ!”

ใต้เขตแดนอาณาจักรต้าเซี่ยทางตอนเหนือ ลึกลงไปร้อยกิโลเมตร เจียงอี้กำลังเดินทางด้วยสัตว์อสูรเถาอู้โดยไม่คำนึงว่ามันเป็นกลางวันหรือกลางคืน ดวงตาของเขาแดงก่ำและมีความรู้สึกมากมายที่อัดแน่นอยู่ภายใน

เจียงเปี๋ยหลีเคยกล่าวว่าเจียงอี้เหมือนอีเพียวเพียวที่มีลักษณะบางอย่างคล้ายปีศาจอยู่ในร่างกาย การถูกกดขี่ในวัยเด็กนั้นทำให้ร่างกายของเขาถูกเติมเต็มด้วยกลิ่นอายปีศาจผนวกกับเจตจำนงสังหาร ซึ่งมันได้ส่งผลกับอารมณ์ความรู้สึกของเขา

หากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะไม่ได้หุนหันพลันแล่นเช่นนี้ แต่เมื่อเขาได้ยินเรื่องราวจากหน่วยลาดตระเวนว่าอาณาจักรต้าเซี่ยได้ประกาศยุติการอภิเษกสมรสระหว่างซูรั่วเสวี่ยและเซี่ยอู๋หุ่ยแล้ว เขาก็ได้คลั่งไปโดยปริยาย

อาณาจักรต้าเซี่ยถูกโจมตีโดยจักรวรรดิมังกรเวหาและทั้งห้าอาณาจักร พวกเขาไม่กลัวอาณาจักรเสินหวู่อีกต่อไป ซูรั่วเสวี่ยไม่ต้องแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่หรือโซ่ตรวนการเชื่อมพันธมิตรจากการอภิเษก และช่องว่างระหว่างทั้งสองก็ได้สะบั้นขาดกันโดยสมบูรณ์ดังนั้นเจียงอี้จึงไม่มีอะไรต้องสนใจและมุ่งตรงไปยังเมืองเซี่ยยวี่ทันที

เจียงอี้รู้คุณต่อซูรั่วเสวี่ย และเขาก็หลงรักนางเช่นกัน!

เจียงอี้รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและสิ้นหวังอย่างชัดเจนเมื่อตอนเขาอยู่ที่ตำหนักองค์รัชทายาทอาณาจักรเสินหวู่ เมื่อเซี่ยอู๋หุ่ยประคองมือซูรั่วเสวี่ยไปยังเวทีทองม่วง เขาสามารถมองเห็นความสว่างไสวในดวงตาของซูรั่วเสวี่ยอย่างชัดเจนและความงดงามที่อยู่ในรอยยิ้มของนาง.....และในช่วงที่เขาปรากฏตัวที่งานเลี้ยงราชวังหลวงที่เมืองเซี่ยยวี่เป็นเจ้าภาพ

“ช่วยข้าส่งข้อความบอกใครบางคนทีว่า....ข้าขอโทษ รั่วเสวี่ยทำให้เขาผิดหวัง! หากชาติหน้ามีจริง รั่วเสวี่ยจะตามไปรับใช้เขาชั่วชีวิต”

คำกล่าวสุดท้ายของซูรั่วเสวี่ยทำให้เจียงอี้สัมผัสได้ถึงความรักและความลึกซึ้งที่นางนั้นมีต่อเขา หากเขาไม่ไปหานาง เขาก็เกรงว่าพวกเขาทั้งสองนั้น...จะสามารถพบพานกันอีกคราได้เพียงชาติหน้าจริงๆ

“ซูรั่วเสวี่ย ในภายภาคหน้าหากผู้ใดกล้าที่จะรังแกเจ้า ข้าจะถลกหนังมัน หากตระกูลใดกล้ากลั่นแกล้งเจ้า ข้าจะสังหารมันทั้งตระกูล หากอาณาจักรใดทำร้ายเจ้าข้าจะกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก!”

เจียงอี้ได้เคยให้สัญญาประมาณนี้ไว้แก่ซูรั่วเสวี่ย และตอนนี้เขาก็กำลังจะทำตามสัญญานั้น เพื่อครอบครัวของเขา เขาสามารถเป็นปรปักษ์กับอาณาจักรเสินหวู่ได้ เมื่อเป็นหญิงที่เขารัก เขาก็ไม่ลังเลที่จะเป็นปรปักษ์แม้แต่กับโลกนี้!

