214 ฉันคิดว่าเธอเป็นตัวละครในเกม
“ไม่...ไม่ใช่แฟนฉัน” ‘ถึงจะชอบก็เถอะ แต่มาโลกนี้รู้สึกเหมือนคิร่า เป็นอีกคนไปเลย’ ซิสพูด “คือว่าอยากจะได้รองเท้าสักคู่หนึ่ง แบบถูกที่สุด แนะนำร้านให้หน่อยสิ”
“นายเปลือยเธอทุกอย่างเลยรึไง เฮ้อ แต่ดูแล้วเหมือนหล่อนจะชอบชานมไข่มุกสุดๆ” ตาลก้มไปมองใต้ร้านชานมไข่มุก “หนึ่งพัน แถมถุงเท้าหนึ่งคู่ รุ่นนี้กำลังฮิตเลยนะ” ตาลดึงกล่องรองเท้าออกมา “ฉันใส่ไม่ได้ ว่าจะเอาไปขายพอดี แค่ซื้อมาตอนลดราคา”
“มีไม่ถึงสามร้อยด้วยซ้ำ!” ซิสพูดโดยไม่รู้ตัว “ช่างเถอะ ให้คิร่าลองใส่ได้ไหม เท้าของหล่อนน่าจะใส่ได้”
คิร่าสวมรองเท้าผ้าใบสีขาว “ฉันมีเป็นล้าน แต่ว่ากระเป๋าคาดเอวฉันหาย คงต้องทำภารกิจนิดหน่อย ก็สามารถซื้อรองเท้าเธอได้ ว่าแต่รองเท้าเธอค่าต้านทานเท่าไหร่” คิร่าพูดต่อ “แล้วเสริมพลังได้ไหม คุณสมบัติอื่นๆ มีอะไรบ้าง”
ตาลมองไปที่ซิส “ไว้มีเงินแล้วค่อยมาจ่ายก็ได้นะ , นายกับหล่อน ช่างจินตนาการเหมือนกันทั้งคู่” ตาลยืนตักน้ำให้ลูกค้าหน้าร้าน
“ขอบคุณตาล ไว้ฉันมีแล้วจะเอามาจ่ายให้” ซิสพูดอย่างโล่งอก
การสนทนาไม่ราบรื่น ลูกค้าในห้างต่างก็เริ่มเดินเข้ามา เพราะเห็นคิร่าสวมชุดพนักงาน ต่างคนก็รีบเข้ามาซื้อชานมไข่มุก ตาลหัวเราะที่คิร่าพูดเพราะคิดว่าบ้าๆ พอกับซิส เวลาผ่านไปกับสองชั่วโมง ชานมไข่มุกขายหมดเกลี้ยง แทบจะไม่เหลือสักแก้วเดียว
“ฉันไม่เคยเป็นแม่ค้ามาก่อน” คิร่าพูด “แต่ก็สนุกมากเลย ใส่เยลลี่ก้อนดำที่เหมือนไข่สัตว์บางชนิดที่ฉันเคยเจอ จากนั้นก็เติมน้ำหวานๆ พวกนักผจญภัยที่มาซื้อก็ไม่สวมอาวุธเลยสักคน ชุดก็แปลกประหลาด ในตึกอากาศเย็นฉ่ำนี้น่าจะปลอดภัยจากปีศาจสินะ”
“ค่าจ้างของเธอ” ตาลส่งเงินให้คิร่า “ห้าสิบทอง”
“แค่ห้าสิบทอง ฉันไปล่าปีศาจทางทิศตะวันตก ยังได้เยอะกว่านี้อีก” คิร่าพูดและดูดชานมไข่มุก มองคนเดินผ่านไปมา
“เยอะแล้วคิร่า” ซิสเสริม “ในโลกนี้เราทำงานกันเป็นชั่วโมง แปดชั่วโมงเท่ากับหนึ่งร้อยทอง และที่ตาลให้เธอก็เยอะแล้วนะ” ‘ส่วนตัวเราทำงานในโลกนี้ได้เพียง วันล่ะ สามสิบทองเอง’ ‘เฮ้อ’ ‘บางวันก็ไม่ได้’
“ก็ฉันล่ามอนสเตอร์ได้เยอะกว่านี้อีก” คิร่ายังคงเถียงขึ้นมา
“ค่าเงินมันต่างกันด้วย” ซิสอธิบาย “ในโลกนั้นหนึ่งร้อยทองเท่ากับโลกนี้หนึ่งทอง ห้าสิบทองเท่ากับ ห้าพันทองในโลกของเรา”
“ฉันไม่เข้าใจ” คิร่าพูด “แลกเปลี่ยนเงินโลกนี้โลกนั้นอะไรกัน แต่ยังไงมันก็ได้น้อยอยู่ดี”
“ฉันจะอธิบายยังไงดีเนี่ย” ซิสพูดเชิงอธิบาย
“ไม่เป็นไรหรอกซิส ฉันว่าเธอไม่ได้ต้องการเงินขนาดนั้นหรอก เพียงแต่หล่อนน่าจะเคยหาได้มากแค่นั้นเอง” ตาลพูดเพื่อปลอบใจทั้งคู่ที่เถียงกัน แต่ก็ยังไม่หยุด
“งั้น ฉันก็ควรจะคืนให้ตาล เพราะถ้าเธอให้ฉันขนาดนี้ มันดูเหมือนฉันกำลังเอาเปรียบเธอ” คิร่าส่งเงินคืนให้ตาล
