บทที่ 15 ต่อสู้ในดันเจี้ยน
บทที่ 15 ต่อสู้ในดันเจี้ยน
“4-0” เมื่อหันกลับไปยังทางฝั่งของซาโด สกิลเรียกพวกถูกใช้งานออกมาแล้ว เหล่าพวกพ้องทั้ง 5 ต่างพากันลากมอนเตอร์เข้ามารวมเป็นกลุ่มและจัดการรุมโจมตีอย่างรวดเร็ว
มิร่าบินโฉบผ่านไปยังทางที่007ZAยืนอยู่เช่นกัน เธอไม่ได้ Last shot กลุ่มมอนเตอร์ทางฝั่งของซาโดแม้แต่ตัวเดียว ซ้ำยังช่วยทำดาเมจเล็กๆน้อยๆ โดยการโหนไม้กวาดและฟาดพวกมันขณะบินผ่าน ตำแหน่งที่เธอฟาดมอนเตอร์เหล่านี้ไป คือ จุดที่ซาโดกำลังบังคับ 007ZAโจมตีเหล่าซอมบี้เด็กอยู่
พวกซอมบี้เด็ก มันมีการเคลื่อนไหวที่ช้า หากเจอกับผู้เล่นธรรมดาๆ พวกมันอาจจะต่อกรกลับได้บ้าง แต่พอมาเจอกับกลุ่มของซาโด ที่มีความพร้อมระดับหนึ่งในการเข้าเล่นลีคอาชีพ
กลุ่มพวกซอมบี้เด็กที่มีการเคลื่อนไหวเชื่องช้า จึงยากจะต่อกรได้ ซึ่งถ้าหากมันได้จู่โจมกลับสักครั้งละก็ ดาเมจที่ได้รับสาหัสแน่นอน
มิร่าที่กำลังบินไปยังทางฝั่งของปีศาจสาว แอบช่วยซาโดในการกำจัดมอนเตอร์เล็กๆน้อยๆ และยังแกล้ง Last shot มอนเตอร์ที่ขุนช้างกำลังจะกำจัดได้อยู่แล้วแท้ๆ
แม้นางจะเอาเวลาไปแอบเล่นกับทั้ง 2 คนบ้างเล็กน้อย แต่นางก็ยังไม่ได้ลืมหน้าที่หลัก หลังจากผลของไม้กวาดหมดลงใน 7 วินาที นางก็เข้าถึงตำแหน่งเกิดของปีศาจสาวแล้ว
นางออกวิ่งอีกครั้ง พร้อมทั้งกลิ้งหลบการโจมตีของปีศาจสาว ปีศาจสาวจะมีการโจมตีที่รวดเร็ว อาวุธในมือของพวกมันคือแซ่ และมีการต่อสู้ในระยะประชิดที่เก่งพอสมควร
แซ่ในมือของพวกมันตัวหนึ่งฟาดออกมา มิร่าทำการบังคับ BPMAGIC กระโดดข้ามแซ่เส้นนั้นไป จากนั้นปีศาจหญิงอีก 2 ตัวของพวกมันวิ่งเข้าจู่โจม พร้อมฟาดแซ่ 2 เส้นเข้ามาในจังหวะที่มิร่ากำลังกระโดดขึ้น ไม้กวาดในมือขวาของแม่มดได้ทำการปัดแซ่เส้นหนึ่งออกไป พร้อมทั้งเอี้ยวตัวหลบแซ่อีกเส้นกลางอากาศ
หลังจากหลบการโจมตีจากทั้ง 3 ตัวเสร็จสิ้น ปีศาจหญิงอีก 2 ตัวก็วิ่งเข้ามาจู่โจมอย่างต่อเนื่อง ตัวแรกเข้ามาไวกว่า มันกระโดดเข้ามาพร้อมยื่นขาจู่โจมใส่ เพื่อหวังให้ตัวละครของมิร่าโดนกดทับลงกับพื้น
