ล้ำเส้น [ 3 ] NC++
เราสองคนช่วยกันหิ้วปีกพี่กันต์เข้ามาในห้อง กว่าจะถึงเตียงก็เล่นเอาผมกับพี่ไนท์เหงื่อตก คนบ้าอะไรตัวหนักอย่างกับควาย
“หมอนั่นหลับไปแล้ว บ่ายโน่นแหละกว่าจะฟื้น”
“ครับ มีอะไรหรือเปล่าพี่ไนท์?”
ผมมองพี่ไนท์ที่ทำหน้ายึกยักเหมือนมีอะไรจะพูดแต่ก็ไม่พูด เขาจ้องตาผมนิ่งแวบหนึ่งก่อนจะส่ายหน้า
“ไม่มี กลับล่ะ”
“ผมไปส่ง”
ผมเดินตามร่างสูงออกมาจนถึงประตู พี่ไนท์เดินออกไปแล้วผมกำลังจะดึงบานประตูปิดแต่จู่ๆ ร่างสูงก็หันกลับมา มองข้ามหัวผมเข้าไปในห้องเหมือนเป็นห่วงอะไรสักอย่าง
“พี่ไนท์? ไม่ต้องห่วงครับ ผมก็อยู่ด้วย”
“นั่นแหละที่พี่เป็นห่วง”
“ครับ?”
“อ่อ... เอ่อไม่มีอะไรพี่กลัวมันจะตื่นมาทำอะไรแปลกๆ น่ะแต่เอิร์ธเป็นผู้ชายคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง”
“ฮ่าๆ พี่คิดมากแล้ว พี่บอกเองไม่ใช่เหรอว่าบ่ายพี่กันต์ถึงจะฟื้น”
“อืม” พี่ไนท์พยักหน้าพลางถอนหายใจยาว “ว่าแต่เอิร์ธอยากออกไปนั่งรถเล่นกับพี่ไหม”
“นั่งรถเล่น ตอนนี้เหรอ?”
ผมมองเขาอย่างตั้งตัวไม่ทัน นึกอะไรถึงมาชวนปุบปับแบบนี้เนี่ย
“ใช่ ปล่อยไอ้กันต์นอนที่ห้องคนเดียวเนี่ยแหละ มันไม่เป็นไรหรอก”
“แต่ผมไม่ได้อยากไปนั่งรถเล่นตอนนี้ ตีสามครึ่งแล้ว ผมว่าพี่ไนท์รีบกลับเถอะครับ”
“ไม่เปลี่ยนใจจริงเหรอ” ดวงตาคมกริบจ้องลึกเข้ามาในตาผมราวกับจะสื่ออะไรสักอย่าง ผมไม่เข้าใจ ยิ้มออกมาอย่างงุนงง
“ไม่ดีกว่าครับ พรุ่งนี้ผมมีเรียน”
“งั้นเหรอ” พี่ไนท์ทำหน้าผิดหวังนิดหน่อยก่อนจะโบกมือลาแล้วหันหลังเดินกลับไป
ผมผ่อนลมหายใจยาว ปิดประตูกลับเข้ามาในห้องอย่างไม่รั้งรอ อยากอาบน้ำนอนแต่ดันเหลือบไปเห็นพี่กันต์ที่นอนหลับทั้งที่ยังสวมเสื้อผ้าครบชุดอยู่บนเตียง เฮ้อ! ผมเดินเข้าห้องน้ำโดยไม่คิดจะทำอะไร แต่ออกมาอีกทีเขาก็ยังอยู่ในสภาพเดิม ไม่อึดอัดหรือไงวะ อะไรจะหลับปางตายแบบนั้น
สุดท้ายผมก็ทนไม่ไหว เดินมาถอดรองเท้าออกให้เขา หืม... กลิ่นอย่างเน่า! นึกว่าใครเอาปลาหมึกแห้งมายัด อึ๋ย แหวะ ผมเขวี้ยงรองเท้าทิ้งอย่างขมคอ หลับหูหลับตาดึงถุงเท้าชื้นๆ ออกจากปลายเท้าทั้งสองแล้วโยนทิ้งทันที จากนั้นก็ขึ้นมาบนเตียง ปลดเข็มขัดออกจากเอวหนาๆ พี่กันต์ขยับตัวเล็กน้อย ผมชะงักเพราะกลัวเขาตื่นแต่ก็ไม่มีวี่แวว
แล้วผมจะตกใจทำไมเนี่ย
หลังจากดึงสายเข็มขัดออกแล้วผมก็จัดการกับเสื้อที่รัดตึงท่าทางอึดอัดให้ด้วยการแกะกระดุมออก ทันใดนั้นเอง ฝ่ามือหนาก็คว้าแขนผมหมับ!
