บทที่ 6 สอบเข้าค่ายฝึกนักกีฬาอาชีพ
บทที่ 6 สอบเข้าค่ายฝึกนักกีฬาอาชีพ
เช้าวันรุ่งขึ้น เวลา 10.00 น. ณ ค่ายฝึกนักกีฬาอาชีพ สถานที่แห่งนี้มีขนาดใหญ่เป็นอย่างมาก มีคอมพิวเตอร์ที่สามารถให้ใช้งานได้ถึง 500 เครื่อง สถานที่แห่งนี้ตกแต่งได้อย่างสวยงาม ห้องคอมพิวเตอร์แต่ละห้องแบ่งออกเป็น 5 บ้าง 10 บ้าง ปะปนกันไปหลายๆแบบ
ระหว่างห้องกั้นด้วยกระจกใส ห้องแต่ละห้องตกแต่งแตกต่างกันออกไป อย่างเช่นผนังห้องนี้ตกแต่งภาพด้วยรูปดาวชนิดต่างๆ โต๊ะและเก้าอี้เป็นสีเทาแถบแดง ส่วนอีกห้องตกแต่งไปด้วยรูปธรรมชาติแบบป่าไม้ โต๊ะและเก้าอี้ของห้องนี้เป็นสีฟ้าแถบน้ำเงิน ซึ่งมองดูรวมๆแล้วสบายตา และเข้าถึงฟิลล์ได้ง่ายเป็นอย่างมาก
ซาโดมาถึงค่ายฝึก ก็ได้ไปลงทะเบียนอะไรเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ทางค่ายฝึกนักกีฬาอาชีพได้โทรหาผู้ปกครองของซาโด เพื่อยันยืนให้แน่ใจว่า ซาโด ไม่ได้หนีออกจากบ้านมาเพื่อสอบเข้าค่ายฝึกนักกีฬาอาชีพ
ด้วยอายุของซาโดในตอนนี้ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน ถึงจะมีสิทธิ์เข้าสอบ เพราะยังมีหลายครอบครัวที่พ่อแม่ไม่ยินยอมให้ลูกมาเป็นนักกีฬาอาชีพ จึงแอบหนีออกมาทดสอบ
ผู้คนที่มาสอบเข้าค่ายฝึกนักกีฬาอาชีพนี้ ส่วนมากอยู่ในช่วงอายุประมาณ 20 ปี ขึ้นไป ซาโดซึ่งมีอายุ 16 ปี ทางค่ายฝึกจึงต้องขออนุญาตโทรสอบถามผู้ปกครอง เพื่อที่จะไม่ให้เป็นปัญหาในภายหลัง
ถ้าหากพูดถึงสาเหตุที่พ่อแม่บางครอบครัวไม่ให้ลูกมาเป็นนักกีฬาอาชีพก็เพราะว่า พวกเขามองมันว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่มีความมั่นคง เสียอนาคตในระยะยาว การจะเป็นนักกีฬาอาชีพก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
หลังสิ้นสุดการเป็นนักกีฬาอาชีพหละ ? จะไปทำอะไรต่อ จะต่อยอดจากตรงไหน ลูกทำอะไรเป็นบ้าง? พ่อแม่บางครอบครัวไม่ได้มีฐานะที่ดี จึงเป็นห่วงลูกตรงจุดนี้
ซึ่งตรงนี้เด็กๆที่รักสายงานเกมนี้จริงๆ เขาก็คงมีทางออกของเขาอยู่แล้ว เมื่อสิ้นสุดการเป็นนักกีฬาอาชีพของตนแล้ว ก็อาจจะไปเป็นที่ปรึกษาทางเทคนิค ไปเป็นพิธีกรรับเชิญการบรรยายเกม นำเงินทุนที่กอบโกยได้จากการเป็นนักกีฬาอาชีพในช่วงเวลาหนึ่งไปลงทุนทำอะไรๆได้ อาชีพนี้มันสั้น แต่รายได้มากกว่ามนุษย์เงินเดือนปกติธรรมดาตั้งไม่รู้กี่เท่า