แต่การจู่โจมของพวกมันก็ไม่พ้นสายตาของมิร่า นางม้วนกลิ้งทันทีหลังจากเท้าทั้ง 2 ข้างของ BPMAGICลงมาแตะพื้น การโจมตีด้วยเท้าของมันเพียงผ่านช่วงตัวไปนิดหน่อย
จากนั้นนางลุกขึ้นและวิ่งอีก 1 ก้าว พร้อมกระโดดขึ้นขี่ไม้กวาดอย่างรวดเร็ว สกิลลูกบอลพลังเวทย์ โดนยิงออกมา ลูกบอลพลังเวทย์มนตร์ยิงใส่เหล่าปีศาจหญิงอย่างแม่นยำ เพื่อสร้างความเกรียจชังให้แก่พวกมัน
ซึ่งถ้าใครทำดาเมจใส่พวกมันเยอะ พวกมันก็จะตามฆ่าคนนั้น แต่ถ้าหากเป็นบอส มันจะมีจิตใต้สำนึกเข้าเพิ่ม จิตใต้สำนึกก็ คือ มันจะไม่ตามฆ่าคนที่สร้างความเกรียจชังให้กับมันมากที่สุดเป็นกฎตายตัว
มันจะมีบางจังหวะที่หันไปฆ่าตัวละครที่มี HP น้อยที่สุดและใกล้ที่สุด ซึ่งจุดนี้เป็นจุดเด่นของบอสเช่นกัน เพราะถ้าหากว่าไม่ใส่โปรแกรมเช่นนี้ลงไปให้กับบอสละก็ การกำจัดบอสจะง่ายเกินไป ซึ่งไหนๆมันก็โผล่ขึ้นมานานๆครั้งแล้ว ก็ทำให้มันฆ่ายากๆหน่อย เพื่อเป็นสีสันความสนุกของเกมออนไลน์
หลังจากมิร่าสร้างความเกรียจชังให้แก่ปีศาจหญิงครบทุกตัวแล้ว นางจึงเปลี่ยนเส้นทางในการบินมายังจุดที่บังเคนนัดหมายเอาไว้ ซึ่งตรงจุดนี้บังเคนได้คำนวณการสิ้นสุดระยะเวลาการบินของไม้กวาดพอดิบพอดี
ในวินาทีสุดท้ายหลังจากที่การขี่ไม้กวาดกำลังจะหมดลง มิร่าได้ใช้ สกิลไม้กวาดควงสว่านออกมา เพื่อเว้นระยะห่างด้วยการโจมตีจากแซ่ของปีศาจหญิง
สกิลไม้กวาดควงสว่านถูกใช้ออกมา พร้อมกับมิร่าลงจากไม้กวาดได้พอดิบพอดี เมื่อนางลงมาจากไม้กวาดแล้ว นางหันหน้ากลับไปยังทางที่ปีศาจสาวกำลังวิ่งเข้าหา
สกิลปาขวดน้ำมันมาจากฝั่งขวามือ ปาลงมาตรงกลางวงของกลุ่มปีศาจสาวที่กำลังวิ่งเข้าจู่โจมใส่มิร่า ส่วนซาโดและขุนช้างก็รีบกำจัดซอมบี้เด็กอยู่คนละฝั่ง
พวกเขาไม่เลือกที่จะลากซอมบี้เด็กเข้ามาอยู่ในกลุ่มของปีศาจสาว ก็เพราะว่า ซอมบี้เด็กมีการเคลื่อนไหวที่ล่าช้า กว่าจะลากพวกมันออกมาจากกำแพงทั้ง 2 ฝั่งซ้ายขวาพร้อมๆกันได้นั้น ต้องกินเวลาเป็นอย่างมาก บังเคนจึงสนับสนุนความคิดนี้ของซาโด คือ แบ่งฝั่ง และ เร่งมือฆ่าซอมบี้เด็ก
หลังจากซาโดเจียดเวลาขว้างขวดน้ำมันลงมายังกลุ่มของปีศาจหญิงแล้ว บังเคน เจ๊เอมี่ และ มิร่า เริ่มลงมือทำการสังหารหมู่ในครั้งนี้ทันที ปีศาจต้องกำจัดด้วยไฟ ถึงจะเหมาะสม
คนที่เปิดฉากจู่โจมคนแรก จะเป็นใครไม่ได้นอกจากบังเคน เขารอจังหวะนี้อยู่นานแล้ว ทันทีที่ปีศาจหญิงมาตรงตำแหน่งที่นัดหมายกันไว้ สกิลเวทย์ไฟระดับสูงชนิดหนึ่งถูกร่ายออกมาอย่างรวดเร็ว “ไฟกวาดปฐพี”
วงแหวนเวทย์สีแดงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนพื้นสนามลานกว้างของคุก ลูกไฟ 1 ลูก ขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า และ ร่วงหล่นลงมาอย่างรวดเร็ว
สกิลไฟกวาดปฐพี จำเป็นต้องใช้เวลาในการร่ายมนตร์ เพราะเมื่อมันถูกใช้งานออกมาได้แล้ว ความเร็วในการล่วงหล่นของลูกไฟนับว่าอยู่ในระดับกลาง รัศมีการโจมตีกว้าง ดาเมจที่ได้รับอยู่ในระดับกลางกึ่งสูง และเป็นการโจมตีหมู่ไม่นับจำนวน ขอแค่อยู่ในวงเวทย์ รับรองได้ว่า โดนครบหมดทุกตัวอย่างแน่นอน
และในขณะนี้ ลูกไฟลูกนี้ได้ทำการล่วงหล่นลงมายังบนพื้นแล้ว ปีศาจหญิงทั้งหลายแหล่ต่างจำใจต้องกลืนกินลูกไฟนี้เข้าไป แรงระเบิดจากลูกไฟยักษ์ก้อนนี้ ทำให้พวกมันล้มลงไปทั้งหมดทันที
ด้วยผลของขวดน้ำมันจากอาชีพอันธพาล ทำให้เกิดไฟที่รุนแรงยิ่งขึ้น และ ไฟเหล่านี้จะอยู่เพิ่มขึ้นอีกเป็นเวลา 3 วินาที เพื่อทำดาเมจเพิ่มเติม
แต่เพียงแค่สกิลเดียว ไม่สามารถทำให้พวกมันทั้งหมดตายได้ อาชีพช่างไม้ของเจ๊ก็เร็วไม่แพ้กัน แม้จะไม่ได้มีการคำนวณล่วงหน้าแบบบังเคน แต่เจ๊ก็พยายามใช้สกิลออกมาอย่างรวดเร็วที่สุดแล้ว
สกิลคลื่นขวานผ่าพสุธา ตามด้วยสกิลของแม่มด ที่ตามมาหลังสุด เพราะต้องทำการร่ายมนตร์ 2 วินาที สกิลลูกไฟดาวตกนั่นเอง
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมม ๆ ๆ ๆ!!
