TB:บทที่ 2 ไขปริศนา
TB:บทที่ 2 ไขปริศนา
"น้องชายเอ๋ย นายช่างเป็นคนที่มีไหวพริบดีเสียจริง นี่คือน้ำเต้าดินที่เป็นของตกทอดต่อกันมาของตระกูลฉันเอง ตั้งแต่ในช่วงสมัยราชวงศ์ชิงถ้าไม่ใช่เพราะความยากลำบากของตระกูลของฉันแล้วล่ะก็ฉันไม่มีทางเอามันมาขายแน่ แต่ถ้านายชอบน้ำเต้าดินทั้งห้าล่ะก็ พี่ชายขอเสนอราคาหนึ่งพันหยวนขาดตัว"เจ้าของร้านในวัยสามสิบที่มีริมฝีปากเรียวและแก้มแดงเหมือนกับแก้มลิงกล่าว
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจ้าของแผงลอยจะเป็นฝ่ายได้ผลประโยชน์ แต่ก็เขากลับไม่รู้ว่าจริงๆแล้วในดินนั่นมีของบางอย่างซ่อนอยู่ในนั้น ไม่เช่นนั้นต้นทุนของมันคงไม่ใช่แค่หนึ่งพันหยวนแน่
"อะไรนะ? ก้อนดินแค่นี้มีราคาถึงหนึ่งพันหยวนเลยเหรอ โถ่ ลูกพี่นี่เลือดเย็นเกินไปแล้วมั้ง ลืมไปได้เลย แพงเกินไปอ่ะ ถ้าอย่างนั้นผมว่าลูกพี่เอามันกลับไปเก็บไว้เป็นมรดกตกทอดต่อไปเถอะ"
จริงๆแล้วเฉินหลงนั้นพอใจกับราคาที่เจ้าของร้านได้เสนอมา แต่เขาขอลองต่อรองราคาดูสักหน่อยก็แล้วกัน
"อย่าเพิ่งรีบไปสิน้องชาย ถ้านายชอบมันจริงๆล่ะก็จะเอาเท่าไหร่ ว่ามาได้เลย ราคานั้นง่ายต่อเจรจาอยู่แล้ว" เนื่องจากว่าน้ำเต้าดินอันนี้ถูกวางขายอยู่ที่แผงมาหลายวันแล้ว แต่กลับไม่มีใครที่สนใจจะซื้อมันเลยสักคน และในตอนนี้เจ้าของร้านไม่มีทางปล่อยให้เหยื่อหลุดมือไปง่ายๆอย่างแน่นอน
"ลูกพี่ ของสิ่งนี้ตกทอดมาจากราชวงศ์ชิง ถ้าอย่างนั้นเรามาเจรจาเรื่องราคาอีกครั้งดีไหม?" เฉินหลงมองไปที่เจ้าของร้าน
“สมบัตินั้นย่อมต้องหาคนที่เหมาะสม ตราบใดที่เป็นคนที่เหมาะสม ราคาก็ย่อมตกลงกันได้แน่นอน” เจ้าของร้านพูดขึ้นพร้อมกับให้ใจอีกฝ่าย
เมื่อเห็นว่าลูกพี่โกหกหน้าตาย เฉินหลงขอยกนิ้วให้ลูกพี่เลยครับ
"ลูกพี่ ขอราคาที่ถูกที่สุด จะว่าไปแล้วพอได้เห็นน้ำเต้าดินนี่ ก็ดูน่าสนใจดีนะ ผมอยากซื้อเป็นของขวัญให้หลานชายของผม" เฉินหลงกล่าว
“ได้สิ สองร้อย สองร้อยหยวนเลย แล้วก็เอาไปทั้งหมดเลยห้าอัน” เจ้าของร้านคิดเกี่ยวกับข้อเสนอของเขา เขาแสร้งทำเป็นคนที่หัวใจสลายแล้วพูดออกมา
"สองร้อยหยวน? โอ้โห ลูกพี่เสนอราคาให้ผมสองร้อยหยวนเลยเหรอ ผมเอาของเล่นไปคืนที่ร้านได้เลยนะ เอาเถอะ ผมไม่ถือสาคุณก็แล้วกัน แต่ว่านะลูกพี่ ถ้าผมขอห้าอันห้าสิบหยวนได้ไหม ถ้าลูกพี่ขาย ผมซื้อเลย แต่ถ้าลูกพี่ไม่ขายแล้ว ผมไปล่ะ "เฉินหลงต่อรองเขาแบบหัวชนฝา
ความจริงแล้วเฉินหลงก็แค่อยากลองเสี่ยงดูเท่านั้นเอง
แน่นอนว่าถ้าลูกพี่ไม่ขายมันให้เขาล่ะก็ เฉินหลงก็คงไปวานให้ใครสักคนมาซื้อมันให้เขาใหม่อยู่ดี
“น้องชาย นายนี่ช่างเจรจาจริงๆ ก็ได้ๆ เห็นแก่ว่านายคือลูกค้าคนแรกของวันนี้ก็แล้วกัน เอ้า ฉันยอมขายให้ก็ได้” หลังจากจ้องตากับเฉินหลงหลายวิ ในที่สุดเจ้าของร้านก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยอมขายมันให้เขาไป
"ลูกพี่ นี่ครับ เงิน ขอให้ลูกพี่เฮง เฮง เฮง" เฉินหลงหยิบเงินห้าสิบหยวนออกมาจากกระเป๋าเงินแล้วส่งมันให้กับเจ้าของร้าน
"เฮง เฮง เฮง เหมือนกันนะน้องชาย" เจ้าของร้านหัวเราะออกมาและรับเงินห้าสิบหยวนจากเฉินหลงไป เขาหยิบน้ำเต้าทั้งห้าอันใส่ถุงใบเล็กแล้วส่งมันให้กับเฉินหลง "นี่น้องชาย ฉันมีของอื่นๆที่น่าสนใจขายอีกนะ สนใจดูก่อนไหม”
"ไม่แล้ว ไว้คราวหน้าแล้วกันนะลูกพี่" เฉินหลงส่งยิ้มให้พร้อมกับส่ายหัว
ฉันซื้อมันได้ ฉันคือผู้ชนะตัวจริง
จากนั้นเฉินหลงก็จากไปพร้อมกับถุงที่เพิ่งซื้อมา
เมื่อเห็นเฉินหลงเดินจากไปแล้ว เจ้าของร้านก็หยิบเงินห้าสิบหยวนที่ได้มาจากเฉินหลงออกมาดูด้วยความภาคภูมิใจ
เขาซื้อน้ำเต้าดินทั้งห้าอันนี้มาในราคาแค่สองหยวนจากในเมือง แต่ตอนนี้เขาสามารถขายในราคาห้าสิบหยวนได้ นั่นหมายความว่าเขาสามารคทำกำไรได้มากมาย ในที่สุด ผู้คนก็มีวันที่โชคดี การหาเงินประทังชีวิตนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย…
เจ้าของร้านไม่ได้หวังว่าเด็กหนุ่มที่ทำเงินให้เขามากมายคนนั้นจะดูเหมือนคนที่เป็นฝ่ายชนะเลยสักนิด
การที่เฉินหลงหิ้วถุงและเดินต่อไปนั้นทำให้เขามีความสุข เหมือนกับว่าเขาได้แบกก้อนเงินก้อนทองสองสามก้อนอยู่
"พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่ม" ในเวลาเดียวกัน เฉินหลงได้ยินเสียงแว่วเข้ามาในหู
แต่ถึงอย่างนั้น เสียงนี้ฟังดูแปลกมากสำหรับเฉินหลง เฉินหลงจึงไม่ได้รู้สึกว่ามีใครกำลังเรียกเขาอยู่ดังนั้นเขาจึงก้าวเดินต่อไป
"พ่อหนุ่ม นี่ พ่อหนุ่มอย่าเดินเร็วนักสิ" เสียงนั้นยังคงดังขึ้นต่อเนื่อง
ในตอนนี้ เฉินหลงได้รับรู้แล้วว่ามีคนกำลังเรียกเขาอยู่จริงๆ เพราะฉนั้นเขาจึงหยุดเดินแล้วมองย้อนกลับไปยังต้นเสียง
เขาเห็นชายผู้หนึ่งในวัยห้าสิบ เขาสวมชุดฝึกซ้อมและกำลังเดินตรงมาทางเขา
เมื่อชายคนนั้นเห็นว่าเฉินหลงกำลังมองมาทางเขา ทันใดนั้นเขาก็โบกมือด้วยความตื่นเต้นแล้วพูดว่า "รอฉันก่อน พ่อหนุ่ม รอฉันหน่อย"
เฉินหลงชี้นิ้วไปที่ตัวเองด้วยความสงสัย
"ใช่ พ่อหนุ่มนั่นแหละ รอสักเดี๋ยว" ชายคนนั้นเดินมาทางเฉินหลงและพูด
"คุณลุง มีอะไรให้ผมช่วยเหรอครับ?" เฉินหลงถามขึ้นด้วยความสงสัย
"ค่อยคุยกันหลังจากที่เราไปจากที่นี่เถอะ" ชายคนนั้นพูดพร้อมกับรอยยิ้ม
"คุณลุง ถ้ามีอะไรจะพูดกับผมก็ว่ามาเลยครับ ผมต้องรีบกลับแล้ว" เฉินหลงทักขึ้นหลังจากที่พวกเขาเดินออกมาจากตลาดมือสอง
"พ่อหนุ่ม ฉันชอบน้ำเต้าดินทั้งห้าที่เธอเพิ่งซื้อไป เธอยกมันให้ฉันได้ไหม ฉันรู้นะว่าเธอจ่ายแค่ห้าสิบหยวนเอง แน่นอนว่าฉันจะไม่ทำให้เธอขาดทุนแน่นอน ฉันขอซื้อต่อจากเธอในราคาหนึ่งร้อยหยวนเลยเป็นไง?" ชายคนนั้นมองมาทางเฉินหลง
