ตอนที่ 4 : คุณหนู่สี่จะไม่ ไม่ได้ ต้องไม่
Power Up, Artist Yang!
ตอนที่ 4 : คุณหนู่สี่จะไม่ ไม่ได้ ต้องไม่
หยางยูเจี๋ย ยังไม่สามารถเข้าใจความจริงที่ว่าเธอกำลังจะต้องแต่งงานกับคนที่แก่คราวพ่อ
จ้องมองเด็กหญิงอายุน้อย - เซียวอี้ – ยูเจี๋ยหนีไปพยายามรักษาความสงบและเก็บภาพความเป็นจริงภายใน เธอค่อนข้างหายใจติดขัดและกำลังจะตายอยู่ข้างใน
“เซียวอี้” ยูเจี๋ยกล่าว “ตอนนี้ข้ารู้สึกเหนื่อยเล็กน้อยและอยากจะมีเวลาสักหน่อยกับตัวเอง” เธอลูบขมับของเธอเพื่อบรรเทาอาการปวดหัวที่เลวร้ายลงในเวลาไม่นานโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากรู้เรื่องการหมั้นของเธอกับเจ้านายผู้เฒ่าของตระกูลหยู
เซียวอี้ตาเบิกกว้างเธอพยักหน้าแล้วลุกขึ้นยืน “ได้ค่ะ พี่ใหญ่ เรียกหาข้าถ้าท่านต้องการใครซักคนที่จะคุยด้วย”
จากนั้นเซียวอี้มุ่งหน้าไปยังประตูทางออกที่ด้านหน้าห้องของยูเจี๋ย เธอวิ่งเข้าไปหาฮุ่ยเอ๋อผู้ซึ่งกำลังเดินเข้ามาพร้อมถ้วยซุปแก้อาการเมาค้างในถาด ดวงตาของยูเจี๋ยหรี่ลงเมื่อเธอเห็นว่าฮุ่ยเอ๋อตัวแข็งทื่อทันที ดูไม่สบายใจในขณะที่ทักทายเซียวอี้ อย่างไรก็ตามเซียวอี้ไม่ได้เปลี่ยนสีหน้า อาการของเธอมากนัก แค่พยักหน้าให้ฮุ่ยเอ๋อก่อนเดินออกไป
เมื่อเซียวอี้ไปพ้นแล้ว ฮุ่ยเอ๋อก็เดินไปชิดกับยูเจี๋ย เธอผ่อนคลายในทันทีพร้อมถอนหายใจลึก “คุณหนู ข้ามีซุปแก้อาการเมาของท่านเจ้าค่ะ!” เธอยิ้มให้ยูเจี๋ยวางถาดลงและส่งถ้วยให้อย่างระมัดระวัง
ยูเจี๋ยรับถ้วยซุปมาอย่างซึ้งใจ จุ่มช้อนในถ้วยซุปเข้มข้นนั้น ขณะที่เธอเป่าซุปในช้อนที่ตักขึ้นมา เธอถามอย่างระมัดระวังว่า “ฮุ่ยเอ๋อทำไมเจ้าถึงรู้สึกดูอึดอัดเมื่ออยู่ใกล้เซียวอี้?”
ฮุ่ยเอ๋อหยุดชะงักไปสักพัก “คุณหนู ถ้าข้าเป็นท่านข้าจะอยู่ให้ห่างจากนาง มีอะไรบางอย่างผิดปกติเกี่ยวกับคุณหนูห้า”
“ยังไง?” ยูเจี๋ยจิบซุบเข้มข้น เพลิดเพลินกับรสชาติเผ็ดร้อน “ข้าคิดว่าเซียวอี้เป็นคนดีทีเดียวนะ”
“คุณหนู ท่านไม่เข้าใจอีกหรือ? ท่านคือคุณหนูสี่ ทำไมไม่มีใครปฏิบัติต่อท่านด้วยความเมตตา ถ้าพวกเขาไม่มีแรงจูงใจซ่อนเร้น?”
