บทที่ 27 : การเพิ่มเลเวลของรองเจ้าเมือง
ผู้คนกว่าพันคนวิ่งผ่านป่ารกทึบ ทิ้งเสียงลมหายใจและเสียงเหยียบย่ำไว้บนผืนหญ้า
บรรยากาศของเหล่าคนแคระไม่ได้ดีนัก พวกเขาถูกโจมตีโดยออร์คขณะกำลังล่าถอยไปยังมุมหนึ่ง และนักรบคนแคระเกือบร้อยถูกฆ่าตาย
พวกเขากำลังไว้ทุกข์และระลึกถึงคนที่จากไป เพราะไม่สามารถฝังร่างกายของคนเหล่านั้นได้ ทำได้เพียงโศกเศร้าในความเงียบงัน
โอดอมเป็นเจ้าชายคนแคระที่มีสายเลือดระดับอีปิค อายุของเขาไม่น้อยนัก แต่เพราะว่าเขาได้กินเนื้อจากอสูรเวทย์และโพชั่นน้อยมาก เขาจึงมีเลเวลเพียง 43 เท่านั้น เขาไม่สามารถเผชิญหน้ากับนักรบออร์คชนชั้นสูงเลเวล 30 และผู้นำออร์คเลเวล 40 บางตนด้วยตัวคนเดียวได้
ไม่ว่าจะเป็น NPC, อสูรเวทย์หรือมังกร ก็เพิ่มความแข็งแกร่งโดยการกินและการฝึกฝนโดยไม่จำเป็นต้องมีอายุถึงจุดที่กำหนดเพื่อไปยังจุดสูงสุดของพลังการต่อสู้
ศักยภาพทางสายเลือดของ NPC จะจำกัดการเติบโตของพลังการต่อสู้และเวทมนตร์ที่ได้เรียนรู้โดยไม่มีข้อจำกัด
นั่นแหละคือสิ่งที่จะกล่าว
NPC ที่มีศักยภาพทางสายเลือดระดับสูงจะสามารถผ่านเลเวล 100 หรืออาจจะถึงเลเวล 200 เลยก็ได้ และค่าสถานะของพวกเขาจะเพิ่มขึ้นไปพร้อมๆกับเลเวล
อย่างไรก็ตาม!
พลังการต่อสู้(เวทมนตร์)ที่ฝึกฝนโดย NPC จะสามารถขึ้นไปถึงขีดจำกัดสูงสุดได้
ถ้าค่าพลังต่อสู้, อานุภาพของพลังการต่อสู้, และคุณภาพของพลังต่อสู้ไม่เพิ่มขึ้นหลังจากถึงเลเวล 100 ในชีวิตนี้ก็ไม่อาจพัฒนาขึ้นต่อไปได้และ NPC จะสามารถใช้ได้แต่พลังต่อสู้ระดับสูงเท่านั้น
เพราะว่าขีดกำจัดทางสายเลือดก็เป็นขีดจำกัดของความสามารถติดตัวด้วย NPC จึงไม่สามาผ่านไประดับถัดไปได้
แต่ตราบใดที่เขายังไม่ตาย ยังไม่แก่และยังไม่อ่อนแอ ความแข็งแกร่งของเขา (การเพิ่มค่าสถานะ) จะสามารถเติบโตได้ต่อไป
สรุปแล้ว คุณภาพของพลังการต่อสู้นั้นแสดงถึงแรงค์ของคนๆหนึ่ง
แต่แรงค์ไม่ได้แสดงถึงเลเวลเพียงแค่อย่างเดียว
[เช่นนักรบวัยกลางคนระดับมาสเตอร์ ในแง่ค่าสถานะทางกายภาพ เขาต้องมีสูงกว่านักรบวัยเยาว์ระดับมาสเตอร์เป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม ถ้านักรบวัยกลางคนได้รับพรสวรรค์ขีดสูงสุดจากการเพิ่มคุณลักษณะทางกายภาพเพียงอย่างเดียว เขาก็ไม่สามารถไปยังนักรบระดับเอ็มเพอเรอร์ได้]
