GE490 สังหารมือสังหาร (ฟรี)
“ประสานวิญญาณ”
หนิงฝานกล่าวในใจ คำว่าประสานวิญญาณทำให้เขานึกถึงเรื่องในอดีตที่เกิดขึ้นเมื่อ 40 ปีที่แล้ว ยามนี้เขามีอายุกระดูก 500 ปี ข้ามฝ่าขอบเขตประสานวิญญาณในวันวานมาไกล
ผู้ที่หานเนี่ยเทียนส่งมาสังหาร คิดว่าเขาเป็นเพียงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตประสานวิญญาณ ดูเหมือนในสายตาของหานเนี่ยเทียน แค่ 40 ปีไม่มีทางที่เขาจะบรรลุขอบเขตแก่นทองคำได้
“ดูเหมือนหานเนี่ยเทียนจะดูแคลนข้าน่าดู”
“สามหาว! มดปลวกอย่างเจ้าไม่คู่ควรเรียกขานชื่อขององค์กษัตริย์แบบนั้น… ถึงเจ้าจะไม่ใช่ขอบเขตประสานวิญญาณ ถึงแรงกดดันของเจ้าจะทรงพลัง ก็ไม่ได้ทำให้ข้าหวาดกลัว!”
ตาขวาของเต้าเหยียนปรากฏดาราปีศาจ 3 ดวง แรงกดดันของมันเพิ่มพูนขึ้นหลายเท่าจนสามารถต่อกรกับแรงกดดันของหนิงฝานได้
ดูเหมือนดาราปีศาจทั้ง 3 ดวงนั้นจะทำให้แรงกดดันของมันทรงพลังขึ้น ในชั่วพริบตาเดียวกัน มันก้าวเท้ามาเบื้องหน้า ร่างกายขยายใหญ่ถึง 6 พันจ้าง บนร่างสวมทับด้วยเกราะสีดำทมิฬ
ในมือปรากฏหอกขนาดยักษ์ ยาวนับ 4 พันจ้าง ปลายหอกชี้มายังหนิงฝาน หอกของมันคืออาวุธเทพ 1 ดารา อานุภาพสมควรไม่ธรรมดา
มันหันมองผู้ที่อยู่บนเรือ เมื่อไม่เห็นผู้ที่ทรงพลังมากพอที่จะเป็นภัยคุกคามให้ มันจึงไม่สนใจ
การปรากฏขึ้นของหอกทำให้บรรยากาศโดยรอบเปลี่ยนไป กลิ่นเน่าเหม็นคละคลุ้ง ราวกับกลายเป็นสุสานที่เต็มไปซากศพเน่าเหม็น
ที่ปลายหอกฉาบเคลือบด้วยบางสิ่งที่ดูคล้ายกับพิษ ให้ความรู้สึกอันตรายต่อหนิงฝานมาก ราวกับมันสามารถกัดกร่อนได้ทุกสิ่ง
หากสัมผัสปลายหอกนั่นเข้าไป ร่างกายของเขาอาจถูกย่อยสลาย
“ข้าคือหนึ่งในองครักษ์ของกษัตริย์เนี่ย นำ ‘หอกกร่อนเทพ’ ออกมาเพื่อสังหารศัตรู… ในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง มีอยู่ไม่ถึง 10 คนที่รับหอกของข้าได้! แต่เจ้า...ไม่มีทางรับหอกข้าได้!”