คราวนี้เป็นของยูเจี๋ยที่เหมือนถูกแช่แข็ง เธอวางถ้วยซุปลงช้าๆ “ฮุ่ยเอ๋อ อธิบายให้ข้าฟังเร็ว”
“มันเกี่ยวกับการเกิดของท่าน คุณหนู? ทุกคนในบ้านดูถูกเราเพราะแม่ของท่าน…ไม่เคย…แต่งงานกับนายท่านผู้เฒ่าจริงๆ แม้แต่ตำแหน่งของนางสนมก็ไม่ได้รับเลย”
ยูเจี๋ยกระพริบตาปริบๆ
บางทีอาจเป็นเพราะความจริงที่ว่าการเรียนรู้ถึงการหมั้นของเธอกับชายชราบางคนนั้นน่าตกใจเกินไป นั่นทำให้ข้อมูลชิ้นใหม่นี้เธอรวบรวมได้นั้นสร้างความประหลาดใจน้อยลง เธอยอมรับความจริงที่ว่าการถ่ายทอดของเธอนั้นไม่เหมาะกับนิยายที่ควรค่าที่สุด อย่างไรก็ตาม เธอควรจะรู้ว่าทำไมคุณหนูสี่ถึงติดอยู่ในตำแหน่งเช่นนี้? อีกครั้งยูเจี๋ยยังเชื่อเชื่อมั่นในนวนิยายเหล่านี้มากเกินกว่าที่ใครก็ตามที่ได้รับการเกิดใหม่จะต้องอยู่ในสถานการณ์ที่ดีเช่นเจ้าหญิงหรือลูกสาวผู้ค้าขายที่ร่ำรวย และแม้ว่าพวกเขาจะลงมาเกิดในร่างของใครบางคนที่ถูกมองในแง่ลบโดยทุกคนในสังคมของพวกเขา พวกเขามีทักษะที่ยอดเยี่ยมเพื่อช่วยเหลือพวกเขาในการเอาชีวิตรอด เหตุใดหยางยูเจี๋ยจึงเป็นคนเดียวที่โชคร้ายเช่นนี้ไม่เพียงแต่เป็นลูกนอกสมรส แต่ยังหมั้นกับผู้ชายที่แก่พอที่จะเป็นพ่อของเธอด้วย?
หยุดไปชั่วครู่ ยูเจี๋ยขอให้ฮุ่ยเอ๋อเล่าต่อ “เจ้ากำลังบอกว่า...ข้าเป็นลูกนอกสมรสหรือ?”
ทันใดนั้น ฮุ่ยเอ๋อคุกเข่าลงด้วยความกลัว “คุณหนู ข้าไม่ได้พยายามทำให้ท่านขุ่นเคือง ได้โปรดอย่าโกรธข้าเลย ข้าแค่บอกข้อเท็จจริงที่ทุกคนก็รู้อย่างชัดเจน”
งงงวยกับพฤติกรรมของแม่บ้านของเธอ ยูเจี๋ยรีบไปและจับมือเรียกฮุ่ยเอ๋อให้ลุกขึ้นยืน “โง่จริง ทำไมเจ้าทำแบบนี้? ข้าแค่ถาม”
“เอ่อ คุณหนู ข้าคิดเสมอว่าท่านอ่อนไหวกับหัวข้อนี้! เมื่อใดก็ตามที่ข้านำมันมาเล่าแต่ก่อนท่านจะโกรธเสมอ ข้าคิดว่า...ท่านจะไม่ชอบใจถ้าข้าพูดมันอีกครั้ง”
ยูเจี๋ยเริ่มสงสารเจ้าของร่างกายคนก่อน จากสิ่งที่เธอเห็นได้ยินเกี่ยวกับสังคมนี้ เธอคิดว่ามันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเธอที่จะให้ตัวเองก้าวต่อไปในโลกนี้เมื่อเธอไม่ถูกกฎหมาย แต่ถึงกระนั้นสำหรับหยางยูเจี๋ยก่อนหน้านี้จะกลายเป็นโกรธ แม่บ้านส่วนตัวของเธอเองกลัวความโกรธของเธอ ...
"ฮุ่ยเอ๋อ ข้าเป็นคนที่โกรธง่ายอย่างนั้นหรือ?"
“ไม่ คุณหนู ไม่ทั้งหมด!” ฮุ่ยเอ๋อเบิกตาของเธอแล้วส่ายหัวอย่างรวดเร็ว “ท่านเป็นคนใจดีที่สุดในคฤหาสน์นี้! ไม่มีใครอดทนและทนเหมือนท่าน แม้ว่าครัวจะไม่ยาแก่ท่านเมื่อท่านป่วย ท่านเตือนข้าไม่ให้ต่อสู้กับพวกเขาและทนทุกข์ทรมานด้วยตัวท่านเอง! คุณหนู ข้าไม่คิดว่าท่านเป็นคนที่มีปัญหาในการควบคุมความโกรธ แต่มันเป็นเพียงหัวข้อเดียวเท่านั้นที่ทำให้ท่านหงุดหงิด...”
