บทที่ 10: หากทำได้ จงทำให้สำเร็จ 1
บทที่ 10: หากทำได้ จงทำให้สำเร็จ 1
"นี่จูฮอน ทำอะไรอยู่น่ะ?"
“วิจัย”
จูฮอนตอบกลับแบบไม่ได้สนใจ แต่เพื่อนร่วมห้องที่กำลังทำความสะอาดบ้านอยู่นั้นก็รู้สึกตกใจขึ้นมา
แต่มันก็ช่วยไม่ได้
'... ก่อนหน้านี้เป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็อาหรับ จากนั้นก็ฝรั่งเศสงั้นเหรอ?'
ดองฮยอนอ้าปากค้างทันทีที่เห็นพฤติกรรมแปลกไปของจูฮอน
จูฮอน
เริ่มแรก ดองฮยอนเย้ยหยันและคิดว่า 'ทำไมเขาถึงอ่านเข้าใจ?'
เขาคิดแผนที่จะแกล้งจูฮอน จึงเดินไปนั่งข้าง
ถึงกระนั้น เขาก็ยอมแพ้ทันทีเพราะปวดหัวกับบทความภาษาอังกฤษตรงหน้า
นอกจากข่าวแล้ว จูฮอนกำลังอ่านบทความจากนิตยสารและบทความด้านเทคนิค รวมถึงวิทยานิพนธ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้อาจจะทำให้ผู้คนคร่ำครวญได้ วิธีที่เขาเลื่อนหน้าจออาจทำให้คนอื่นคิดว่าเขากำลังอ่านข่าวซุบซิบนินทาใน
นั่นเป็นสาเหตุที่ดองฮยอน ซึ่งเป็นคนชอบสอดรู้สอดเห็นถึงกับตกใจและพูดออกมา
"นี่นายอ่านออกด้วยเหรอ?"
จูฮอนเริ่มอ่านออกเสียงดังทันทีที่ได้ยินคำถาม
"...Dans l'affaire qui l'oppose au FBI (ในเหตุการณ์ต่อต้าน FBI)..."
การได้ยินจูฮอนพูดภาษาต่างประเทศได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้ดองฮยอนยืนทำหน้าเอ๋ออยู่ตรงนั้น
'เดี๋ยวนะ ก็รู้หรอกว่าหมอนี่ฉลาด แต่เขาไปเรียนภาษามาตั้งแต่เมื่อไหร่กัน'
ถึงกระนั้นจูฮอนก็ไม่ได้สนใจว่าดองฮยอนจะตกใจหรือไม่ เขาทำที่คั่นหน้าบทความแต่ละบทอย่างใจเย็น
ความจริงคือภาษาไม่ใช่ปัญหาสำหรับจูฮอน เขาต้องการที่จะรู้ภาษาที่ไม่มีอยู่บนโลกแล้ว เพราะว่าภาษาที่มีอยู่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย
"ยังไงก็เถอะ ดองฮยอน ฉันจะต้องออกจากบ้านไปสักพัก ไม่ได้ติดต่ออะไรมาก็ไม่ต้องห่วงไป
"โห นี่นายล่อลวงสาวมหาเศรษฐีนั่นด้วยหน้าตาอันหล่อเหล่าไปแล้วหรือไง? หือ? เธอน่ารักงั้นเหรอ?”
จูฮอนหัวเราะแทนที่จะตอบ
มันจะดีกว่านี้ถ้าไอ้พวกโบราณวัตถุนั่นเป็นพวกพี่สาวแสนสวย
อย่างไรก็ตาม มันไม่ควรมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นระหว่างที่เขาไล่เก็บโบราณวัตถุ ณ ตอนนี้
ถึงอย่างนั้น
‘ประธานควอนนั่นแหละตัวปัญหา’
ลืมเรื่องที่ว่าประธานควอนเป็นศัตรูจอมข่มเหงไปก่อน เขาจะต้องเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดสำหรับการขึ้นเป็นใหญ่ของจูฮอน
โบราณวัตถุในอดีต
คงเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าถึงตัวประธานควอนหากรู้ตัวตนของโบราณวัตถุ แต่โชคร้ายที่จูฮอนรู้เพียงแค่ความสามารถของมันเท่านั้น
'ผู้ถือครองทุกคนจะซ่อนตัวตนของโบราณวัตถุของตนไว้'
ผู้ถือครองและผู้ใช้ที่รวบรวมโบราณวัตถุจำเป็นต้องเก็บข้อมูลทุกอย่างของโบราณวัตถุเป็นความลับ
เห็นได้ชัดว่าทำไมพวกเขาทำเช่นนั้น ผู้ถือครองส่วนใหญ่เป็นผู้ใช้โบราณวัตถุระดับเทพเจ้า (ระดับ SS)
โบราณวัตถุระดับสูงหลายชนิดมีพื้นฐานมาจากเทวนิยายที่มีชื่อเสียง ซึ่งหมายความว่าจุดแข็งและจุดอ่อนเป็นเรื่องที่คนทั่วไปรู้กันดี
'แต่เราก็มั่นใจในช่วงเวลาที่ประธานควอนได้รับโบราณวัตถุมา...'
เขาอาจจะได้มันมาแล้ว หรืออาจจะกำลังได้มันมา
คงจะดีหากจูฮอนล่วงรู้ตำแหน่งที่อยู่ปัจจุบันของประธานควอน แต่เขาในตอนนี้ไม่มีวิธีเข้าถึงประธานควอนได้เลย นักศึกษาฝึกงานในธุรกิจขนาดเล็กจะไปมีสิ่งที่คล้ายคลึงกับซีอีโอของบริษัทระดับโลกได้ยังไงกัน?