“มะปราง...”
“เฮ้ย!”
ผมสะท้านเฮือก ความทรงจำเมื่อคืนทอวาบเข้ามาในหัว สะบัดแขนออกอย่างกับโดนตัวอะไรสักอย่างเกาะ
“ปล่อย!”
“มะปราง ทำไมมะปรางทำอย่างนี้ อย่าทิ้งกันต์ไปนะมะปรางกันต์รักมะปราง”
“ไม่ใช่! ปล่อยผมผมไม่ใช่มะปรางของพี่ เฮ้ยยยยย”
ยังไม่ทันสลัดมือหลุดพี่กันต์ก็ดึงผมเข้าไปโอบเอาไว้แน่น
“อะไรวะ เฮ้ย!” ผมพยายามสะบัดตัวออกจากการจับกุมของเขาแต่พี่กันต์แรงเยอะมาก ทำยังไงก็ไม่ยอมปล่อย
“มะปราง กันต์คิดมะปราง”
“ผมไม่ใช่มะปราง!”
ฟังกันบ้างสิวะ! เขาเอาแต่พึมพำชื่อแฟนเก่า ลูบคลำตัวผมอย่างไม่ลืมหูลืมตา สะเสื้อ เฮ้ย! เดี๋ยว...
พลั่ก
เฮือก!! ผมเบิกตาโพลงเมื่อคนตัวสูงพลิกตัวขึ้นคร่อม หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ยังไม่ทันเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นริมฝีปากร้อนระอุก็ประกบลงมาปิดปากผมอย่างไม่เปิดโอกาสให้ตั้งตัว
“พี่อุ๊บบบบอื้อ!”
คำพูดกลืนหายลงไปในลำคอ ผมอ่อนยวบไปทั้งตัว ร่างกายเหยียดตรงราวกับโดนสะกด สัมผัสหวิวไหวโดนแทนที่ด้วยแรงบดเบียดอันหนักหน่วงในชั่วกะพริบตา พี่กันต์บดขยี้ริมฝีปากผมอย่างดุเดือด
มือเขากระชากเสื้อผมจนกระดุมหลุด ลากปลายนิ้วผ่านกลางลำตัวลงไปที่หัวกางเกง มืออีกข้างกดข้อมือผมที่พยายามผลักไสเขาออกห่างเอาไว้เหนือศีรษะ
“จะทำอะไร ยะอย่า!”
ผมดิ้นรนอยู่ใต้ร่างสูงด้วยความแตกตื่นปนหวาดหวั่น หายใจหอบถี่ พี่กันต์เป็นบ้าไปแล้วหรือไง ผมเป็นผู้ชายนะโว้ย ต่อให้เมาขนาดไหนก็ต้องรู้สิวะว่าทำแบบนั้นไม่ได้
“ปะปล่อ... อื้ออออ”
ผมคิดจะร้องห้ามแต่เสียงที่หลุดออกมากลับสะท้านประหลาด ผมอายจนแก้มร้อนจัดแต่นั่นจะมีประโยชน์อะไร เขาไม่มองหน้าผมด้วยซ้ำ ปลายลิ้นร้อนชื้นลากไล้ไปตามผิวแก้มยันซอกหู ความวาบหวิวแล่นริ้วไปทั่วทั้งร่าง
ผมดิ้นฮึดฮัด เตะขาพลางตะโกนห้าม ขอร้องให้พี่กันต์หยุดทำอะไรบ้าๆ สักทีแต่เขาไม่แม้แต่จะฟังเสียงของผมเลย
“พี่กันต์... ฮึก... พอเถอะพี่ อึก! พี่ผมขอร้อง”
ใบหน้าคมคายก้มลงซุกไซ้ซอกคอ ขบกัดแรงๆ อย่างมันเขี้ยว เขาคงคิดว่าผมเป็นพี่มะปรางก็จะทำคิสมาร์กหรือยังไงไม่ทราบ แต่ผมไม่ใช่เมียพี่นะโว้ยไอ้พี่กันต์!
