69 แผ่นศิลารูปหมาป่าหางไฟ
“มีอะไรหรอคะ ท่านหัวหน้าซาน”
“ใช่ เกิดอะไรขึ้นยาย” เสียงนักผจญภัยดังออกมาพร้อมกันหลายคน
คุณยายซานเงียบ ก่อนจะตอบออกไปว่า “ปีศาจมันกำลังจะกำจัดนักผจญภัย ข้าก็เลยช่วยไว้”
“ยายโกหก จะมีมอนสเตอร์ที่ไหนในหมู่บ้าน”
“ใช่ๆ” อีกคนเสริม แต่คนในหมู่บ้านเชื่อคุณยายและพยายามต่อต้านพวกนักผจญภัย
“ระวังตัวกันไว้ด้วย บางทีปีศาจก็มาในรูปแบบของจิตใจ” คุณยายซานพูดจบแล้วก็ปิดประตู “และเราควรขัดเกลา ไม่ให้มันกลืนกินเรา”
เสียงนักผจญภัยโวยวาย “เสียเวลาจริงๆ” “ยายแก่แล้วก็ไปนอนไป๊”
“อย่าเสียเวลาทะเลาะกับคนโง่” ทหารยามคนหนึ่งพูดขึ้น คุณยายซานสอนคนในหมู่บ้าน ทุกคนจึงแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ โดยไม่เถียงต่อกับพวกนักผจญภัยบางกลุ่ม
หนึ่งวันแห่งการหลับใหล
หลังจากเหตุการณ์นั้น ซิสก็หลับอยู่ภายในบ้านดินดอกทานตะวัน คิวออกไปเดินหาอะไรกินและดูไอเท็มอื่นๆ เข้าไปสนทนาในกลุ่มแลกเปลี่ยน การเจรจา การปรับราคา แหล่งหาสินค้าขายดี ข้อมูลส่วนใหญ่มาจากปากต่อปาก
คิร่าเดินภายในบ้านดูเหมือนหล่อนมีความกังวลเล็กน้อย คันธนูที่วางอยู่ ซองใส่ลูกธนู กระเป๋าไอเท็มใบเล็ก ขวดโพชั่นวางไม่เป็นระเบียบ แผ่นศิลารูปหมาป่าหางไฟ โผล่ออกมาจากกระเป๋าเดินทางของคิร่า ซิสรู้สึกตัวกำลังลุกขึ้นมา เขาค่อยๆ จับไปที่มือ สายตาพร่ามัว มองไม่ชัดเท่าไหร่นัก
“คิร่า เธอปลอดภัยใช่ไหม” ซิสขยี้ตาก่อนจะกลับมาจับแขนอีกครั้ง
“ใช่ ฉันคิร่าเอง” คิวทำเสียงเล็กแหลม
ซิสรีบปัดมือออก “เจ้าบ้าคิว ฉันจำเสียงนายได้”
“ฉันแวะเอาขนมปัง เนื้ออบแห้ง ผักสลัด แล้วก็น้ำมะนาวมาให้นาย แต่พอนายตื่นมาก็เอาแต่เพ้อเจ้อถึงผู้หญิง” คิวส่ายหัว “ฉันจะไปหาข้อมูลการเดินทางต่อไป เดี๋ยวฉันมา”
คิร่ารีบวิ่งเข้ามาหลังจากคิวเดินออกไป “ทำไมฉันต้องมาเจอนายในสภาพ… แบบว่า ไม่บาดเจ็บก็สลบทุกที”
“ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน” ซิสลุกขึ้นนั่ง ยกน้ำมะนาวขึ้นดื่ม
คิร่านิ่งไปสักพักก่อนจะพูดว่า “ห้ามบอกยายฉันว่าฉันไปรับภารกิจดินแดนที่สิบสอง เข้าใจไหม”
“คนนั้น ยายของเธอหรอ” ซิสทำหน้ามึนงง “เอาเถอะ ฉันไม่ยุ่งเรื่องชาวบ้านหรอก”
“ก็ดี” คิร่าลุกขึ้นยืน “ขืนนายพูดอะไรออกไป นายตายแน่!”
