ตอนที่แล้วบทที่ 10: หากทำได้ จงทำให้สำเร็จ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 11: หากทำได้ จงทำให้สำเร็จ 1

บทที่ 10: หากทำได้ จงทำให้สำเร็จ 2


บทที่ 10: หากทำได้ จงทำให้สำเร็จ 2

‘ไอ้บัดซบเอ้ย!

มันพูดว่าอะไรนะ? ธุรกิจยังดีอยู่ไหมงั้นเหรอ?

'นั่นคือสิ่งที่ไอ้เวรนี่ควรจะพูดงั้นเหรอ?! '

"เฮ้ย! แกทำให้ลูกพี่ใหญ่กับพี่สาวต้องเข้าคุก ยังมีหน้ามาถามว่าธุรกิจพวกเรายังดีอยู่ไหมงั้นเหรอ?!"

"พวกตำรวจยึดงานศิลปะทั้งหมดไปก็เพราะแก! ไอ้ชาติชั่ว!""

อีกฝ่ายโกรธจนหอบ แต่จูฮอนก็พูดต่อโดยไม่สนใจ

[ฉันไม่สนใจเรื่องพวกนั้นหรอก พวกแกยื่นคำร้องปิดบริษัทเรื่องที่ลูกพี่พวกแกเข้าคุกไปแล้วหรือยัง?]

"อะไรกัน? ทำไมแกถึงถามแบบนั้นล่ะ?!"

[ฉันให้เวลาห้าวินาที รีบบอกมาซะ]

"ไอ้เวรเอ้ย! เรายังไม่ได้ปิดกิจการ... แกต้องการอะไรกัน?!"

ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะได้ยินเสียงจูฮอนหัวเราะ

[ดี วิเศษมาก พวกแกยังมีคุณสมบัติในการเข้าร่วมการประมูลระดับโลกอยู่]

โอซัอูตกใจทันทีที่ได้ยินในสิ่งที่ไม่คาดคิด

"อะไรนะ? การประมูลระดับโลก?นี่แกกำลังพูดถึง... ไมดาสงั้นเหรอ?”

เป็นความจริงที่ว่าพวกเขาเคยเข้าร่วมประมูลไมดาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกที่ลาสเวกัส ในฐานะนายหน้าซื้อขายศิลปะ

ที่นั่นมีสิ่งของล้ำค่ามากมาย สมบัติระดับชาติและทรัพย์สินทางวัฒนธรรมที่ถูกขโมยมาจากหลายประเทศได้ถูกนำมาประมูล มีทั้งราชวงศ์และผู้นำหลายประเทศเข้าร่วมการประมูล ซึ่งเป็นการประมูลแบบพิเศษที่ต้องจ่ายเงินมากกว่าร้อยล้านวอนเพื่อซื้อตั๋ว

พวกเขาติดต่อกับโรงประมูลได้ด้วยความสามารถของปาร์คคยองจูได้

'ทำไมมันถึงอยากรู้เรื่องพวกนี้กันล่ะ?'

ยิ่งจูฮอนเริ่มพูด อีกฝ่ายก็เริ่มสับสนมากขึ้น

[ฉันจะพูดให้เคลียร์นะ ภายในเดือนนี้ ไปที่งานประมูล รับของมา และตามหาคนที่ชื่อย่อว่า JK หรือ แจ๊ค เคย์แมน แล้วก็สืบมาด้วยว่าหมอนั่นซื้ออะไรไป]

"...แจ๊ค เคย์แมนงั้นเหรอ แล้วมันเป็นใครกัน..."

จูฮอนขัดขึ้นมาก่อนที่เขาจะถามต่อ

[เจอหรือไม่เจอมันก็บอกด้วย แต่ถ้าคิดโกหกไม่ยอมบอก พวกแกตาย!]

"บอกมาก่อนสิว่าไอ้แจ๊ค เคย์แมนนี่มันเป็นใคร..."

[ถ้าแกรู้ว่าต้องทำอะไร ให้มาที่คาเฟ่มูนบัคที่ตั้งอยู่หน้าสถานียองดึงโพ แล้วฉันจะบอกข้อมูลว่าแกต้องหาอะไรบ้าง]

"บ้าฉิบ! แจ๊ค เคย์แมนมันเป็นใครกัน?!"

[นายไม่จำเป็นต้องรู้หรอก]

“เฮ้ย!”

[แน่นอนว่านี่คือธุรกิจ ดังนั้นฉันจะจ่ายเงินให้ตามคุณภาพของข้อมูลที่ได้มา]

โอซังอูกัดฟันราวกับเริ่มจะทนไม่ไหวแล้ว

"ไอ้บัดซบ ยิ่งแกพูดมากเท่าไหร่...!"

โอซังอูคือชายวัยสามสิบ เขาไม่มีทางยอมให้เด็กวัยรุ่นมาปฏิบัติต่อตนเช่นนี้

มันรู้สึกไม่ยุติธรรมที่จะต้องรับใช้เด็กเนรคุณที่เคยทำร้ายพวกเขา ทั้งที่ยังไม่ได้เป็นฝ่ายได้ต่อยเลยสักหมัด!

"ใช่แล้ว! ลูกพี่! ไม่ต้องไปฟังมัน! เฮ้ย! ซอจูฮอน รออยู่ตรงนั้นแหละ แกตายแน่!"

เสียงหัวเราะเยาะเย้ยของจูฮอนดังมาจากปลายสาย

[จริงเหรอ? ไม่อยากได้เงินกันหรือไง? ฉันพยายามที่จะสร้างสถานการณ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันอยู่นะ แต่ถ้าพวกแกไม่อยากทำก็ไม่เป็นไร

จูฮอนไม่ได้วางแผนที่จะปล่อยพวกปัญญาอ่อนนี่ไป

ทำไมเขาถึงต้องปล่อยพวกที่มีประโยชน์เหล่านี้เลยล่ะ?

