บทที่ 294 พลังงานฟ้าดินก่อตัวและดวงดาวที่แปรสภาพ!
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ : แปลได้แล้ว
“อะไรนะ?! ซูรั่วเสวี่ยไม่ได้จากไป? แต่คิดจะพินาศไปพร้อมกับซูตี๋หวัง?”
เฉียนว่านก้วนได้รับข่าวนี้อย่างรวดเร็ว เดิมทีเขาก็ให้ความสนใจกับสถานการณ์ภายในอาณาจักรต้าเซี่ยอยู่แล้วและเขายังเป็นผู้ควบคุมการค้าในเครือให้อพยพออกมาทั้งหมด ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เขาจะได้ข่าวนี้เร็วกว่าคนอื่น
อาณาจักรต้าเซี่ยถูกกำหนดให้ต้องล่มสลายและซูตี๋หวังก็จำเป็นต้องตายเช่นกัน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถระงับความโกรธแค้นของผู้คนทั่วทั้งทวีปได้
เฉียนว่านก้วนคาดเดาไว้แล้วว่าซูตี๋หวังจะต้องจัดหาเส้นทางหลบหนีในกับทายาทของเขา นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับชนชั้นสูงหรือบรรดาตระกูลใหญ่ที่มักจะหาทางหนีทีไล่ไว้เสมอเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกวาดล้างทั้งตระกูล แต่เขาไม่คาดฝันว่าซูรั่วเสวี่ยเลือกที่จะอยู่ต่อแทนที่จะหนีไป
เจ้าอ้วนเฉียนว่านก้วนรู้ว่าเจียงอี้หลงรักหญิงสาวผู้นี้ หากว่าซูรั่วเสวี่ยหลบหนีออกมา พวกเขาอาจจะได้มีโอกาสอยู่ด้วยกันในอนาคต แต่การที่นางเลือกที่จะอยู่ในเมืองเซี่ยยวี่ต่อนั้น นางจะต้องตายอย่างแน่นอน
“ข้าควรจะบอกลูกพี่ดีมั้ยเนี่ย?”
เฉียนว่านก้วนลังเลใจ หากว่าเขาไม่บอกและปล่อยให้เจียงอี้ทราบข่าวเอง เกรงว่าอีกฝ่ายคงจะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟถึงขั้นตัดเพื่อนเลยก็ได้
แต่ถ้าบอกเขา ด้วยอารมณ์ของลูกพี่คนนี้… เขาจะต้องรีบไปยังเมืองเซี่ยยวี่แบบไม่คิดหน้าคิดหลังแน่
“เอาไงดี?”
จู่ๆ เฉียนว่านก้วนก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา จนสุดท้ายเขาก็คิดขึ้นมาได้ว่าในเมื่อไม่สามารถคิดเองได้ เช่นนั้นก็ให้คนอื่นคิดแทนดีกว่า จากนั้นก็มุ่งหน้าไปหาจูเก๋อชิงหยุนอย่างรวดเร็ว
หากเจ้าสำนักจูเก๋อชิงหยุนพบว่าเป็นการดีที่จะแจ้งให้เจียงอี้ได้รับทราบ เขาก็จะรีบส่งข้อความไปบอกอีกฝ่ายทันที แต่หากไม่ใช่ อย่างน้อยเขาก็สามารถยกจูเก๋อชิงหยุนขึ้นมาเป็นข้ออ้างได้
หลังจากที่มาถึงตำหนักส่วนในแล้ว เขาก็รีบแจ้งความประสงค์เพื่อขอเข้าพบทันที เมื่อได้รับการอนุมัติจากจูเก๋อชิงหยุน เขาก็รีบเดินเข้ามาและอธิบายต้นสายปลายเหตุอย่างรวดเร็ว
เมื่อฟังไปได้สักพัก ชายชราก็ส่ายหัวพลางกล่าว
“เจียงอี้ไม่ควรรับรู้เรื่องนี้ ภายนอกเขาอาจจะดูสุขุมเยือกเย็น แต่แท้จริงแล้วก็เป็นเด็กหนุ่มที่เลือดร้อนคนหนึ่ง”
“หากเขาเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ เขาจะกลายเป็นศัตรูของคนทั้งทวีปและจะถูกผู้เชี่ยวชาญจากทั้งห้าอาณาจักรไล่ล่า”
“เฉียนว่านก้วน หาก… มีโอกาส เจ้าก็จงใช้อิทธิพลของตระกูลเฉียนช่วยเหลือซูรั่วเสวี่ยสักหน่อยก็แล้วกัน”
“ข้าจะพยายามให้ดีที่สุด!”
