บทที่ 38: เจ้าหญิงน้อยตัวจริง
ทั้งวิลเลียมและลอทเนอร์ต่างก็ไม่ได้วิ่งหนีไป ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ยังคงเป็นเจ้าชายคนหนึ่ง พวกเขาอยู่ในป่าแบล็คลีฟ ดังนั้นเขาจึงไม่อาจที่จะอ่อนแอได้
แม้ว่าการปฏิบัติตนที่เขาได้รับจะต่างจากเจ้าหญิงน้อยแห่งเอลฟ์มูนไลท์ สถานะของพวกเขาก็ยังคงคล้ายคลึงกัน…
พวกเขาไม่จำเป็นต้องรอนาน
ผู้ดูแลเมืองอาเธอร์นำเอลฟ์องครักษ์สามตนมาด้วยใบหน้าที่มีคำว่าความไม่พอใจเขียนอยู่เต็มหน้า อย่างไรก็ตาม เขาก็พูดออกมา “องค์หญิงเชิญเจ้าชายวิลเลียมไปดื่มน้ำชา!”
“…”
วิลเลียมชำเลืองมองไปที่อาเธอร์ผู้สร้างความน่าอึดอัดให้ ไม่รู้ว่าคนๆ นี้กำลังอิจฉาอะไรอยู่ เขาไม่รู้หรืออย่างไร? เจ้าหญิงคนนี้คงอยากจะเจอเขาเพื่อสร้างปัญหาให้เขาล่ะสิ
ในฐานะผู้ดูแลเมือง มันไม่สำคัญว่าเขาเป็นคนที่เจ้าหญิงเชื่อใจมากที่สุดหรือไม่ เขาก็ยังคงเป็นอัศวินของเธอ เขาอาจกล้าที่จะคิดเกินเลยกับเธองั้นหรอ?
เขาไม่รู้รึไงว่านอกจากการแต่งงานกับเจ้าชายแล้ว เจ้าหญิงก็จะถูกลักพาตัวไปโดยมังกรชั่วร้ายเท่านั้น?
คนอย่างอัศวินต้องทำเพียงแค่การสละชีวิตเพื่อปกป้องเกียรติของเจ้าหญิงเท่านั้น!
อัศวินตัวสำรองที่มีไว้ราวกับเป็นยางสำรองก็มีปรากฏให้เห็นอยู่ตลอดๆ
นั้นมันเป็นคำกล่าวที่โด่งดังและเป็นที่รู้จักเหลือเกิน…
“ดังนั้นแล้ว…”
“ลอทเนอร์”
“โปรดมากับข้า” อาเธอร์ฝืนยิ้มออกมา ก่อนจะให้คนของเขานำทางวิลเลียมไปหาเจ้าหญิง ในขณะที่เขาดูแลลอทเนอร์เป็นการส่วนตัว
เมื่อเห็นอย่างนั้น วิลเลียมจึงตามพวกเขาไปขึ้นบันไดในโพรงต้นไม้ที่โค้งเป็นเกลียววนขึ้นไปยังจุดบนสุด ในที่สุดองครักษ์ก็ผายมือออกไปด้านหน้าของเขาเป็นการบอกให้เขาเดินไปข้างหน้า
วิลเลียมพยักหน้าแล้วสาวเท้าก้าวใหญ่เดินไปด้านหน้า
ในจังหวะที่เขาโผล่พ้นออกมาจากโพรงต้นไม้ที่มีแสงเวทมนต์ เขาก็มองเห็นสวนลอยฟ้า
น้ำพุไหลริน, นกและแมลงส่งเสียงเล็กๆ ของพวกมัน และที่สวนไม่มีต้นไม้ใหญ่ มีเพียงหญ้านุ่มๆ และดอกไม้หลากหลายอยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา
เถาวัลย์ด้านบนที่พันเข้าหากันป้องกันแสงแดดที่ร้อนแรงส่วนใหญ่ไม่ให้ส่องเข้ามา เมื่อแสงแดดส่องเข้ามาบนหญ้า มันก็ดูราวกับมีทองแต้มอยู่บนยอดหญ้าทั้งหลาย
