บทที่ 33: โมเสส
เดิมทีสถานที่ก่อสร้างในเมืองนั้นร้อนมาก และเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อของชาวเมือง…
แต่น่าเสียดายที่สภาพอากาศวันนี้ค่อนข้างแย่นิดหน่อยและฝนก็เริ่มที่จะตกแล้ว
วิลเลียมสวมชุดคลุมสีม่วงขณะที่เดินถือร่มบนถนนกรีนสโตน
เมื่อคนงานบางส่วนที่กำลังคุยกันอยู่ท่ามกลางสายฝน เห็นสายตาการจ้องมองของเขาก็สั่นด้วยความกลัว เพราะพวกเขารู้สึกได้ว่าค่าแรงของบ่ายวันนี้ต้องหายไปพร้อมกับสายฝนเป็นแน่…
“หืม ก็แค่ฝนตกไม่ใช่หรอ? ทำไมพวกเขาถึงหยุดทำงาน?” วิลเลียมมองไปยังน็อกซ์ที่ติดตามมาข้างหลัง
“ท่านลอร์ด แค่ฝนหรอครับ?” น็อกซ์ขยับหมวกด้วยความหมดอาลัยตายอยาก เขาไม่สนใจเสียงดังปึ้งปั้งบนศีรษะ ก่อนจะชี้ไปยังลูกเห็บบนพื้นที่ยังคงมีไอเย็นลอยออกมา…
“ใครจะไปรู้ล่ะ…ก็นี่มันเขตร้อน จะไปมีลูกเห็บได้ยังไงกันเล่า?” มุมปากของวิลเลียมกระตุก เขากำลังจะไปหาโมเสส แต่ฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นมาทันที พอเขาจะเข้าใกล้โมเสส ฝนก็ตกหนักขึ้นกว่าเดิมและเริ่มกลายเป็นลูกเห็บ ราวกับฟ้ากำลังหยุดยั้งเขาไม่ให้พบโมเสส
นอกจากนี้แล้ว หากไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น โมเสสที่มีลางสังหรณ์ก็ดูเหมือนจะรู้แล้วว่าเขามาทำไม นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้โมเสสเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศและบันดาลให้เกิดฝนลูกเห็บที่หนักหน่วงเช่นนี้
อย่างไรก็ตาม นี่ไม่สามารถหยุดวิลเลียมไม่ให้ไปหาเขาได้หรอก
ผ่านไปไม่นาน วิลเลียมก็มาถึงหน้ากระท่อมทำนายโชคชะตาหลังหนึ่ง ก่อนเขาจะสะบัดมือเป็นสัญญาณให้กับน็อกซ์ “กลับไปก่อนเถอะ ข้าจะไปรับการทำนายสำหรับการเดินทางของวันพรุ่งนี้”
“ครับท่านลอร์ด” น็อกซ์มองไปยังวิลเลียมก่อนจะพยักหน้า สำหรับเขาแล้ว ท่านลอร์ดยังคงแปลกประหลาดอยู่สักเล็กน้อย และเขารู้ว่ามีโอกาสที่เขาจะไม่ได้กลับมาหลังจากการเดินทางครั้งนี้
“ก๊อก ก๊อก!” วิลเลียมเคาะประตู
แต่ไม่มีใครตอบกลับมา
“ปัง ปัง!”
ก็ยังไม่มีใครตอบกลับมาอยู่ดี
“ปัง ปัง ปัง ปัง ปัง...”
“ครืดดด” ชายที่ดูชั่วร้ายมีผมสีเงินและรูปร่างสูงโปร่งเปิดประตูออกมา ดวงตาของเขางุนงงเล็กน้อยและปากก็มีคราบน้ำลายเปื้อนอยู่ เขามองไปยังด้านหลังของวิลเลียม กวาดตาไปรอบๆก่อนที่เขาจะตื่นขึ้นมาแล้วกล่าวว่า “โอ้ ท่านลอร์ด ลูกเห็บที่ไหนพาท่านมาถึงนี่ล่ะเนี่ย? แปลกจริงๆ แม้แต่ฝนลูกเห็บก็ตกที่นี่ได้งั้นหรือ?”