“ไม่เป็นไรหรอก รับไปเถอะ” ตาลยังคงยื่นให้คิร่า
แต่คิร่าไม่รับ “ไม่ต้องห่วงฉัน ฉันหาได้มากกว่านี้ ขอแค่ได้ธนูคืนมาเท่านั้นเอง”
ตาลพยักหน้าและเดินเข้ามาใกล้ซิสพูดเบาๆ ว่า “ซิส ชีวิตนายแปลกประหลาด ยังจะมีแฟนแปลกอีก ฉันไม่อยากจะนึกถึงลูกของนายเลย”
“ไม่แปลกหรอก เชื่อฉันเถอะ , ฉันจะกลับบ้าน ไปตอนนี้น่าจะทันรถเมล์” ซิสพูด เขาคิดแผนในหัวมากมาย ประมวลผลสิ่งต่างๆ ‘จะให้ใครรู้ไม่ได้ว่าคิร่ามีทองเยอะขนาดนั้น’ ตาลนั่งพักด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะเก็บของ ลูกค้าเยอะเป็นพิเศษและเริ่มหัวเราะกับเรื่องที่คิร่ากำลังเล่า ล่าสุดทำภารกิจในเหมือง สร้างธนูไฟ หล่อนค่อนข้างชินกับพฤติกรรมแบบนี้ ซิสเป็นประจำระหว่างเรียนที่มหาวิทยาลัย และตาลดีใจที่คิร่ามาเป็นคนช่วยขายทำให้ขายดี แต่หล่อนต้องฟังเรื่องประหลาด เลยสองจิตสองใจจะให้อยู่ต่อดีไหม
ซิสเดินพาคิร่าไปขึ้นรถเมล์ แต่ระหว่างทางนั้นเขาซื้อกล้วยหอมหกลูก สิบสองทอง ตามด้วยน้ำเปล่าอีกสองขวดใหญ่ ‘ฉันใช้ชีวิตเพียงวันล่ะ หกทอง แต่มีเธอมาด้วยกลายเป็นวันล่ะสิบทอง ช่างเถอะ รีบกลับไปโลกนั้นให้ไวที่สุด’ ‘ทองในถุงของคิร่า ถ้านำมาใช้ ไม่สิ อย่าเลย’ คิร่าแปลกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเมือง ผู้คนเยอะมากกว่าปกติ แต่ซิสบอกให้คิร่าทำตัวปกติ เก็บคำถามและท่าทางแปลกๆ ไว้ในใจเพราะตั้งแต่สวมชุดพนักงานขายชานมไข่มุก ก็ดูกลมกลืนได้เป็นอย่างดี
“กินสิ” ซิสส่งกล้วยให้คิร่าหนึ่งลูก “ฉันให้เธอนั่งข้างหน้าต่าง แต่สัญญาก่อนนะจะไม่ยื่นส่วนใดของร่างกายออกไป”
คิร่าเหมือนจะเชื่อฟังนิดหน่อย หล่อนชี้สิ่งต่างๆ ให้ซิสดู “ฉันไม่เคยเห็นแบบนี้มาก่อน วุ่นวายอย่างบอกไม่ถูก เสียงก็ดังด้วย แต่แทบจะไม่มีปีศาจเลย สัตว์ขี่หุ่นเหล็ก หน้าตาประหลาดเยอะไปหมด พวกนั้นไม่ขี่ม้า ไม่นะ น่าจะเป็นม้าเหล็ก มีหนอนเหล็กตัวใหญ่วิ่งบนนั้นด้วย จอถ่ายทอดสดเยอะไปหมด นักผจญภัยไม่พกอาวุธกันเลย แสดงว่าโลกที่นายอยู่ปลอดภัยสินะ”
“ก็ไม่ปลอดภัยสักเท่าไหร่หรอก” ซิสพูดด้วยความอ่อนล้า
รถประจำทางวิ่งออกไปผ่านไปสามชั่วโมงก็ออกมาจากขอบเมือง สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้ แม่น้ำ ลำธาร ซิสเผลอหลับไป ส่วนคิร่าแทบจะหลับตาไม่ลง หล่อนกระหายที่จะออกไปและตั้งคำถามกับซิสไม่หยุด ซิสจึงบอกให้คิร่านอน “หลับตาลง ทุกอย่างจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง”
“อะไรคือโลกแห่งความจริง พวกเรากระโดดสูงไม่ได้หรอในบ้านนักผจญภัย , ตัวอะไรกัดแขนฉันก็ไม่รู้ , โลกของนายค่อนข้างจะแปลก” คิร่าแทบไม่หยุดพูดตลอดทาง “พลังเวทย์ก็หายไปหมด ทุกอย่างดูช้ากว่าปกติ , หนอนเหล็กอยู่ตรงนั้น! มันส่งเสียงออกมาแล้ว!”
“รถไฟน่ะ” ซิสตอบด้วยเสียงเบา
“อะไรคือรถไฟ” คิร่าพูดต่อ “ฉันเคยนั่งรถม้าแล้วกลิ้งตกลงมา เจ็บมากเลยล่ะ แต่มองดูแล้วเต่าเหล็กคันนี้ น่าจะทำให้เราเจ็บได้เหมือนกัน ฉันคิดไม่ออกเลยว่าถ้ามาอยู่ในโลกนี้แล้วจะทำอะไร ไม่มีปีศาจให้ต่อสู้ คงจะสงบน่าดู พูดถึงก็เป็นช่วงเวลาที่ดีเหมือนกันนะ หมู่บ้านของนายมีน้ำตกไหม ลำธารก็ได้ ฉันชอบลงไปแช่น้ำ แล้วหมู่บ้านของนายมีต้นทานตะวันไหม”
การเดินทางมาสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง แสงไฟ ต้นไม้ นกบินกลับรัง ซิสรอรถเมล์เพื่อเข้าไปหมู่บ้านที่ตนเองอาศัยอยู่ กล้วยลูกที่สองกลืนลงท้อง ‘ฉันว่าต้องอธิบาย ไม่งั้นเธอเป็นบ้าแน่’ ซิสคิดในใจและเรียบเรียงทุกอย่างที่จะพูดออกไป รถเมล์คันเก่า คิร่าเรียกมันว่าเต่า เคลื่อนที่ช้ากว่าคันแรกที่หล่อนนั่ง รอบด้านเริ่มจะบางตาไปด้วยผู้คน ในรถเมล์มีเพียงลุงขับรถ และป้าแก่ๆ ถือถุงกับข้าว ส่วนลุงอีกคนถือถังไม้ใส่หน่อไม้
“ในที่สุด ฉันจะเจอคนที่มีอาวุธ นักผจญภัยสวมหมวกฟาง” คิร่าพูด “ดาบเล่มเล็กคาดเอว”
“คิร่า” ซิสมองคิร่าได้เพียงสามวินาที เขาก็ต้องเปลี่ยนจุดสนใจออกไปทางหน้าต่าง “คือว่า… โลกที่ฉันอยู่ คือ โลกแห่งความเป็นจริง ส่วนในประตูแสงที่เราโผล่ออกมา ที่เธออยู่ มันคือโลกเกม”
“นายพูดเรื่องอะไร นายก็แค่พาฉันมาอีกหมู่บ้านหนึ่งที่ใหญ่ และนักผจญภัยแปลกประหลาดเยอะไปหน่อย แค่นั้นเอง” คิร่าจับถุงเล็กสีม่วงที่สวมไว้ที่คอหมุนไปมาและมองซิสที่ดูเหมือนจะจริงจังกว่าปกติ “เรามีสองร่างงั้นหรอ อย่าคิดมากน่า”
ซิสส่ายหัว มองมือคิร่า “ฉันคิดว่าเธอเป็นตัวละครในเกม ซึ่งไม่มีชีวิตอยู่จริงๆ คิดว่าเธอคงจะไม่โผล่มาด้วย”
“แต่ฉันก็มาแล้วนี่ไง” คิร่าจับมือซิส “นี่ไง ฉันมีตัวตน , แล้วอะไรคือเกม” ซิสเขินและแทบจะพูดอะไรต่อไปไม่ถูก มือของเขาและคิร่ากำลังสัมผัสกัน เขารู้สึกว่าคิร่าเป็นคนจริงๆ มือของเธอเย็นและค่อยๆ อุ่น เลือดไหลเวียนในร่างกาย