บทที่ 173
บทที่ 173
ผู้แปล loop
ไม่กี่วันต่อมา
ผลลัพธ์ของมื้ออาหารต้อนรับแสดงขึ้น เนื่องจากผู้นำในสำนักไม่ได้คิดอย่างถี่ถ้วนเกี่ยวกับตัวของดงซูบินและไม่ได้มอบหมายงานใด ๆ ให้กับเขาหัวหน้าแผนกอื่น ๆ ในสำนัก จึงไม่จัดงานต้อนรับเขา และไม่ได้ปรึกษาคณะกรรมการพรรคของมณฑลและโอนดงซูบินมาโดยตรงๆ หลายคนไม่ชอบข้อตกลงนี้ อีกเหตุผลคืออายุของดงซูบิน เขายังเด็กเกินไปและไม่มีใครคิดว่าเขามีความสามารถดงซูบินยังคงอยู่ในระดับต่ำตั้งแต่เขาเข้าร่วมสำนักและไม่มีใครรู้สึกว่าเขามีดเส้นสายมาจากใคร
ในตอนเช้า ดงซูบินเดินเข้ามาในสำนักพร้อมกับขนมปังในมือ
“หัวหน้าซูบิน”
“อรุณสวัสดิ์หัวหน้าซูบิน”
เจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนยิ้มและทักทายดงซูบิน แต่พวกเขาได้รับอิทธิพลจากหัวหน้าแผนกและไม่ต้อนรับต่อดงซูบิน เหมือนเมื่อก่อน
ดงซูบินเป็นคนที่อ่อนไหว เขาสามารถรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทัศนคติของทุกคนที่มีต่อเขา กลับไปที่ห้องทำงานของเขาเขาถูมือของเขา และรู้สึกหงุดหงิด หากสิ่งนี้ยังคงดำเนินต่อไปเขาจะไม่มีอำนาจในสำนัก ตอนนี้ทุกคนกำลังปฏิบัติต่อเขาราวกับว่าเขามองไม่เห็นเขา หัวหน้าเหลียงคิดอะไรอยู่? ทำไมเขาไม่มอบหมายหน้าที่ใด ๆ ให้กับเขา? สิ่งที่ควรจะดีขึ้นหลังจากที่เขาได้รับผิดชอบงานใดๆ ด้วยสิทธิอำนาจนี้ผู้คนจะมองเขาต่างออกไป
แม้ว่าดงซูบินจะเป็นกังวลในการจะสร้างชื่อให้กับตัวเอง แต่เขาไม่ได้มองหาเหลียงเฉิงเพ็ง เขากลัวเขาจะไม่ได้ทิ้งความประทับใจใดๆไว้ให้กับหัวหน้าคนนี้
9.30 น. ผู้อำนวยการสำนักงาน ฮู่ซินเหลียน โทรเข้ามาในสำนักงานของดงซูบินเพื่อให้ไปเข้าร่วมการประชุมหัวหน้าสำนัก
ดงซูบินคิดว่ามันคงถึงเวลาแล้ว! ‘ฉันน่าจะได้รับมอบหมายหน้าที่บางอย่าง!’
