168 จะบ้าอำนาจไปถึงไหน
หมู่บ้านที่เต็มไปด้วยเหล่านักผจญภัย กำลังพูดคุยเกี่ยวกับมอนสเตอร์บนเกาะซี มอนสเตอร์หอยนักรบ พวกมันใช้หนามแหลมโผล่ออกมาจากเปลือก แทงทะลุชุดเกราะเลเวลสองได้อย่างง่ายดาย มอนสเตอร์กุ้งเปลือกเหล็ก อาวุธจำเป็นจะต้องระดับสูงถึงจะสร้างพลังโจมตีได้ ปลาดาวล่องหน ทำให้โจมตีได้ยาก
อาหารขายดีเป็นพิเศษคือ ซุปหอยใส่สาหร่าย , กุ้งอบชีส , ปลาทอดสมุนไพรชั้นดี , หมึกย่างทราย , ปูน้ำมะพร้าว , ปลาเปลือกหอย ซิสซื้อซุปหอยใส่สาหร่าย และ กุ้งอบชีส ขนาดเล็ก ส่วนคิวซื้อขนาดกลาง
“โคตรอร่อย!!” คิวกัดกุ้งอบชีส และควักขนมปังออกมากัดต่อเนื่อง “มันช่างเข้ากันเสียเหลือเกิน เราควรอยู่ที่ดินแดนที่หกอีกสักหลายๆ วัน ว่าไหมซิส”
“ไม่ไหวหรอกมั้ง บรีชบอกว่า ค่าพลังต่ำกว่าสองพัน ออกไปทำภารกิจอะไรไม่ได้เลย” ซิสซดซุปหอยอย่างช้าๆ เขาปล่อยให้ลิ้นสัมผัสกับน้ำที่เข้มข้น “อย่าลืมสิเราต้องไปล่าบอสเต่าหนวดเขียว”
“อืม จะรีบไปไหน อย่าคิดมากน่า อยู่ต่อสักสองสามวัน” คิวกัดชีสยืดยาวพันรอบขนมปัง “แค่นอนเฉยๆ ริมชายหาดก็ยังดี ฉันพึ่งทำภารกิจมาเหนื่อยๆ ใช้แสนทองซื้อความสุขสักวันหนึ่งก็ยังดี”
“ฮ่าๆ ก็ได้ถือว่าเป็นการพักผ่อน” ซิสเสริมและมองดูผู้คนรอบๆ ‘ส่วนตัวเราเหลือทองไม่ถึงห้าพันด้วยมั้ง’ ‘ถ้าเราไม่ไปดูประลองเวทย์ไปทำภารกิจกับคิวก็ดีสิ’ ‘คิดมากอีกแล้ว’ ‘ช่างเถอะ’
พวกนักผจญภัยสวมอุปกรณ์กันด้วยหน้าตาแปลกประหลาดนิดหน่อย โล่ที่เป็นรูปเปลือกหอย หอกที่สร้างจากก้ามปู ธนูกุ้งเส้นเอ็นที่มากกว่าสามเส้น กำลังตรึงอยู่ระหว่างบนและล่าง ดาบมีไข่มุกสีเขียวล้อมรอบ ผ้าคลุมเต็มไปด้วยลวดลายที่คล้ายอยู่ใต้ท้องทะเล เสื้อเกราะใยไม้ กางเกงมีกระเป๋าหลายช่องขวดโพชั่นล้นออกมา
“หมวกปลาหมึก ช่วยเพิ่มพลังการโจมตีและป้องกันได้ดีมาก” ผู้ชายสวมหมวกปลาหมึก “ถ้าเสริมพลังเข้าไปอีกสามารถพ่นหมึกออกมาใส่คู่ต่อสู้ได้เช่นกัน”
“โล่หอยของฉันก็ไม่แพ้ใคร มันกลายเป็นอาวุธได้เมื่อต้องการ อัตราการหมุนที่รุนแรง เปลือกแหลมคมตัดหัวปูก้ามดาบมาแล้ว” อีกคนเสริม “ผ้าคลุมเปลือกกุ้ง เบาและเพิ่มพลังเวทย์ได้นิดหน่อย”
“สร้อยครีบปลา ทำให้พลังกายเพิ่มขึ้นแถมยังฟื้นฟูพลังกายได้อีกนิดหน่อย” ชายตัวเล็กพูด เขายกลังสมบัติขึ้นมาบนโต๊ะ “กล่องสมบัติใต้ทะเล ไม่เคยได้ของดีสักครั้ง , เหมือนเดิม แหวนปลาดาวใครสนใจบ้าง”