ห่างออกไปประมาณแปดเมตร สาวน้อยคนหนึ่งผู้มีผมสีเงินและแต่งตัวด้วยชุดเดรสยาวสีขาวกำลังนั่งอยู่บนชิงช้าราวกับเธอไม่รู้ตัวว่ามีใครบางคนเข้ามา
“หรูหรา… มันมากเกินไปแล้ว!” วิลเลียมไม่ได้เพ่งความสนใจไปที่เจ้าหญิงคนนี้นัก แต่กำลังยิ้มเยาะไปกับความตระการตาของสถานที่แทน
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เขากำลังจะก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว เสียงนุ่มสบายหูก็ลอยเข้ามาในหูของเขา “ถอดรองเท้าของท่านออก อย่าทำให้ต้นหญ้าของเราต้องเสียทรง”
ในจังหวะนั้นเองที่วิลเลียมเห็นรองเท้าคริสตัลส้นสูงคู่หนึ่งอยู่ที่มุมทางเข้า เขาต้องยอมรับเลย ผู้หญิงชนชั้นสูงทุกคนที่โลกแห่งนี้ดูเหมือนจะชอบสวมรองเท้าส้นสูง พวกเธอยังสวมใส่แม้แต่ถุงน่องอีกด้วย ซึ่งดูจะทันสมัยเกินไปที่จะอยู่ในส่วนหนึ่งของโลกนี้…
วิลเลียมไม่รีรอ เขาถอดรองเท้าออกอย่างรวดเร็วและเดินเท้าเปล่าไปทางเจ้าหญิงที่หันหลังอยู่ เขาจ้องไปที่เธอเงียบๆ
วิลเลียมต้องยอมรับว่าเจ้าหญิงน้อยแห่งเอลฟ์มูนไลท์คนนี้มีวิวด้านหลังที่เด็ดมากๆ เพียงแค่มองที่แผ่นหลังของเธอ ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกว่ากำลังมองไปยังเทพธิดาคนหนึ่งได้
เอวบางของเธอดูเล็กบอบบาง, เท้าเรียวของเธอวางชิดกันขณะที่สัมผัสกับเหล่าดอกไม้ด้านล่างอย่างหยอกล้อเป็นครั้งคราว ผมยาวสีเงินของเธอยาวคลอเคลียอยู่ที่เอว…
“ไม่ใช่ว่าองค์ชายวิลเลียมไปเป็นลอร์ดที่เมืองชายแดนหรอกหรือ? ทำไมท่านจึงว่างขนาดที่มายังเมืองบลูมูนแห่งนี้ได้?” แองเจล่า มูนไลท์หันกลับมา
แองเจล่า
ชื่อนี้เป็นชื่อที่ใช้กันธรรมดาทั่วไป
แต่ชื่อนี้มีอีกความหมายว่า นางฟ้า
นางฟ้าเป็นตัวแทนที่แสดงถึงความอ่อนโยน, ความบริสุทธิ์, ความถูกต้อง…
เธอมีดวงตาคู่สวยสีสว่าง ดวงตาของเธอเปล่งประกายเป็นสีเงินเล็กน้อยราวกับมันสามารถมองเข้าไปในหัวใจของคนๆ หนึ่งได้ แทบจะเรียกได้ว่าเพอร์เฟค ด้วยใบหน้าอันไร้ที่ตินี้ที่เป็นความฝันของใครหลายๆคน
อย่างไรก็ตาม…
ในจังหวะที่เขาเห็นหน้าอกแบนๆคู่นั้น…
เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้น
มโนทั้งหมดแตกละเอียดและโหมดสุขุมก็เริ่มทำงาน!
วิลเลียมยิ้มอย่างเฉยเมยในขณะที่พูด “ทำไมถึงไม่เรียกเราว่าพี่ชาย? เราจำได้ว่าเจ้าเรียกเราว่าพี่ชายมาตลอดก่อนที่เราจะทำยูนิคอร์นของเจ้าหนีไป!”
