ล้ำเส้น [ 5 ]
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง
ผมยืนรออยู่หน้าหอพักเด็กที่ชื่อตะวัน ไม่นานมันก็ลงมาเปิดประตูให้ รีบยกมือไหว้ผมทันทีอย่างกับว่ารู้จักผมมาก่อน แต่ก็ไม่แปลกหรอกเพราะเป็นเพื่อนไอ้เด็กเอิร์ธ ถึงผมจะจำหน้ามันไม่ได้ก็เถอะ
“สวัสดีครับพี่ ผมตะวัน”
“อืม เอิร์ธไม่สบายหนักเหรอ ทำไมมันไม่ลงมาด้วย”
“เอ่อ.... หมอนั่นไปแล้ว”
“ห๊ะ!?”
“ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม แต่พอผมบอกว่าพี่จะมามันก็รีบลุกขึ้นหยิบกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ออกไปเลย” ตะวันอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ผมฟังด้วยท่าทางยุ่งยากใจ ผมไม่อยากเชื่อที่มันพูดสักนิด
“ผมพูดจริงนะ ไม่ได้โกหก พวกพี่มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า ตอนเอิร์ธได้ยินชื่อพี่มันหน้าซีดสุดๆ”
คำพูดตะวันทำผมชะงัก
“หรือว่าพี่ทำอะไรเพื่อนผมเพราะเมื่อวานมันห้ามพี่ไม่ให้มีเรื่องในผับ”
“เปล่า กูไม่ได้ทำอะไร” ผมตอบเสียงเบา ภาพตอนตื่นนอนพัดวูบเข้ามาในหัวอีกแล้ว พอคิดเรื่องไอ้เอิร์ธทำไมผมต้องนึกถึงภาพนั้นทุกทีวะ ผมกะพริบตาไล่ความคิดฟุ้งซ่านในหัวทิ้ง จ้องหน้าตะวันด้วยสายตาจริงจัง
“อ่อ เมื่อคืนกูเมามาก จำอะไรไม่ได้ แล้วเพื่อนมึงมีบาดแผลตรงไหนหรือเปล่า”
“เออ... ไม่นะครับ หน้ามันไม่มีร่องรอยว่าโดนทำร้ายอะไร ก็แค่ซีดๆ เหมือนคนไม่สบายแค่นั้น แต่ที่ผมไม่เข้าใจคือมันหอบกระเป๋ามาแล้วบอกว่าจะหาที่อยู่ใหม่ ผมถึงถามไงว่าพี่ทำอะไรให้มันไม่พอใจไหม พี่บอกว่าเมาพี่ได้พูดอะไรที่รุนแรงกับมันหรือเปล่า อย่างไล่มันออกจากบ้านไรงี้”
“ไม่รู้ว่ะ กูจำอะไรไม่ได้ แต่...”
“แต่?”
“เปล่าไม่มีอะไร ถ้ามันติดต่อมาก็บอกมันด้วยว่ากูเป็นห่วง”
“เอ่อ ครับ”
ผมบอกไอ้เด็กตะวันก่อนจะเดินออกมา ความจริงไม่ได้เป็นห่วงเด็กเอิร์ธมากมายอะไร ผมแค่ข้องใจน่ะ ถ้ามันจะย้ายที่อยู่ก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกเพียงแต่ทำไมมันไม่บอกไม่แจ้งผมสักคำ จู่ๆ ก็หอบกระเป๋าหอบเสื้อผ้าออกไปใครเป็นเจ้าของห้องก็ตกใจกันทั้งนั้นแหละ
อีกอย่าง ที่ไอ้ตะวันเดาน่ะ สมมุติว่าผมด่าเอิร์ธจริง ผมต้องด่าอะไรวะมันถึงจะโกรธขนาดที่หอบกระเป๋าออกจากห้องไปแบบนั้น
ระหว่างขับรถกลับมาที่ห้อง ผมต่อสายหาไอ้ไนท์ด้วยจิตใจที่พลุ่งพล่าน ไม่รู้สิครับ จู่ๆ ก็รู้สึกสงสัยเรื่องหนึ่งขึ้นมา
(เฮ้ย มีอะไรอีกวะกันต์ กูกำลังจะเปิดร้านเนี่ย หรือมึงจะมาอีก เมาต่อกันหลายวันแล้วนะมึง)
“เปล่าวันนี้กูจะเคลียร์งาน กูแค่อยากรู้”
(อยากรู้อะไรอีก)
“เมื่อคืนมึงมาส่งกูใช่ไหม”
(ใช่กูกับเอิร์ธช่วยกันแบกมึงขึ้นห้องเอง ทำไม)
“แล้วนอกจากมึงสองคนมีผู้หญิงหรือใครมาด้วยไหมวะ”
(เฮ้ยหมายความว่ายังไง มึงพูดแปลกๆ)
“เปล่า”
(ทำไม มีเรื่องอะไร)
“ไม่มี สงสัยกูมึนเอง”
ผมวางหูทันที ยังไม่ลืมภาพตัวเองนั่งเปลือยอยู่บนเตียง ท่าทางไอ้ไนท์ก็ไม่รู้เรื่องอะไร งั้นก็คงมีแต่ไอ้เด็กเอิร์ธนั่นแหละที่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ผมสังหรณ์ใจจริงๆ ว่าที่มันหอบกระเป๋าออกจากห้องจะเกี่ยวข้องกัน
สภาพผมเมื่อเช้ามันเหมือนเพิ่งมีเซ็กกับใครสักคน สัมผัสเร่าร้อนยังติดตรึงอยู่ในความรู้สึก คราบเลือดและผ้าปูเตียงที่ยับย่น มันเป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะทำอะไรแบบนั้นคนเดียว
- น้องเอิร์ธ -
“ตะวัน คุยกับใคร?”