ความเร็วของการอพยพเป็นไปอย่างรวดเร็วมาก
เมื่อวิลเลียมนำคนแคระ 1600 ตนกลับไปยังอาณาเขตได้แล้ว พลเมืองส่วนใหญ่ก็ออกมามองดูด้วยความประหลาดใจและเต็มไปด้วยความสงสัย
ท้ายที่สุดแล้ว เหล่าคนแคระก็ไม่ได้ชื่นชอบที่จะอาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยป่าไม้
พวกเขาชอบที่ราบโล่งหรือภูเขาขรุขระ มันยากที่จะจินตนาการว่าพวกเขาได้ออกมาจากป่าแล้ว
ในเวลานี้ วิลเลียมเลือกที่จะตรงไปตรงมา “เมืองชายแดนนี้คืออาณาเขตของเรา ท่านจะอาศัยอยู่ชั่วคราว หรือว่าจะเลือกที่จะเข้าร่วมอาณาเขตของเราก็ได้!”
โอดอม เฮฟวี่แฮมเมอร์ยืนอยู่บนพื้นที่สูง มองไปยังเมืองที่มีประชากรเบาบาง จากนั้นก็มองไปยังคนในปกครองของเขาที่มีความคาดหวังในดวงตา ก่อนจะทำได้เพียงถอนหายใจ “ข้าจะนำคนเข้าร่วมเมืองนี้ ข้าหวังว่าการมาถึงของพวกเราจะไม่ก่อปัญหาให้กับท่านลอร์ด!”
วิลเลียมจับมือเขาอย่างสุภาพและกล่าวว่า “ถึงจะมีปัญหา แต่เราก็สามารถเผชิญกับมันได้ ไม่ใช่หรือ?”
จากนั้นเขาก็มองไปยังเมืองเล็กๆที่มีห้องว่างเพียงไม่กี่ห้อง ก่อนจะกล่าวด้วยความอับอายว่า “ที่นี่มีผู้อาศัยน้อยมาก ดังนั้น จึงมีบ้านต้นไม้จำนวนน้อยและบ้านไม่กี่หลังที่เหมาะสำหรับท่าน...”
“ข้าเข้าใจว่าบ้านของมนุษย์นั้นไม่เหมาะกับคนแคระ เราจะสร้างบ้านของพวกเราเอง!” โอดอมพยักหน้าและดึงมือกลับไป คนพเนจรเลือกอะไรมากไม่ได้แต่เขาก็ไม่ได้อยากขายร่างกายตนเองหรอกนะ
เขาเหนื่อย…
คนของเขาก็เหนื่อย…
พวกเขาวิ่งไปมายาวนานเหลือเกิน...
พวกเขาไม่กล้ามองหาพันธมิตรที่ทรงพลัง…
เช่นเมืองของเอลฟ์ตระกูลแบล็คลีฟ การดำรงอยู่ที่ทรงพลังที่สุดในป่าแบล็คลีฟ เขาไม่กล้าที่จะขอความช่วยเหลือ
เนื่องจากโอดอมรู้ว่าเอลฟ์จะไม่ช่วยให้เขากู้คืนแผ่นดิน แม้ว่าเอลฟ์จะไม่ส่งพวกเขาออกไป มันก็ไม่ได้รู้สึกดีนักที่ต้องพึ่งพาคนอื่นเพื่อมีชีวิต
เขาไม่กล้าที่จะติดต่อกับคนแคระอาณาจักรอื่นๆเช่นกัน
เพราะเขาไม่รู้ว่าใครจะเป็นผู้ทรยศเจ้าชายผู้ตกอับคนนี้เป็นรายต่อไป
ส่วนเจ้าชายเอลฟ์ที่อยู่ข้างหน้านั้นน่ะหรือ?
“เจ้าชายเอลฟ์ขนานแท้ที่ไหนจะมายังที่ที่ห่างไกลเพื่อสร้างอาณาเขตและครอบครองดินแดนของมนุษย์คนหนึ่งกัน?” โอดอม เฮฟวี่แฮมเมอร์ไม่ใช่คนโง่ เขาได้คิดเกี่ยวกับมันและรู้ว่าเพื่อนที่อยู่ข้างหน้าเขาอาจเป็นบุตรนอกสมรสของมนุษย์ระดับรีเจนดารี
สถานะของพวกเขาก็พอๆกัน
ซึ่งเป็นรากฐานที่ดีสำหรับการร่วมมือ
อย่างน้อย เขาก็วางแผนว่าจะอยู่ที่นี่ในระยะยาว หากท่านชายคนนี้ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายที่ไกลเกินไปนัก
โอดอม เฮฟวี่แฮมเมอร์เหนื่อยและสิ้นหวังจริงๆ เขาไม่มีความตั้งใจที่จะฟื้นฟูแคว้นของเขาหลังจากที่หนีมาหลายปี
เพราะเขารู้ว่ามันสิ้นหวังเพียงไรและเขาต้องการเพียงปกป้องคนของเขาเท่านั้น มันจะดีที่สุดหากเขาได้ลงหลักปักฐานในที่ซักแห่งหนึ่ง
การลงหลักปักฐานในที่ซักแห่งหนึ่งอย่างน้อยก็ไม่ทำให้ผู้ติดตามของเขาต้องละอายใจ
นามสกุลของเขามีประวัติศาสตร์ที่รุ่งโรจน์ตลอดทั้งสองยุคสมัย พวกเขาสามารถเอาชนะพวกบัลร็อกและยับยั้งการรุกรานจากพวกฝ่ายมืดได้ ดังนั้น เมื่อวิลเลียมถามเขาว่าสนใจที่จะเป็นรองเจ้าเมืองหรือไม่ เขาจึงประหลาดใจจนไปคว้ามือวิลเลียมมาจับ “จริงหรือ? ข้าสามารถเป็นรองเจ้าเมืองด้วยความสามารถของตนเองจริงๆน่ะหรือ?”
“แน่นอน เราศรัทธาในตัวท่าน!” วิลเลียมยิ้มและตบบ่าของโอดอมเบาๆ ทำให้ผมบลอนด์ของเขาเรียบลู่ลง
มันก็แค่ตำแหน่งรองเจ้าเมืองและวิลเลียมก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้มากนักเพราะว่าเขาก็ยังเป็นผู้ที่มีอำนาจสูงสุดอยู่ดี การให้ตำแหน่งรองเจ้าเมืองแก่โอดอมเป็นเพียงการปล่อยให้เขามีสิทธิ์มีเสียงในการพูดบ้างและเพิ่มความรู้สึกการเป็นเจ้าของดินแดนของเขา
ท้ายที่สุดแล้วรองเจ้าเมืองก็หมายความว่าเมืองแห่งนี้เป็นบ้านของเขาเช่นกัน เขาจะไม่สั่งให้คนแคระของเขาสร้างเมืองให้ดีหรอกเหรอ?
………………………..
“ท่านลอร์ดมีฝีมือจริงๆ เมื่อมองไปยังภาพลักษณ์ที่น่าหวาดกลัวของคนแคระเหล่านั้น ข้าไม่รู้เลยว่าพวกเขาถูกตามล่ามานานแค่ไหน หากมีดินแดนที่สามารถหยั่งรากลงได้ พวกเขาต้องทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไว้เป็นแน่” ลอทเนอร์ชื่นชมวิลเลียม
มันเป็นเรื่องยากสำหรับลอร์ดธรรมดาสามัญคนหนึ่งที่จะแบ่งอำนาจของตนเอง
วิลเลียมนั่งอยู่บนเก้าอี้พร้อมกับเจ้าหมีสามในอ้อมแขน ส่วนหมีใหญ่กับหมีสองกำลังกอดอยู่ที่ขาของเขา เมื่อได้ยินคำสรรเสริญของลอทเนอร์ก็ส่ายศีรษะเบาๆ “นี่ไม่ใช่การแบ่งปันอำนาจ แต่เป็นการให้หน้าที่แก่คนที่เหมาะสมที่สุด”
ลอทเนอร์คิดอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเข้าใจความหมายของวิลเลียมจึงพยักหน้า จากนั้นก็จับไปที่ช้างน้อยของเจ้าหมีสามโดยไม่สนใจกรงเล็บของมัน ก่อนจะออกไป
ในขณะเดียวกันนั้น
วิลเลียมที่ในที่สุดก็เพิ่งมีเวลาว่างก็เพิ่มเลเวลของตนไปยังเลเวล 15 และได้รับแต้มค่าสถานะ 6 แต้ม ค่าสถานะทุกค่าของเขาเพิ่มขึ้น 1 แต้ม รวมถึงค่าสเน่ห์จากคุณสมบัติที่ซ่อนอยู่
เขาเพิ่มค่าความว่องไวและค่าพละกำลังไปสามแต้ม
ส่วนค่าประสบการณ์ที่เหลือ ฉันจะใส่มันในกลโกงของพลังการต่อสู้และทักษะ วิลเลียมคิดและเริ่มอัพสกิลของเขา
ความแตกต่างระหว่างเลเวลส่วนบุคคลและทักษะพลังการต่อสู้คือ 10 เลเวล
ตอนนี้ เขาอยู่ที่เลเวล 15 วิธีการบ่มเพาะพลังการต่อสู้ของเขาถูกยกระดับขึ้น 5 เลเวล
แต่ทักษะพลังการต่อสู้ของเขาอยู่ที่เลเวล 2 หากต้องการเพิ่มเป็นเลเวล 6 เขาอาจจะต้องใช้ค่าประสบการณ์ทั้งหมด
หน้าต่างคุณสมบัติ
ในเวลานี้ วิลเลียมอยู่ที่เลเวล 15
หัวข้อ : ลอร์ดเมืองชายแดน (ไม่มีโบนัสค่าสถานะ)
เผ่าพันธุ์ : ครึ่งเอลฟ์
ศักยภาพทางสายเลือด : รีเจนดารี (เลเวล 15 ค่าสถานะพื้นฐาน +15%)
ความสามารถติดตัว : ดูดี (แฝง)
นอกจากคนในฝ่ายมืด คนอื่นๆ, บรรดาสรรพสัตว์และพฤกษา (ยกเว้นศัตรู) จะมีความประทับใจที่ดีต่อคุณ มากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับเสน่ห์ความดึงดูดใจของคุณ ในตอนที่คุณทำการซื้อขายกับสิ่งมีชีวิตอื่นๆ คุณก็จะได้รับส่วนลด
ความสามารถติดตัว : ชีวิตระดับเริ่มต้น , ความแข็งแกร่ง(สเตมินา) 1 หน่วย = ค่าพลังชีวิต 20 หน่วย
ศักยภาพเลือด : รีเจนดารี (ค่าสถานะพื้นฐาน +15%)
เลเวล : 15
ค่าประสบการณ์ : (2333/15500)
อายุ : 16
พลังชีวิต : 1200 (+300+200)
ความแข็งแกร่ง : 780 (+100+200)
คุณสมบัติพื้นฐาน :
พลังกำลัง : 64 +8(+6)
ความแข็งแรงทางกายภาพ : 42 +8 (+10)
ความว่องไว : 69 +8 (+8)
ค่าสติปัญญา : 40 +5(+5)
คุณสมบัติพิเศษ :
เสน่ห์ : 58
ความโชคดี : 3
จิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์แห่งรุ่งอรุณ
ระดับ : รีเจนดารี
เลเวล : Lv 5 (ค่าประการณ์ 0/1600)
พลังต่อสู้ : 550/550 หน่วย
อัตราการฟื้นฟู : 15 หน่วย/วินาที
คุณสมบัติพิเศษและทักษะที่เปิดใช้งานมีดังนี้ :
คุณสมบัติพิเศษ : ทักษะพลังการต่อสู้ใดๆ จะเพิ่มขึ้น 5%
คุณสมบัติพิเศษ : พลังโจมตี +8, ความแข็งแรงทางกายภาพ +8, ความว่องไว +8, สติปัญญา +5
คุณสมบัติพิเศษ : พลังชีวิต +450
คุณสมบัติพิเศษ : ความแข็งแกร่ง +200
โล่จิตวิญญาณ : ร่างกายสามารถสร้างโล่จิตวิญญาณให้เท่ากับค่าพลังต่อสู้ได้ ใช้ค่าพลัง 40 หน่วยต่อวินาที มีค่าป้องกันพื้นฐาน 150 หน่วย ถ้าพลังโจมตีเกินขีดจำกัดสูงสุดของการป้องกัน สามารถใช้ค่าพลังต่อสู้และทำลายโล่ได้
หลังจากโล่หายไป สามารถเปิดใช้งานได้อีกครั้งใน 5 วินาที
แสงแห่งรุ่งอรุณ : สามารถเพิ่มพลังต่อสู้ 50% และพลังโจมตี 210% ในบางทักษะ แต่จะใช้ระยะคูลดาวน์ 26 นาที
(ทุกๆ 5 เลเวลของการเพิ่มระดับ คุณสามารถเพิ่มค่าสถานะ, ทักษะพิเศษ, พลัง, ทักษะและอื่นๆ)
(ค่าสถานะที่มาพร้อมกับค่าพลังจะมีผลจากระดับสายเลือดเพิ่มเติม!)
……………………..
พรแห่งเทพเอลฟ์ (แฝง)
เลเวล : Lv 5
คุณสมบัติ : การโจมตีระยะไกลเพิ่มขึ้น 17% ไม่มีค่าพลังที่ใช้, ไม่มีคูลดาวน์
คุณสมบัติพิเศษ Lv 3 : เพิ่มความเสียหายจริง 100 หน่วย
………………………..
เฟเทล ช็อต
เลเวล : Lv 5
คุณสมบัติ : กินพลังการต่อสู้ 150 แต้ม และสามารถยิงธนูสามดอกติดต่อกันได้ ถ้าลูกธนูทุกดอกสามารถโจมตีศัตรูได้ ธนูดอกแรกจะสามารถทำความเสียหายได้ x150% ธนูดอกที่สองจะทำความเสียหายได้ x170% และธนูดอกที่สาม x190%
มีโอกาสทำให้อยู่ในสภาวะเลือดออก
คุณสมบัติพิเศษ Lv 3 : เมื่อลูกธนูทั้งสามดอกโจมตีถูกศีรษะ ธนูดอกที่สามจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงต่อศัตรู(ติดคริติคอล) 150% (คูลดาวน์คุณสมบัติพิเศษ : 30 วินาที)
คูลดาวน์ : 10 วินาที
…………………..
แบทเทิล คัต
เลเวล : 5
คุณสมบัติ : กินพลังต่อสู้ 70 หน่วย สามารถแกว่งดาบไปข้างหน้า ถ้าโจมตีถูกศัตรู จะสามารถทำความเสียหายได้ x180% มีโอกาสทำให้อยู่ในสภาวะเลือดออก
คุณสมบัติพิเศษ Lv 3 : ดาบสามารถต้านทานและทำความเสียหายได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
คูลดาวน์ : 3 วินาที