มุมปากวิลเลียมกระตุก เขารู้ว่าชายผู้นี้ไร้ยางอาย แต่ก็ไม่ได้คิดว่าจะไร้ยางอายขนาดนี้…
โมเสสเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มีระดับสูงเกินไปในเกมเวอร์ชัน 1.0
ในปีที่เปิดเบต้า เขาไม่ได้ใช้เวทมนตร์ใดๆที่เกินกว่าเลเวล 69 เมื่อเริ่มต้นเกม เขาก็ยังแสดงบทบาทที่รู้สึกเหมือนบอสลับกำลังเฝ้าดูผู้เล่นทุกๆคน
และเขาก็เป็นบอสคนนั้น…
“โมเสส ทำไมท่านถึงนอนกลางวันล่ะ? ไม่อยากทำงงทำงานบ้างเลยหรือ?” วิลเลียมหุบร่มก่อนจะเดินเข้าไปยังกระท่อมสลัวๆที่เต็มไปด้วยไอเทมเวทมนตร์ที่ถูกโยนอย่างระเกะระกะ
ลูกแก้วคริสตัล, อัญมณี, ของหายาก และของแปลกๆเกลื่อนกลาดไปหมด ในเวลาเดียวกันก็มีภาพวาดถูกแขวนอยู่บนฝาผนังที่มีสัญลักษณ์เวทมนตร์ที่อ่านไม่ได้!
และเก้าอี้ตัวเดียวที่ลูกค้าสามารถนั่งได้นั้นถูกครอบครองโดยแมวดำสกปรกตัวหนึ่ง
โมเสสดูเยาว์วัยละมุนละไมแต่ก็แฝงไปด้วยความงามที่ลึกลับ ขณะที่เขาหาว ดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความงุนงง “ข้าไม่มีงานอะไรทำหรอกท่าน ถึงทำก็ไม่ได้เปิดทำการมากว่าหกเดือนแล้ว ทำครั้งหนึ่งก็เลี้ยงตัวเองได้เป็นปี ตราบใดที่อาณาเขตของท่านยังไม่ถูกยึดครอง ข้าก็วางแผนว่าจะอยู่ที่อาณาเขตแห่งนี้ของท่านจนกว่าจะจากไป...”
“...” วิลเลียมจมไปในความคิดของตนเองประมาณสองวิ ก่อนที่เขาจะตบไหล่โมเสสเบาๆ “ช่วยทำนายให้เราว่าการเดินทางไปยังเมืองบลูมูนวันพรุ่งนี้จะประสบความสำเร็จหรือไม่!”
“แน่นอน” โมเสสลุกขึ้นไปยังลูกแก้วคริสตัล
เมื่อโมเสสหันกลับไป วิลเลียมก็มีโอกาสตรวจสอบค่าสถานะของคนตรงหน้าสักที
เขาไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะถูกพบเห็นเข้า เพราะมันเป็นความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่น แม้ว่าผู้สร้างจะมาที่นี่ก็ไม่สามารถค้นพบอะไรได้
โมเสส โฮลี่เวนน์
เผ่าพันธุ์ : มนุษย์
ศักยภาพสายเลือด : รีเจนดารี
อาชีพ : ?
เลเวล : ?
พลังชีวิต : ?
เอาล่ะ นอกจากศักยภาพทางสายเลือดและเผ่าพันธุ์แล้ว ทุกอย่างล้วนเป็นเครื่องหมายคำถาม
แต่ก็ยังมีบางอย่างที่โชคดีอยู่
นั่นคือการมีความสามารถติดตัวดูดีที่เป็นทักษะที่แสนทรงพลัง ทำให้เขาสร้างความประทับใจที่ดีทันทีที่พบเจอกันครั้งแรก
เสียงแจ้งเตือนดังขึ้น
ค่าความประทับใจของโมเสสเพิ่มขึ้น 80 หน่วย
เยี่ยมไปเลย
นี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีงาม
“เอื้อมมือมาจับลูกแก้วคริสตัลกับข้า” จากลูกแก้วคริสตัลหลากหลายลูก โมเสสเลือกลูกแก้วสีฟ้าอ่อนขึ้นมาลูกหนึ่ง ก่อนจะวางไว้บนโต๊ะ
วิลเลียมวางมือไว้บนลูกแก้วคริสตัลอย่างเงียบๆ ก่อนโมเสสจะวางทับลงไปด้วยมือของเขา ความรู้สึกเย็นๆถูกส่งออกมาจากมือของโมเสสและค่อยๆแผ่เข้าไปยังลูกแก้วคริสตัล
อาจเป็นเพราะความรู้สึกเย็นที่ไหลผ่านไปตามร่างกายของเขา จึงทำให้วิลเลียมหนาวสั่นขนลุกไปถึงกระดูกสันหลัง
เขามองโมเสสแล้วมองไปยังลูกแก้วคริสตัลที่ส่องประกาย ก่อนจะรู้สึกว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกายของเขา
ตอนที่เขาเป็นผู้เล่นธรรมดา เขาก็เคยอ่านดวงชะตาของเขาเช่นกัน แต่ผู้เล่นไม่มีอนาคต ดังนั้นจึงไม่สามารถอ่านอะไรได้
แต่ว่า…
นักทำนายไม่ได้จับมือเขาไว้อย่างนี้!