“ฉัน!!” เด็กสาวตัวเล็กรีบยกมือ “ราคาเท่าไหร่”
“ฉันขายให้เธอหนึ่งล้านทองก็พอ” ชายคนนั้นพูดและรับถุงใส่ทองกลับมาไว้ในมือ เด็กสาวตัวเล็กท่าทางดีใจเป็นอย่างมาก
“แหวนปลาดาว ฉันมีเป็นสิบอันแต่ไม่ขายหรอก สะสมไว้ดูเล่น” หญิงสาวผมสั้นกำลังขยับชุดเกราะที่เต็มไปด้วยหินขรุขระ “เกราะของฉันแข็งแกร่งมาก แน่นอนมันคือหินภูเขาไฟ”
“ไม่จริงน่า หินภูเขาไฟแพงสุดๆ” ชายคนนั้นกล่าว “ไม่ใช่ว่ามันหายาก แต่มันโอกาสได้ยากมากๆ”
“ก็ฉันไปล่ามากับมือ ได้ยินว่ามีอยู่ในใต้ท้องทะเลเกาะซีด้วย” หญิงสาวผมสั้นเสริม
“เอาเถอะ พรุ่งนี้ปาร์ตี้ฉันจะไปเกาะซี การแบ่งไอเท็ม ฉันเป็นหัวหน้าปาร์ตี้ มีสิทธิ์เลือกก่อน” ชายคนหนึ่งพูด เขาจับหนวดตัวเองไปมา “ใครสนใจบ้าง”
“ไม่ล่ะ ฉันไปหาปาร์ตี้แบ่งของเท่ากันจะดีกว่า” ชายคนนั้นเก็บถุงทองและเดินจากไป
เจ้าหน้าที่กลุ่มใหญ่กำลังเดินริมชายหาด หลังจากเจ้าของหมู่บ้านเล็กๆ และเจ้าหน้าที่ดูแลป้ายกระดานภารกิจ รีบออกไปส่งถุงใส่ทองให้กับเจ้าหน้าที่คนนั้น เรือขนาดใหญ่กำลังแล่นออกไป คลื่นน้ำกระทบชายฝั่ง
“เคลียร์พื้นที่ให้เรียบร้อย ก่อนฉันจะเข้าไปสู่แท่นวาร์ป” เสียงเจ้าหน้าที่ทุ้มและเข้ม กำลังสั่งลูกน้อง
“ครับเจ้าหน้าที่สูงสุด คุณบลัช!” ทำความเคารพก่อนที่จะวิ่งออกไปทางทิศตะวันตก ฝั่งอู่ต่อเรือ
“การพักผ่อนเป็นอย่างไรบ้างครับ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งถาม
บลัชคำรามใส่เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งที่กำลังก้มหัวและเงยหน้ามามองใบหน้า “ฉันบอกแล้วไง อย่ามองหน้าฉัน” เขาถ่มน้ำลายลงสู่พื้นทรายและเดินต่อไป “ก็สุขสำราญ แล้วทางเมืองหลวงเป็นยังไงบ้าง โบโล”
“เรียบร้อยดีครับท่าน สั่งทุกคนไว้แล้วห้ามเข้าไปห้องทำงานของคุณบลัช” โบโลเดินก้มต่ำตามหลังคุณบลัชไป “แต่พวกเจ้าหน้าที่ระดับห้า เริ่มสงสัยแล้วครับ โดยเฉพาะมิสเตอร์พี”
“ไอ้มิสเตอร์พีอีกแล้วงั้นหรอ ระวังมันไว้ให้ดี ถ้าขืนมันมายุ่งกับธุรกิจของฉัน ดำเนินการแผนต่อไปได้เลย” บลัชยกเครื่องดื่มขึ้นมาก่อนจะพ่นลงพื้น “ไอ้มิสเตอร์พี ไม่รู้ซะแล้วกำลังเล่นอยู่กับใคร”