ฝ่ามือที่ลูบคลำขึ้นมาตรงหน้าอกหยุดกึก เขาก้มลงไปดูด้วยท่าทางงุนงงว่าทำไมมันถึงแบนผิดสังเกต ถึงกระนั้นแรงที่กดข้อมือผมเอาไว้ก็ไม่ได้ผ่อนลงเลย ให้ตายสิวะ ผมดิ้นอยู่ตลอดเวลาแต่ก็สู้แรงควายพี่กันต์ไม่ไหว
เขามึนงงกับหน้าอกแบนราบของไม่นานก็หาทางออกเจอ ริมฝีปากที่เหมือนนักล่าเจอเป้าหมายก้มลงขบกัดตุ่มไตสีชมพูเล็กๆ อย่างดุดัน ผมร้องออกมาอย่างลืมตัวแอ่นหน้าอกขึ้นเพื่อจะหลีกหนีแต่มันกลับเข้าปากเขาไปเต็มๆ ผมกลั้นเสียงครางเสียว หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ ถีบขากับพื้นเตียงไปมาอย่างกระสับกระส่ายจนเข่ากระแทกกับเป้าตุงๆ ของพี่กันต์
ผมช็อก! ลืมหายใจไปชั่วขณะแล้วรู้สึกร่างกายอ่อนแรงโดยไม่ทราบสาเหตุ
ตอนนี้ผมรู้สึกหวาดกลัวจับขั้วหัวใจ สัญชาตญาณเตือนว่ากำลังตกอยู่ในอันตราย ผมรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายผลักเขาออกสำเร็จ รีบคลานหนีออกมาทันทีที่มีโอกาส พี่กันต์คว้าปลายเท้าผมแล้วกระชากกลับไปใต้ร่าง กระตุกกางลง ผิวที่ก้นเปลือยเปล่าสัมผัสกับอากาศเย็นวาบ ผมสะดุดลมหายใจเฮือก หันกลับไปมองอย่างแตกตื่น
เขารั้งสะโพกผมขึ้นไปหาเป้ากางเกงตัวเองแล้วถูไถเนิบนาบด้วยสีหน้าหื่นๆ
“พี่กันต์ ไม่... หยุดอึก เวรเอ้ย”
ผมตะโกนห้าม แต่ดันมีอารมณ์ไปด้วยพลอยทำให้แข้งขาอ่อนยวบไร้แรงจะขัดขืน
ตอนนี้โคตรจะเกลียดตัวเองเลยว่ะ
“เดี๋ยว!
ผมหันกลับไปมองด้านหลังอย่างใจหายเมื่อนิ้วแข็งๆ กดลงตรงช่องทางหลัง
“อ๊าก พี่กันต์ พี่... อย่า ผมไม่... อื้อ จะเจ็บ”
กึด! เสียงนิ้วค่อยๆ ล่วงล้ำเข้าไปทีละข้อ... ทีละข้อ...
“อึก.... พะพี่กันต์ จะทำอะไรอย่านะ”
“มะปรางงง”
“มะปรางบ้านพ่องมึงสิ! กูไม่ใช่ ปล่อย! อั่กอ๊ะจะเจ็บบบ จะทำอะไรอ๊ากกก อึกอ๊า” ผมร้องเสียงหลงเมื่อนิ้วนั่นกดลึกเข้ามามากเกินไป ผมเย็นสันหลังวาบ สบถด่าทอคนด้านหลังไม่หยุด
แต่ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าจะมีความเจ็บปวดที่แสนสาหัสกว่านั้นรออยู่ข้างหน้า...
