ตอนที่ 10 กลุ่มทหารรับจ้างโมฟู
ตอนที่ 10 กลุ่มทหารรับจ้างโมฟู
‘กริ๊ง กริ๊ง!’ เสียงกระดิ่งหน้าประตูทางเข้าดังขึ้นเพื่อแจ้งให้ฉันรู้ว่ามีลูกค้าใหม่กำลังเดินเข้ามา
บรรยากาศร้านได้เปลี่ยนไป ชายที่ค่อนข้างสูงยืนอยู่หน้าประตู ชายผู้นั้นมีผมสีดำตัวสูงและมีสายตาดุดันมองตรงมาที่ฉัน ด้านหลังของเขามีชายยืนอยู่อีกสามคน ลูกค้าทั้งหมดที่นั่งอยู่เริ่มหน้าซีดและแข็งทื่อจากนั้นพวกเขาควักเงินที่ต้องจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่มทั้งหมดออกมาวางไว้ที่โต๊ะแล้วรีบลุกออกไป
“ไว้เจอกันใหม่นะรอนย่า!”
“ขอบคุณสำหรับอาหารที่อร่อยเหล่านี้!”
พวกเขาบอกลาฉันอย่างรีบร้อนและกุลีกุจอเดินออกจากร้านอย่างระมัดระวังไม่ให้ถูกตัวสี่หนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้าร้าน
ฉันรู้สึกมึนงงอย่างมากว่าเกิดอะไรขึ้น ทุกคนเดินออกไปจากร้านอย่างรวดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไรกัน ราวกับว่าที่นี่กำลังมีภัยพิบัติหรือเกิดไฟไหม้ เหลือเพียงฉันยืนนิ่งอย่างมึนงงอยู่คนเดียวในร้าน ขณะที่ฉันกำลังลังเลว่าจะทำตามคำแนะนำของพวกลูกค้าที่บอกให้ฉันนำเครื่องรางเสน่ห์ขับไล่สัตว์ร้ายมาติดดีหรือไม่ จู่ ๆ ตรงหน้าของฉันก็มีลูกค้าหนุ่มกลุ่มใหม่ยืนอยู่
“ยินดีต้อนรับเจ้าค่ะ” ฉันกล่าวต้อนรับพร้อมกับร้อยยิ้มสดใส
เมื่อพวกเขาเดินเข้ามาใกล้กว่าเดิม ฉันก็พบว่าพวกเขาใส่เครื่องแบบเดียวกันทุกคน
ชายคนแรกที่เดินเข้ามาในร้านคือผู้ชายผมดำ เส้นผมของเขาดำเงางาม ดวงตาของเขาเป็นรูปทรงอัลมอนด์และมีสีเหลืองอำพัน เขาก้าวเท้าอย่างหนักแน่นมุ่งตรงมายังโต๊ะริมกำแพงและนั่งลงบนโซฟา
ชายผมดำผู้นี้สูงกว่าชายผมสีเขียวตาสีมรกตอยู่พอสมควร สายตาของพวกเขาค่อนข้างดุดันคล้ายกัน ถ้าหากว่าพวกเขาเคยมาที่ร้านฉันจะต้องจำได้อย่างแน่นอน ทว่าฉันไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย... บางทีฉันอาจเคยเห็นพวกเขาเดินผ่านไปผ่านมาบนถนนก็เป็นได้ ผู้ชายผมสีเขียวเดินตามชายผมดำไปและนั่งบนโซฟาด้านหน้าของเขา
“เธอสวยดั่งเทพธิดาในนิยายเสียจริง!”
เสียงที่เยือกเย็นนี้แล่นผ่านหูของฉัน มันเย็นชาจนฉันจะต้องหันไปมองยังประตูทางเข้า ซึ่งเสียงนั้นมันเป็นเสียงของเด็กหนุ่มผมสีขาวที่ดูนุ่มสลวยดุจแพรไหม ผมสีขาวที่สะท้อนกับแสงแดดช่างสวยงามเหลือเกิน ขนคิ้วและดวงตาของเขาเป็นสีฟ้าช่างสมบูรณ์แบบเสียจริง...