ทันทีที่กล่าวจบ มันแทงหอกในมือเข้าใส่หนิงฝานอย่างรวดเร็วราวกับอัสนี เมฆหมอกสีดำที่ปกคลุมท้องนภา ม้วนเป็นเกรียวตามแรง มิติรอบข้างราวกับจะถูกอานุภาพของหอกกัดกร่อน
อานุภาพของหอกทรงพลังมากพอที่จะสังหารผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นต้น สมแล้วที่มันบอกว่ามีผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงไม่ถึง 10 คนเท่านั้นที่รับหอกมันได้
หนิงฝานจ้องมองการจู่โจมอย่างเรียบเฉย เขารู้ว่าหอกนั่นไม่ธรรมดา แต่แค่นั้นยังไม่อาจทำอันตรายเขาได้
ปีกเพลิงปรากฏที่แผ่นหลังของเขา มุ่งทะยานเข้าหาหอกยักษ์ด้วยความเร็วสูงโดยไร้ซึ่งความกลัว
หอกยักษ์มีขนาดใหญ่กว่าหนิงฝานหลายเท่า สายลมที่เกิดจากอานุภาพของหอก ก็กัดกร่อนอาภรณ์ของหนิงฝานจนขาด
หนิงฝานกระตุ้นแก่นพลัง ทั่วร่างเปล่งแสงสีทองดำ แรงกดดันที่แผ่ออกมาเทียบเท่าขอบเขตกายทองคำที่ 2
“ขอบเขตกายทองคำที่ 2!” เต้าเหยียนตกตะลึง
หนิงฝานซัดฝ่ามือเข้าปะทะกับหอกที่ตรงเข้ามา เสียงระเบิดดังสนั่น ทิวทัศน์รอบข้างถูกแรงปะทะกวาดจนกลายเป็นพื้นที่โล่งกว้าง อานุภาพของฝ่ามือที่ทรงพลัง ต้านทานจนหอกไม่อาจทะลวงเข้าถึงตัวหนิงฝานได้
แม้ปลายหอกจะเคลือบฉาบด้วยพลังกัดกร่อนที่รุนแรง แต่ยังไม่อาจทะลวงฝ่าพลังของหนิงฝานได้
หนิงฝานระดมฝ่ามือนับ 10 เข้าใส่หอกของเต้าเหยียน แม้อาวุธของมันจะเป็นอาวุธเทพดารา 1 แต่ไม่อาจต้านฝ่ามือที่ทรงพลัง จนเกิดรอยร้าวไปทั่ว
แรงกระแทกจากฝ่ามือแล่นผ่านไปตามหอก กระแทกเข้าที่มือของเต้าเหยียนจนมือของมันปริแตกไม่อาจถือหอกได้อีก
“เป็นไปได้ยังไง? ทำไมมันถึงทำลายหอกได้ ร่างกายของมันแข็งแกร่งขนาดไหนกัน… แบบนี้ไม่ได้ต่างไปจากขอบเขตกายทองคำที่ 3 แล้ว!”
เต้าเหยียนตกตะลึง สำหรับมันแล้ว อาวุธเทพดารา 1 เป็นของล้ำค่า การที่อาวุธของมันถูกทำลาย ย่อมโทษได้เพียงมันดูแคลนความแข็งแกร่งของหนิงฝานเกินไป
ในเมื่อต้องจ่ายค่าตอบแทนของความประมาทด้วยอาวุธล้ำค่า มันก็ไม่กล้าดูแคลนหนิงฝานอีก
มันขยับมือเป็นท่าทาง โคจรปราณในร่างเพื่อใช้วิชา
“ร่างกร่อนปีศาจ!”
ทั่วร่างของมันปรากฏสายลมสีดำที่แฝงไปด้วยอานุภาพของการกัดกร่อนห้อมล้อม ไม่นาน สายลมเหล่านั้นก็ก่อตัวเป็นกระดูกสีดำหุ้มกาย
ในมือปรากฏสมบัติที่ใช้พันธะนาการ แต่ก็แฝงด้วยพลังกัดกร่อนเช่นเดียวกัน
ดูเหมือนเต้าเหยียนเป็นผู้ครอบครองเส้นลมปราณกัดกร่อน เมื่อผสานกับวิชาปีศาจที่กลายร่างเป็นยักษ์ได้ ทำให้กลายเป็นอาวุธที่ทรงพลังของมัน
เกราะกระดูกของมันมีพลังป้องกันที่ทรงพลัง สามารถต้านรับการจู่โจมของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นกลางได้ นับว่าแข็งแกร่งไม่ต่างจากเกราะอัสนีของหนิงฝานมาก
สมบัติในมือของมันก็ให้ความรู้สึกอันตรายกับหนิงฝาน หากถูกมันพันธะนาการเข้าไปน่าจะทำให้สลัดหลุดได้ยาก ดังนั้นหนิงฝานจะไม่ประมาท
“เกราะกระดูกและตาข่าย... อาวุธและเกราะป้องกันที่สร้างชื่อให้กับปีศาจโบราณ...” หนิงฝานเร่งสวมเกราะอัสนี กระตุ้นพลังพร้อมรบโดยไม่ประมาทอีกฝ่าย
เต้าเหยียนตกตะลึง แววตาปรากฏความอิจฉา เพราะเกราะอัสนีของหนิงฝานแข็งแกร่งกว่าเกราะกระดูกของมัน
“ข้าต้องทุ่มไปมากมายหลายสิ่งเพื่อให้ได้เกราะนี้มา แต่ก็ยังเทียบกับเพราะอัสนีของเด็กนั่นไม่ได้… เป็นไปไม่ได้ ข้ายอมรับไม่ได้!”