แม้ว่าเฉียนว่านก้วนจะพยักหน้าด้วยความมั่นใจ แต่ภายในใจของเขากลับเต็มไปด้วยความกังวล มันไม่ใช่เพราะว่าการส่งคนไปช่วยเหลือซูรั่วเสวี่ยนั้นยากเย็น แต่เป็นเพราะความดื้อรั้นของนางต่างหาก ถ้านางยืนกรานที่จะตายไปพร้อมกับอาณาจักร เขาจะช่วยเหลือนางได้ยังไง?
สุดท้ายแล้วมันก็เป็นเหมือนกับที่เขาคาดไว้ไม่มีผิด!
เฉียนว่านก้วนแอบส่งคนไปติดต่อกับซูรั่วเสวี่ยอย่างลับๆ โดยกล่าวว่าเขาสามารถพานางลี้ภัยมายังสำนักจิตอสูรได้ แต่นางก็เอ่ยปฏิเสธทันทีและยังกล่าวด้วยว่าหากอาณาจักรต้าเซี่ยล่มสลาย นางก็พร้อมที่จะตายไปกับมัน
วันเวลาไหลผ่านไปดั่งสายน้ำ
พลเมืองภายในอาณาจักรต้าเซี่ยต่างก็ตกอยู่ในความตื่นตระหนก มีผู้คนจำนวนไม่น้อยที่ต้องการจะอพยพ ในขณะเดียวกันอาณาจักรบริวารที่เหลือต่างก็ประกาศออกมาว่าพวกเขายินดีต้อนรับคนที่ต้องการจะลี้ภัยทั้งหมดโดยไม่สนว่าจะเป็นคนธรรมดาหรือจอมยุทธ
ในขณะเดียวกัน ทางฝั่งของอาณาจักรเซิ่งหลิงได้รวบรวมกำลังทหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาณาจักรเสินหวู่เองก็เตรียมกองทัพไว้แล้วเช่นกัน
ทางด้านอาณาจักรเทียนเซวี่ยนเองก็ไม่ยอมน้อยหน้าและรวบรวมกำลังพลได้ถึงสามแสนนาย อาณาจักรเป่ยหมางและอาณาจักรเป่ยเหลียงเองก็อยู่ในสภาวะพร้อมรบแล้ว
พวกเขากำลังรอให้ถึงกำหนดครบหนึ่งเดือนและจะรวมตัวกับจักรวรรดิมังกรเวหาเพื่อเดินทัพเข้าสู่อาณาจักรต้าเซี่ยพร้อมกัน
เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว อาณาจักรต้าเซี่ยก็ไม่คิดที่จะอธิบายอีกต่อไป อีกทั้งยังประกาศออกมาว่าอาณาจักรต้าเซี่ยจะไม่มีวันยอมแพ้และจะสู้จนตัวตายจนกว่าชาวต้าเซี่ยคนสุดท้ายจะสิ้นลม
ซูตี๋หวังยังกล่าวอีกว่าจะไม่ยอมออกจากเมืองเซี่ยยวี่และจะพินาศไปพร้อมกับอาณาจักร
ในขณะเดียวกัน ซูตี๋หวังก็ได้ประกาศยกเลิกการอภิเษกสมรสระหว่างธิดาของเขากับรัชทายาทแห่งอาณาจักรเสินหวู่ นับตั้งแต่ที่อาณาจักรเสินหวู่เลือกที่จะหันดาบใส่อาณาจักรต้าเซี่ย ซูตี๋หวังก็ไม่มีทางปล่อยให้ลูกสาวของเขาต้องทุกข์ทรมานเพราะฝ่ายศัตรูเด็ดขาด
ในเวลาเพียงแค่ยี่สิบวัน…!