ความตายนั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยกลัว

เจียงหยุนไฮ่พร่ำสอนเขามาตั้งแต่น้อย ความตายนั้นเป็นปลายทางของจอมยุทธทุกคนและหากจอมยุทธนั้นกลัวความตาย ในชีวิตนี้พวกเขาจะไม่มีวันมีค่า จอมยุทธที่ไม่ได้ผ่านประสบการณ์อันโชกโชนและความตายจะไม่ถือว่าคนผู้นั้นเป็นจอมยุทธที่แท้จริง

เส้นทางของจอมยุทธคือการเย้ยฟ้าท้าสวรรค์และเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของตนเอง เมื่อเดินมาทางนี้แล้วก็จะต้องไม่หวั่นเกรงกับเคียวของยมทูตเพื่อที่จะได้มีโอกาสได้ก้าวไปยังขั้นสูงสุด

ตอนนี้ มีทหารกว่าล้านนายที่กำลังบุกเข้าไปยังอาณาจักรต้าเซี่ยซึ่งได้มารวมพลกันที่หน้าเมืองเซี่ยยวี่แล้ว กองทัพเหล่านี้อาจไม่มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตจินกังแต่ก็ยังมีขอบเขตเสินโหยวขั้นสูงสุด

ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเจียงอี้นั้นเพิ่งจะเทียบได้กับผู้เชี่ยวชาญเสินโหยวขั้นสูง และด้วยพลังที่รวมกับสิ่งประดิษฐ์แล้ว เขาอาจมีโอกาสที่จะสามารถกำจัดผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเสินโหยวขั้นสูงสุดได้บ้าง ไม่ต้องพูดถึงกองกำลังนับล้านเลย แม้แต่กองทัพที่มีทหารแสนนายก็สามารถบดขยี้เขาให้กลายเป็นฝุ่นได้แล้ว

ที่สำคัญที่สุดคือ...!

ในหมื่นปีที่ผ่านมา นี่เป็นการรวมกำลังพลครั้งแรกของเหล่าผู้มีอิทธิพลมากมาย และมันยังเป็นครั้งแรกที่จักรวรรดิมังกรเวหาเผยเขี้ยวของพวกเขา เจียงอี้เป็นผู้ตรวจการณ์ของจักรวรรดิมังกรเวหาและจักรวรรดิมังกรเวหานั้นก็เป็นหนี้บุญคุณเขามากนัก แต่ในเหตุการณ์ใหญ่เช่นนี้ องค์หญิงหลิงเสวี่ยคงจะไม่มีวันไว้หน้าเขาซึ่งเหมือนกับอาณาจักรอื่นๆ หากเขากล้าที่จะมายังเมืองเซี่ยยวี่ เช่นนั้น....เขาก็ต้องเตรียมพร้อมที่จะยุติสายสัมพันธ์กับจักรวรรดิมังกรเวหาและตั้งตนเป็นศัตรูกับห้าอาณาจักร

เจียงอี้รู้เรื่องนี้อย่างชัดเจน แต่เขาก็ไม่คิดใคร่ครวญใดๆอีกเพราะว่า.....ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุดอยู่ในเมืองเซี่ยยวี่

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่หญิงสาวผู้นั้นรู้สึกอ้างว้างที่สุดและตกอยู่ในช่วงเวลาที่หมดหนทาง นางกำลังจะโยนชีวิตของนางทิ้ง ซึ่งเขาจะต้องไปอยู่ข้างๆนางและถึงแม้ว่าเขาจะไม่สามารถช่วยชีวิตนางได้ แต่เขาก็อยากที่จะตายไปพร้อมกับนาง

เจียงเสี่ยวนู๋ก็ถูกรักษาแล้วในขณะที่เจียงหยุนไฮ่ก็ถูกพบตัวแล้ว และพวกเขาทั้งสองจะอยู่ที่สำนักจิตอสูรได้อย่างปลอดภัย เจียงอี้จึงไม่ต้องกังวลกับผลที่จะตามมาอีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงสามารถตัดสินใจได้อย่างเด็ดเดี่ยว

“มอ มอ!”