“หากข้าเดาไม่ผิด เกราะของมันสมควรมาจากวิชาเกราะอัสนีของกษัตริย์อัสนีปู้ซัว ซึ่งกษัตริย์อัสนีผู้นั้นทรงพลังยิ่งกว่ากษัตริย์เนี่ย… เท่าที่รู้ ผู้ที่บรรลุวิชานี้ในโลกพิรุณมีอยู่เพียงหยิบมือ และผู้ที่บรรลุวิชาระดับสูงเหมือนกษัตริย์อัสนีน่าจะไม่มีอีกแล้ว!”
“ฮึ่ม! ไม่ว่ายังไง ข้าที่รับมอบหมายคำสั่งมาจากกษัตริย์เนี่ยแล้วก็ต้องทำให้ลุล่วง!”
เต้าเหยียนปลดปล่อยเจตนาสังหารที่รุนแรง แล้วหว่านตาข่ายในมือเข้าใส่หนิงฝาน
“ตาข่ายของข้าคือตาข่ายฟ้า มีพลังที่น่าสะพรึงกลัว หากเจ้าหนีไม่พ้น ก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รอเจ้าอยู่!”
ทันทีที่ตาข่ายหลุดออกจากมือมัน จู่ๆตาข่ายก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย ในชั่วพริบตาถัดมา ตาข่ายที่หว่านออกไปกลับเข้าล้อมหนิงฝานจากทั่วทิศ ปิดช่องทางหนีทั้งหมด
หากสัมผัสกับตาข่ายนั่นเข้าไป คงถูกพลังแห่งการกัดกร่อนฆ่า!
หนิงฝานขมวดคิ้ว เขารู้สึกราวกับถูกตรึงร่างจนไม่อาจเคลื่อนไหว
แม้จะยังไม่ได้สัมผัสกัสตาข่าย แต่พลังที่รุนแรงมันเปล่งออกมาเข้าสะกด จนทำให้เขาไม่อาจเคลื่อนไหว
“ตาข่ายฟ้า… แม้จะทรงพลังเท่าวิชาตรึงสวรรค์แต่ก็นับว่าน่ากลัว ยิ่งผสานกับปราณกัดกร่อนของมัน ยิ่งทำให้ตาข่ายน่ากลัวขึ้นไปอีก… แต่แค่นี้ยังทำอะไรข้าไม่ได้ มอดไหม้!”
เปลวเพลิงสีดำถูกจุดขึ้นทั่วร่างหนิงฝาน ความร้อนที่รุนแรงทำให้ตาข่ายส่งเสียงเปาะแปะราวกับกำลังถูกเผา
ผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ ตาข่ายของเต้าเหยียนถูกแผดเผาจนหมด และเพลิงที่ลุกโหมก็ก่อตัวเป็นวงแหวนล้อมกายของเต้าเหยียนเอาไว้
“วิชาวงแหวนเพลิง!”