“ลุงคุณ คุณรู้ไหมว่าผมใช้เงินห้าสิบหยวนนี้ซื้อน้ำเต้าดินทั้งห้าไว้เป็นของเล่นให้หลานของผม” เฉินหลงไม่ต้องการที่จะหลอกลวงเขา เมื่อเขารู้ว่าตาลุงคนนี้มีควาคิดที่จะไขปริศนาอะไรบางอย่าง
"ดูเหมือนว่าพ่อหนุ่มจะเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้เหมือนกันนะ นั่นทำให้พ่อหนุ่มหัวเราะได้จริงๆ " ชายคนนั้นมองมาที่เฉินหลงสักพักก่อนจะพูดออกมา
“ผมแค่คิดว่ามันแปลกที่มีน้ำเต้าดินอยู่บนแผงขายของโบราณ ผมอยากเอามันกลับไปดูว่ามีอะไรอยู่ในนั้นบ้าง ผมเคยอ่านนิยายมาหลายเล่มแล้ว พวกตัวเอกทำแบบนี้แล้วก็ไขปริศนาอะไรบางอย่างได้” เฉินหลงกล่าว
“พ่อหนุ่ม นายมั่นใจเหรอว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น? เมื่อชายคนนั้นได้ยินเหตุผลของเฉินหลง เขาก็แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา
เรื่องความรักของเด็กคนนี้ไม่ค่อยเชี่ยวชาญนัก แค่อ่านนิยายเยอะแล้วก็โชคดี
"ผมก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่ที่ผมมั่นใจแน่ๆคือคุณอยากซื้อน้ำเต้าดินพวกนี้ด้วยเงินหนึ่งร้อยหยวน " เฉินหลงตอบพร้อมกับส่งยิ้ม
“ตอนนี้ ผู้คนต่างเริ่มฉลาดมากขึ้นเรื่อยๆ” ชายคนนั้นส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
“แล้วคุณลุงคิดว่าจะมีอะไรอยู่ในนั้นกันล่ะ?” เฉินหลงถามกลับพร้อมกับจ้องตาเขา
“ดูจากขนาดของน้ำเต้าดินพวกนี้แล้ว ของสิ่งนี้น่าจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด ฉันคิดว่ามันอาจจะเป็นจี้ขนาดเล็กหรือไม่ก็อาจจะเป็นขวดยานัตถุ์ก็เป็นได้” ชายคนนั้นตอบในสิ่งที่เขาคิด
"ชายชราคนนี้ก็มีความสามารถเหมือนกันนะนี่" หลังจากได้ยินคำพูดของชายคนนี้ เฉินหลงเองก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
“คุณลุง ถ้าหากมีอะไรอยู่ในนั้นจริงๆล่ะก็ทำไมมันถึงซ่อนอยู่ในนั้นได้” เฉินหลงถาม
"ครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ในประเทศของเราไม่ใช่ยุคมืด แต่ในเวลานั้น พระธาตุทางวัฒนธรรมจำนวนมากถูกทำลาย เพื่อที่จะรักษามันเอาไว้เราทำได้เพียงแค่ซ่อนของดีพวกเอาไว้ และในวันนี้ พ่อหนุ่ม เธอมีโอกาสที่จะได้ครอบครองมัน " ชายคนนั้นมองไปที่เฉินหลงด้วยความอิจฉาริษยา
มันเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่จะไขปริศนาถ้าตอนนั้นคือยี่สิบหรือสามสิบปีก่อน แต่ในตอนนี้เนื่องจากการพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพัฒนาต่อเนื่องของเทคโนโลยีการปลอมแปลงทำให้มันหายากหรือหายไป ถึงแม้ว่าสินค้าจริงจะค่อยๆผลิตน้อยลงในโลก เฉินหลงนั้นนับว่าเป็นคนที่โชคดีมากที่สามารถหาซื้อมันได้ด้วยราคาเพียงแค่ห้าสิบหยวนเท่านั้น
"ช่างเสียของจริงๆ" เฉินหลงเข้าใจในสิ่งที่ชายคนนั้นสื่อถึงช่วงเวลานั้นว่าเป็นยังไง
"พ่อหนุ่ม ถ้านายเชื่อใจฉันดูสักครั้ง ลองให้ฉันช่วยนายเอามันออกมาดีไหม" ชายคนนั้นมองไปที่เฉินหลงไม่วางตา