บทที่ 292 หลักฐานมัดตัว
สามารถติดตามข่าวสารได้ที่แฟนเพจ : แปลได้แล้ว
ซูตี๋กั๋ว!
นามนี้เป็นที่โด่งดังภายในทวีปเทียนชิงอยู่ไม่น้อย คนผู้นี้เป็นบุคคลสำคัญอันดับสองของอาณาจักรต้าเซี่ยและยังเป็นลูกพี่ลูกน้องฝั่งบิดาของราชาซูตี๋หวัง
เขาคือแม่ทัพใหญ่ผู้ซึ่งครอบครองหนึ่งในห้ากองทัพชั้นยอดของอาณาจักรและยังดำรงตำแหน่งเจ้าเมืองเซี่ยเฟิงด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ซูตี๋กั๋วได้ตายไปแล้ว เขาถูกฝังไปพร้อมกับซูผิงผิงและทหารกล้านับแสนนายที่เมืองเซี่ยเฟิง พวกเขาทั้งหมดล้วนถูกสังหารโดยกองทัพสัตว์อสูรอย่างโหดเหี้ยม
และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเมื่อจูเก๋อชิงหยุนได้ยินว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังการลักพาตัวบุตรสาวของจักรพรรดินีสัตว์อสูรคือซูตี๋กั๋ว เขาจึงสบถออกมาว่า ‘ไร้สาระ’
ซูตี๋กั๋วสั่งให้คนไปลักพาตัวบุตรสาวของจักรพรรดินีสัตว์อสูรและชักนำกองทัพสัตว์อสูรมาทำลายอาณาจักรต้าเซี่ย? แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ถูกฆ่าตายเช่นกัน หากนี่เป็นเรื่องจริงก็น่าสงสัยว่าเขาไปกินอะไรมาถึงได้เลอะเลือนเช่นนี้?
ในความเป็นจริง เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไปทั่วทวีป ประชาชนทุกคนต่างก็คิดเช่นเดียวกันกับจูเก๋อชิงหยุน มันทั้งน่าขบขันและไร้สาระยิ่งนัก
ทางจักรวรรดิมังกรเวหาเองก็กำลังสงสัยอาณาจักรบริวารทั้งหมดยกเว้นเพียงอาณาจักรต้าเซี่ย เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็คือผู้ที่ได้ผลกระทบมากที่สุดจากภัยพิบัติในครั้งนี้
นึกย้อนกลับไป ถึงแม้ว่าอาณาจักรต้าเซี่ยจะเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลังจริง แต่ทำไมพวกเขาถึงต้องชักนำกองทัพสัตว์อสูรมาหาตัวเองแทนที่จะไปยังอาณาจักรเสินหวู่?
แต่ถ้าหากให้คิดในอีกมุมหนึ่ง พวกเขาอาจจะทำร้ายตัวเองเพื่อหลอกตาคนทั้งโลกและกำจัดความสงสัยทั้งหมด อย่างไรก็ตาม พวกเขาถึงขั้นยอมเสียสละกำลังรบหนึ่งในสามและยอดฝีมือขอบเขตจินกังที่มีเพียงคนเดียวเชียวหรือ?
ด้วยกำลังทหารที่มีในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นอาณาจักรใดอาณาจักรหนึ่งก็สามารถบดขยี้พวกเขาได้อย่างง่ายดาย แล้วแบบนี้พวกเขาจะเป็นผู้อยู่เบื้องหลังได้ยังไง?
แม้แต่เด็กสิบขวบก็ยังรู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังพยายามใส่ร้ายอาณาจักรต้าเซี่ย ดังนั้นจึงไม่มีใครเชื่อว่าพวกเขาเป็นคนทำอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ไม่นานต่อจากนั้น จักรวรรดิมังกรเวหาก็ได้ป่าวประกาศบางอย่างออกมาซึ่งทำให้ผู้คนทั่วทั้งทวีปเกิดความโกลาหล
พวกเขากล่าวอ้างถึงหลักฐานสำคัญสองชิ้น หนึ่งในนั้นคือพยานบุคคล แต่ไม่น่าเชื่อว่าผู้ที่มาให้การนั้นจะเป็นบุตรชายซูตี๋กั๋วเอง!
เดิมทีบุตรชายของซูตี๋กั๋วผู้นี้อาศัยอยู่ในเมืองเซี่ยเฟิง แต่เขาก็แอบหนีออกมาในช่วงสงคราม จากนั้นก็ถูกไล่ล่าโดยคนของราชวงศ์อาณาจักรต้าเซี่ย สุดท้ายก็หนีเอาชีวิตรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
บุตรชายของซูตี๋กั๋วมีชื่อว่า ซูจือเหิง และคำอธิบายของเขาก็ค่อนข้างน่าสนใจ
เดิมทีบัลลังก์ของอาณาจักรต้าเซี่ยสมควรเป็นของบิดาเขาตามพินัยกรรมของราชาองค์ก่อนผู้ล่วงลับไปแล้ว แต่ซูตี๋หวังได้ร่วมมือกับขันทีผู้หนึ่งที่มีตำแหน่งใหญ่โตในการแก้ไขพินัยกรรมฉบับนั้นและยึดบัลลังก์ไป
ดังนั้นซูตี๋กั๋วจึงทำได้แค่เก็บซ่อนความแค้นไว้ในใจ และวางแผนทวงคืนบัลลังก์กลับมา
พ่อของเขาเป็นผู้ลักพาตัวจิ้งจอกวิญญาณสามหางจริง… แต่นั่นก็เป็นเพราะคำสั่งจากราชาซูตี๋หวัง ชายผู้นั้นต้องการที่จะชักนำกองทัพอสูรเพื่อเข้าทำลายอาณาจักรเสินหวู่และกำจัดเจียงเปี๋ยหลีในเวลาเดียวกัน
ส่วนเรื่องพิธีอภิเษกสมรสระหว่างเซี่ยอู๋หุ่ยและซูรั่วเสวี่ยก็เป็นเพียงแค่ข้ออ้างในการปกปิดแผนการร้ายเท่านั้น
เมื่อซูตี๋กั๋วได้รับคำสั่งลับจากซูตี๋หวัง เขาก็ส่งผู้ใต้บังคับบัญชาไปจับตัวจิ้งจอกวิญญาณสามหาง แต่เขาไม่หลอกล่อกองทัพสัตว์อสูรไปยังอาณาจักรเสินหวู่ตามคำสั่งและชักนำพวกมันเข้ามาสู่อาณาจักรต้าเซี่ยแทน
ในตอนแรก เขาเพียงแค่ต้องการที่จะสังหารซูผิงผิงและซูตี๋หวังเพื่อที่จะทวงบัลลังก์กลับมา แต่แล้วแผนการก็เกิดผิดพลาดเนื่องจากถูกซูตี๋หวังล่วงรู้แผนเข้า อีกฝ่ายจึงได้ส่งผู้เชี่ยวชาญนับสิบออกมาและสังหารเขาที่เมืองเซี่ยเฟิง
ตามที่บุตรชายของซูตี๋กั๋ว, ซูจือเหิงกล่าว หลังจากเหตุการณ์นั้น ราชาแห่งอาณาจักรต้าเซี่ยก็ทำการสังหารหมู่ครอบครัวของเขาและเนื่องจากการเสียสละของบรรดาผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์ เขาจึงหนีรอดมาถึงจักรวรรดิมังกรเวหาได้สำเร็จ
เพราะความเคียดแค้นและเกลียดชังที่ซูจือเหิงมีต่อราชาซูตี๋หวัง เขาจึงตัดสินใจที่จะเปิดเผยเรื่องนี้ให้คนทั้งโลกได้รับทราบ
ไม่รู้ว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่ แต่อย่างน้อยก็ต้องยอมรับว่ามันสมเหตุสมผลพอสมควร
เมื่อหลายสิบปีก่อน ซูตี๋หวังได้ส่งกองทัพบุกมายังอาณาจักรเสินหวู่ แต่ก็ถูกเจียงเปี๋ยหลีที่ดักซุ่มอยู่ในหุบเขาทลายวิญญาณตีแตกพ่าย นอกจากนี้เขายังเคลื่อนทัพไปถึงเมืองเซี่ยยวี่และปิดล้อมที่แห่งนั้นเป็นเวลาสิบวันสิบคืน
ไม่เพียงแต่อาณาจักรต้าเซี่ยจะสูญเสียทหารกล้าไปนับแสน แต่มันยังถือเป็นความอัปยศที่ถูกฝังลึกลงไปในใจของซูตี๋หวังอีกด้วย
เหตุผลที่ซูตี๋หวังต้องการจะแก้แค้นอาณาจักรเสินหวู่และเจียงเปี๋ยหลีก็ฟังดูสมเหตุผลสมผลดี เรื่องที่ซูตี๋กั๋วต้องการทวงคืนบัลลังก์โดยการชักนำกองทัพเข้ามาในอาณาจักรก็มีความเป็นไปได้ แม้แต่เรื่องที่ซูตี๋หวังโกรธแค้นและส่งคนมาสังหารซูตี๋กั๋วก็ฟังขึ้นเช่นกัน
แต่ปัญหาคือ… ทำไมราชาซูตี๋หวังถึงได้มอบหมายงานที่สำคัญเช่นนี้ให้กับซูตี๋กั๋วกัน?
แล้วทำไมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ลักพาตัวจิ้งจอกน้อยถึงไปยังเมืองเซี่ยเฟิงแทนที่จะเป็นเมืองเซี่ยยวี่ซึ่งเป็นเมืองหลวง?
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ไปเมืองเซี่ยยวี่ แต่ก็น่าจะมุ่งหน้าไปยังอาณาจักรเซิ่งหลิงและอาณาจักรเสินหวู่แทนสิ? ทำไมพวกเขาถึงมองข้ามทั้งสองอาณาจักรและตรงไปยังเมืองเทียนชิงทันที? ไม่ใช่ว่าอาณาจักรเสินหวู่เป็นศัตรูเก่าของอาณาจักรต้าเซี่ยหรือ?
ยังไม่หมดแค่นั้น!
เพราะองค์ชายองค์โตของจักรวรรดิมังกรเวหาได้เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย สรุปแล้วมันหมายความว่ายังไงกันแน่?
มีจุดน่าสงสัยมากเกินไป แต่ซูจือเหิงก็อ้างว่าเขาไม่ทราบรายละเอียดเรื่องนี้จึงไม่สามารถอธิบายได้ นอกจากตัวเขาแล้วก็ยังมีหลักฐานสำคัญอีกชิ้นหนึ่งที่มัดตัวอาณาจักรต้าเซี่ยไว้ได้อย่างแน่นหนา!
แจกันเขียวพิสุทธิ์!
ซูจือเหิงกล่าวว่าสิ่งประดิษฐ์ชิ้นนี้เป็นของอาณาจักรต้าเซี่ยและผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากก็ทราบเรื่องนี้เช่นกัน
แจกันใบนี้เป็นสิ่งที่ราชวงศ์อาณาจักรต้าเซี่ยได้มาจากสุสานราชันสวรรค์เมื่อหลายร้อยปีก่อนและได้กลายเป็นมรดกสืบทอดมาหลายชั่วอายุคน
มันคือสิ่งประดิษฐ์ช่วยชีวิตที่ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะยอดฝีมือประจำอาณาจักรสามารถใช้มันในการบรรจุสมาชิกคนสำคัญของราชวงศ์ลงไปและพาหลบหนีได้ในยามที่อาณาจักรเกิดภัยพิบัติ มันยังเป็นสิ่งประดิษฐ์เพียงชิ้นเดียวในทวีปนี้ที่สามารถเก็บสิ่งมีชีวิตลงไปได้!