สีหน้าเต้าเหยียนแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง มันตกตะลึงที่ตาข่ายของมันถูกเผา และวงแหวนเพลิงที่ล้อมกายของมันก็แผ่ความร้อนที่รุนแรง จนทำให้มันรู้สึกชาไปทั่วร่าง มันรู้ว่าเพลิงที่หนิงฝานใช้เป็นเพลิงระดับสูง แต่มันกลับไม่เคยเห็นเพลิงชนิดนี้มาก่อน
มันไม่รู้ว่าเพลิงของหนิงฝานถือกำเนิดมาจากการผสานเพลิงชีพจรพิภพ และปราณเยือกแข็งสวรรค์
ท่ามกลางวงแหวนเพลิงที่ร้อนแรง มันแค่นเสียง ลดขนาดร่างกายของตนเองลงให้เท่ากับขนาดปกติ แต่ยังไม่ถอดเกราะกระดูก แล้วมุ่งทะยานเข้าหาหนิงฝานด้วยความเร็วสูง
แต่ถึงมันจะเร่งความเร็วเต็มกำลัง ก็ยังไม่อาจหนีพ้น ทำให้สีหน้าของมันเริ่มแปรเปลี่ยน ความกลัวปรากฏขึ้นในแววตา เกราะกระดูกถูกแผดเผา ร่างกายเริ่มได้รับความเสียหายที่รุนแรงขึ้นทุกขณะ
มันไม่อาจหลบหนีจากวงแหวนเพลิงของหนิงฝานได้
มันพยายามเกร็งปราณเพื่อต่อต้านเต็มที่ หากไม่มีเกราะกระดูกคุ้มกาย มันคงถูกเพลิงเผาตายไปนานแล้ว
“เพลิงนี่มันอะไรกัน ทำไมถึงทรงพลังขนาดนี้!”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้!”
หนิงฝานกระตุ้นวงแหวนเพลิงในแต่ละชั้น ให้บีบรัดเข้าใส่เต้าเหยียน!
ในขณะเดียวกัน หนิงฝานกระตุ้นปีกเพลิงผสานกับวิชาเคลื่อนที่พริบตา มุ่งเข้าหาเต้าเหยียน
มันเริ่มหวาดกลัวหนิงฝานจริงๆ เพราะความเร็วระดับนั้นไม่ใช่สิ่งที่มันจะตามทัน แต่มันยังคงดิ้นรน เร่งถอยห่างจากหนิงฝานและหลบหลีกวงแหวนเพลิง แต่ผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ หนิงฝานก็ตามมันทัน โดยมีระยะยห่างเพียง 100 จ้างเท่านั้น
หนิงฝานโคจรแก่นพลังไว้ที่ฝ่ามือ แล้วซัดออกไปเป็นฝ่ามือขนาดยักษ์ ที่ดูราวกับปกคลุมไปทั่วท้องนภา
ฝ่ามือสังหารปีศาจ 1 ฝ่ามือ!
เปรี้ยง!
เสียงปะทะดังสนั่น เต้าเหยียนไม่กล้าต้านรับตรงๆ จึงได้นำสมบัติชิ้นหนึ่งออกมาช่วย แต่ก็แลกกับการที่สมบัติชิ้นนั้นถูกทำลายในพริบตา
หนิงฝานไม่เปิดโอกาสให้มันพักหายใจ เร่งซัดฝ่ามือสังหารปีศาจเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง จาก 1 ฝ่ามือ 2 ฝ่ามือ… ไปเรื่อยๆจนถึง 108 ฝ่ามือ
แย่แล้ว เมื่อฝ่ามือสังหารปีศาจ 108 ฝ่ามือถูกซัดออกมา มันรู้ทันทีว่าไม่อาจรับได้ เกราะกระดูกของมันถูกทำลายไปแล้ว จึงพยายามคำทุกวิถีทางเพื่อหลบหนี
แต่ก่อนที่มันจะะเคลื่อนไหว หนิงฝานกลับชี้นิ้วใส่มัน เส้นแสงสีแดงจำนวนมากเข้าเข้าพันธะนาการจนไม่อาจขยับ
วิชาตรึงสวรรค์!
“บัดซบ! วิชาพันธะนาการของมันทรงพลังกว่าตาข่ายฟ้าของข้า!”
