ตอนที่ 92 ชายแดนภูเขา (2) [อ่านฟรี]
ตอนที่ 92 ชายแดนภูเขา (2)
ตอนเช้าวันต่อมา
มีทั้งหมดหกทีมมารวมตัวกันที่ทางเข้าหุบเขาซื่อหยาง
ชายหนุ่มหล่อล่ำสวมที่เกราะเปลวไฟสีแดงกำลังยืนด้านหน้าของทั้งหกทีม เขาก็คือซื้อเอ้อร์เหว่ย
"ออกเดินทาง!'
เขาโบกมือ เหยี่ยวนกเขามงกุฎทองคำขนาดใหญ่พลันบินลงมาจากท้องฟ้า
เหยี่ยวนกเขาฯเป็นอสูรที่เทียบได้กับปรมาจารย์ยุทธ์สัตตะสวรรค์ วันหนึ่งเดินทางได้หมื่นลี้ บินได้สูงถึง 10,000 เมตร
"เล่นใหญ่เชียวนะ!"
ทุกคนหวาดหวั่นในใจ
......
สามวันต่อมา ทีมหกทีมเล็กๆพร้อมด้วยนักรบชื่อหยางเก้าคน เดินทางโดยเหยี่ยวนกเขาฯ30,000ลี้ ในที่สุดก็มาถึงสถานที่ทดสอบ
ภูเขาเขียวขจีทอดยาวบนผืนแผ่นดินของพรมแดนรัฐเยียน ราวกับมังกรนอนอยู่เป็นเวลาหลายพันปี
เหยี่ยวนกเขาฯยักษ์หกตัวบินร่อนลง ทั้งหกทีมที่ทะยานตามมาได้มองหน้ากัน แล้วเร่งความเร็วให้ทะยานลึกเข้าไปในภูเขาที่กว้างใหญ่ เพื่อเริ่มทดสอบภารกิจครั้งนี้
หลินหาน ต้วนอู๋หยาและกู่หลิงเอ๋อร์ยังอยู่ตรงสถานที่ที่ห่างไกล
“ที่นี่คือตำแหน่งสุดชายแดนของเขาลูกนี้ หากเราต้องการคะแนนสูงก็ต้องเข้าไปให้ลึกขึ้นแล้วไปสังหารโจรทรงพลัง ไม่เช่นนั้น ฆ่าโจรที่อ่อนแอมากมายเท่าหร่ก็ไม่เพียงพอที่จะได้คะแนนสูงในการทดสอบเจ็ดวันนี้” หลินหานนำแผนที่ที่เตรียมไว้ล่วงหน้าออกมาวิเคราะห์
ในตอนนี้เอง กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งซึ่งมีสมาชิกหกเจ็ดคนโผล่ออกมาจากป่าทึบที่อยู่ด้านข้าง
ผู้นำคือราชาสวรรค์ที่หก จีฉางเล่อ และยังมีราชาสวรรค์ที่เจ็ดและแปด
"แม่นางหลิงเอ๋อร์ ในฐานะที่ข้าเป็นหัวหน้าทีมนี้ ข้าขอเชิญเจ้าเข้าร่วมทีมของเราจากใจจริง ทีมของเจ้าอ่อนแอ ไม่เหมาะที่เจ้าจะอยู่" จีฉางเล่อยังแค้นใจที่หลินหานฟันดาบเฉือนชุดเขาในวันนั้น วันนี้เลยจงใจมาระราน
จีฉางเล่อพูดได้อย่างน่าดึงดูดมาก ทีมเล็กๆของเขามีราชาสวรรค์ที่เจ็ดและราชาสวรรค์ที่แปด ส่วนคนอื่นๆก็มีตบะอย่างน้อยสัตตะสวรรค์ จึงเป็นทีมที่ทรงพลังมาก
หลินหานและต้วนอู๋หยาทำหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อได้ยินเรื่องนี้
สายตาของทุกคนมองไปที่กู๋หลิงเอ๋อร์ หญิงสาวผู้งดงามพราวพร่าง