ไม่มีอะไรเช่นนี้หรอก!
หรือว่าข่าวลือเกี่ยวกับโมเสสจะเป็นความจริง?
ว่าเขาชอบผู้ชาย…
ภาพต่างๆปรากฏขึ้นบนลูกแก้วคริสตัล
วิลเลียมไม่เข้าใจมัน แม้ว่าเขาจะเกิดใหม่ เขาก็ยังไม่สามารถอ่านมันได้ หากเขาเข้าใจสิ่งเหล่านั้นได้ นักทำนายทั้งหลายในทวีปคงไม่มีอะไรกินแล้ว
โมเสสจ้องมองภาพในลูกแก้วคริสตัลอย่างละเอียด ผ่านไปไม่กี่นาทีเขาก็ปล่อยมือและเลียริมฝีปาก ก่อนจะกล่าวว่า “ข้าไม่เห็นสิ่งเลวร้ายอันใด ทุกอย่างจะราบรื่น ไม่ได้ดีมากแต่ก็ไม่ได้แย่สักเท่าไหร่”
“แล้วข้าเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างไหม? หรือได้รับผลประโยชน์อะไรบ้างหรือเปล่า?” วิลเลียมถาม
“ไม่ ข้าบอกท่านได้เพียงแค่ท่านจะโชคดีหรือโชคร้าย หากกล่าวมากกว่านี้เหตุการณ์จะเปลี่ยนแปลงไป นอกจากนี้แล้ว ด้วยความสามารถของท่าน ณ ตอนนี้ ยังไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้” โมเสสใช้นิ้วม้วนผมตัวเองไปมา ส่ายศีรษะของเขาขณะที่นั่งลงบนเก้าอี้
“แค่นั้นก็ได้!” วิลเลียมพยักหน้า ไม่ถามอันใดอีกต่อไป ก่อนจะหยิบเหรียญทองห้าเหรียญออกมาจากกระเป๋าแล้วตบมันลงบนโต๊ะ
โมเสสเก็บพวกมันด้วยความสุขใจก่อนจะยืนขึ้นและกล่าวกับวิลเลียม “ยินดีต้อนรับท่านลอร์ดในครั้งหน้า!”
“โมเสส!” วิลเลียมมองไปยังแมวดำที่เขาไม่สามารถอ่านเลเวลมันได้ อุ้มมันอย่างระมัดระวังแล้ววางมันลงบนโต๊ะก่อนจะนั่งลง
เจ้าแมวดำเดินไปทิ้งตัวลงบนตักของโมเสสด้วยความเต็มใจ มันปล่อยให้เจ้าของลูบหัวเบาๆ
ณ จุดๆนี้ ในที่สุดโมเสสก็ดูเหมือนจะได้ยินคำพูดของวิลเลียม เขาถามด้วยความสับสน “ท่านลอร์ดมีอะไรอีกงั้นหรือ? ข้าจะไม่ไปที่ไหนกับท่านทั้งนั้น ข้าทำได้เพียงทำนายเท่านั้นแล้วก็ไม่มีความสามารถทางด้านต่อสู้อีกด้วย แม้กระทั่งวิธีฆ่าไก่ข้าก็ไม่รู้...”
โมเสสไม่มีพลังการต่อสู้งั้นหรือ? ผู้วิเศษที่ฆ่าไม่ได้แม้กระทั่งไก่งั้นหรือ? หัวใจของวิลเลียมสั่นคลอน ขณะที่พยายามเรียบเรียงคำพูดเขาก็กล่าวว่า “ข้าได้ยินมาว่าท่านดูเหมือนจะรู้เกี่ยวกับมรดกทางพลังเวทย์วิญญาณ?”
โมเสสยังคงเฉยเมย ท่าทางของเขายังคงเงียบสงบราวกับไม่เข้าใจสิ่งที่วิลเลียมกำลังกล่าว
นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้วิลเลียมพูดต่อ “ท่านรู้ว่าข้าเป็นครึ่งเอลฟ์ แต่เนื่องจากข้ามีองครักษ์เอลฟ์เลือดบริสุทธิ์จำนวนมาก มันก็พิสูจน์ได้ว่าข้าเป็นคนในราชวงเอลฟ์...”
โมเสสเลิกคิ้วมองวิลเลียม “แล้วอย่างไรล่ะท่านชาย?”
ปัง!
วิลเลียมยืนขึ้น ตบลงบนโต๊ะแล้วตะโกนว่า “มีคนบอกข้าว่าท่านจะสอนเวทย์วิญญาณที่ดีที่สุดให้กับข้า”
“นอกจากนั้น ท่านลืมสัญญาของเราไปแล้วหรือ?”
“ท่านลืมสัญญาที่ให้ไว้กับคนๆหนึ่งงั้นรึ?”
“ท่านลืมคนที่บอกท่านและยินยอมให้ท่านเก็บเวทย์วิญญาณที่ดีที่สุดไว้สำหรับข้าใช่ไหม?”
“...?” ตอนนี้โมเสสสับสนไปหมดแล้วจริงๆ
วิลเลียมยื่นมือออกมาเหมือนกับว่ารอให้เขามอบอะไรบางอย่างให้
มุมปากของโมเสสกระตุก เขาไม่เชื่อว่าวิลเลียมจะสามารถมองเห็นตัวตนของเขาได้ แต่เขาก็ยังคงรู้สึกราวกับถูกหลอก เขาจึงถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “ท่านลอร์ดพบว่าข้าเป็นเจ้าของมรดกความรู้ทางเวทย์วิญญาณได้อย่างไรกัน?”
เขาไม่สามารถโมโหใส่วิลเลียมโดยตรงได้ แต่ว่าเขาตกลงอะไรไปกันนะ?
ทำไมเขาถึงไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับมันเลย…
แม้ว่าวิลเลียมจะตระหนกอยู่มาก แต่เขาก็ยังเสแสร้งแสดงต่อไป “ข้าคิดว่าท่านควรรู้ว่าข้าได้รับข้อมูลมาจากที่ใด โดยเฉพาะเหตุผลที่ท่านมาอยู่ที่นี่”
“นอกจากนั้น ข้าคือท่านลอร์ด ข้าจะปกป้องร้านทำนายของท่านได้ในอนาคต!”
โมเสสคิดอะไรบางอย่างอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะโยนเจ้าแมวดำออกไปและกล่าวด้วยความเด็ดเดี่ยวว่า “ไม่ใช่ว่าข้าไม่สามารถช่วยท่านได้ แต่ท่านต้องสัญญากับข้าข้อหนึ่งก่อนแล้วข้าจะสอนมรดกความรู้ทางเวทย์วิญญาณที่สมบูรณ์ที่สุดให้กับท่าน ถ้าไม่ ก็อาจเป็นไปได้ว่าทักษะจะด้อยลง...”
วิลเลียมลูบคางเบาๆ “ชิ ท่านยังคงมีเงื่อนไขเช่นเคย อย่ามัวแต่ลังเล ว่าเงื่อนไขของท่านมา?”
“ข้ายังไม่มีมันในตอนนี้!” โมเสสบอกให้เขารออย่างอดทนขณะที่ตนเองกลับไปที่ห้องนอน มีเสียงบางอย่างเกิดขึ้นก่อนที่โมเสสจะหยิบม้วนกระดาษเวทมนตร์อันใหม่ออกมาและวางมันลงบนโต๊ะ
วิลเลียมมองไปที่มัน…
โดยไม่มีคำถามใดๆทั้งสิ้ง
นี่คือม้วนกระดาษมรดกทางเวทย์วิญญาณที่เพิ่งถูกทำขึ้น
ชื่อของมันคือเวทย์วิญญาณศักดิ์สิทธิ์!
และชื่อของผู้ที่สร้างมันก็คือ...