จูฮอนยังคงพูดด้วยเสียงรำคาญ

[ถ้าพวกแกไม่ยอมทำ ก็คงต้องใช้วิธีอื่นแล้วล่ะ]

"วะ-วิธีอื่นงั้นเหรอ?"

[ดูเหมือนว่าจะลืมสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนไปแล้วสินะ]

สีหน้าของโอซังอูเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยิน พวกนั้นไม่มีวันลืมเรื่องที่โดนจูฮอนกระทืบจนกระดูกเกือบหักและถูกแทงด้วยมีดได้

ท้ายที่สุด อีกฝ่ายจึงตอบด้วยความตกใจ

"เอ่อ! ไม่ใช่ว่าเราไม่อยากทำธุรกิจด้วยหรอกนะ! แต่... อย่างน้อยนายก็ควรให้เงินหรือสิ่งของให้เราไปประมูลหน่อยสิ...!"

[เรื่องนั้นพวกแกต้องหาทางกันเอาเอง]

กริ๊ก

การโทรสิ้นสุดลงทันที

โอซังอูจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์พลางเดาะลิ้น

ทำไมเขาถึงรู้สึกว่าต้องติดแหงกกับสิ่งที่ไม่อาจหลบหนี?

จูฮอนถอนหายใจทันทีที่วางสาย เขาอยู่ที่ย่านใกล้เคียงเพื่อเฝ้าดูบางอย่าง

'ใครคือแจ๊ค เคย์แมนกัน?'

จะเป็นใครไปได้อีก? JK เป็นหนึ่งในตัวตนปลอมของประธานควอน ไม่มีทางที่จูฮอนจะจำไม่ได้ เพราะว่านี่เป็นชื่อที่ประธานควอนใช้ตั้งแต่เขายังเป็นเด็กฝึกงาน เมื่อมีบางสิ่งที่ต้องทำ ประธานควอนไม่เคยใช้ชื่อจริงเลย

เขามั่นใจในสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากประธานควอนได้รับโบราณวัตถุ โอกาสที่เขาจะได้โบราณวัตถุเหล่านี้จากสุสานนั้นสูงไม่น้อย นอกจากนั้น ก็ยังมีสิ่งอื่นในการประมูล อย่างเช่น บ้านและพิพิธภัณฑ์อีกด้วย

จูฮอนจะไปตรวจดูสุสานต่อ และวางแผนที่จะใช้พวกว่างงานนั่นจัดการเรื่องประธานควอนแทน

เขาต้องรู้ให้ได้ว่าประธานควอนมีอำนาจมากแค่ไหนในตอนนี้

'ดีล่ะ มีไอ้พวกนั้นคอยจัดการเรื่องธุรกิจของประธานควอนให้แล้ว'

เขาเพียงแค่ต้องรอฟังข่าว

จูฮอนตรวจดูข่าวการลงทุนบนมือถือ ก่อนจะเข้าไปในร้านสะดวกซื้อที่ย่านยองดึงโพ

ขณะนี้เวลา 20.00 น.

เป็นเรื่องดีที่เขามาที่ย่านยองดึงโพทันทีที่เห็นข่าวด่วน เขาหิวมากเพราะยังไม่ได้ทานอาหารเย็นเลย

[ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันนี้ นายโจโม ชายอายุสี่สิบปี พยายามฆ่าตัวตายด้วยการจุดไฟเผาตัวเองที่ย่านจตุจักรยองดึงโพ...]

ข่าวสดแถลงการณ์จากช่องข่าวของสถานี เหตุผลที่จูฮอนมาที่นี่ก็เพราะข่าวนั้น

ก่อนสุสานปรากฏมักมีสิ่งบ่งบอกเสมอ

เขามาที่นี่โดยรู้ว่าเหตุการณ์ผิดปกติประเภทนี้คือขั้นต้นในการปรากฎของสุสาน และยังดีที่มันอยู่ใกล้เคียง

'แต่อาจจะไม่เกี่ยวข้องอะไรกับสุสานก็ได้มั้ง'

ไม่ว่าสุสานนั้นหรือสุสานนี้ที่ถูกพิชิตอย่างรวดเร็ว มันหาได้มีอยู่ในความทรงจำของจูฮอนไม่

คราวนี้จะโผล่มาไหมนะ?

แต่แล้วขณะที่จูฮอนกำลังจะหยิบขวดน้ำจากตู้เย็นของร้านค้านั้น...

"เฮ้ย! นายน่ะ! จ่ายค่าเช่าตรงนั้นไว้หรือไง? จะยืนเลือกเครื่องดื่มอีกนานไหม?"

จูฮอนได้ยินเสียงคนที่อยู่ข้างหลังสบถเป็นภาษาญี่ปุ่น

กระนั้นเอง จูฮอนถึงกับยิ้มออกมาทันทีที่รู้สึกคุ้นเคยกับเสียงนั่น

คนที่ยืนอยู่ข้างหลังพร้อมกับหน้าตาโกรธเกรี้ยว คืออาเบะจากกองกำลังขุดค้นของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นไอ้หน้าโง่คนเดิมที่จูฮอนเคยเจอในสุสานก่อนหน้านี้

“ไอ้ญี่ปุ่น เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ?”

อีกฝ่ายอยู่ที่นี่ ก็เพราะตามกลิ่นของโบราณวัตถุมา

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด