65 กำแพงไฟ กำแพงน้ำแข็ง
คราวนี้เศษใบไม้ กิ่งไม้ โถมเข้าที่โล่ของคิว พลังกายของเขาลดเนื่องจากมันมีพลังโจมตีของเวทย์ที่ไหลผ่าน ส่วนเศษไม้แตกออก ใบไม้สลายเมื่อชนโล่ของคิว แสงสีรุ้งคล้ายปีกแมลงบางๆ ป้องกันพวกเขาไว้ได้
ซิสรีบวิ่งออกไปฟันคลื่นน้ำ คิวโยนระเบิดใส่ และขว้างโล่ในขณะที่วิ่งไปตามรากไม้ ซิสเสียบดาบแล้วบิด เพื่อให้น้ำแข็งมันลามไปทั่ว รากไม้สะบัดต่อเนื่อง
“คลื่นน้ำแข็ง” น้ำแข็งตัดผ่านขาขาดออก มันเอนล้มลงมาทุกคนต่างวิ่งถอยออกมา
คทาเวทย์อันเล็กส่องแสงสีส้มสว่าง กำลังก่อต่อเปลวไฟขึ้น สมุดเวทย์ลอยอยู่ด้านข้าง สร้อยคอรูปพระจันทร์ลอยขึ้นขณะที่หล่อนร่ายเวทย์ ชายร่างผอมกลับมายืนอีกครั้ง เขาเพิ่มพลังสนับสนุนให้กับทุกคน ร่ายเวทย์จากม้วนกระดาษขาว ท่องคาถาเพิ่มพลังการโจมตี
ซิสรู้สึกมีพลังมากขึ้น เขาฟันดาบใส่ปีศาจต้นไม้ไม่ยั้ง มันพุ่งรากไม้ใส่ ซิสก็หลบแล้วฟันให้ขาดออกไป
คิวโยนระเบิดเข้าต่อเนื่องอีกสองลูก ก่อนจะปักโล่บนผิวไม้ของมัน
รากไม้ก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ทุกคนปลิวออกไปติดกับต้นไม้ เสียงบีบโพชั่นดังขึ้น มันค่อยๆ ฟื้นฟูตัวเอง แต่ช้ากว่าปกติ ใบไม้รากไม้ ตามตัวของมันดูเหมือนจะไม่ค่อยสดชื่น ตอไม้แหลมขนาดใหญ่กว่าตัวของมัน ลอยอยู่เหนือหัว ปกคลุมไปด้วยสารพิษสีเขียวผสมม่วง สองท่อนใหญ่พลังอัดแน่นพร้อมทำลายล้าง
นักเวทย์เดินก้าวออกมา เก็บคทาแล้วรีบเปิดสมุดเวทย์
โล่ของคิวตกอยู่ใต้ตัวของมัน คิวกำลังฟื้นฟูตัวเอง เขาเจ็บไปทั้งตัว
ซิสเดินก้าวออกมา
ซิสและนักเวทย์ต่างก็มองไปที่ท่อนไม้อัดแน่นด้วยพลัง น่าจะเป็นสิ่งที่สองคนคิดคือ มันพยายามรวบรวมพลังปิดฉากคู่ต่อสู้ ท่อนไม้อัดแน่นด้วยสารพิษพร้อมแล้วก็พุ่งโจมตีใส่ทั้งสองคู่
“กำแพงไฟ” สมุดเวทย์ส่องแสง วงแหวนเวทย์ขึ้นบนพื้น เกิดเป็นกำแพงไฟขนาดใหญ่ กำลังต้านท่อนไม้ขนาดใหญ่ ลมพัดปลิวทุกอย่าง รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ชายร่างผอมก็ร่ายคาถาเพิ่มพลังให้กับเวทย์กำแพงไฟ
“กำแพงน้ำแข็ง” ซิสชกพื้นน้ำแข็งก่อตัว ช้ากว่าปกติ ท่อนไม้ใกล้เรามากขึ้นเรื่อยๆ “โถ่ เว้ย” เขาชกซ้ำลงที่พื้น น้ำแข็งหนาขึ้นกั้นเป็นกำแพง ท่อนไม้พยายามเจาะเข้ามา
พวกเขาทั้งคู่อาจจะต้านทานท่อนไม้พลังทำลายนี้ได้ แต่สารพิษของเห็ดผสมกับเกสร ทะลุทุกสิ่งเข้ามา เข้าไปทางลมหายใจ ทุกคนสายตาเริ่มเลือนลาง ร่างกายอ่อนล้า ชายร่างพร้อมเห็นท่าไม่ดีจึงควักน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์
โยนขึ้นไปบนฟ้าแล้วใช้กระบองชี้ส่องแสงสีเหลืองอ่อนไปที่ขวดน้ำมนต์
น้ำสีขาวใสบริสุทธิ์ กระจายออกไปทั่ว คล้ายกับเสกร ซึมเข้าจมูก สภาพทุกคนกลับมาดีขึ้น
“จังหวะนี้เหละรีบปิดฉากมันเลย ก่อนที่มันจะตั้งหลักได้อีกครั้ง” ซิสตะโกน