คุณลองคิดดูสิ มนุษย์เงินเดือน 15,000 บาท/เดือน ปีละ 180,000 บาท บวกโบนัสเข้าไปอย่างมากก็ 200,000 ต้นๆ แต่นักกีฬาอาชีพในระดับสูงๆ เงินเดือน 100,000 ขึ้นไป + ค่าสปอนเซอร์ หากลงแข่งชนะตามกำหนดได้โบนัสเพิ่มขึ้นไปอีก เรื่องแบบนี้อยู่ที่ความชอบ ความตั้งใจ เราไม่สามารถเอาความรู้สึก หรือ เอาคำว่า “ถ้า” มาตัดสินความชอบของคนอื่นได้
ปีนี้มีผู้มาสมัครสอบถึง 556 คน มากกว่าปีที่แล้วถึง 76 คน ผู้ที่มาสมัครสอบมีหลายรูปแบบแตกต่างกันไป เช่น กลุ่มคนที่ 1 คือกลุ่มคนที่มีฝีมือจริงๆในการจะเป็นนักกีฬาอาชีพ
กลุ่มคนที่ 2 คือกลุ่มคนที่อยู่ในระดับแนวหน้าของเกม แต่ยังต้องขยัน ฝึกฝนให้มากกว่านี้ถึงจะมีความสามารถอยู่ในกลุ่มคนที่ 1
กลุ่มคนที่ 3 คือกลุ่มคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง คิดว่าตัวเองไหวแน่ๆ มั่นใจในตัวเองเกินไปจนเกิดความเชื่อผิดๆขึ้นในใจ จึงมาเข้าร่วมสอบ
กลุ่มคนที่ 4 คือกลุ่มคนที่มาทดสอบเล่นๆ ได้ก็เอา ไม่ได้ก็เอา ไม่ได้จริงจังอะไรมาก ค่าสมัครสอบก็ไม่ได้แพงอะไรขนาดนั้น คุ้มแก่การทดสอบ และนำกลับไปโม้โอ้อวดแก่เพื่อนๆ และยังมีกลุ่มคนอีกมากมายหลายรูปแบบ ฯลฯ
เวลา 13.00 น. ถึงเวลาที่ทางค่ายฝึกให้ทุกๆคนทำการทดสอบ ใครมาลงทะเบียนก่อน ก็ได้บัตรหมายเลขแรกๆไปก่อน ซึ่งซาโดได้หมายเลข 55 จึงอยู่ในกลุ่มแรกที่ได้รับการทดสอบก่อน
“เชิญหมายเลข 1 – 100 เข้ารับการทดสอบ เพื่อมีสิทธิ์เข้าเป็นนักกีฬาอาชีพค่ะ” เสียงประกาศดังขึ้นจากภายในห้องโถง ผู้ที่มีหมายเลข 1 – 100 ลุกขึ้นจากที่นั่ง และ เดินเข้าไปยังห้องคอมพิวเตอร์ของค่ายฝึกทันที
เมื่อทุกคนเลือกที่นั่งของตนเองเรียบร้อยแล้ว ก็เริ่มเปิดคอมพิวเตอร์ของตนเองขึ้นมา บางคนก็นำคีย์บอร์ดและเมาส์มาเองจากบ้าน บางคนก็เล่นได้หมด จะเป็นเมาส์แบบไหน เมาส์เร็วเมาส์ช้าค่อยปรับเอา เมาส์ใหญ่ เมาส์เล็ก ไม่สนใจเล่นได้หมด
ส่วนคีย์บอร์ดไม่จำเป็นต้องเรืองแสงและตัวหนังสือใหญ่ เพราะระดับเราไม่ต้องมองคีย์บอร์ดแล้ว หากยังมองคีย์บอร์ดในขณะพิมพ์ และ กดใช้สกิลอยู่อีก ชาตินี้ทั้งชาติคงไม่ได้เป็นนักกีฬาอาชีพอย่างแน่นอน
ทุกคนมีความคิดและความถนัดตามแบบฉบับของตัวเอง เรื่องเหล่านี้ล้วนไม่มีใครบังคับ และ ไม่ผิดกฎกติกา แต่สำหรับซาโด เขาพาแป้นพิมพ์และเมาส์มาจากบ้าน เพราะเขารู้สึกว่า การเล่นของตัวเองเข้ามือที่สุดแล้ว ถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่ของยี่ห้อดี และ ราคาแพงที่สุด