เหลืองใหญ่ปล่อยเสียงคำรามออกมาในขณะที่เขาทั้งหกเขาของมันส่องแสงสีเหลืองจ้า ทำให้ดินและหินที่ถูกมันเจาะผ่านกลับกลายเป็นฝุ่นไปจนหมด

อุโมงค์นั้นชื้นมากและความเร็วของเหลืองใหญ่ก็ทำให้เกิดกระแสลมที่รุนแรงซึ่งมันทำให้เสื้อคลุมของเจียงอี้กระพือไปมา ใจของเขาเต้นเร็วมากและกังวลว่าเขาอาจจะไปถึงที่นั่นสายเกินไปหากเขามัวแต่คอยให้เจ้าเหลืองใหญ่ผุดขึ้นมาดูทิศทางจากพื้นผิว เขาคำนวณวันเวลาโดยใช้นาฬิกาที่อยู่ในจิตของเขาเองเท่านั้น

สามวัน!

เขาต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามวันในการไปถึงเมืองเซี่ยยวี่และนี่เป็นเพราะว่าเขาเดินทางใต้ดินเป็นเส้นตรงตัดข้ามหุบเขาสามหมื่นลี้มา หากเขาต้องเดินอ้อมหุบเขา เขาคิดว่าอาจจะต้องใช้เวลามากกว่านั้น

“เร็ว เจ้าเหลืองใหญ่ เร็วกว่านี้อีก!”

เขากระตุ้นให้เหลืองใหญ่ให้เร่งความเร็วไปอย่างต่อเนื่องขณะที่ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันเย็นเยียบ

...

อาณาจักรต้าเซี่ยอยู่ในสภาพที่น่าสังเวชอย่างแท้จริง จักรวรรดิมังกรเวหาและกองทัพทั้งห้าอาณาจักรไม่ได้มุ่งตรงไปยังเมืองเซี่ยยวี่ พวกเขากระจายกันไปอย่างรู้งานและเริ่มกวาดล้างเมืองอื่นๆของอาณาจักรต้าเซี่ยก่อน

จักรวรรดิมังกรเวหาและอีกห้าอาณาจักรนั้นต้องการที่จะดับอาณาจักรต้าเซี่ยให้สูญสลาย ในเมื่อพวกเขาต้องการที่จะพังทลายอาณาจักรและสั่งสอนอาณาจักรต้าเซี่ยด้วยการนองเลือด เช่นนั้นพวกเขาจึงต้องทำให้อาณาจักรสลายไปอย่างสมบูรณ์

ตราบใดที่เมืองอื่นๆนั้นยอมศิโรราบแต่โดยดี พวกเขาก็จะปราศจากการนองเลือดและสมบัติที่เคยเป็นของตระกูลใหญ่ๆนั้นก็จะหายเกลี้ยง แน่นอนว่า....กองทัพเหล่านี้ล้วนมีอารยธรรมและไม่ได้มีความตั้งใจปล้นหรือฆ่าเหล่าไพร่พลคนธรรมดา และพวกเขาไม่ได้ทำลายเมืองจนราบเป็นหน้ากองไป

อย่างไรก็ตาม ในเหตุการณ์เช่นนี้ ประชาชนเกือบล้านคนในอาณาจักรต้าเซี่ยก็ถูกฆ่าตายไปแล้วในขณะที่มีหลายเมืองที่ถูกพังจนย่อยยับ ในบรรดาประชาชนหนึ่งล้านคนนั้น ครึ่งหนึ่งนั้นมาจากกองทัพขณะที่อีกครึ่งหนึ่งเป็นเหล่าจอมยุทธจากตระกูลน้อยใหญ่และคนธรรมดาสามัญที่ถูกฆ่าโดยไม่ได้ตั้งใจ

มีผู้ลี้ภัยหนีออกไปนับไม่ถ้วนซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาหลายคนแห่กันไปที่ตีนเขาสามหมื่นลี้ พวกเขาอาจถูกสัตว์อสูรฆ่าแถวตีนเขา แต่ถ้าหากพวกเขาไม่อพยพออกจากอาณาจักรต้าเซี่ย พวกเขาคงจะถูกกองทัพศัตรูฉีกเป็นชิ้นๆแน่นอน

ในช่วงเวลานั้น เหล่าทัพอาณาจักรต่างๆพากันปล้นอาณาจักรต้าเซี่ยราวกับว่าอาณาจักรต้าเซี่ยนั้นได้กลายเป็นสาวน้อยที่ไร้ทางสู้ซึ่งถูกปู้ยี่ปู้ยำโดยกองทัพเหล่านี้ มีบางเมืองที่ประสบเคราะห์ร้ายซ้ำแล้วซ้ำเล่า หลังจากกองทัพอาณาจักรหนึ่งออกไปแล้วก็จะมีกองทัพจากอาณาจักรอื่นเวียนมาในไม่กี่ชั่วโมงพร้อมกับเสียงควบม้า