ผมแนบหน้าลงกับพื้นเตียงอย่างไร้แรงต้านทาน มือเอื้อมลงไปกอบกุมส่วนที่แข็งขืนของตัวเองเอาไว้แน่น พยายามสะกดกลั้นไม่ให้เผลอไผลไปกับสัมผัสชั่ววูบของเขา ผมว่าพี่กันต์ไม่ได้สติด้วยซ้ำ ที่เขาแตะต้องผมก็แค่ทำตามสัญชาตญาณเท่านั้น แล้วเขาก็กำลังใช้ผมเป็นแทนพี่มะปราง
ชั่วอึดใจที่ผมเหม่อ บางสิ่งที่ร้อนและแข็งก็จ่อดันอยู่ที่ช่องทางหลัง ผมผวาไปทั้งใจ เหลือบไปมองหัวใจสั่น
“พะพี่... อึก อ๊ากพี่ผมเจ็บ!”
ผมดิ้นพรวดพราดเจ็บเหมือนร่างกายจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เมื่อเขาพยายามยัดเยียดแก่นกายเข้ามาในตัวผม ได้ยินเสียงช่องทางที่คับแคบฉีกขาด ผมรู้สึกแสบร้าวไปหมดและอ่อนแรง หยาดเลือดอุ่นๆ ไหลผ่านโคนขาลงมาหยดที่เตียง
“หยะหยุด....”
ผมร้องห้ามอย่างหมดแรงหลังจากตะโกนโวยวายด้วยความเจ็บปวดมาหลายนาที แต่ก็ไม่มีแม้แต่แววเห็นใจจากคนที่กำลังรุกล้ำอยู่ด้านหลัง ร่างกายผมเกร็งเขม็ง เหงื่อผุดพรายขึ้นตามตัว รู้สึกอึดอัดหายใจไม่ออก
“ฟิตจังวะ อา...มะปราง”
ไม่ใช่! ผมไม่ใช่... ผมร้องบอกเขาในใจ หลับตาฝืนทนกับความเจ็บปวดที่ดุนดันเข้ามาไม่หยุด หอบหายใจถี่กระชั้น เรียวขารวดร้าวและชาหนึบ ขยับไปไหนไม่ได้เลยจริงๆ
เขาดันความเป็นชายเข้ามาจนสุด มันพองตัวจนคับแน่นอยู่ด้านใน ผมหอบหายใจด้วยความทรมาน พึมพำเสียงสั่นขอร้องให้เขาออกมันออกไป ไม่งั้นผมได้ขาดใจตายแน่ แต่พี่กันต์กลับทำตรงกันข้าม
เขาขยับ!
ผมร้องลั่น แทบกรีดร้องออกมาเป็นผู้หญิง ความเจ็บปวดที่โดนรูดรั้งเข้าออกในช่องทางที่ฝืดเคืองรู้สึกราวกับว่าร่างกายโดนฉีกออกเป็นชิ้น
เสียงกระแทกกระทั้นรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่สติผมกลับเลือนรางลงทุกที
ผมร้องไห้ ทั้งเจ็บปวดทั้งอับอาย ในหัวตอนนี้มันมืดมนไปหมด ไม่รู้แล้วว่าเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นกับเราสองคนได้ยังไง เขาเป็นพี่ผม แต่ตอนนี้กลับกำลังใช้ผมเป็นเครื่องมือบำบัดความใคร่ของตัวเอง
ผมไม่อยากคิดเลยว่าตื่นมาพรุ่งนี้จะเราสองคนจะมองหน้ากันติดได้ยังไง
ฮึก... ผมรู้แต่ว่าผมอดสูเอามากๆ
เสียงหอบกระเส่าของพี่กันต์ถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ เช่นเดียวกับแรงกระแทกที่สะโพก ผมเจ็บแต่เขามัน นาทีนี้ต่อให้เขารู้สึกตัวก็คงหยุดตัวเองไม่ได้แล้ว
ร่างสูงกระแทกกระทั้นเข้ามาอย่างหนักหน่วงและร้อนแรงเหมือนอัดอั้นมานาน เสียงเนื้อกระทบกับดังพลั่กๆ แรงเสียดสีอย่างดุเดือดทำผมแทบขาดสติ ความเจ็บปวดจากเนื้อเยื่อฉีกขาดค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเร้าอารมณ์และสุขสมอย่างไม่รู้ตัว
...ผมจับของตัวเองรูดรั้งด้วยทนไม่ไหว