3 สกิลต่อเนื่อง และ มีสกิลปาขวดน้ำมันของอาชีพอันธพาลเข้าช่วย HPของปีศาจสาวหายวับในพริบตา การทำคอมโบเช่นนี้ จึงเรียกว่า ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
หลังจากปีศาจสาวนับ 20 ตายไปทั้งหมด กลุ่มซอมบี้เด็กต่างเริ่มทยอยตายตามกันไปอย่างรวดเร็ว ด้วยความร่วมกันของทั้ง 5
ระหว่างนั้น กลุ่มนักฆ่าโหดในคุกเริ่มทำการเกิดออกมาเรื่อยๆ โดยตำแหน่งเกิดของมันได้ล้อมลอบกลุ่มของซาโดเอาไว้แล้ว และมันยังเกิดสุ่มตามซอกกำแพงอีกด้วย
ซึ่งกลุ่มนักฆ่าโหดเหล่านี้ มีร่างกายที่สูงใหญ่ ในมือของมันถือดาบยักษ์ ซึ่งเป็นดาบยักษ์คู่เสียด้วย ชุดเกราะของมันก็ทำมาจากเหล็กเบา สามารถรับแรงกระแทกและดาเมจได้อย่างดี
บังเคนเริ่มสั่งการฆ่าซอมบี้เด็กอย่างรวดเร็ว หลังจากกลุ่มปีศาจสาวตายไปทั้งหมด เหตุผลที่ต้องสั่งฆ่าอย่างรวดเร็วก็เพราะว่า กลุ่มนักฆ่าโหดกำลังเกิดขึ้นมาเรื่อยๆแล้ว
ตรงจุดนี้ไม่สามารถวางแผนล่วงหน้าได้มากนัก ก็เพราะว่าตำแหน่งการเกิดของมันไม่แน่นอน จึงต้องใช้ฝีมือเข้าช่วยในการเร่งทำเวลาฆ่า
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !!
เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นเหมือนพวกมันได้รับความเจ็บปวดทางใจเป็นอย่างมาก พวกมันเดินเข้าหาอย่างรวดเร็ว การเดินของพวกมันเป็นเหมือนกับการวิ่งเลยก็ว่าได้
เพราะจังหวะการก้าวเท้าของมันรวดเร็วเป็นอย่างมาก ท่าเดินของมันเป็นท่าเดินแบบแนวเฉียง ผมที่ยาวของมันจากการอยู่ในคุกมานาน ดูเหมือนนักฆ่าโรคจิตที่น่าเกรงขามจริงๆ
เมื่อเห็นตำแหน่งการเกิดของพวกมันจากระยะไกล บังเคนจึงคิดแผนการล่วงหน้าเอาไว้แล้วในใจ
“น้องมิร่าเตรียมเจาะทะลวงฝั่งขวาบนลงมา ส่วนขุนช้างนายทำการเจาะทะลวงทางฝั่งซ้ายบน และเดินตำแหน่งลงมาด้านล่างเรื่อยๆ ส่วนพวกนักฆ่าโหดที่อยู่ตามซอกกำแพงด้านหน้า ให้ซาโดเป็นคนจัดการในส่วนนี้ ส่วนด้านหลังทางซ้ายและขวา ผมกับเจ๊เอมี่จะเป็นคนไล่กวดพวกมันเอง”
หลังจากคำสั่งออกมาเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ทั้ง 5 คน เริ่มปฏิบัติตามทันที เป็นมิร่าที่ออกวิ่งอย่างรวดเร็วเพื่อขึ้นขี่ไม้กวาด
ระหว่างทางเจาะทะลวง เธอใช้สกิลไม้กวาดปัดเป่า กวาดนักฆ่าโหดที่เข้ามาขวางทางและเริ่มกำจัดพวกมันทีละตัวสองตัว
ส่วนทางฝั่งของขุนช้างก็ไวไม่แพ้กัน ถึงกับใช้ ก้าวพริบตา เข้าไปยังกลางวงของนักฆ่าโหดและเล่นใหญ่ด้วย สกิลวายุมังกรคู่
ขุนช้างใช้การบังคับมังกรทั้ง 2 ให้เคลื่อนที่แบบหมุนวนรอบตัวเอง ทำให้ฝูงนักฆ่าโหดที่ลุมล้อมนักดาบคู่ของขุนช้าง ต่างโดนมังกรคู่พวกนี้ชนกระเจิงไปหมด
บังเคนเหลือบไปเห็นการใช้สกิลของขุนช้างเมื่อครู่ ก็แอบช็อคไปเหมือนกัน วายุมังกรคู่ ปกติแล้ว จะใช้ออกมาในสถานการณ์ที่คู่ต่อสู้อยู่ตรงหน้า หรือ ตัวลอย
เพราะเมื่อคู่ต่อสู้โดนสกิลวายุมังกรคู่เข้าไปแล้ว จะทำให้ตัวละครเกิดการลอยจากการกระแทกของแรงลม จากนั้นสามารถต่อคอมโบต่างๆได้มากมาย และดาเมจของสกิลนี้ก็อยู่ในระดับที่รุนแรงมาก
ช่วงจังหวะแรกที่ ขุนช้างกดใช้ก้าวพริบตา เพื่อให้ Mammoth เข้าไปยังกลางวงของกลุ่มนักฆ่าโหด จังหวะนี้หากเป็นนักกีฬาระดับพวกเขาย่อมไม่อันตรายนัก
เพราะหากใช้ก้าวพริบตาเข้าไปยังกลางวงแล้ว จะต้องรีบต่อสกิลที่สามารถกำจัดมอนเตอร์รอบวงได้พร้อมๆกัน ซึ่งสกิลในแนวนี้ของนักดาบคู่คือ สกิลดาบพันเล่ม
ถ้าหากใช้สกิลดาบพันเล่มออกมา จะทำให้ตัวละครหมุนตัว 1 รอบ และระหว่างหมุนตัวจะทำการปล่อยดาบมากมายออกมารอบๆตัวภายในเสี้ยววินาทีอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่า ขุนช้างกลับใช้สกิลวายุมังกรคู่ออกมาซะอย่างนั้น ซึ่งการจะบังคับมังกรทั้ง 2 ที่รวดเร็วปานลม ต้องใช้ความเร็วในการควบคุมเป็นอย่างมาก
และเมื่อขุนข้างใช้มันออกมาแล้ว ผลลัพธ์ที่บังเคนเฝ้ามองอยู่เมื่อครู่นับว่าดีเกินคาด มังกรคู่ 2 ตัวนี้ หมุนออกวงนอกจู่โจมได้อย่างสวยงามและแม่นยำ ทำให้นักฆ่าโหดทั้งหลายแหล่ที่ล้อมรอบวงแตกกระเจิงทันที
โอกาสสวยงามเช่นนี้มีหรือที่บังเคนจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ ก่อนจะไปกำจัดนักฆ่าโหดทางฝั่งของตนเอง บังเคนจึงร่ายเวทย์มนตร์ดินออกมาอย่างรวดเร็ว ซึ่งสกิลที่บังเคนใช้ออกมาคือ สกิลวังวนแห่งดิน
สกิลวังวนแห่งดินถูกร่ายออกมาเพียงไม่กี่วินาที และพอดิบพอดีกับช่วงจังหวะที่นักฆ่าโหดกำลังหล่นลงมาจากฟากฟ้าด้วยผลผลักลอยจาก สกิลวายุมังกรคู่
ตุ๊บๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
เสียงของนักฆ่าโหดหล่นลงมาเกือบจะพร้อมๆกันทีละตัวๆ เมื่อมันหล่นลงมาจากฟากฟ้าก็โดนดูดไปยังจุดกึ่งกลางของหลุมดินหลุมนี้ทันที
เจ๊เอมี่และบังเคน ที่เมื่อครู่กำลังจะไปกำจัดมอนเตอร์ทางฝั่งตนเองอยู่แล้วเชียว แต่กลับเห็นบังเคนหยุดชะงัก แล้วร่าย สกิลวังวนแห่งดินออกมา
นางจึงหยุดฝีเท้าเช่นกัน พร้อมทั้งช่วยใช้สกิลออกมาจู่โจมหลังจากบังเคนร่ายเวทย์มนตร์เสร็จ ซึ่งสกิลนั้นคือ สว่านไม้เสียบประจาน ที่ทิ่มแทงออกมาจากหลุมดิน เสียบเอานักฆ่าโหดนับ 10 คนนอนตายอยู่คาเสาไม้ทั้งหมด
“เแม้แต่บังกับเจ๊ยัง Last ผม”
“บังขอโทษ พอดีจังหวะมันได้”
ทุกคนต่อสู้ในดันเจี้ยนอย่างสนุกสนาน เล่นตามแผนการบ้าง เล่นตามตนเองบ้าง ตามจังหวะที่มันพาไป
แม้ก่อนหน้าการลงดันเจี้ยนจะบอกว่าเน้นความเข้าขา แต่พอเอาเข้าจริงยังมีหยอกล้อกันผ่านการเล่น ทุกคนก็ไม่มีใครเก็บเอาสิ่งเหล่านี้มาใส่ใจ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเล่นเกม คือ เล่นเพื่อความสนุกสนาม ถ้าเล่นแล้วเครียด เล่นแล้วหัวร้อน เล่นแล้วทะเลาะกับเพื่อนฝูง แตกหัก ต่างๆนาๆ ก็ไม่ควรที่จะก้าวเข้ามาเล่นเกม เพราะถือว่ายังมีวุฒิภาวะไม่เพียงพอในการเล่นเกมเหล่านี้
“เอาหละๆ ใกล้ถึงบอสแล้ว ผมขอให้ทุกคนลองกำจัดบอสภายใน 40 วินาที โดยไม่มีการสั่งการจากผมนะ”
ครืดดดดดดดดด !! เสียงสั่นสะเทือนจากลานกว้างของคุก หัวหน้านักโทษของโซนที่ 1 ปรากฏตัวออกมา มันกระโดดลงมาจากฟากฟ้าปรากฏตัวตรงหน้าของตัวละครทั้ง 5 ทันที
ร่างกายของมันเป็นสีส้มมีพุงที่ย้อยออกมาจากหน้าท้อง ระหว่างมันยืนอยู่ได้มีสารสีส้มไหลออกมาจากหน้าท้องตลอดเวลา ตัวของมันออกจะอ้วนและเตี้ย แต่เมื่ออยู่ในร่างของบอสทำให้แม้จะตัวเตี้ยแต่ก็สูงและใหญ่กว่าตัวละครทั้ง 5 คน เกือบ 2 เท่าตัวเลยทีเดียว ชื่อของมัน คือ บัลลาฮอล์
เมื่อมันกระโดดลงมายืนบนลานกว้าง ทำให้พื้นดินเกิดการสั่นสะเทือน มันกู่คำราม พร้อมทั้งสะบัดหาง และ ยกตะบองยักษ์ขึ้นฟ้า เพื่ออวดโชว์พละกำลังอันล้มหลามของมัน
แต่มันกลับไม่รู้เลยว่า ในตอนนี้ตัวละครทั้ง 5 อยากจะขยี้มันใจจะขาดอยู่แล้ว และต้องทำสำเร็จให้ได้ภายใน 40 วินาที เพื่อเพิ่มความมั่นใจในศักยภาพให้แก่กลุ่มตัวเอง
หลังจากฉากการเปิดตัวของมันจบลง ตัวละครทั้ง 5 ต่างไม่รอช้าทันที ทุกคนวิ่งเข้าใส่อย่างพร้อมเพรียงกัน โดยการต่อสู้กับบอสตัวนี้ จะไม่มีผู้บัญชาการในการต่อสู้ ทุกคนต้องเข้าสู้ตามสไตล์ของตัวเองและหาจังหวะกันเอาเองระหว่างการต่อสู้
ซึ่งการทำเช่นนี้เป็นจุดประสงค์ของบังเคน ที่ต้องการดูศักยภาพของเพื่อนร่วมทีมว่ามีความรู้ความเข้าใจ การสอดประสานกันในระดับไหน
จากนั้นเขาจะนำสิ่งเหล่านี้จากทุกๆคนมาปรับแก้ไขให้ต่อสู้ไปยังทิศทางเดียวกัน เพื่อเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของทีมตนเองในการไปลุยที่ Sever ใหม่ ที่กำลังจะเปิดในเร็วๆนี้