การประชุมหัวหน้าสำนักอยู่ในห้องประชุมขนาดเล็กที่ชั้นบนสุด นอกเหนือจาก ดงซูบินและรองหัวหน้าคนอื่น ๆ หัวหน้าแผนกบางคนก็จะเข้าร่วมด้วย หลังจากดงซูบินเข้ามาในห้องประชุมเขาก็สังเกตุอย่างเงียบ ๆ เขาต้องการที่จะรู้ว่าใครสนิทกับใครและหากมีใครที่เป็นศัตรูกับใครเนื่องจากดงซูบินนั้นยังถือเป็นเด็กใหม่ในสำนักและไม่แน่ใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำ เขาต้องการเวลาสักครู่เพื่อค้นหาก๊กต่างๆในสำนัก เขาไม่อยากทำผิดพลาดใดๆ นี่คือเหตุผลที่ดงซูบินพยายามอ้อนนอมถ่อมตนต่อทุกคนในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
5 นาทีต่อมาการประชุมก็จะเริ่มขึ้น ฮู่ซินเหลียน รับผิดชอบในการบันทึกการประชุม
เหลียงเฉิงเพ็งได้อัพเดตความคืบหน้าของงานสำนักในเดือนก่อน เขายกย่องเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในการปราบปรามคดีลักทรัพย์และข่มขืน หลังจากนั้นเขาอนุมัติการจัดซื้อผ้าห่มใหม่ 20 ผืนและการซื้อเครื่องเขียนสำหรับสำนักงาน จากการสังเกตของ ดงซูบิน หัวหน้าเหลียงมีอำนาจมากมายในสำนักและไม่มีใครท้าทายการตัดสินใจของเขา ทุกคนเห็นด้วยกับสิ่งที่เขาพูด
หลังจากนั้นไม่นานเหลียงเฉิงเพ็งก็ล้างคอและมองดูไฟล์ในมือของเขา “ต่อไปเราจะหารือเกี่ยวกับกรณีของเว็บไซต์ของมณฑล”
รองหัวหน้าผู้บริหาร หูยี่กิว และผู้นำคนอื่น ๆ ที่ขมวดคิ้ว
เหลียงเฉิงเพ็งขว้างไฟล์บนโต๊ะด้วยความโกรธ “ ใครบางคนกำลังท้าทายรัฐบาลมณฑลอย่างเปิดเผย เว็บไซต์ของรัฐบาลถูกแฮ็คหลายครั้ง แฮกเกอร์ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทำงานผิดปกติและทำให้เว็บไซต์เสียหาย 1 เดือน. เป็นเวลาหนึ่งเดือนเต็มและเมื่อคืนนี้เว็บไซต์ถูกแฮ็กอีกครั้ง ผู้นำของมณฑลเรียกและดุพวกเรา หัวหน้าหู คุณรับผิดชอบด้านความปลอดภัยอินเทอร์เน็ต คุณจะแก้ไขกรณีนี้เมื่อใด
หูยี่กิว ตอบว่า:“อาชญากรเหล่านี้เก่งมาก ทีมรักษาความปลอดภัยทางอินเทอร์เน็ตของเราเพิ่งตั้งค่าเมื่อเร็ว ๆ นี้……”
เหลียงเฉิงเพ็งขัดจังหวะเขา:“เราไม่ได้รับใครบางคนจากสำนักเมืองข้ามาช่วยพวกเราเหรอ?”
หูยี่กิว กล่าว “การบริหารไซเบอร์สเปซของสำนักซิตี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางอินเทอร์เน็ตมาให้ความช่วยเหลือเรา แต่ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามอย่างไรพวกเขาก็ยังไม่สามารถหยุดแฮ็กเกอร์เหล่านั้นได้ พวกเขารอสองสามคืนสำหรับแฮกเกอร์ แต่แฮ็กเกอร์ไม่ปรากฏ เมื่อคืนที่ผ่านมาแฮ็กเกอร์ก็ปรากฏตัวขึ้นทันทีหลังจากที่เจ้าหน้าที่ออกจากที่ทำงาน เจ้าหน้าที่อินเทอร์เน็ตคิดว่าแฮ็กเกอร์คนนี้เก่งมากและมีไหวพริบมาก…เราจึงไม่อาจ……”
รองหัวหน้าเฉาจิงตอบอย่างไม่เป็นทางการ “ผมคิดว่าเราควรปิดเว็บไซต์ชั่วคราวก่อนที่ความเสียหายจะเกิดขึ้นมากไปกว่านี้”
กรณีนี้ทำให้ หูยี่กิว หนักใจมาระยะหนึ่งแล้ว เขาเพิ่ม:“ผมก็คิดเช่นกัน”
เหลียงเฉิงเพ็งตอบอย่างดุเดือด:“นี่จะเราจะยอมแผลต่ออาชญากรพวกนั้นหรือยังไงกัน! พวกมันจะยังคงทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆต่อไป! ไม่มีที่ว่างสำหรับการเจรจา! การติดต่อสำนักงานเมืองตอนนี้และขอเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือเรา! หัวหน้าหู! วางแผนการทำงานของนายให้และมุ่งเน้นไปการแก้ไขเคสนี้ให้ได้! กรณีนี้จะต้องถูกแก้ไขโดยเร็วที่สุด!”
