บาทที่ 42
บาทที่ 42
“มีอะไรที่นั่นรึ” เจ้าสำนักเซียนสกุณาขมวดคิ้ว
“ร่องรอยของไอมารกว้างมาก พวกเราส่งนกสอดแนมเข้าไปหลายตัวทั้งหมดล้วนสูญหายไป แต่จากการดูระยะไกล น่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างอะไรบางอย่าง” คนของสำนักเซียนสกุณากล่าว
“สิ่งก่อสร้างขนาดใหญ่ เป็นอะไรได้บ้าง” เจ้าสำนักเซียนห้าธาตุหันมาถามเจ้าสำนักเซียนสร้างสรรค์
“อาจจะเป็นปืนใหญ่รังสีมาร หรือประตูเคลื่อนย้ายข้ามมิติ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น” เจ้าสำนักเซียนสร้างสรรค์ตอบ สีหน้าเครียดขึ้นในทันที
“นี่อาจจะเป็นแผนส่งเสียงบูรพาตีฝ่าประจิม แสร้งโจมตีพวกเราที่นี่ แต่กลับมีแผนใหญ่ที่ร้ายกาจกว่าอยู่ทางด้านโน้นที่เราไม่ทันระวัง” เจ้าสำนักเซียนโชติช่วงกล่าว สีหน้าเครียดขึ้น
“ต้องส่งคนออกไปจัดการทางนั้นโดยทันที แต่เราไม่รู้ว่าศัตรูมีกำลังที่นั่นมากน้อยเพียงใด” เจ้าสำนักเซียนโชติช่วงกล่าว “แต่ข้าเดาว่าน่าจะมีกำลังรบไม่มากนัก ไม่เช่นนั้นหากมีกำลังรบมากพอที่จะเอาชนะพวกเราที่นี่แล้วพวกมันคงไม่ไปสร้างอะไรให้วุ่นวายที่นั่น”
“พูดมีเหตุผล เช่นนั้นทางนี้เราก็จะยื้อพวกนี้ไว้ตามที่พวกมันต้องการ และจะส่งกองกำลังที่มีความสามารถในการโจมตีอย่างเฉียบขาดไปจัดการที่นั่น” เจ้าสำนักห้าธาตุเสนอความคิดเห็น
“ตกลงตามนี้ เราจะคัดเลือกศิษย์ที่มีความสามารถโดดเด่นในการจัดการกับพวกมารได้อย่างเฉียบขาดเดินทางไปที่นั่น และข้าจะเป็นผู้นำกองกำลังไปด้วยตนเอง” เจ้าสำนักเซียนโชติช่วงกล่าว
เจ้าสำนักห้าธาตุคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนเอ่ยขึ้นว่า “ตกลงตามนั้น ส่วนท่านเฟยมู่ ท่านลองออกแบบอาวุธที่เหมาะกับการจัดการกับพวกมารมาหลายๆแบบให้พวกเรายลโฉมหน่อย ถ้ายอดเยี่ยมจริงพวกเราก็ค่อยผลิตออกมาจำนวนมาก เห็นด้วยไหม”
“ได้ ข้าจะจัดการให้” เจ้าสำนักเซียนสร้างสรรค์ตอบแล้วหันไปทางหงเซียว “หงเซียว ตามข้ามา”
“เดี๋ยวก่อน ข้าเห็นเขาเป็นคนหนึ่งที่โดดเด่นในการต่อสู้กับสำนักมาร ข้าใคร่จะขอยืมตัวไปกับข้าด้วย” เจ้าสำนักเซียนโชติช่วงกล่าว ด้วยขณะที่พวกเขากำลังจะส่งคนไปเข้าร่วมการต่อสู้ที่หน้าสำนัก พวกเขาก็พบเห็นการมาของหงเซียวในยานของสำนักเซียนห้าธาตุ และการจัดการกับศัตรูอย่างเด็ดขาด โดยเฉพาะศิษย์สำนักของเขาเอง ซีชี่ที่โดดเด่นที่สุด เขาพบเห็นว่าคนหกคนนี้ฝึกวิชาเซียนแปลกประหลาดแขนงหนึ่งที่สามารถบงการสิ่งที่คล้ายกับร่างจิตเทียมของสำนักเซียนเจ็ดเมฆาจำนวนมากเข้าต่อสู้ได้ โดยสิ่งนั้นสามารถใช้วิชาสำนักอื่นๆได้มากมายหลากหลายและแข็งแกร่งมาก
มีหกคนนี้ก็เหมือนกับมีเซียนจำนวนนับร้อยคอยช่วยเหลือ ดังนั้นเขาจะขาดหกคนนี้ไปไม่ได้
เจ้าสำนักเซียนสร้างสรรค์ชะงัก ก่อนจะกล่าวว่า “ระหว่างที่ท่านกำลังคัดเลือกคน ข้าขอเวลาคุยกับเขาสักครึ่งชั่วโมง”
“ตกลง” เจ้าสำนักเซียนโชติช่วงรับคำ
“เดี๋ยวพี่ชายกลับมา” หงเซียวกล่าวกับห้าสาว ก่อนที่จะติดตามเจ้าสำนักเซียนสร้างสรรค์ไป
เมื่อออกไปพ้นบริเวณนั้นแล้ว เจ้าสำนักเซียนสร้างสรรค์ก็ถามหงเซียวว่า “ข้าเห็นว่าเจ้ามีสิ่งที่คล้ายกับร่างจิตเทียมของสำนักเซียนเจ็ดเมฆาอยู่ มันเรียกว่าอะไรรึ”
“เจ้าพวกนั้นเรียกว่าผึ้งเซียนขอรับ” หงเซียวตอบ เพราะว่ามันถูกสร้างขึ้นด้วยวิชาเซียน ดังนั้นเซียนทุกคนจึงสามารถเห็นสิ่งที่เขาสร้างได้
“ข้าเคยเห็นพวกมันทำงานที่สำนัก ข้าเดาว่าพวกนี้น่าจะเป็นผู้ช่วยเจ้าในการผลิตสิ่งของต่างๆส่งขายด้วยใช่หรือไม่” เจ้าสำนักเฟยมู่ถาม
“ขอรับ”
“เป็นไปได้ไหมว่าจะให้พวกมันผลิตอาวุธจำนวนมาก” เจ้าสำนักถามอีก
“ถ้าท่านมีแบบมาและไม่เกินความสามารถของข้า นั่นก็ไม่มีปัญหา” หงเซียวตอบ
“งั้นตามข้ามา” พวกเขาพากันเดินไปยังพื้นที่ว่างที่หนึ่งซึ่งกันไว้สำหรับเป็นที่สำหรับสร้างอาวุธชั่วคราวของสำนักเซียนสร้างสรรค์บนเขาของสำนักเซียนเจ็ดเมฆา
“พื้นที่นี้ข้าต้องการให้เจ้าช่วยจัดสร้างสิ่งของตามนี้ ให้เสร็จโดยเร็วที่สุด” เจ้าสำนักเซียนสร้างสรรค์ล้วงแบบแปลนหลายแผ่นออกมา หงเซียวรับมันมาแล้วส่งให้ผึ้งเซียนช่วยกันวิเคราะห์ ขณะที่ภูษาเซียนสร้างสรรค์ได้ถ่ายทอดพลังเปลี่ยนผึ้งเซียนจำนวนหนึ่งให้เป็นผึ้งเซียนสร้างสรรค์
“ถ้าเจ้าต้องการสิ่งใดก็บอก ส่วนวัตถุดิบในการสร้างสิ่งของเหล่านี้นั้น ข้าจะให้คนส่งมาให้ภายในครึ่งวัน” เจ้าสำนักกล่าว แต่เมื่อเห็นหงเซียวยังจ้องมองเขาเหมือนว่ากำลังรอให้เขาพูดประโยคอะไรบางอย่าง เขาก็ได้ด่าหงเซียวในใจ “ส่วนรางวัลนั้น.. ข้าจะจ่ายให้เป็นค่าจัดสร้างอาวุธคิดต่อเล่มตามกฏสำนัก”
“ขอรับ” หงเซียวยิ้มกริ่ม
“เจ้าไปได้แล้ว” อีกฝ่ายไล่
หงเซียวไม่ได้ไปในทันที เขาสั่งงานผึ้งเซียนจำนวนหนึ่งและภูษาเซียนสร้างสรรค์ให้อยู่ที่นี่สร้างสิ่งของตามแบบแปลนของเจ้าสำนัก ก่อนที่จะกลับเข้าไปรวมกลุ่มกับคนอื่นในห้องประชุม
เจ้าสำนักเซียนโชติช่วงไม่ได้นำคนไปมากนัก มีเพียงตัวเขาซึ่งอยู่ในช่วงชั้นปัจฉิมเซียน ผู้อาวุโสสองคนในช่วงชั้นมัชฌิมเซียน และคนในชั้นปฐมเซียนอีกสามสิบคน รวมหงเซียวและหญิงสาวทั้งห้า
ด้วยการใช้ประตูมิติของสำนักเซียนสร้างสรรค์ จะทำให้พวกเขาสามารถหลบหลีกหูตาของฝ่ายตรงข้ามที่นี่ไปได้ แต่ว่าประตูมิติของสำนักเซียนสร้างสรรค์นั้นมีอาณาเขตไม่ถึงทะเลทรายเก้าพิโรธ พวกเขาจะต้องเดินทางเองอีกครั้ง
แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาสามารถเดินทางได้ไวอย่างยิ่ง ด้วยเวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง พวกเขาก็ไปถึงทะเลทรายเก้าพิโรธ
ที่นั่นมีคนของสำนักเซียนสกุณารออยู่แล้ว
“ลึกลงไปทางนั้นประมาณร้อยกิโลเมตรขอรับ ที่นกเหมือนจะเห็นอะไร แต่ก็จะขาดสัญญาณไปทุกครั้ง” เขารายงาน
เจ้าสำนักโชติช่วงพยักหน้าก่อนที่จะพากันพุ่งกายไปในทางนั้น
แต่ในเวลาเดียวกัน ซิ่วจูซึ่งก็อยู่สำนักเซียนสกุณาก็ได้ส่งนกออกไปเช่นเดียวกัน ต่างกันแต่ว่า นกนี้คือผึ้งเซียนรูปนก
นกพุ่งออกไปด้วยความเร็วสูงมาก ราวกับตัดผ่านมิติ มันผ่านวาบไปในทันที
“ทั้งหมดห้าสิบเจ็ดคน กำลังทำเหมือนกับการอัญเชิญบริเวณสิ่งที่คล้ายประตูมิติสีดำขนาดใหญ่มาก” เธอพูดด้วยเสียงเคร่งขรึม
“แย่แล้วพวกมันจะเปิดประตูข้ามทวีป ถ้าพวกมันเปิดสำเร็จคนจากทวีปมารก็ไม่ต้องข้ามทะเลมา พวกมันสามารถผ่านเข้ามาทางประตูนี้ได้ทันที นี่พวกมันต้องแอบมาสร้างประตูนี้ไว้นานแล้วแน่” เจ้าสำนักเซียนโชติช่วงอธิบายความหนักหนาของสถานการณ์ให้ทุกคนฟัง ขณะที่เร่งความเร็วขึ้น จนทิ้งหลายคนไว้ด้านหลัง
หงเซียวและห้าสาวก็พากันเร่งความเร็วขึ้นเช่นกัน
ขณะที่คนอื่นตามเจ้าสำนักโชติช่วงกับสองผู้อาวุโสที่เร่งรีบไม่ทัน แต่กลุ่มหงเซียวนั้นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ในเมื่อเขามีวิชาการเดินทางที่หลากหลายวิธีใช้ร่วมกัน
ไม่นานนักพวกเขาก็รู้สึกถึงคลื่นอันสะอิดสะเอียนพุ่งเข้ามาปะทะหน้า พร้อมกับสภาพแสงที่ค่อยมืดลงตามระยะทางที่พวกเขาเดินทางลึกเข้าไป
มีเงาร่างหลายสายพุ่งเข้ามาขัดขวางพวกเขา แต่ทั้งหมดล้วนขาดเป็นสองท่อนด้วยฝีมือของเจ้าสำนักเซียนโชติช่วง
ไม่นานนัก ข้างหน้าก็มืดมิด มีเพียงแสงที่เปล่งออกมาจากร่างเจ้าสำนักเซียนโชติช่วงที่สามารถทะลุทะลวงไปไกล
กรี๊ดดดดด เหมือนกับว่ามีเงามืดพร้อมกับมือมากมายยื่นออกมาจากความมืด พยายามที่จะจับแขนขาหงเซียวและเหล่าหญิงสาว เมื่อพวกมันไม่สามารถเข้าใกล้เจ้าสำนักและผู้อาวุโสทั้งสองได้
“หึ” หงเซียวแค่นเสียงพร้อมกับเปลวไฟที่ลุกพรึบท่วมกาย เมื่อบรรดาหญิงสาวเห็นเช่นนั้นต่างก็พากันทำตาม มีเพียงซีชี่และจินหลินที่เปล่งแสงสว่างออกมาเหมือนกับเจ้าสำนักเซียนโชติช่วง บรรดาเงาทั้งหลายที่เข้าใกล้ต่างพากันสูญสลายไปในทันที
ตูม เงาและแสงกระเด็นออกจากกัน พวกเขาเพ่งดูก็เห็นว่าข้างหน้าเจ้าสำนักกำลังต่อสู้กับเงามืดอย่างดุเดือด เช่นเดียวกันผู้อาวุโสทั้งสองต่างก็มีคู่ต่อสู้
เพราะว่าแสงสว่างที่พวกเขาเปล่งออกจากตัวทำให้พวกเขาเห็นไปไกลว่า เบื้องหน้ามีเสาแสงสีดำสูงเสียดฟ้าที่มีแรงดึงดูดมหาศาล และมีมือสีดำยื่นออกมาเป็นจำนวนมาก
หงเซียวและห้าสาวพุ่งตัวเข้าไปพร้อมกับผึ้งเซียน