ดวงตาของแองเจล่าส่องประกายขณะที่เธอเอียงศีรษะด้วยความสงสัย ราวกับต้องการจะอ่านใจของวิลเลียม อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอย่างไร เธอก็สัมผัสได้เพียงว่าหัวใจของวิลเลียมนั้นเป็นราวกับทะเลสาบอันเงียบสงบ
“มันนานมากแล้วตั้งแต่ที่เราได้รับความรู้สึกแบบนี้…” แองเจล่าไม่ได้ตอบคำถามวิลเลียมขณะที่กระโดดลงจากชิงช้าอย่างแผ่วเบา เธอวางมือในอากาศราวกับกำลังสัมผัสอะไรบางอย่างอยู่
วิลเลียมเลิกคิ้วข้างหนึ่งขึ้น เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับความสามารถของยูนิคอร์นมานานแล้ว
อย่างไรก็ตาม น่าเสียดายที่ความสามารถในการอ่านใจของยูนิคอร์นสามารถใช้ได้กับ NPC เท่านั้น ส่วนสำหรับผู้เล่นจอมปลอมคนหนึ่งที่มีข้อมูลคุณสมบัติอย่างเขา การอ่านใจนั้นไม่มีผลกับเขา
โดยเฉพาะเมื่อเขาไม่ได้สนใจในตัวเจ้าหญิงน้อยที่ออกจากเมืองมาตั้งแต่อายุยังน้อย เธอไม่ได้ดูดีแบบ C++ อย่างเซียของเขา…
แองเจล่าดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างในขณะที่เธอกระพริบตาที่ดูราวกับพระจันทร์ของเธอ ก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มสดใส “ทำไมเราต้องเรียกท่านว่าพี่ชายด้วยล่ะ? ตอนนั้นเราเด็กเกินไปและถูกหลอกโดยท่าน ตามอายุของพวกเรา ตัวเราอายุมากกว่าท่านอีก ปีนี้เราอายุสิบแปดปีแล้วในขณะที่ท่านอายุแค่สิบหก…”
“สิบหก?” วิลเลียมเกาหัวอย่างอึกอัก อย่างไรก็ตาม เขาก็หล่ออย่างเห็นได้ชัด, สูง และดูเป็นผู้ใหญ่มาก เรื่องเดียวก็คือเขายังโตไม่ถึงช่วงสืบพันธุ์แบบผู้ใหญ่…
เมื่อเป็นอย่างนั้น เขาจึงเปลี่ยนประเด็น “อันที่จริง เราสงสัยเรื่องหนึ่งมากๆ ทำไมท่านถึงมาที่ป่าแบล็คลีฟทั้งๆ ที่ท่านยังคงอายุน้อย?”
วิลเลียมไม่เข้าใจเลยจริงๆ เพราะจากอายุที่ยืนยาวของเอลฟ์ แม้ว่าจะต้องแต่งงานกับเอลฟ์แบล็คลีฟ เธอก็ยังสามารถรอจนกว่าจะมีอายุอย่างน้อยหนึ่งร้อยปีแล้วค่อยออกจากบ้านมาก็ได้
“ไม่เป็นไร! เราไม่ได้คิดถึงบ้านขนาดนั้นซะหน่อย!” แองเจล่ากล่าวพร้อมกับส่ายศีรษะด้วยความความเศร้าเล็กน้อย
เธอกล่าวต่อ “นอกจากนี้ เราสามารถกลับบ้านได้ตลอดเวลา เพราะเรามีประตูที่เชื่อมไปยังป่าแสงจันทร์ในห้อง”
“ตอนที่เรายังเด็ก เรานอนที่นี่ไม่หลับเลย ในกลางดึกจึงแอบกลับบ้านแล้วกลับมานอนบนเตียงในวันถัดไป ไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเรากลับไป”
“ท่านแม่ของเรากลับสู่อ้อมแขนของต้นไม้แห่งโลกแล้ว ขณะที่ท่านพ่อมักหลับใหลไปบ่อยครั้ง ท่านจึงไม่สามารถดูแลเราได้ตลอดเวลา”
“...”