กองทหารทั้งหกกองทัพในแต่ละขั้วอำนาจนั้นค่อนข้างฉลาดเพราะไม่มีทัพใดที่โจมตีเมืองเซี่ยยวี่ด้วยตนเอง เมืองเซี่ยยวี่นั้นเป็นป้อมปราการสุดท้ายของอาณาจักรต้าเซี่ยและผู้เชี่ยวชาญทุกคนรวมตัวกันอยู่ในนั้น

กองทัพทั้งหกนั้นเลือกที่จะปล้นเมืองรอบๆอาณาจักรต้าเซี่ยก่อนและเมื่อไม่มีอะไรแล้วจริงๆพวกเขาจะรวบรวมกำลังทั้งหมดและโจมตีเมืองเซี่ยยวี่ด้วยกองทัพของทุกอาณาจักร

มีควันของสงครามอยู่ทั่วดินแดนอาณาจักรต้าเซี่ย เมื่อซูตี๋หวังได้รับรายงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง มีหลายครั้งที่เขาแทบจะหมดสติไป เขาจะทำอะไรได้อีก เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปกป้องเมืองเซี่ยยวี่ไว้ด้วยชีวิตของเขาและรอปาฏิหาริย์หรือไม่ก็รอการถูกกำจัดอย่างสิ้นซาก

เมื่อเที่ยงวันนั้นมาถึง ในที่สุดกองทัพทั้งหกก็ทำลายล้างเมืองทั้งหมดในอาณาจักรต้าเซี่ยไปหมดแล้ว และพวกเขาก็ไม่มีอะไรที่จะปล้นอีกต่อไป

นอกจากเมืองเซี่ยยวี่แล้ว เมืองอื่นๆก็ล่มสลายไปหมด กองทัพทั้งหกพักทัพครึ่งวันและเริ่มเดินทัพตรงไปยังเมืองเซี่ยยวี่ในช่วงเย็นจากทุกทิศทาง เมื่อเมืองเซี่ยยวี่ล่มสลายลง อาณาจักรต้าเซี่ยจะถูกประกาศอย่างเป็นทางการว่าอาณาจักรต้าเซี่ยได้ล่มสลายลงแล้ว

กองทัพทั้งหกนั้นเป็นกองทหารม้าทั้งหมด อาณาจักรเป่ยหมางและอาณาจักรเป่ยเหลียงนั้นต่างก็ขี่สัตว์ประหลาดชนิดต่างๆซึ่งเร็วเหมือนสายลมและเหยียบย่ำอาณาจักรต้าเซ่ยด้วยกีบเหล็กเหล่านั้น ในคืนวันถัดมา กองทหารทัพหน้าที่มาจากสามอาณาจักรได้ถึงนอกประตูเมืองเซี่ยยวี่เป็นที่เรียบร้อย

กองทหารทั้งสามทัพนี้ไม่ได้บุกเข้าไปและกลับตั้งค่ายพักห่างออกไปกว่าสิบกิโลเมตรจากเมืองเซี่ยยวี่แทน พวกเขากำลังเตรียมรอกองทัพที่กำลังจะมาถึงก่อนที่พวกเขาจะโจมตีเมืองเซี่ยยวี่จากทุกทิศทาง

ในช่วงเที่ยงคืน กองทัพก็ได้เริ่มรวมตัวกันอย่างไม่หยุดยั้งในขณะที่เสียงกีบเท้าเหล็กที่หนักอึ้งนั้นดังออกมาเหมือนเสียงเรียกจากยมทูตและทำให้จิตใจของประชาชนหลายล้านคนในเมืองเซี่ยยวี่ต้องสนั่นสั่นไหว

ณ ด้านบนกำแพงเมือง ทหารต้าเซี่ยทุกคนมองลงไปด้านล่างกำแพงเมืองอย่างเงียบๆที่เหล่ากองทัพทหารด้านนอกซึ่งให้ความรู้สึกเหมือนสัตว์ยักษ์ที่จะเขมือบเมืองเซี่ยยวี่ได้ทุกเวลา

การต่อสู้ครั้งใหญ่เริ่มขึ้นได้ทุกเมื่อ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด