57 โลกเวทย์มนต์ที่ฉันรัก
พ่อค้าหยุดโวยวายและสงบสติลง “โถ่ ฉันลืมไปได้ไงเนี่ย อาจารย์ฉันเท่านั้นที่ทำได้ ช่างตีดาบคนเก่งๆ ก็มีอีกมาก แต่สงสัยว่าทำไมถึงยอมสร้าง ไม่เข้าใจ อาจารย์ฟิลไม่ได้เจอนานมากแล้ว แกสบายดีนะ”
“โล่คิว ตั้งใจสร้าง” ซิสคิดในใจ “แต่ดาบของเขาเกิดเพราะบังเอิญ”
ทั้งคู่พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ แต่จะบอกว่าการหายไปของลุงฟิล เพราะเจ้าหน้าที่ก็ดูเหมือนจะคิดในแง่ร้ายเกินไป
“อาจารย์ฟิลทำงานอยู่เมืองหลวง ส่วนลูกของแกทำงานอยู่ที่ดินแดนสิบสองน่ะ” พ่อค้าชูแขนยืดเส้นก่อนจะลุกขึ้น “อะ รับของพวกนายกลับไป สักวันฉันจะต้องเก่งให้เท่าอาจารย์ฟิลให้ได้เลย”
ทั้งคู่รับของตนเองกลับมาพร้อมเดินกลับไปที่เต็นท์ กองไฟขนาดใหญ่ส่องแสงสว่างในยามค่ำคืน ภายใต้แสงจันทร์และดวงดาว นักผจญภัยดื่มด่ำกับธรรมชาติ เสียงเพลงกีตาร์บรรเลงจากนักผจญภัยคนหนึ่ง
การเดินทางยังคงดำเนินต่อไป รถม้าค้าขาย ผ่านเป็นระยะ คนขี่ม้าเร่ขายของก็มีแต่พบได้น้อยมาก หลังจากโผล่ออกมาจากหุบเขาที่เต็มไปด้วยลิงสีม่วง ต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ ดอกไม้หลากหลายชนิดต่างก็อ้าปากดื่มด่ำกับสายลมและแสงแดด นักผจญภัยเดินทางเพื่อผ่าน บางคนก็มาทำภารกิจ เป็นเรื่องปกติที่ความนิยมของบางอย่างทำให้นักผจญภัยแทบจะไปรวมตัวกันที่นั่น
มองไปสุดสายตาเห็นดอกทานตะวันขนาดใหญ่กำลังบานเปิดรับแสงอาทิตย์
“อีกไม่ไกลแล้วสินะ” ซิสมองไปที่ดอกทานตะวันขนาดใหญ่
“แปลกแฮะ ดูเหมือนจะไม่มีมอนสเตอร์อยู่แถวนี้” คิวมองไปรอบๆ “มีแต่ต้นไม้ขึ้นอยู่ ส่วนดอกไม้ก็ใหญ่กว่าที่เราเคยเห็นทั่วไป”
“ฉันเคยอ่านหนังสือเจอว่าดอกไม้บางประเภทก็กินแมลง” ซิสมองไปรอบๆ เช่นกัน “ต้นไม้พวกนี้มีชีวิตฉันคิดว่าอย่างนั้น เพียงแต่มันหลับอยู่”
“ถ้าเป็นเมืองที่แม่มดอยู่ หลายสิ่งพูดได้ หลายสิ่งขยับได้”
“นายเคยไปมาหรอ”
คิวส่ายหน้า “เปล่า ฟังคนในตลาดเล่ามาอีกที เขาเล่าว่า เคยมีความบันเทิงมากมายในเมืองหลวง แต่พอเจ้าหน้าที่บางกลุ่มเข้ามา ก็ถูกสั่งห้าม ดินแดนเวทย์มนต์ของแม่มด ก็เลยย้ายออกไป” คิวกำลังนึก “ฉันไม่แน่ใจว่าอยู่ดินแดนที่เจ็ดหรือที่แปด ลืมไปแล้วสิ”
“ก็หมายความว่าเราจะไม่ค่อยได้เจอแม่มดพ่อมดในทั่วไปสินะ”
“ประมาณนั้น” คิวค่อยๆ ยิ้มขึ้น “แต่รู้อะไรไหม สักวันฉันจะไปเที่ยวที่นั่น มีของเล่นสนุกมากมาย กลายเป็นว่าที่นั่นมีแต่ความสนุกสนาน ราวกับว่ามันคือสวนสนุกในโลกแห่งนี้”
“ดีเลย พาฉันไปด้วย”
สีหน้าของคิวก็เศร้า รอยยิ้มค่อยๆ จางไป
“เป็นอะไรไปคิว” ซิสหยุดเดิน
“เจ้าหน้าที่ ตั้งกฎใครจะไปเที่ยวต้องจ่ายค่าบัตร 10,000,000 ทอง” คิวพูดเบาๆ และเดินต่อ “ช่างเถอะ ฉันจะเก่งขึ้นแล้วหาทองให้ได้มากขึ้นๆ”
ซิสเงียบอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้นว่า “กล่องทำความสะอาดเสื้อผ้า เป็นของพวกพ่อมดแม่มดใช่ไหม”
นักผจญภัยบางคนที่กำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์หนอนเขียวลายจุดแดงก็หันมามอง
“ชู่!!” คิวรีบหันไปมองซิสแล้วใช้นิ้วชี้มาที่ปาก “เงียบหน่อย ของที่ฉันซื้อมา ไม่ได้จ่ายภาษีให้เจ้าหน้าที่”
“ไหนนายบอกว่าจ่ายภาษีเป็นเรื่องที่ดี”
“นายไหวหรอ เครื่อง.. นั่นเหละ ประมาณ 200,000 ทอง แต่ถ้าซื้อแบบถูกต้องอะนะ 2,000,000 ทอง”
“โอ้ โห” ซิสตาโต ควักดาบมาฟันใส่หนอนสีเขียวลายจุดแดง “ทำไมกัน”
“ไม่รู้สิ ดูเหมือนของที่พ่อมดแม่มด สร้างมาขาย จะเป็นที่ต้องการ จึงทำให้เจ้าหน้าที่ รีบเอาตัวเองเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องเผื่อ บลา บลา บลา”
“เฮ้อ โลกเวทย์มนต์ที่ฉันรักที่สุด” ซิสมองขึ้นไปบนฟ้า “สิ่งดีๆ แต่ผลตอบแทนไปไม่ถึงคนสร้าง เฮ้อ”
อีกไม่ไกลนักก็จะถึงหมู่บ้านทานตะวัน มอนสเตอร์ที่พบเจอหนอนสีเขียวลายจุดสีแดง , แมลงวันสีเขียวลำตัวยาว , ปีศาจตอไม้ผิวสีเทา , ด้วงเขาใหญ่ (ลำตัวขนาดเท่าตอไม้ แต่เขาของมันใหญ่เท่าต้นไม้) ทั้งคู่ต่อสู้เพียงแค่หนอนสีเขียวลายจุด ส่วนจุดกำเนิดมอนสเตอร์อื่นๆ หมู่บ้านทานตะวันทางทิศใต้ เต็มไปด้วยนักผจญภัย ร่ายเวทย์ ฟันดาบ ยิงธนู ใช้หมัด หรือทักษะที่พวกเขามีในการต่อสู้ เนื่องจากคนเยอะซิสและคิวจึงตัดสินใจเข้าไปที่หมู่บ้าน
ภายในหมู่บ้านดอกทานตะวันขนาดใหญ่กลีบสีเขียวเล็กขึ้นอยู่รอบ แหงนมองไปเห็นแต่ด้านหลัง ของดอกแสงสีเหลืองส้มกำลังเจิดจ้าอยู่อีกด้าน ลำต้นของมันปักลงมาที่พื้น ส่วนใบมีแมลงเต่าทองหลากสีนอนหลับอยู่ บ้านที่ทำจากไม้ทางทิศตะวันออก คล้ายกับหมู่บ้านทั่วไป
ทางทิศตะวันตกเป็นลานกว้าง เหมาะสำหรับนักผจญภัยที่ผ่านทาง ตั้งร้านอาหาร ขายของจิปาถะ แลกเปลี่ยนสินค้า กางเต็นท์ บ้านขนาดเล็ก (ของแม่มด) ถูกวางอยู่ทั่ว แทบนับไม่ได้เลยว่ามีเท่าไหร่ นักผจญภัยเดินเข้าออกกันเป็นเรื่อยปกติ ส่วนทางทิศเหนือ บ้านที่ปั้นจากดินเป็นต้นทานตะวัน เมื่อมองจากทิศเหนือสุดสายตา จะเห็นธงขนาดเล็กโบกสะบัดอยู่ไกลๆ
“สุดสายตาที่เราเห็น พื้นที่สีแดงใช่ไหม” ซิสยืนมองอย่างกังวล
“ใช่แล้วล่ะ” เสียงหญิงชราพูดขึ้น “ผ่านป่านี้ไปอีกห้าวัน ปีนข้ามเขาลูกนั้นไป ก็คือดินแดนที่สิบสอง” พูดเสร็จหญิงชราก็ไอ แค๊กๆ
“อ้าว คิวหายไปไหน” ซิสหันไปมอง เจอแต่หญิงชรา ถือไม้เท้าสีน้ำตาลค้ำยันตัวของแกเอง “ขอบคุณครับคุณยายที่ช่วยบอกผม ว่าแต่เพื่อนผมหาย”
“เจ้าหนุ่มผมสีฟ้านั้นรึ เหมือนว่ามันจะรีบวิ่งไปตลาดขายของ ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของหมู่บ้าน”
“ครับยาย ว่าแต่ยายเป็นใครเนี่ย”
“ฉันเป็นคนแก่ ไปล่ะพ่อหนุ่มผมยาว”
ซิสยืนงุนงงกับคุณยาย เขาแค่รู้สึก หรือรู้สึกไปเองว่า คิร่าอาจจะปลอมตัวเป็นคุณยาย ไม่หรอกอย่าเพ้อเจ้อ เขาบอกกับตัวเอง ว่าแต่คิร่าอยู่ที่ไหนกันตอนนี้ นี่เราเป็นอะไรไป ทำไมนึกถึงแต่คิร่า หรือเราว่าจะชอบหล่อน
หลังจากกางเต็นท์เสร็จ คิวก็หาไม้ยาวมาปักแล้วใช้เศษผ้าสีฟ้า มัดไว้ที่ปลายชูขึ้นฟ้า จะได้รู้ว่าเต็นท์เรากางอยู่ตรงไหน
“แล้วอย่างนี้เต็นท์เราจะมีคนอื่นเข้ามาไหม”