ผมตื่นขึ้นมาเห็นหมอนั่นนั่งคุยโทรศัพท์อยู่ข้างๆ แต่เหมือนจะคุยเสร็จพอดี หมอนั่นหันมามองพร้อมกับส่งโทรศัพท์มาให้ ผมถึงรู้ว่ามันใช้เครื่องผมอยู่
“พี่กันต์โทรมา”
“ห๊ะ!?”
“เขาบอกว่าจะมาหามึงที่นี่”
“อะไรนะ! มึงบอกอะไรกับพี่กันต์”
“ก็แค่บอกว่ามึงไม่สบาย อะไรของมึงวะทำไมต้องตกใจขนาดนั้น”
ผมเม้มริมฝีปากแน่น ถกผ้าห่มออก พรวดพราดลุกจากเตียง เดินเอียงไปวูบหนึ่งเพราะยังหนักหัวไม่หาย คอก็แสบไปหมด หยิบโทรศัพท์กับกระเป๋าสตางค์เดินหุนหันมาที่ประตู ตะวันรีบปรี่เข้ามาดึงรั้งผมเอาไว้ทันควัน
“ไปไหนน่ะเอิร์ธ”
“กูไม่อยากเจอพี่กันต์”
ผมแกะมือตะวันออก หันมาเปิดประตูแล้วเดินออกจากห้องโดยมีสายตาของตะวันมองตามมาอย่างงงๆ
ออกมาโบกแท็กซี่หน้าหอพัก
“ไปไหนน้อง”
“เอ่อ....”
ผมนิ่งค้าง นึกไม่ออกว่าจะไปที่ไหนดีก็เลยบอกให้คนขับวนๆ รถไปก่อน สุดท้ายก็มาลงเอยที่ผับของพี่ไนท์ได้ยังไงก็ไม่รู้
ผมจ่ายค่าโดยสารก้าวลงจากรถ มองผับที่ยังไม่เปิดด้วยสายตาว่างเปล่า
แปลกเหมือนกันทำไมผมจู่ๆ ผมต้องนึกถึงที่นี่ด้วย
ถึงแบบนั้นที่นี่ก็ไม่ได้เงียบ มีพนักงานที่เตรียมเปิดร้านเดินเข้าเดินออกทั้งในผับและร้านนั่งชิลล์ด้านนอก ผมเดินมานั่งพักที่ม้านั่งตรงทางเชื่อมระหว่างผับกับร้านนั่งชิลล์เป็นม้านั่งตัวเดียวกับเมื่อคืน
ครุ่นคิดในสิ่งที่เกิดขึ้น
ผมไม่ได้กลัวพี่กันต์ แต่ที่ผมหลบหน้าเขาเป็นเพราะผมไม่อยากรื้อฟื้นความทรงจำที่น่าละอาย มันทำให้ผมรู้สึกสะอิดสะเอียน ผมกับพี่กันต์เป็นผู้ชายเหมือนกันแถมเรายังเป็นพี่น้องกันอีก... แต่เขาก็ยังทำเรื่องแบบนั้นกับผมได้ลงคอ ใช้ผมเป็นตัวแทนพี่มะปราง ไม่รู้ทำไมพอคิดถึงความจริงข้อนี้แล้วผมก็รู้สึกเจ็บเหมือนอกจะแตก
“เฮ้ย ใครมานั่งอู้ตรงนี้ ไม่ไปทำงาน... เอิร์ธ!?”
ผมหันไปมองทางเสียงดุนั่น พี่ไนท์ชะงักกึก คำพูดกลืนหายไปในลำคอทันทีที่เห็นหน้าผมชัดๆ
“เอิร์ธ...” เขายังคงไม่อยากเชื่อว่าเป็นผมจริงๆ “...มาทำอะไรที่นี่ เมื่อกี้พี่เพิ่งจะคุยโทรศัพท์กับไอ้กันต์”
เสียงพี่ไนท์เงียบไปดื้อๆ แววตาคมกริบไหววาบเหมือนนึกอะไรได้
“เดี๋ยวนะ มันแปลกๆ เอิร์ธกับไอ้กันต์มีเรื่องอะไรกันหรือเปล่า”
ผมหลบสายตาคมๆ ของพี่ไนท์ไปมองด้านข้าง เขาถามได้เข้าเป้ามาก ผมไม่รู้จะตอบยังไงดีด้วยซ้ำแค่เสนอหน้ามาที่นี่ก็เหมือนจะคิดผิดแล้ว ผมมีความคิดอยากกลับบ้านขึ้นมาชั่ววูบหนึ่งแต่ผมกลัว กลัวว่าทุกคนจะรู้เรื่องที่พี่กันต์ทำกับผม ผมอายเกินกว่าจะยอมรับความจริงนั้นได้
“เอิร์ธ?”
“พี่จะช่วยผมได้ไหม”
“แล้วนายอยากให้ช่วยอะไร”
“ขอผมอยู่กับพี่ได้หรือเปล่า”
ไม่รู้อะไรดลใจให้ผมพูดแบบนั้นออกไป พี่ไนท์จ้องหน้าผมแล้วเงียบไปเลย