ดูเหมือนว่าเขากำลังชื่นชมหน้าตาของฉันทว่าน้ำเสียงของเขาเหมือนกำลังเมินเฉยฉันเสียมากกว่า... เขาทั้งสองคนเดินมุ่งหน้าไปยังโต๊ะที่ชายผมดำและเขียว พวกเขาทั้งสองนั่งลงยังโซฟาที่ว่างอยู่
“อืมมม...” เสียงเย็นชาจากชายอีกคนที่มีผมสีน้ำเงิน เขาทำทรงผมหวีไปด้านหลังและสูงพอกันกับชายผมสีดำ รูปทรงดวงตาของเขายกขึ้นเล็กหน้อยดูเหมือนตาของเหยี่ยวและมีสีฟ้า เขานั่งอยู่ด้านข้างชายผมดำซึ่งเป็นด้านหน้าของชายผมขาว
โต๊ะที่เขานั่งนั้นเป็นโซฟาที่สามารถนั่งได้เต็มที่สี่คน ดังนั้นการที่หนึ่งโต๊ะมีคนนั่งทั้งหมดสี่คนมักจะวุ่นวายในการสั่งอาหารและเครื่องดื่ม ทว่าในตอนนี้ทั้งร้านไม่มีลูกค้าอื่นเลย เหลือเพียงลูกค้าสี่คนนี้เท่านั้น
“ข้าขอทำความสะอาดโต๊ะก่อนนะเจ้าคะ”
เมื่อฉันวางถาดอาหารลงบนโต๊ะ ฉันก็สังเกตุได้ว่าชายผมดำเอาแต่จ้องมองเค้กที่อยู่ในถาด
เค้กช็อคโกแลตฟองดองที่ราดแยมราสเบอร์รี่ถูกกินไปแล้วครึ่งหนึ่งจนมันกลายเป็นเศษเค้กชิ้นเล็ก ๆ
โดยปกติแล้วฉันจะทำเค้กชิ้นใหญ่ ทว่าลูกค้าชายส่วนมากขอให้ฉันทำเค้กที่มีชิ้นเล็กลงมาเพราะพวกเขากังวล พวกเขามักพูดกับฉันว่า ‘ข้ากลัวอ้วนขึ้นหนะ เจ้าช่วยทำเค้กชิ้นเล็กลงได้หรือไม่?’ จากนั้นฉันจึงได้เริ่มอบขนมเค้กที่มีขนาดเล็กลง และลูกค้าหญิงก็ชอบเค้กชิ้นเล็กด้วย ฉันจึงตัดสินใจนำเค้กฟองดองเข้าไปอยู่ในรายการของหวาน
“ร้านนี้ไม่หวานแววไปหรือ? มีแต่กลิ่นพืชผักผลไม้...” ชายผมสีขาวสูดดมกลิ่นรอบร้าน จากนั้นชายผมสีฟ้าก็ได้ตอบว่า “กลิ่นพวกนี้มาจากดอกไม้มิใช่หรือ?”
ถึงร้านกาแฟจะมีต้นไม้ปลูกรายล้อมเต็มไปหมด ทว่าข้างในร้านก็มิได้ตกแต่งจากต้นไม้หรือดอกไม้เลย สิ่งที่ผุดเข้ามาในหัวของฉันคือเจ้านางฟ้าดอกบัวตัวน้อยโลโตะ เพราะฉันได้กลิ่นดอกบัวลอยหอมฟุ้งมาอ่อน ๆ พวกมันอาจทิ้งกลิ่นเอาไว้เพราะว่าช่วยฉันทำความสะอาดร้านเมื่อเช้านี้ แต่ที่ฉันระบุได้ว่าเป็นกลิ่นของโลโตะก็เพราะฉันคุ้นเคยกับพวกมันมานาน ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาคงจะไม่สามารถระบุได้ว่ากลิ่นนี้คือกลิ่นของตัวอะไร
เมื่อมองไปยังเครื่องแบบของชายทั้งสี่คนแล้วฉันก็นึกขึ้นได้ว่าเคยเห็นที่ไหน... เหตุการณ์ที่ลูกค้าวิ่งหนีออกจากร้านอย่างรวดเร็ว... หรือว่า...
“เนื้อย่าง!”
ฉันกลับมาได้สติอีกครั้งหลังจากได้ยินเสียงของหนึ่งชายหนุ่มในกลุ่มลูกค้าใหม่
เสียงสั่งอาหารนี้มาจากชายหนุ่มผมดำ ดูเหมือนว่าเขาผู้นี้จะมีน้ำเสียงโทนต่ำ
“หัวหน้า! ข้าบอกท่านแล้วมิใช่หรือว่าที่นี่ไม่มีเนื้อย่าง!” ชายผมสีเขียวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของชายผมดำได้พูดขึ้นมา
หลังจากได้ยินเสียของชายผมเขียว ฉันมั่นใจแล้ว...
“อืมม.. ขอโทษที่ต้องถามนะเจ้าคะ... ท่านใช่อมนุษย์ที่มาเมื่อวานหรือไม่?”
“ใช่แล้ว... ข้าเอง”
“ว่าแล้วเชียว!” ฉันรู้สึกดีใจขึ้นมาที่จำเขาได้แม่นยำ
“ข้าจำสายตาและน้ำเสียงของท่านได้ ข้าจึงคิดว่า...”
ฉันเข้าใจแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะแปลงกายเป็นมนุษย์ทว่าบุคลิกภาพและน้ำเสียงของเขาก็มิได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ด้วยการพึมพำอย่างดีใจของฉันทำให้ชายผมสีเขียวมองฉันด้วยดวงตาเบิกกว้าง
“อ้า... ข้าต้องขอโทษท่านด้วย... ข้าไม่เคยพูดคุยกับอมนุษย์มาก่อนเลย ถ้าหากข้าทำอะไรให้ท่านไม่พึงพอใจข้าต้องขออภัยเอาไว้ล่วงหน้าด้วยเจ้าค่ะ” ฉันโค้งคำนับเป็นการขอโทษอีกครั้ง ปฏิกิริยาของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและประหลาดใจ “ไม่เป็นไร...” เขาพูดพร้อมหลบหลีกสายตาของฉัน
“เฮ้! ซีน่าเจ้าถูกจับได้เสียแล้ว!” ชายผมขาวหัวเราะลั่น
ดูเหมือนว่าชายผมเขียวจะชื่อซีน่านะ...