เมื่อเปิดคอมพิวเตอร์เสร็จเรียบร้อย จะเข้ามาอยู่ในหน้า Desktop บนหน้า Desktop มี Folder อันหนึ่งเขียนว่า บททดสอบที่ 1 ทุกคนที่เปิดหน้าจอคอมขึ้นมา จะเห็นสิ่งนี้เป็นอย่างแรก เพราะสิ่งนี้ตั้งอยู่กลางหน้าจอพอดิบพอดี เมื่อเห็นว่าทุกคนพร้อมแล้ว ผู้คุมสอบก็เริ่มอธิบายเกี่ยวกับการสอบรอบที่ 1 ทันที
“ทุกคนคงเห็น Folder ที่วางอยู่บนหน้า Desktop แล้วใช่มั้ย? กดเข้าไป แล้วทำแบบทดสอบทั้งหมด 120 ข้อ หากใครทำได้ต่ำกว่า 115 ข้อ ก็เตรียมตัวเก็บสิ่งของของท่านกลับบ้านไปได้เลย มีเวลาจำกัด 1 ชั่วโมง หากใครส่งคำตอบไม่ทันใน 1 ชั่วโมงนี้ หน้าจอของท่านก็จะดับไปทันทีจากการตั้งค่าของระบบคอมพิวเตอร์ในที่แห่งนี้ อีกอย่างบททดสอบนี้ ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ท่านนำมาจากบ้าน หากใครเปลี่ยนอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว ก็ไม่เป็นไร อีกอย่างทำเสร็จไวเท่าไหร่ ก็สามารถเริ่มบททดสอบที่ 2 ได้ไวเท่านั้น ซึ่งมันจะดีแก่ตัวของพวกคุณเอง”
ทุกคนที่ได้ยินประกาศจากผู้คุมสอบ จึงรีบกดเข้าไปในหน้าทำแบบทดสอบทันที ซึ่งเมื่อกดเข้าไปแล้ว การทำข้อสอบ 120 ข้อนี้ จะเป็นแบบกากบาท ซึ่งมีช้อยส์ให้เลือกกากบาท 3 ช้อยส์
เวลาในการทำข้อสอบเริ่มขึ้น ซาโดที่กำลังตื่นเต้นกับการเข้าสอบนักกีฬาอาชีพ ไม่รอช้า เขารีบอ่านโจทย์ข้อที่ 1 ในทันที
ข้อที่ 1 Lv. สูงสุดของเกม The Killer Of Arena ณ ตอนนี้อยู่ที่เท่าไหร่ ?
1. 50
2. 60
3. 70
ซาโดที่เล่นเกมเกมนี้มาประมาณ 2 ปีแล้ว เขาตอบคำถามนี้ได้อย่างรวดเร็ว เริ่มแรกเดิมทีตอนปีที่ 1 Lv.จำกัดอยู่ที่ 50 พอเข้าสู่ปีที่ 2 กระแสความนิยมถล่มทลาย จึงมีการจัดตั้งโปรลีคขึ้น ซาโดเริ่มหันมาเล่นเกมในช่วงปีที่ 2 นี้ แต่ Lv.ยัง 50 คงเดิม ปีนี้ปีที่ 3 Lv.อัพมาอยู่ที่ 60 กำลังจะเข้าปีที่ 4 ในสิ้นปีนี้ ไม่แน่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงตรงจุดนี้
เริ่มแรกการทดสอบ ก็จะเต็มไปด้วยคำถามง่ายๆ จนมาถึงช่วงกลาง ความยากของคำถามก็เริ่มเจาะลึกยากขึ้นเรื่อยๆ ทุกสิ่งอย่างภายในเกม ถูกยกมาตั้งเป็นคำถามหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพื้นฐาน เรื่องสกิลอาชีพของตัวละครต่างๆ เรื่องAbility เรื่องมอนสเตอร์ภายในเกม
ซึ่งคนที่คลั่งไคล้ในเกมเกมนี้อย่างซาโด ถือว่าไม่เป็นเรื่องยากมากเท่าไหร่นัก การที่จะตอบคำถามถูกให้หมด 120 ข้อ มีความเป็นไปได้สูงมาก แต่ทว่าความผิดพลาดมักเกิดขึ้นได้เสมอ หากสมาธิของเราไม่จดจ่อพอ และยังมีเวลาพียง 1 ชั่วโมง ในการทำข้อสอบเท่านั้น
28 นาทีผ่านไป ซาโดกดส่งคำตอบเข้าสู่ระบบ ระบบก็ทำการประมวลผลอย่างรวดเร็วทันที หลังจากนั้นคะแนนก็ปรากฏออกมา 120/120 ซาโดแทบไม่ต้องลุ้นอะไรมากมาย เขาลุกขึ้นยืนและออกจากห้องสอบไปในทันที
หลังจากนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งก็ลุกขึ้นยืนเช่นกัน และออกจากห้องสอบตามซาโดไปเป็นคนที่ 2 เด็กผู้หญิงคนนี้มีอายุไล่เลี่ยกับซาโด ถ้าจะให้ประมาณก็น่าจะไม่เกิน 18 ปี
ทั้ง 2 เดินออกมาแทบจะพร้อมๆกัน ผู้คุมสอบที่อยู่ทางเฝ้าประตูเห็นเด็กทั้ง 2 คนออกมาและได้รับรายงานจากผู้คุมสอบด้านในว่า ทั้ง 2 ผ่านการทดสอบแรก เขาจึงนำซาโด และ เด็กผู้หญิงคนนี้ไปเข้ารับการทดสอบต่อไปทันที
เมื่อเข้ามาสู่ห้องสอบที่ 2 หน้าจอคอมพิวเตอร์ในห้องสอบที่ 2 ได้เข้าเกม The Killer Of Arena รอเอาไว้แล้วทุกเครื่อง ตัวละครที่ทางค่ายฝึกหามาให้ เป็นเพียงตัวละครธรรมดาที่ยังไม่เปลี่ยนอาชีพ ซึ่งจะมีก็เพียงแต่สกิลพื้นฐานธรรมดาๆ ที่สามารถใช้งานได้ เช่น เตะ ต่อย แทงเข่า ฟันศอก กระโดด สไลด์ ม้วนกลิ้ง เป็นต้น
ซาโดเดินเข้าห้องไปและเลือกคอมพิวเตอร์ด้านในสุดฝั่งซ้าย ส่วนเด็กผู้หญิงคนนี้เมื่อเห็นว่าซาโด เลือกมุมทางฝั่งซ้ายแล้ว นางจึงเดินไปมุมตรงกันข้ามอีกฝั่งแทน
ทั้ง 2 นั่งลงบนเก้าอี้ เมื่อผู้คุมสอบเห็นว่าทั้ง 2 พร้อมแล้ว จึงกล่าวว่า “ไม่ต้องรอผู้สอบคนอื่นๆ สามารถลงมือได้เลย”
บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ของซาโด เกิดเป็นทิวทัศน์พื้นที่แห่งหนึ่ง เหมือนเป็นสมรภูมิสงครามโลก ที่ต่อสู้กันจนเสร็จสิ้นแล้ว และไม่มีใครที่มาอาศัยอยู่ในที่แห่งนี้
เพราะตามพื้นดินในที่แห่งนี้ เต็มไปด้วยซากปรักหักพังของเหล็ก กองหิน กองทรายสูงหลายกอง มีหญ้าขึ้นเป็นหย่อมๆ มีตึกพังๆนับร้อยปักอยู่บนพื้นดิน แต่ทว่าตึกพวกนี้ไม่ได้มีรากฐานสมบูรณ์แบบแล้ว บ้างก็เอียง บ้างก็นอน ซากรถยนต์ ซากเครื่องบินหล่น มากมายเต็มไปหมด
ตัวละครที่ซาโดบังคับได้เกิดบนจุดหนึ่งของแผนที่ ซึ่งก็คือในตึกร้าง มุมขวาของหน้าจอคอมพิวเตอร์ ปรากฏเรดาห์ขึ้น แสดงตำแหน่งตัวละครเป็นจุดสีแดง และ มีจุดสีเขียวอยู่ไกลสุดของ Map
ซาโดพอเริ่มเข้าใจคร่าวๆแล้วว่า การทดสอบที่ 2 คือเน้นการบังคับควบคุมสกิลพื้นฐานอย่างแน่นอน และ หาวิธีเอาตัวรอดไปยังจุดสีเขียวที่อยู่ในจุดสิ้นสุดของ Map ซึ่งตัวละครที่ยังไม่เปลี่ยนอาชีพ เราจะเรียกว่า Seeker
ซาโดบังคับ Seeker เดินทางออกจากในตึก ระหว่างเดินออกมานั้น เศษหิน เศษปูนเล็กๆก็หล่นมาตามทาง แต่ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับตัวละครที่ซาโดบังคับ
ระหว่างกำลังออกจากมุมตึก เขามองซ้าย มองขวา เพื่อหาสิ่งผิดปกติในแผนที่แห่งนี้ ความเงียบของ Map ส่งผลให้ซาโดต้องระมัดระวังตัวมากกว่าปกติ เพราะไม่มีทางที่ค่ายฝึกนักกีฬาอาชีพ จะให้เรามาเดินเล่นใน Map ที่เป็นเหมือนสงครามโลกเช่นนี้
สิ่งแรกที่ซาโดเริ่มนึกถึงเมื่อเดินออกจากมุมตึก คือ การดักซุ่มโจมตี
จู่ๆ ซาโดได้ยินเสียงฝีเท้ากำลังเดินมาจากฝั่งตรงข้าม ซาโดรีบเอี้ยวตัวหลบข้างมุมตึกทันที และคอยสังเกตการณ์เป็นครั้งคราว
มีคนคนหนึ่งเดินออกมาจากตึกอีกฝั่ง ด้วยความที่อยู่ไกลเกินไป และต้องรีบหลบเข้ามุม เพื่อไม่ให้ศัตรูมองเห็น จึงสังเกตการณ์ได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่
ซาโดบังคับตัวละครเอี้ยวตัวไปมองแว๊บหนึ่ง และกลับเข้ามาอยู่ในมุมตึกอีกครั้ง ความคิดแรกที่แว๊บเข้ามาในหัว คือ ตัวละครตัวนี้เป็น NPC ที่ออกมาตามฆ่าเราแน่ๆ แต่ก็ยังไม่กล้าฟันธง 100% จึงรอดูท่าทีต่อไปอีกนิด
ซาโดชะเง้อคอออกไปอีกประมาณ 4 – 5 รอบ เพื่อรอดูท่าทีการแสดงออกของตัวละคร ว่าเป็นตัวละครที่โดนตั้งค่ามาโดยระบบหรือเปล่า หรือเป็นตัวละครที่มีผู้เล่นบังคับควบคุมอยู่ด้านหลังกันแน่
ตัวละครตัวนี้ ยิ่งเดินเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที เหมือนมีจุดมุ่งหมายในการเดิน และการเดินของตัวละครตัวนี้ ไม่กลัวฟ้ากลัวดินจริงๆ ทำให้ดูออกยากว่าเป็น NPC หรือ คนเล่น
ซาโดจึงตัดสินใจได้แล้วว่าต้องหลบหนีตัวละครตัวนี้อย่างเร่งด่วน ถ้าหากว่ามันพบเจอเราละก็ อาจจะมีพวกพ้องของมันออกมาไล่ล่าอีกก็เป็นได้
“ถ้าจะเดินล่อเป้าซะขนาดนี้ คงไม่ใช่ผู้เล่นที่ควบคุมอยู่เบื้องหลังอย่างแน่นอน” ซาโดงุมงำอยู่ในระหว่างนั่งเล่น
โพล๊ะ !!
จังหวะนี้เอง เห็นชัดๆจนได้ เป็นตัวละคร Seeker ญ ที่เดินล่อเป้าอยู่ตรงกลางสนามสงครามโลก วิ่งเข้ามาอีท่าไหนก็ไม่รู้อย่างรวดเร็ว ซาโดกำลังจะออกจากมุมตึกเพื่อหาเส้นทางไปยังจุดสีเขียว กลับจ๊ะเอ๋ กับ Seeker ญ คนนี้เข้าจังๆ
สกิลพื้นฐาน ต่อยธรรมดาถูกใช้งานออกมาอย่างรวดเร็ว ต่อยตรง ผั๊ววว ! ถึงจะเป็นแค่ ต่อยตรงธรรมดาๆ แต่ถ้าใช้ออกมาในเสี้ยววินาทีที่เราไม่ทันตั้งตัว ยังไงก็ยากที่จะหลบหลีก
ของแบบนี้มันขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และไหวพริบ ถึงจะสามารถหลบการโจมตีในระยะประชิดตัวแบบนี้ได้ทัน แต่สิ่งหนึ่งที่ซาโดยังสงสัย คือ ตกลงเป็น NPC หรือ คนเล่นกันแน่ ?
ต่อยตรงโดนเข้าเบ้าหน้าเต็มๆ เข่าลอยตามมาติดๆ หลังจากตั้งหลักโดยการปรับมุมกล้องได้ทันท่วงที ซาโดใช้ท่อนแขนทั้ง 2 กันเข่าลอยของ Seeker ญ ได้ทันพอดิบพอดี
เมื่อเข่าไม่ได้ ศอกก็ตามมาต่อ ซาโดไม่ได้บังคับตัวละครของเขาเพื่อหลบ แต่กับเลือกใช้สกิลเตะกวาด ทำให้ตัวละคร Seeker ช ของซาโดนั่งย่อลงไป เท้าขวาเตะกวาดออกมาในระดับตาตุ่ม Seeker ญ ก็เก่งกาจไม่แพ้กัน เขาไม่ได้กระโดดหลบการเตะกวาดของซาโด หลังจากศอกใส่ไม่โดน และเห็นซาโดนั่งย่อลงไป เขาจึงทิ้งศอกใส่ทันที
Seeker ญ ทิ้งศอกลงไป ทำให้การเตะกวาดครั้งนี้ กวาดฝุ่นบนพื้นดินแทบสะอาดสะอ้าน ทิ้งศอกใกล้ถึงลำตัวของ Seeker ช ซาโดจึงบังคับ Seeker ช หุบขากลับมา ทำให้ ทิ้งศอกของ Seeker ญ ทิ้งลงตรงพื้นด้านหน้า ซาโดรีบบังคับตัวละครกระโดดถอยหลัง 3 ครั้งติด พร้อมกับนึกคิดในใจว่า “ระบบเกมมันสามารถทำได้ขนาดนี้เชียวหรือ?” จึงลองเคาะข้อความออกไปเล่นๆ ในแชนแนลห้อง
“ฮัลโหลๆ” หลังจากเคาะข้อความออกไป ตัวละคร ญ หยุดนิ่งเช่นกัน และมีข้อความตอบกลับมาว่า
“นายเป็นผู้เล่นเหมือนกันสินะ”
“อื้มใช่” ซาโดตอบกลับและหยุดการเคลื่อนไหว
เด็กผู้ ญ คนนี้รู้ทันทีว่า Seeker ช เป็นซาโดที่บังคับควบคุม ส่วนซาโดก็รู้ว่า Seeker ญ คนนี้เป็นผู้หญิงคนที่ทำข้อสอบเสร็จหลังเขาเมื่อครู่ และได้เดินเข้ามาในห้องทดสอบที่ 2 พร้อมๆกัน
ระหว่างนั้นผู้คนที่สอบเสร็จและผ่านเกณฑ์ เริ่มทยอยเข้ามาในห้องสอบที่ 2 ซึ่งห้องสอบที่ 2 มีอยู่หลายห้องเช่นกัน ผู้คนที่เดินเข้ามา ต่างคนต่างนั่งลงในตำแหน่งที่มีคอมพิวเตอร์ว่าง และ คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องต่างมีที่กั้น เพื่อความเป็นส่วนตัวเอาไว้ ซึ่งผู้ที่มาทีหลัง ผู้คุมสอบไม่อนุญาตให้เดินตรวจสอบผู้ที่มานั่งสอบก่อนได้
“ผมว่าเราไม่ควรมาต่อสู้กัน” ซาโดเคาะข้อความลงแชนแนลห้อง
“คุยส่วนตัว” Seeker ญ ตอบกลับ
ซาโดเข้าใจจุดประสงค์ของเธอทันที จึงกดคลิกเข้าไปที่ตัวละคร Seeker ญ และใส่ชื่อลงไปในช่องว่างแชททางฝั่งซ้าย ที่ระบุการคุยส่วนตัวเอาไว้ จากนั้น เขากด Tab 1 ครั้ง เพื่อทำให้เคอเซอร์เลื่อนมายังตำแหน่งพิมพ์ข้อความ
“ผมคาดว่า สมรภูมิแห่งนี้ เป็นการต่อสู้กันเองระหว่างผู้เข้าสอบ”
“ฉันก็คิดแบบนั้น โชคดีที่เราเข้ามาด้วยกันก่อน 2 คน ไม่งั้นคงผ่านไปยังจุดสีเขียวตรงนั้นอย่างยากลำบากแน่นอน”
“งั้นเรารีบไปกันเถอะ !!”