อาณาจักรต้าเซี่ยสูญเสียประชาชนของพวกเขาไปมากกว่าครึ่งในขณะที่ภายในกองทัพก็เกิดการกบฏซึ่งทำให้ค่ายทหารกว่าหนึ่งในสามถูกทิ้งร้าง ส่วนกลุ่มคนที่เหลืออยู่ล้วนแต่เป็นผู้ที่จงรักภัคดีที่สุดของอาณาจักร
เมื่อกำหนดเวลาหนึ่งเดือนใกล้เข้ามา บรรยากาศทั่วทั้งทวีปก็ยิ่งอึมครึม จักรวรรดิมังกรเวหาและอาณาจักรบริวารทั้งห้าต่างก็สั่งให้กองทัพของพวกเขาเริ่มเคลื่อนพล… ดูเหมือนว่าอาณาจักรต้าเซี่ยจะไม่อาจหลีกหนีการล่มสลายได้เสียแล้ว
ทวีปเทียนชิงอยู่ภายใต้ความสงบมานับหมื่นปี แต่ดูเหมือนในเวลานี้สมดุลแห่งขั้วอำนาจได้ถูกทำลายลงแล้ว เมื่อใดที่ไฟของสงครามโหมกระหน่ำ ผู้คนบริสุทธิ์มากมายจะล้มตาย… ไม่มีใครสามารถคาดเดาได้ว่าท้ายที่สุดแล้วมันจะจบลงเช่นไร?
……
ณ ส่วนลึกสุดของหุบเขาสามหมื่นลี้, ยอดเขาเทพธิดา!
ในขณะที่โลกภายนอกกำลังอยู่ในความโกลาหล เจียงอี้ที่อยู่ภายในราชวังของจักรพรรดินีสัตว์อสูรกลับไม่รู้เรื่องใดๆทั้งสิ้น นอกจากตอนที่ต้องอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับจิ้งจอกน้อย เขาก็ใช้เวลาที่เหลือในการฝึกฝน
โชคดีที่ในตอนนี้มีเจียงเสี่ยวนู๋อยู่ด้วย ทั้งสองต่างก็เป็นผู้ที่มีจิตใจบริสุทธิ์เหมือนกันดังนั้นจึงสามารถเข้ากันได้เป็นอย่างดี และเพราะมีนางคอยอยู่เล่นกับจิ้งจอกน้อย มันจึงทำให้เจียงอี้มีเวลาฝึกฝนมากขึ้น
พลังฟ้าดินภายในแท่นลอยฟ้านั้นหนาแน่นมาก และเมื่อรวมกับเม็ดยามังกรปฐพีที่เจียงอี้เก็บไว้ในไข่มุกวิญญาณเพลิง มันก็ทำให้ความเร็วในการบ่มเพาะของเขาพุ่งทะยานขึ้นอย่างน่าตกตะลึง
หลังจากที่อยู่ที่นี่แค่เดือนเดียว ดาวดวงแรกภายในตันเทียนของเขาก็เกือบที่จะถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์แล้ว
“ในอีกห้าวัน ดาวดวงแรกก็จะถูกเติมเต็มโดยแก่นแท้พลังสีดำอย่างสมบูรณ์แล้ว ข้าอยากจะรู้จริงๆว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น?”