"ศิษย์พี่จี ข้าจะติดตามแค่ศิษย์พี่หลินหาน เก็บคำเชิญของเจ้ากลับไปเถอะนะ ข้าจะไม่เข้าร่วมทีมอื่นกลางคัน" หลิงกู๋เอ๋อร์สื่อความขยะแขยงอยู่ในดวงตา แล้วไปยืนอยู่ด้านหลังหลินหาน
ภาพนี้ทำให้สีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่องของจีฉางเล่อเปลี่ยนไป
เขาจ้องมองกู่หลิงเอ๋อร์แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า "แม่นางหลิงเอ๋อร์ เจ้าจะไม่พิจารณาจริงๆหรือ? ถ้าทีมเล็กๆของเจ้าเข้าไปในภูเขาอันกว้างใหญ่ที่ลึกขึ้นแล้วเจอโจรผ่านทางมา ข้ากลัวว่าจะหมดลมหายใจก่อนจะได้ป้องกันตัวเสียอีก" จีฉางเล่อพูดอย่างไม่ไว้หน้า
พอพูดจบ ผู้คนด้านหลังของเขาก็เผยรอยยิ้มเยาะเย้ย ดูภายนอกแล้วทีมของหลินหานสามคนก็มีพลังแค่สัตตะสวรรค์ อ่อนแอมาก
"จีฉางเล่อ เจ้าไม่ต้องเข้ามาสอดเรื่องทีมของเราหรอก" หลินหานจ้องมองจีฉางเล่อ จากนั้นจึงดึงมือของกู่หลิงเอ๋อร์แล้วเดินออกไป
เมื่อต้วนอู๋หยาเห็นเช่นนี้ก็รีบตามไปทันที
"หลินหาน เจ้า..."
เมื่อเห็นหลินหานหันหลังเดินออกไปโดยไม่ลังเล สีหน้าของจีฉางเล่อจึงดูน่าเกลียดมากขึ้น โดยเฉพาะตอนที่กู่หลิงเอ๋อร์ถูกหลินหานจับมือดึงออกไป นางไม่มีท่าทีต่อต้านเลย นี่จึงทำให้จีฉางเล่ออิจฉา
"ศิษย์พี่จี จัดเลยไหม?" ชายหนุ่มคนหนึ่งก้าวเข้ามาแล้วทำท่าทางตัดคอ
"ไม่ต้อง" จีฉางเล่อยิ้มอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า "ปล่อยให้พวกมันเข้าไปในภูเขาที่กว้างใหญ่ก่อน เจ็ดวันหลังจากนี้ พวกมันคงถูกโจรชั่วสังหารอย่างโหดเหี้ยมแน่ แต่เสียดายกู่หลิงเอ๋อร์เสียจริง... "
ครึ่งชั่วโมงผ่านไป
หลินหานพาต้วนอู๋หยาและกู่หลิงเอ๋อร์เข้าสู่บริเวณวุ่นวายซึ่งมีเหล่าโจรพเนจรวิ่งพล่าน
ทั้งสามคนเดินมาถึงด้านข้างลำธาร แต่ขณะที่พวกเขากำลังจะหยุดพัก ก็มีการเคลื่อนไหวที่ปลายทางของลำธาร
“รีบซ่อนตัว มีโจรปรากฏตัว” หลินหานพูดอย่างใจเย็น
พอพูดจบ ต้วนอู๋หยาและกู่หลิงเอ๋อร์ไปแอบซุ่มอยู่ในพงหญ้าข้างลำธาร
"สหายหลิน เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าคนที่กำลังจะปรากฎตัวเป็นโจร?" ความสงสัยสื่ออยู่ในดวงตาของต้วนอู๋หยาซึ่งซ่อนตัวในพงหญ้า
หลินหานยิ้มเมื่อได้ยิน แล้วพูดด้วยสายตาเย็นชาว่า "เพราะข้าได้กลิ่นคาวเลือด"