คิววิ่งไปที่โล่ สิ่งเดียวที่คิวทำได้ดีคือ ใช้โล่ปักแล้วหยุดการฟื้นฟูของมัน แล้วให้คนอื่นโจมตีมันให้สลายไป
นักเวทย์ปล่อยสมุดลอยด้านข้าง “เพลิงดาวตก” จำนวนหินลอยบนฟ้ามากขึ้น หล่อนพยายามตั้งสติแล้วเพิ่มพลังไฟใส่เข้าไป ชายร่างผอมดูเหมือนจะอ่อนล้า ทำให้เพิ่มพลังให้ใครไม่ได้มากนัก ก่อนจะนั่งลงแล้วบีบโพชั่นสีน้ำเงินสองขวด ตามด้วยสีขาวสามขวด
ซิสลากดาบไปตามผิวของมัน เตรียมตัวปิดฉาก น้ำแข็งปล่อยไอเย็น โพชั่นสีน้ำเงินถูกบีบสามขวด ซิสพยายามกดให้พลังเวทย์เต็ม เพื่อให้การโจมตีมีพลังสูงที่สุด เท่าที่จะทำได้
“ได้แล้ว” คิวส่งสัญญาณว่าปักโล่เป็นที่เรียบร้อย แสงสีเขียวปกคลุมโล่ โล่เป็นรูปร่างเป็นปีแมลงบางสีรุ้ง หลังจากนั้นเขาควักระเบิดออกมาห้าลูก วิ่งขึ้นไปที่หน้าอกของปีศาจต้นไม้
ปีศาจต้นไม้มันฟื้นฟูไม่ได้จึงพยายามหาทางกำจัดคิว ปล่อยเห็ดที่ขึ้นตามตัวไล่กัดขาของคิว
“ดาบน้ำแข็ง” ซิสเสียบดาบเข้ากลางอกของมัน คิวโยนระเบิดใส่หน้าของมัน เห็ดแตกกระจาย น้ำแข็งแผ่ออกไปอย่างรวดเร็ว แช่มันไปทุกส่วน คิวหันกลับไปดึงโล่ของตัวเองออกเมื่อได้ยินนักเวทย์ตะโกน “ถอยออกมา”
หินไฟลุกจำนวนมากอยู่บนฟ้า กำลังพุ่งอย่างรวดเร็วมาที่ปีศาจต้นไม้ ซิสกระโดดมาเสียบดาบเข้าที่ขาของมันอีก เพื่อแช่ไม่ให้มันก้าวเดินได้ คิวโยนระเบิดก่อนจะกระโดดออกมา ซิสฟันคลื่นน้ำแข็ง อีกครั้งก่อนจะกระโดดออกมา
เสี้ยงดังสนั่น ทั้งระเบิด เวทย์ไฟ เสียงแตกของน้ำแข็ง เสียงร้องคำรามของปีศาจต้นไม้ มันค่อยๆ เหี่ยวเฉาลง เรื่อยๆ จนกระทั่งผิวมันแห้งกรอบ ก่อนจะแตกสลายเป็นคริสตัล
ไอเท็มลอยออกมาใส่มือของซิสและนักเวทย์ชุดคลุมสีส้ม
“หินสีเขียว” ซิสพูดขึ้น
“หินสีเขียวระดับสาม” หล่อนพูดต่อ “ระดับบอสมันก็ต้องให้ของอย่างนี้สิ”
นักเวทย์หญิงพูดต่อ “ปีศาจต้นไม้เป็นหนึ่งในสี่บอสพื้นที่สีเขียว ส่วนที่พวกนายเจอปีศาจพุ่มไม้ หรือกอไม้ อันนั้น มินิบอส”
ทั้งคู่ยังทำหน้างงต่อไป ซิสก็หลุดปากไปว่า “หมาป่าหางไฟล่ะ”
หล่อนเก็บเศษไอเท็มอื่นๆ และหันมาพูดว่า “อันนั้น บอสทิศตะวันออกพื้นที่สีเขียว ความโหดก็อันดับสามอ่ะนะ”
“หมาป่าหางไฟ อันดับสาม แล้วอันดับหนึ่งกับสอง น่าจะโหดสุดๆ ไปเลยสินะ” คิวเก็บโล่ไว้ที่ด้านหลัง
“ตัวนี้อ่อนสุดในบอสทั้งสี่ตัวของพื้นที่สีเขียว” หล่อนเก็บสมุดเวทย์และยกขวดน้ำส้มดื่ม “สดชื่นจังเลย”
“อ่อนสุดงั้นหรอ” ซิสพูดต่อ “ถ้าเรามาแค่สองคนน่าจะไม่ไหว ฮ่าๆ”
ชายร่างผอมลุกขึ้นยืน “จริงแล้วเราก็เลเวลสามสิบกว่า มากันสองคนก็ไม่ไหวหรอก แต่ยัยนี่คิดว่าไหว ถ้าไม่มีนายสองคนน่าจะแพ้อีกเช่นเคย”
“ถ้าไม่สู้วันนี้ จะสู้วันไหนล่ะ” หล่อนน้ำเสียงหงุดหงิด
ซิสหันมองเลเวลตนเองกับคิว ซิสสิบห้า และคิวสิบแปด