“ตอนนี้ข้ารู้แล้ว” ยูเจี๋ยพยักหน้า เอาซูปขึ้นมาจิบแก้เมาค้างอีกครั้ง ฟังดูเหมือนหยางยูเจี๋ยคนก่อนเป็นคนที่พ่ายแพ้ได้ง่าย อาจเป็นลักษณะบุคลิกภาพที่พัฒนาขึ้นเนื่องจากความจริงที่ว่าเธอเป็นลูกนอกสมรส “มาต่อ ฮุ่ยเอ๋อ...เกี่ยวกับเซียอี้..- เราดูเหมือนจะออกนอกลู่นอกทางเล็กน้อย”
“อ๋อ ฮุ่ยเอ๋อไม่เข้าใจจุดประสงค์ของคุณหนูห้าที่พยายามเข้าใกล้ท่าน” ฮุ่ยเอ๋อขมวดคิ้ว “ไม่เหมือนอีกสามคนที่ปฏิบัติกับท่านด้วยความเมตตา... และคุณหนูห้าไม่สนใจท่านเลยจนกระทั่งเมื่อสองปีก่อน แม้ท่านจะบอกกับข้าก่อนหน้านี้ว่าจะไม่เชื่อใจคุณหนูห้าอีก”
‘นั่นอาจเป็นเพียงยูเจี๋ยคนก่อนที่มีปัญหาเรื่องความน่าเชื่อถือ....’ ยูเจี๋ยพยักหน้าขณะที่เธอดื่มซุปอีกหนึ่งข้อน เซียวอี้ดูเป็นคนจริงใจและมีน้ำใจพอๆกับฮุ่ยเอ๋อ สำหรับตอนนี้เธอจะปฏิบัติต่อเซียวอี้ตามที่นางปฏิบัติต่อเธอ
“นอกจากนี้คุณหนูห้าเป็นผู้ที่ติดพันนายน้อยของตระกูลหยู...ข้าแน่ใจว่านางแค่พยายามลบควมจริงที่ว่านางได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าท่านดูหน้าก็รู้!”
พูดว่าอะไรนะ?
ท่ามกลางการดื่มน้ำซุปอีกช้อน ยูเจี๋ยสำลักและน้ำซุปไหลออกจากปากของเธอ ฮุ่ยเอ๋อรีบคว้าผู้ขนหนูแล้วเช็ดปากให้ยูเจี๋ย
“ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม? ฮุ่ยเอ๋อพูดอะไรผิดอีกหรือไม่?” ฮุ่ยเอ๋อพึมพำ เอาถ้วยซุปออกไปจากยูเจี๋ย
ยูเจี๋ยยังคงไอ แต่เธอสั่นศีรษะ “ไม่... ฮุ่ยเอ๋อ-ข้า-สบายดี...ข้าแค่ตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินเช่นนั้น”
สถานการณ์สับสนทั้งหมดนี้ เป็นอย่างไร? หยางยูเจี๋ยกำลังจะแต่งงานกับนายท่านผู้เฒ่าของตระกูลหยู เป็นนางสนมในขณะที่นายน้อยของตระกูลกำลังติดพันน้องสาวของเธอ? ถ้าพิธีแต่งงานเป็นไปตามที่วางไว้ นั่นจะไม่ทำให้ยูเจี๋ยเป็นพี่ที่สูงกว่าเซียวอี้ใช่ไหม และน่ารังเกียจเพียงใดที่มีงานแต่งงานสองครั้งภายในครอบครัวสองครอบครัว?
‘บางทีมันอาจเป็นเรื่องปกติในช่วงเวลาเหล่านี้ ใช่ ยูเจี๋ยนั่นต้องเป็นเรื่องปกติในราชวงศ์เซียง!’ ยูเจี๋ยพยายามยืนยันกับตัวเองในขณะเดียวกันเธอก็ยังตกใจกับสถานการณ์ที่ไม่เป็นธรรมทั้งหมดนี้ ถ้าเพียงเธอย้ายเข้าไปอยู่ในร่างของหยางเซียวอี้- นั่นอาจทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้นกว่านี้
หลังจากอาการไอของยูเจี๋ยสงบลง เธอหันกลับไปหาฮุ่ยเอ๋อ “ฮุ่ยเอ๋อจริงหรือเปล่าที่ข้าจะได้แต่งงานกับนายผู้เฒ่าของตระกูลหยู? ความทรงจำของข้าก็เลือนหายไปจากการดื่มเมื่อคืนนี้”
ฮุ่ยเอ๋อยอมรับอย่างเศร้าใจ “ใช่แล้ว คุณหนู เป็นท่าน ในความจริง เหตุผลที่ท่านดื่มในตอนแรกก็เพราะท่านหมดหวังที่นายท่านได้สร้างข้อตกลงเพื่อความก้าวหน้าทางการค้าของเขา!”
‘โอ้ ก่อนหน้าหยางยูเจี๋ย ข้าเกี่ยวข้อง ข้าเกี่ยวข้อง ถ้าข้าจะจัดงานแต่งงานแบบนี้ - ที่ข้ามี – ข้าจะดื่มความกังวลทั้งหมดของข้าออกไปเช่นกัน ... '
“ถ้างั้น ฮุ่ยเอ๋อ” ยูเจี๋ยลุกขึ้นยืนตรงและมุ่งมั่น ด้วยสายตาเฉียบแหลมของเธอ “ข้าคิดว่ามันเป็นเวลาที่ดีที่จะปล่อยให้พ่อของข้า- นายท่านผู้เฒ่า-รู้ว่าคุณหนูสี่คนนี้จะไม่ ไม่สามารถ และต้องไม่แต่งงานกับครอบครัวหยู”