ในเมื่อไม่อาจหลบ มันก็ต้องเผชิญหน้ากับฝ่ามือเต็มๆ
*เปรี้ยง*
มิติรอบข้างพังทะลาย เสียงระเบิดดังสนั่น เสียงร้องที่น่าเวทนาดังขึ้น
แม้ว่ามันจะมีเกราะกระดูก แต่เมื่อเจอฝ่ามือของหนิงฝานเข้าไปประมาณ 50 ฝ่ามือ เกราะของมันก็ไม่อาจทนได้ ดังนั้น มันจึงถูกฝ่ามือของหนิงฝานระดมใส่อย่างต่อเนื่อง ยิ่งมาถึงฝ่ามือสุดท้ายที่ไม่อาจเค้นปราณออกมาต้านรับ จึงถูกฝ่ามือระเบิดร่างไป เหลือเพียงดวงจิตที่ยังรอด
ในชั่วพริบตาที่มันถูกสังหารและหลุดจากพันธะนาการของวิชาตรึงสวรรค์ มันเร่งหลบหนีสุดชีวิตเพื่อหวังจะเอาชีวิตรอดกลับไป มันรู้แล้วว่าไม่อาจสู้หนิงฝานได้ หากยังรั้งอยู่ต่อก็มีแต่ต้องตายจริงๆ
“จะไปไหน!”
แต่แล้วมันกลับไม่อาจหลบหนีได้ดังหวัง หนิงฝานผนึกการเคลื่อนไหวของดวงจิตมันไว้อีกครั้ง แล้วฉวยดวงจิตมาไว้ในมือ
เป็นครั้งแรกที่เต้าเหยียนถูกปฏิบัติเช่นนี้ มันจึงหวาดกลัวอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
“ถึงเจ้าจะทำลายร่างกายข้า แต่เจ้าจะฆ่าข้าไม่ได้ เพราะข้าเป็นของกษัตริย์เนี่ย หากเจ้าฆ่าข้า...”
“หนวกหู! อ่านความทรงจำ!”
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา กระตุ้นวิชาอ่านความทรงจำของมัน
หนิงฝานได้รู้ข้อมูลต่างๆจากความทรงจำของมันมากมาย ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับโลกปีศาจ ปรากฏการณ์โลหิตบนท้องนภาที่เกิดขึ้น และจากเหตุการณ์นั้น กลิ่นอายและเงาร่างของเขาได้ปรากฏยังโลกทุกใบ
หนิงฝานขมวดคิ้ว คาดไม่ถึงว่าปรากฏนั้นจะปรากฏขึ้นในโลกทั้ง 9 ดังนั้น เหตุผลที่หานเนี่ยเทียนส่งคนมาสังหารเขา ก็เพราะมันไม่อยากให้เขาบรรลุโลหิตในระดับที่สูงกว่ามัน
“คาดไม่ถึงว่าการที่กลายเป็นปีศาจของข้าจะทำให้เหตุการณ์ใหญ่ขนาดนั้น” เมื่อได้ข้อมูลทุกอย่างครบถ้วน เขาก็กินดวงจิตของมันเข้าไป
การที่หานเนี่ยเทียนส่งเต้าเหยียนมาสังหารหนิงฝาน ต่อให้หนิงฝานสังหารมันไม่ได้ แต่ก็ไม่อาจปล่อยมันกลับ
ไกลออกไป ผู้ที่อยู่บนเรือตกตะลึง “ท่านหมิงแข็งแกร่งมาก! ทั้งจับเป็นสตรีผมแดงได้ ทั้งสังหารองครักษ์ปีศาจที่ทรงพลังได้ บางทีท่านอาจแข็งแกร่งเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูง”
“ปีศาจตนนั้นกล่าวถึงกษัตริย์เนี่ย… หรือว่ามันจะเป็นข้ารับใช้ของกษัตริย์เนี่ยแห่งโลกปีศาจ? แต่ทำไมมันถึงตั้งใจจะสั่งหารท่านหมิง หรือท่านหมิงไปยั่วยุกษัตริย์เนี่ย?”
ผู้คนเปล่งเสียงอุทาน ก่อนหน้านี้พวกมันสัมผัสได้ถึงอันตรายร้ายแรงจากเต้าเหยียน การที่มันถูกหนิงฝานสังหาร จึงกลายเป็นภาพติดตาและประทับลงไปในความทรงของพวกมัน
ภายในโลกปีศาจ หานเนี่ยเทียนที่กำลังนั่งหลับตา จู่ๆกลับลืมตาขึ้น สีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง พลางเร่งนำมุกสีดำออกมาจากกระเป๋า
มันมีมุกสีดำอยู่ทั้งหมด 10 ลูก แต่ตอนนี้ยังเปล่งแสงอยู่เพียง 9 ลูกเท่านั้น
“เต้าเหยียนถูกสังหาร?”...