โบโลแอบยิ้มด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยืดอกอยู่ด้านหลัง ชี้นิ้วสั่งให้เจ้าหน้าที่ระดับล่าง แบกกล่องใส่ของที่หนัก มันเต็มไปด้วยเสื้อผ้าของคุณบลัช และของใช้ต่างๆ ลังไม้ไอเท็มคลุมด้วยผ้าสีดำ
โบโลแยกตัวมาที่ด้านหมู่บ้าน มีเจ้าหน้าที่อีกสามนายกำลังหนุนหลัง กำลังมองหาของกิน ซึ่งมีใครบางคนรีบเอาของกินให้เขาทันที เขารู้สึกภูมิใจในอำนาจที่ตนเองมี และกวาดสายตาเพื่อกดดันทุกคนบริเวณนั้น แต่ตัวเขาเองไม่รู้เลยว่า นักผจญภัยที่อยู่บริเวณนั้น ไม่มีใครชอบขี้หน้าเขาสักคน ไม่มีนักผจญภัยคนไหนสนใจเขาสักคน
“คุณบลัช เจ้าหน้าที่ระดับสูงกำลังเดินทางกลับ” โบโลพูดอย่างเกร็งๆ “หวังว่าพวกแกคงจ่ายภาษีกันครบ ไม่อย่างนั้นเจอดีแน่” เขาส่งสายตาดุร้ายใส่ทุกคน และบังเอิญเหมือนจะเห็นซิสที่กำลังมองดูกะลามะพร้าวที่หน้าอกของสาวคนหนึ่ง แต่ที่จริงแล้วซิสกำลังสนใจสร้อยดอกไม้ และหมวกดอกไม้ ส่วนคิวสบตาโบโลเต็มๆ
“เจ้าหน้าที่! เหมือนฉันจะเจอใครบางคนที่หลบหนีอยู่ ไปตามหามัน” โบโลตะโกนเสียงดัง “ครับท่าน!!” เจ้าหน้าที่สามคนตอบรับทันที “นักผจญภัยผมยาวสีน้ำตาล และอีกคน ผมสั้นสีฟ้า ถ้าใครจับได้ฉันมีรางวัลให้ อาจจะเลื่อนขั้นให้พวกแกเลยก็ได้ แต่ถ้าไม่ก็เตรียมหางานใหม่ได้เลย” เจ้าหน้าที่สามนายรีบวิ่งเข้าไปในร้านที่ทำจากไม้และใบมะพร้าวแห้ง
“เฮ้ย จะบ้าอำนาจไปถึงไหน” ชายตัวใหญ่ถือค้อนหัวเสือ “มันคือสถานที่พักผ่อน ไม่เรียนรู้อะไรซะบ้างเลย”
“ซวยแล้วซิส” คิวเขย่าแขนซิสเบาๆ “ก้มต่ำเร็วเข้า และถอยออกไปด่วน ไอ้โบโลอีกแล้ว”
ซิสถอยลงไปและพยายามมอง “ให้ตายเถอะ ซวยอะไรแบบนี้”
คิวรู้สึกกังวลเล็กน้อย และเจ็บแค้นในใจก่อนหน้านี้ที่ถูกชกเข้าที่ใบหน้า ฝีเท้าเคลื่อนที่ไปอย่างช้าๆ
“หนีกันเถอะ ฉันว่าวาร์ปกลับเมืองหลวงแล้วรีบออกไปทางตะวันออกของเมือง” ซิสกำลังคิดแผน “เสี่ยงเกินไปที่จะอยู่ต่อที่นี่ และกลับเมืองหลวงที่หลังพวกมัน”
“อืม ฉันก็คิดอย่างนั้น” คิวพูด “ไปที่แท่นวาร์ปกันเถอะ”
ทั้งคู่รีบวิ่งออกไปทางหลังร้าน และอ้อมไปสู่ต้นมะพร้าวจำนวนมาก ในใจซิสคิดถึงบรีช แต่เวลานี้ต้องเอาตัวรอดกันก่อน “แล้วเราจะเอายังไงกับท่านบรีชดี เจล และ โลลิ” ‘จะบอกเขายังไงดีว่าพวกเราหายไปเพราะอะไร’ ‘เขาอาจจะรอเราก็ได้’