ล้ำเส้น [ 1 ]
กลางดึกคืนนั้น ผมสะดุ้งตื่นเพราะสัมผัสประหลาดที่ลูบไล้ตามเนื้อตัว ร่างกายรู้สึกหนักอึ้งเหมือนมีอะไรกดทับ ผมคงนึกว่าโดนผีอำไปแล้วถ้าไม่ได้ยินเสียงกระซิบที่กรอกเข้ามาในหูกับกลิ่นเหล้าคลุ้งไปทั้งเตียง
“มะปราง....”
อึก!!!
“ไอ้พี่กันต์!”
ผมตกใจถีบหน้าอกเขาออกไปเต็มเท้า ร่างสูงกลิ้งตกเตียงดังพลั่ก!
“อึก....”
เสียงครางหนักๆ ดังอยู่ในความมืด ผมรีบลุกขึ้นเปิดไฟ หัวใจยังไม่หยุดสั่น ความรู้สึกเมื่อกี้มันอะไรกันวะ คิดแล้วก็ขนลุกไม่หาย
พี่กันต์นอนหงายท้องอยู่บนพื้น เมาแอ๋ขนาดที่โดนเตะตกเตียงยังไม่รู้ตัว
ผมเห็นสภาพน่าสมเพชของเขาแล้วก็โกรธไม่ลง ปลุกเขาให้ลุกมานอนที่เตียงเพราะตัวหนักอย่างกับควาย ผมพยายามพยุงขึ้นแล้วแต่ก็ไม่ไหว
“พี่กันต์... พี่! กันต์ตื่นไปนอนเตียง”
ไม่ว่าผมจะปลุกหรือเรียกยังไงเขาก็ไม่ไหวติง ตายหรือยังวะ ก็ยังหายใจนี่นา เฮ้อ!
ผมถอนหายใจยาว จ้องมองพี่ชายต่างสายเลือดด้วยสายตาเอือมระอา หยิบหมอนมาหนุนศีรษะกับห่มผ้าให้แล้วปิดไฟในห้อง ผมเดินหนีบหมอนข้างออกมานอนบนโซฟาข้างนอก ไม่กล้านอนเตียง กลัวพี่กันต์จะตื่นมาปลุกปล้ำเพราะเข้าใจว่าผมเป็นพี่มะปรางอีก
“เฮ้ย!”
ผมปรือตาขึ้นมองปลายเท้าที่เขี่ยอยู่ตรงเข่า
“พี่กันต์?”
ผมผุดลุกขึ้น เอามือขยี้ตาอย่างงัวเงีย มองไปรอบๆ ด้วยความสงสัย เช้าแล้วเหรอเนี่ยยังง่วงอยู่เลย
“เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น ทำไมกูนอนอยู่ที่พื้นแล้วมึงมานอนห่าอะไรบนโซฟา”
เสียงพี่กันต์ทำให้ผมดึงสายตากลับมามองใบหน้าตึงๆ ของเขา
“พี่เมาจำไม่ได้เหรอครับว่าเกือบจะทำอะไรผม”
“หา? กูทำอะไรมึง”
“เออช่างเถอะ”
ผมมองใบหน้ายุ่งเหยิงจำอะไรไม่ได้สักอย่างของเขาอย่างขี้เกียจรื้อฟื้น อยากด่าก็ด่าไม่ได้เพราะเขาเป็นพี่
“อะไรของมึงวะ ตกลงว่ากูทำหรือไม่ได้ทำ”
ผมส่ายหน้า
“พี่หลับอยู่หน้าห้อง ผมตื่นมามาเจอพอดีก็เลยปลุกให้ไปนอนในห้อง พี่ถีบผมตกเตียงผมก็เลยต้องมานอนบนโซฟา”
“กูถีบมึง?”
“อือ ผมมีเรียน ไปอาบน้ำก่อนนะ”
ผมเดินออกมาทันทีที่พูดจบ พี่กันต์ยืนทำหน้างงๆ เหมือนกำลังข้องใจอะไรบางอย่างในคำพูดของผม
“เฮ้ย แล้วทำไมกูไปนอนที่พื้นวะ?”
“ผมจะไปรู้พี่เหรอ” ผมตะโกนบอกโดยไม่หันกลับไปมอง หยิบผ้าเช็ดตัวตรงเข้าห้องน้ำทันที
ความจริงวันนี้ผมมีเรียนเที่ยงแต่เพราะเกิดเรื่องเมื่อคืนทำให้ผมกระอักกระอ่วนใจที่จะอยู่ห้องกับพี่กันต์นานๆ เขาบอกให้ผมสั่งข้าวเช้ามากินแต่ผมโกหกว่ามีเรียนเช้าแล้วก็รีบออกมาเลย
ตอนนี้ก็กำลังซัดข้าวเช้าที่โรงอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เฮ้อ!! คิดถึงกับข้าวที่บ้านจัง
นั่นไง คิดถึงบ้านปุ๊บแม่ก็โทรมาปั๊บ ผมรับสาย คุยกับแม่ปกติ แม่แค่โทรมาถามไถ่เรื่องที่ผมย้ายออกมาอยู่กับพี่กันต์ ไม่มีอะไรมาก
“คืนแรกเรียบร้อยดีหรือเปล่าเอิร์ธ”
เสียงแม่สดใสปานเสียงระฆังแห่งสวรรค์ ผมก็อยากมีความสุขด้วยอยู่หรอกถ้าไม่นึกถึงเรื่องเมื่อคืนเข้าซะก่อน
“ครับ เรียบร้อยดี”
“พี่กันต์ใจดีกับลูกหรือเปล่า”
“ครับ เขาให้ผมนอนห้องเดียวกัน”
“อ่าวเหรอ แม่ได้ยินว่าที่เพนท์เฮาส์มีสองห้องนอน นึกว่ากันต์จะแบ่งให้ลูกนอนอีกห้อง แต่นอนห้องเดียวกันก็ดีนะจ๊ะจะได้สนิทกันมากๆ ไง”
“ครับแม่ ถ้าแม่ไม่มีอะไรแล้วผมวางนะ”
ผมทนฟังเสียงแม่พร่ำเพ้อเรื่องพี่กันต์ไม่ไหว ชิงวางสายทันที ได้ยินเสียงปลายสายบ่นมาแว่วๆ แต่นั่นแหละ ผมขี้เกียจฟัง
“เอิร์ธ คืนนี้วันเกิดป๊อบอายร้านเดิม”
เสียงตะวันเพื่อนผมดังขึ้นระหว่างพักเบรก
“วันเกิดอีกแล้ว?”