เมื่อหลักฐานชิ้นนี้ถูกงัดออกมา ทั่วทั้งทวีปก็ตกอยู่ในความโกลาหล อาณาจักรทั้งห้ารวมไปถึงจักรวรรดิมังกรเวหาต่างก็พากันค้นหาบันทึกโบราณเกี่ยวกับการครอบครองแจกันเขียวพิสุทธิ์ของอาณาจักรต้าเซี่ยกันให้ควั่ก
บรรดาผู้ที่ส่งคนออกตามหาจิ้งจอกน้อยอย่าง สำนักมังกรเวหา, สำนักฮวาเหลี่ยง, สำนักจิตอสูร, หอดาราสุ่ยเยว่, อารามเซนและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญจากจักรวรรดิมังกรเวหาต่างก็เป็นพยานได้ว่าจิ้งจอกน้อยถูกจับตัวไว้ในแจกันเขียวพิสุทธิ์ซึ่งอยู่ในมือของเจียงอี้
หลักฐานสองชิ้นนี้รัดตัวอาณาจักรต้าเซี่ยจนดิ้นไม่หลุด!
แม้ว่าจะมีจุดน่าสงสัยมากมาย แต่มันก็ไม่สำคัญอีกแล้ว ภายในบันทึกโบราณของทุกอาณาจักรมีเขียนไว้ว่าอาณาจักรต้าเซี่ยได้ครอบครองแจกันเขียวพิสุทธิ์จริง แต่ก็ไม่มีข้อมูลส่วนไหนที่ชี้ว่าพวกเขายกมันให้กับผู้อื่น ซึ่งก็หมายความว่าซูตี๋หวังคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้แน่นอน
เขาคือคนบาปและศัตรูของมวลมนุษย์!
“แจกันเขียวพิสุทธิ์?”
ภายในสำนักจิตอสูร จูเก๋อชิงหยุนและรองเจ้าสำนักคนอื่นๆกำลังหารือกัน ใบหน้าของรองเจ้าสำนักฉีเผยให้เห็นความตกตะลึง จากนั้นนางก็เอ่ยขึ้นมา
“จิ้งจอกน้อยถูกขังไว้ในแจกันเขียวพิสุทธิ์ซึ่งถูกเจียงอี้ครอบครองอยู่ในตอนนี้… ท่านเจ้าสำนัก ผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องในครั้งนี้คืออาณาจักรต้าเซี่ยจริงๆหรือเจ้าคะ?”
ดวงตาที่เต็มไปด้วยความแข็งกร้าวของรองเจ้าสำนักเถี่ยฉายแววเยือกเย็นขณะกล่าว
“หากว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของซูตี๋หวังจริง เช่นนั้นเขาก็สมควรถูกประหาร!”
มีเพียงจูเก๋อชิงหยุนที่ยังไม่ได้ด่วนสรุป แต่คิ้วที่ดูแหลมคมราวกับกระบี่ของเขาก็ขมวดเข้าหากันเนื่องจากความกังวล ดวงตาของเขาเหม่อมองไปทางทิศใต้ขณะเอ่ยออกมา
“ไม่สำคัญว่าเขาจะเป็นผู้บงการหรือไม่ แต่ดูเหมือนว่าอาณาจักรต้าเซี่ยจะไม่อาจหลีกหนีภัยพิบัติในครั้งนี้ไปได้แล้ว อีกไม่นานไฟสงครามจะปะทุขึ้นอีกครั้ง ข้าสงสัยเหลือเกินว่าจะต้องมีอีกกี่ชีวิตที่ต้องถูกสังเวยไป…”