“อ้าวนี่ฉันยังไม่ตายหรอ” ซิสกัดเนื้ออบแห้ง
“นายนี่มันกวนประสาทจริงๆ” เสียงประตูเปิด ยายเดินเข้ามา คิร่ากัดฟันพูด “อย่าลืมนะ เข้าใจไหม” ซิสพยักหน้าเบาๆ
“ฟื้นแล้วหรอพ่อหนุ่ม” ยายเดินตรงเข้ามาถือกล่องใส่ใบชามาวางบนโต๊ะ
“ครับยาย” คิร่าจ้องหน้าซิส “ผมขอบคุณยายมากจริงๆ ที่ช่วยชีวิตผมไว้ ผมรบกวนคุณยายมากพอแล้ว ขอตัวก่อนนะครับ” ซิสลุกขึ้นเก็บของเตรียมตัวเดินออกไป
“ไม่เป็นไรพ่อหนุ่ม ตามสบาย อีกอย่างยายนึกไม่ออก ว่าปีศาจตนนี้มันคืออะไร” ยายเดินเข้าไปที่ชั้นหนังสือ “ไม่เคยพบเจอ ซึ่ง..แต่ก่อนที่พบเจอไม่ใช่แบบนี้ ยายสับสนไปหมด”
“ไม่เป็นไรครับยาย ยายพักผ่อนเถอะ ดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะครับ” ซิสโค้งคำนับก่อนจะเดินออกไป
ซิสยกอาหาร เครื่องดื่มไปเก็บไว้ที่เต็นท์ พยายามมองหาคิว แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ สิ่งที่วนเวียนในหัวเขาตอนนี้ มันทั้งสับสน และว่างเปล่าในเวลาเดียวกัน เขาเดินต่อไปทางทิศตะวันตกของหมู่บ้าน เดินทางออกมาไกลจากผู้คน จับสมุดข้างเอวออกมา เปิดดู ไม่มีตัวอักษรใดๆ ปรากฏ เขาวางมันลงที่พื้น
ชักดาบออกมา “รู้สึกเหมือนพื้นจะสั่น ไม่สิ สงสัยคิดไปเอง” เขาตั้งสติร่ายเวทย์น้ำแข็งปกคลุมดาบ พยายามเพิ่มพลังงานให้มากที่สุด เท่าที่เขาจะทำได้ เขาแทงดาบลงไปบนปกสมุดคู่มือ ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน น้ำแข็งแช่สมุดอันนั้นเอาไว้ ก่อนเขาจะฟันดาบลงไปอีกหนึ่งที
“ต้องทำยังไงถึงจะกำจัดมันได้” เขายกดาบขึ้นอีกครั้ง ลมรอบตัวหมุนเร็วขึ้น ใบไม้ปลิวลอยเต็มอากาศ เปลือกไม้แตกออก ท่อนไม้มีรอยร้าว มือของเขาสั่นไปด้วยพลังอันรุนแรง ยกดาบและแทงลงไป
หินก้อนใหญ่แตกออกเป็นสองส่วน ลมผ่าต้นไม้ออกเป็นสองท่อน แสงจากดาบของซิส เปลี่ยนเป็นเขี้ยวงู ผสมกับน้ำแข็ง อัดแน่นด้วยพลัง ปลายแหลมของดาบจิกเข้าสมุดคู่มือ ซิสล้มลง
“หมด หมดพลังที่ฉันมี” เขาหายใจแรง รู้สึกเหนื่อย คลื่นพลังเวทย์รอบตัวหยุดลง มีนักผจญภัยสามคนวิ่งเข้ามาดู
“ฉันนึกว่าต่อสู้กับมอนสเตอร์” ใครคนหนึ่งพูดขึ้น
“คงจะมาฝึกใช้พลังล่ะมั้ง” อีกคนก็พูดเสริม “อย่าลืม เก็บสมุดไปด้วย นายทำมันตก” เขาบอกซิสก่อนจะเดินออกไป
ซิสหยิบสมุดขึ้นมาดูมีรอยลึกของปลายดาบเข้าไปประมาณ หนึ่งเซนติเมตร เขายิ้มก่อนจะพูดว่า “ฉันคงต้องแกร่งขึ้น เพื่อทำลายแกให้ได้” สมุดเปลี่ยนกระดาษเป็นสีดำทั้งหมดก่อนจะสลับหน้าไปมา ซิสรีบปิดแล้วใช้ใยแมงมุมสีทองรัดให้แน่นและผูกเข้าที่เอว
ยามค่ำคืน แมลงหลากสีบินผ่านหลอดไฟ พ่อค้ากำลังผูกเชือกห้อยลูกโป่ง แม่ค้ากำลังเตรียมอาหารเพื่อขายในคืนนี้ เด็กตัวเล็กต่างวิ่งไปมา บนลังไม้มีเด็กสวมแว่นกำลังเปิดหนังสือการ์ตูนขยับได้ เรื่องราวข้างในเป็นเช่นไร เราไม่มีทางรู้ได้ถึงสิ่งที่เด็กคนนั้นจินตนาการ
เสียงพูดคุยการล่ามอนสเตอร์ การล่าไอเท็ม การลุยดันเจี้ยน เป็นเรื่องปกติที่ทุกคนคุยกัน
ธงสีฟ้าโบกสะบัดอยู่บนกิ่งไม้ โบกไปกับสายลม ภายในเต็นท์ซิสกำลังนอนพักผ่อน คิวกำลังผลิตระเบิดเพิ่มขึ้น
“ถ้าฉันลงทุนสร้างโพชั่น ทองที่มีก็หมดไป และอาจจะไม่มีโพชั่นใช้” ซิสบ่น
คิว ยกระเบิดใส่ซองคาดเอว ลูกสีดำเท่าฝ่ามือ เมื่อนำไปใส่ในช่อง ลูกมันเล็กเท่าลูกอมแค่นั้นเอง “ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์” เขาพูดต่อ “ถ้าจะให้ประหยัดหน่อยก็ออกล่าสมุนไพรมาเอง หาทรายมาทำขวด”
“ทรายบนพื้นทรายนั่นหรอ” ซิสนอนมองนกสีฟ้าตัวเล็ก บินไปมาอยู่ในเต็นท์
“ไม่ใช่ ต้องเป็นทรายจากปีศาจพายุทราย” คิวพูด