ตอนนั้นเอง ดวงตาของจูฮอนเบิกกว้างราวกับรู้อะไรบางอย่าง
‘เดี๋ยวก่อนนะ?’
มีอยู่วิธีหนึ่งที่จะทำให้ล่วงรู้ตำแหน่งที่อยู่ของประธานควอนได้
'ไอ้พวกอันธพาลนั่น คราวนี้ฉันจะไม่ยอมตกอยู่ในกำมือพวกมันหรอก'
จูฮอนโทรหาใครบางคนทันทีที่คิดเช่นนั้น
"เหอะ แม่งเอ้ย ฉันแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว"
โอซังอูอย่างปาร์คคยองจูและปาร์คคยองเท
เขาเป็นหนึ่งในลูกน้องที่ถูกจูฮอนกระทืบ หลังจากออกตามหารูปปั้นพระพุทธรูป
พวกเขาตกงานหลังจากปาร์คคยองจูและปาร์คคยองเทถูกจับกุมในข้อหาลักลอบขนยาเสพติด
"ลูกพี่ แผลเป็นยังไงบ้าง? เราควรแจ้งจับไอ้เด็กนั่นดีไหม?"
"ใช่แล้ว เราต้องแก้แค้นให้ลูกพี่ใหญ่กับพี่สาวที่อยู่ในคุก"
โอซังอูกระเดาะลิ้นทันทีที่ได้ยินความเห็นน้องสาว ผู้คนอาจดูถูกเขาหากไม่ทำอะไรสักอย่างกับสถานการณ์แบบนี้
'ซอจูฮอน ไอ้เด็กบ้านั่น มันเป็นบ้าอะไรของมัน?'
"จ้างคนไปสั่งสอนมันหน่อยดีไหม?"
“นั่นแหละที่ฉันชอบ! สมกับเป็นลูกพี่!”
บางอย่างเกิดขึ้นทันทีที่พวกเขาหัวเราะและพูดถึงเรื่องที่จะกระทืบจูฮอน
กริ๊ง
มีคนโทรมา
"แม่งเอ้ย ใครโทรมาตอนที่พวกเรากำลังคุยกันอยู่!"
โอซังอูเกือบบขว้างโทรศัพท์ไปที่ผนังทันทีที่เห็นหมายเลขที่โผล่ขึ้นมา
[ไอ้ลูกน้องซอจูฮอน]
“เฮ้ย!”
โอซังอูนั่งลงไปกับพื้นอย่างไม่รู้ตัว เขากำลังคิดที่จะแก้แค้นจูฮอนอยู่ แต่น่าเสียดายที่เหมือนว่าความกลัวนั้นจะฉุดรั้งร่างกายเขาไว้
การที่ได้เห็นชื่อของซอจูฮอนทำให้เขารู้สึกบอบช้ำ หลังจากที่โดนกระทืบมา
"ละ-ลูกพี่? เกิดอะไรขึ้น?"
“ใครโทรมาน่ะ?”
น้องสาวเริ่มสงสัยทันทีที่เห็นเหงื่อบนหน้าผากของโอซังอู ก่อนที่จะมองดูหน้าจอและเริ่มสบถออกมา
"บัดซบ! ทำไมไอ้เวรนั่นถึงโทรมาล่ะ? มันโทรผิดงั้นเหรอ?"
อีกฝ่ายเอาแต่พูดราวกับว่าอยากจะรีบไปจัดการจูฮอน แต่ร่างกายนั้นกลับทำตรงกันข้าม
มันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งหากพวกเขาจะออกไปตามล่าจูฮอน แต่การได้เห็นจูฮอนโทรมากลับทำให้อีกฝ่ายรู้สึกหวาดกลัว
“พี่จะรับสายงั้นเหรอ?”
"แม่งเอ้ย! ไม่รู้เหมือนกัน! บอกให้มันมาที่นี่แล้วจัดการมันเลยดีไหม?"
"ยังไงก็รับสายก่อนเถอะ!"
โอซังอูลังเลก่อนที่จะรับสายตามคำยืนกรานของน้องสาว เขาก็ไม่ลืมที่จะเปิดลำโพงเพื่อให้ทุกคนได้ยิน
“วะ-ว่าไง?”
ถึงกระนั้น เสียงที่อยู่ปลายสายฟังดูน่ากลัวไม่น้อย
[มัวทำบ้าอะไรกันอยู่ ทำบ้าอะไรอยู่ถึงรับสายช้าขนาดนี้?
โอซังอูและพรรคพวกเริ่มสั่นกลัว ราวกับว่าจูฮอนจะมาฆ่าพวกเขาหากรับสายช้าไปกว่านี้ไปสักสองวินาที
'รับช้างั้นเหรอ? อะไรกัน? เราใช้เวลารับไม่ถึงสามสิบวินาทีด้วยซ้ำ!'
โอซังอูเริ่มตะโกนออกมาเพื่อซ่อนความกลัวในใจ
"ไอ้เด็กเวรอกตัญญู! แกกล้าดียังไงที่มาทำให้ลูกพี่ใหญ่และพี่สาวเราต้องเข้าคุก? รออยู่ตรงนั้นและแกจะได้รู้ว่า..."
[เฮ้อ พอได้แล้ว! ธุรกิจยังดีอยู่รึเปล่า?]
ฝั่งโอซังอูเริ่มกัดฟันใส่จูฮอนที่ขัดคำ ราวกับว่ามีธุระอื่นที่สำคัญยิ่งกว่า