“ทำไมวะ มึงมีปัญหาอะไร ไหนว่าย้ายมาอยู่กับพี่ชายไง ไม่ต้องเกรงใจที่บ้านแล้ว”
“เปล่า แค่สงสัย อาทิตย์ก่อนก็วันเกิดรุ่นพี่”
ผมไม่ได้กังวลเรื่องที่บ้าน แค่สงสัยว่าวันเกิดคนรอบตัวอะไรมันจะถี่ขนาดนี้ เดือนๆ หนึ่งนี่ไปฉลองวันเกิดกันที่ผับแทบทุกอาทิตย์ แต่ผมก็ไม่กับพวกมันตลอด ไม่เคยขาด แต่ไม่ใช่ว่าผมชอบเที่ยวอะไรแบบนั้นแค่ปฏิเสธเพื่อนไม่ได้เท่านั้นเอง
“เออ ไปก็ไป”
ผมกลับมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เพนท์เฮาส์แต่ไม่เจอพี่กันต์ ห้องปิดเงียบเชียบ สงสัยออกไปข้างนอก เขาไม่บอกอะไรผมด้วยสิ แต่ช่างเถอะ ไม่เจอก็ดี ผมเขียนโน้ตแผ่นหนึ่งแปะไว้หน้าตู้เย็นบอกว่าจะไปเที่ยวผับกับเพื่อน เผื่อเขากลับมาจะได้รู้และไม่ต้องเป็นห่วง
ผับหลังมอ.
“ชนแก้ว!”
หลังเป่าเทียนวันเกิดป๊อบอายเสร็จ โต๊ะพวกเราก็ส่งเสียงเชียร์กันลั่น ผมยกแก้วเหล้าขึ้นจิ๊บนิดหน่อยส่วนไอ้ตะวันกับคนอื่นๆ ยังคงไล่ชนแก้วกันไม่หยุด ท่าทางฮึกเหิมของพวกมันทำผมพลอยคลายเครียดไปด้วย ตอนนี้ผมคิดว่าลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้แล้วล่ะ
“เฮ้ยเอิร์ธไปไหนวะ”
“ห้องน้ำ”
“รีบกลับนะโว้ย”
ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำไม่นานแต่ไม่รีบร้อนกลับไปที่โต๊ะ เดินออกมาสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกเพราะอยู่ในผับนานๆ รู้สึกหายใจไม่สะดวก
ผับที่นี่แบ่งออกเป็นสองส่วน ข้างในเป็นผับแดนซ์สองชั้นส่วนด้านนอกทำเป็นร้านนั่งชิลล์มีวงดนตรีสดมาเล่นเพลงเบาๆ ด้วย ข้างในก็มีนักร้องนะครับแต่รู้สึกจะมาดึกๆ และเพลงที่เล่นจังหวะก็จะหนักหน่วงกว่าข้างนอก
ผมยืนพิงขอบรั้วตกแต่ง มองไปทางร้านนั่งชิลล์ ดูนักร้องบนเวทีเพลินๆ ตอนนั้นก็มีพี่ผู้หญิงคนหนึ่งเดินควงผู้ชายผ่านหน้าผมไป
“เฮ้ย... นั่นมัน!”
ผมอุทานเสียงเบา มองตามหลังของผู้หญิงคนนั้นไปอย่างไม่ค่อยมั่นใจ ใช่พี่มะปรางหรือเปล่าวะ
ผมเคยเห็นหน้าแฟนพี่กันต์ชัดๆ ตอนงานแต่งแม่กับคุณลุงแค่ครั้งเดียว หลังจากนั้นก็เจอกันแบบผ่านๆ กับเห็นรูปใน IG และเฟสบุ๊คเป็นระยะๆ แต่ไม่ถึงกับเข้าไปส่องนะครับ เป็นเพื่อนกันมันก็เด้งขึ้นมาเอง
พี่มะปรางเดินควงผู้ชายเข้าไปในผับ แฟนหรือเปล่าวะ ผมครุ่นคิดอยู่สักพักก็เลิกสนใจ พอรู้สึกว่าตัวเองอยู่ข้างนอกนานเกินไปจึงเดินกลับเข้ามาในผับ
เพล้ง!
“กรี๊ดดดดดด”
To be continue...