เมื่อออกจากการปิดด่านฝึกตน เจียงอี้ก็ใช้เวลาหนึ่งวันเต็มในการอยู่เป็นเพื่อนเจียงเสี่ยวนู๋และจิ้งจอกน้อย จากนั้นเขาก็บอกกับพวกนั้นว่าจะต้องปิดด่านฝึกตนอีกครั้งเป็นเวลาห้าวันเพื่อไม่ให้ทั้งสองเป็นห่วง
จิ้งจอกน้อยและเจียงเสี่ยวนู๋รู้สึกเหงาเล็กน้อย แต่พวกนางก็พยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย เมื่อเจียงอี้เข้าสู่แท่นลอยฟ้า เขาก็ปิดทางเข้าทันทีและโยนเครื่องรางสื่อสารไว้ที่อีกฝั่งหนึ่งเพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่าเขาจะสามารถมุ่งมั่นอยู่ที่การบ่มเพาะพลังได้อย่างเต็มที่
พลังงานฟ้าดินอันเข้มข้นได้มารวมตัวกันและหลั่งไหลเข้าไปในดวงดาวที่อยู่ในตันเทียนของเจียงอี้อย่างต่อเนื่อง
เขายังคงกระทำเช่นนี้ต่อไปอีกเรื่อยๆเป็นเวลาสี่วันติดต่อกันจนในที่สุดดาวดวงนั้นก็ถูกเติมเต็มเกือบจะสมบูรณ์
ในวันที่ห้า…!
ดาวดวงแรกที่อยู่ภายในตันเทียนของเจียงอี้ขยายใหญ่ขึ้นจนไม่สามารถกักเก็บแก่นแท้พลังสีดำได้อีกต่อไป สภาพของมันดูคล้ายกับลูกโป่งที่ถูกน้ำอัดฉีดใส่ตลอดเวลาและพร้อมที่จะระเบิดทุกเมื่อ
“ยังไม่พอ!”
เจียงอี้กัดฟันแน่และฝืนบ่มเพาะต่อ ดวงดาวสีดำขยายตัวอย่างต่อเนื่องและใกล้ที่จะระเบิดแล้วจริงๆ เวลานี้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยความกังวล เขากลัวว่าหากแก่นแท้พลังสีดำจำนวนมหาศาลเหล่านี้เกิดหลุดจากการควบคุมขึ้นมา เกรงว่าร่างของเขาคงจะระเบิดและต้องตายอย่างอนาถแน่
“หืม? ความเร็วของแก่นแท้พลังสีดำชะลอตัวลงแล้ว?”
เจียงอี้ประหลาดใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ไม่นานนักเขาก็ละความสนใจไปและดูดซับพลังงานฟ้าดินต่อ
หกชั่วโมงต่อมา…!
จู่ๆเจียงอี้ก็สัมผัสได้ว่ากระบวนการกลั่นพลังงานฟ้าดินให้กลายเป็นแก่นแท้พลังสีดำได้หยุดชะงักลงแล้ว เวลานี้ดาวดวงแรกได้ขยายตัวเกินกว่าหนึ่งในสามของขนาดเดิมและอาจจะระเบิดได้ทุกเวลา
ฟิ้วว!
แต่ทันใดนั้น บางสิ่งที่แปลกประหลาดก็ได้บังเกิดขึ้น
ดวงดาวทั้งเก้าเปล่งประกายพร้อมกัน จากนั้นแก่นแท้พลังสีดำจากดาวอีกแปดดวงก็ได้ไหลทะลักเข้ามาในดาวดวงแรกซึ่งทำให้มันโตขึ้นและพร้อมที่จะระเบิดแล้วจริงๆ
ครื้นนนน!
ในขณะเดียวกัน ที่ด้านนอกได้มีเมฆและกระแสลมก่อตัวขึ้นเหนือยอดเขาเทพธิดา พลังงานฟ้าดินพุ่งทะยานขึ้นอย่างก้าวกระโดด ดาวดวงหนึ่งที่อยู่ห่างออกไปนับพันล้านกิโลเมตรก็ส่องสว่าง
ทันใดนั้นลำแสงสีแดงเพลิงก็ถูกยิงลงมาและตรงเข้าสู่ร่างของเจียงอี้ที่อยู่ภายในแท่นลอยฟ้าทันที จากนั้นไม่นานมันก็จางหายไป
ดาวดวงแรกภายในตันเทียนของเจียงอี้ถูกแปรสภาพแล้ว!
เดิมทีมันมีสีดำทมิฬคล้ายกับแก่นแท้พลังสีดำ แต่บัดนี้มันกลับเฉิดฉาดด้วยสีแดงราวกับดวงอาทิตย์
รัศมีที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความเผด็จการซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาทำให้เจียงอี้ตะลึงงันจนพูดไม่ออก…