วิลเลียมมองไปยังแองเจล่าที่จมลงไปในความคิดของตนเองอย่างช้าๆ
แต่ตอนนี้ เขาผู้เป็นเจ้าชายไม่อยากพูดคุยกับเจ้าหญิงองค์นี้ต่อไปแล้ว
แม้ว่าเรื่องราวดังกล่าวอาจจะทำให้ผู้คนส่วนใหญ่อยากจะปลอบโยนสาวน้อยตรงหน้าพวกเขา…
เรื่องราวที่โศกเศร้าที่สุดคงเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด แต่อย่างไรก็ตาม มรดกทางสายเลือดไม่อาจปลอมแปลงได้…
จากคำพูดไม่กี่คำก็ทำให้วิลเลียมที่ช่างสังเกตบอกได้ว่าความสัมพันธ์ของราชวงศ์เอลฟ์มูนไลท์ไม่ได้ดีมากนัก
เจ้าหญิงองค์นี้ไม่ได้กล่าวถึงพี่น้องที่อายุมากกว่าเธอเป็นศตวรรษ จากความยุ่งเหยิงในป่าแสงจันทร์ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา มันไม่ยากเลยที่จะคาดเดาได้ว่าป่าแสงจันทร์กำลังตกอยู่ในภาวะวิกฤติ
“แองเจล่า เจ้ารู้หรือไม่ว่าเราได้พบกับมิทริลบางส่วนเข้าโดยบังเอิญหลังจากรับตำแหน่งลอร์ดแห่งเมืองชายแดน? เจ้าสนใจมันบ้างหรือไม่?” วิลเลียมไม่อยากพูดเรื่องไร้สาระกับเธออีกต่อไป
ค่าความประทับใจที่ดีต่อเขาของเจ้าหญิงที่มียูนิคอร์นไม่ได้เพิ่มขึ้น เธอสามารถปิดกั้นความสามารถติดตัวดูดีของเขาได้ ดังนั้นเขาจะพูดคุยไปทำไมอีก?
“มิทริลหรอ?” แองเจล่าเบิกตากว้าง “มีเท่าไหร่?”
“ทั้งหมดนั่นก็ 500 ปอนด์!”
“ว้าว มิทริลที่พบมีเยอะมากไหม?” แองเจล่าดูจะข้องใจ มีมิทริลมากขนาดนั้นเลยหรอ? ถ้าเขามีมิทริลมากขนาดนั้นหลังจากเจอเหมือง แล้วเหมืองมิทริลนี่จริงๆแล้วใหญ่ขนาดไหนกันนะ?
วิลเลียมอดทนอธิบายให้เธอฟังทั้งหมด
“เยี่ยมไปเลย ข้าจะเอามิทริลทั้ง 500 ปอนด์นั่นแหละ ขอบคุณสำหรับของขวัญของท่านนะพี่ชาย!” แองเจล่าพยักหน้าด้วยรอยยิ้มที่สดใส
“ห...หืม?” วิลเลียมสับสนเล็กน้อย ก่อนจะอธิบายอย่างรีบร้อนว่า “น้องหญิงที่น่ารักของเรา บางทีเจ้าอาจจะเข้าใจเหตุผลที่เรามาผิดไป?”
“ท่านไม่ได้เอามิทริล 500 ปอนด์นั่นมาให้เราเพราะต้องการที่จะพบเราหรอกหรือ?” แองเจล่าเลิกคิ้ว ท่าทางที่หยิ่งผยองของเธอทำให้เธอดูราวกับเทพธิดา
“ขาย เรามาเพื่อขายมิทริล” วิลเลียมไม่รู้ว่าเขาจะรับค่าประทับใจจากการมอบมิทริล 500 ปอนด์กี่แต้มกัน แต่ตอนนี้เขาต้องการเหรียญทองมากๆ
ตอนนี้ดูเหมือนว่าแองเจล่าจะโกรธเข้าเสียแล้ว และเธอก็ไม่ได้กักเก็บอารมณ์เสียด้วย เธอปัดมือทันทีและกล่าวว่า “ไปหาอาเธอร์ เขาจะคุยเรื่องการซื้อขายกับท่าน ลาก่อนวิลเลียม!”
“ลาก่อนน้องหญิง!” วิลเลียมเลิกคิ้ว เธอช่างเป็นเจ้าหญิงตัวจริงเสียงจริง เมื่อเธอได้ยินว่าเขาไม่ได้ให้มิทริลกับเธอ เธอก็โยนคำว่า ‘พี่ชาย’ ออกไปเลยทันที และบางทีเธออาจจะกระทืบมันสักสองสามครั้งอีกด้วยซ้ำไป