หูยี่กิวถอนหายใจในใจของเขา “รับทราบ……” เขาต้องการปิดเว็บไซต์ ถ้าไม่เขาจะต้องรับผิดชอบด้วยตัวคนเดียวอย่างเต็มที่ หูยี่กิว เป็นคนที่ปรารถนาอยากจะขึนมามีอำนาจมากขึ้น เกือบครึ่งหนึ่งของแผนกและสถานีทั้งหมดอยู่ในความดูแลของเขา ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจที่ตัดสินใจเข้ายึดแผนกรักษาความปลอดภัยไซเบอร์
ดงซูบินเองก็เคยได้ยินเรื่องการแฮ็คเว็บไซต์ของรัฐบาลมณฑลด้วย เขาเคยได้ยินเกี่ยวกับแฮ็กเกอร์เหล่านี้จากสำนักงานที่หกเมื่อเขาอยู่ในความมั่นคงของรัฐ หากตำรวจทางอินเทอร์เน็ตของเมืองไม่มีอำนาจในการต่อต้านแฮ็กเกอร์นั่นหมายความว่าแฮ็กเกอร์คนนั้นเก่งมาก มันเป็นไปไม่ได้ที่จะจับกุมหรือหยุดแฮ็กเกอร์ ซึ่งความเป็นไปได้ที่จะจับตัวแฮ๊กเกอร์มาได้ก็ขึ้นอยู่กับดวงแล้ว
ทันใดนั้นประตูห้องประชุมก็เปิดออกและมีคนวิ่งเข้ามา
ใบหน้าของเหลียงเฉิงเพ็งเปลี่ยนไปและกำลังจะด่าว่าชายหนุ่มคนนั้น ชายหนุ่มคนนั้นรีบส่งโทรศัพท์มือถือมาหาเขาและกระซิบ:“หัวหน้าเขตกำลังตามหาคุณ”
เหลียงเฉิงเปงหยุดพักหนึ่งวินาทีและรับสาย เขาเริ่มพูดพล่ามเมื่อเขาพูดทางโทรศัพท์
ดงซูบินและคนอื่น ๆ มองดูกันและกัน พวกเขาสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น
หลังจากวางสายโทรศัพท์เหลียงเฉิงเพ็งก็กระแทกโต๊ะด้วยความโกรธ "ไร้สาระ! พวกมันไม่เคารพกฎหมาย!“หัวหน้าเหลียงมองหน้าทุกคนที่กำลังมึนงงกับเหตุการณ์นี้อยู่และพูดว่า:” เมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเว็บไซต์ของรัฐบาลมณฑลถูกแฮ็คอีกครั้ง เนื้อหาทั้งหมดในไซต์มีการเปลี่ยนแปลงและแฮกเกอร์ก็แลกเปลี่ยนชื่อหัวหน้าเขตและเจ้าหน้าที่!
ทุกคนหายใจเข้าลึก ๆ แลกเปลี่ยนชื่อของหัวหน้าเขตและรองหัวหน้ามณฑลหรือไม่ นี่ถือเป็นอาชญากรรมทางการเมืองที่ร้ายแรง! แฮกเกอร์กล้าเกินไป!
เหลียงเฉิงเพ็งเริ่ม คำราม:“มณฑลได้ออกคำสั่ง! กรณีนี้จะต้องแก้ไขภายในสองวัน! ถ้าไม่มีผู้นำที่เกี่ยวข้องจะต้องรับผิดชอบ!”
หูยี่กิวหันมาหน้าซีดทันที เขาเป็นหัวหน้าในการดูแลเรื่องพวกนี้ “หัวหน้าเหลียงสองวันมันสั้นเกินไปนะครับ คุณสามารถ…….”
“แค่สองวันเท่านั้น!” เหลียงเฉิงเปงกล่าว “หากนาย ไม่สามารถแก้ไขกรณีนี้ได้ ฉันจะถือว่านายต้องเป็นคนรับผิดชอบ!”
หูยี่กิว เกือบสาปแช่งเสียงดัง เป็นไปได้อย่างไร!
ดงซูบินเป็นคนที่แบกความขุ่นเคือง เมื่อเขาได้พบกับหูยี่กิว เป็นครั้งแรกเขาก็สนุกกับดงซูบินตอนนี้หูยี่กิว กำลังมีปัญหาและดงซูบินกำลังยิ้มอยู่ในใจอย่างมีความสุข สองวัน? คุณอาจไม่สามารถจับกุมแฮ็กเกอร์ได้แม้ว่าคุณจะมีเวลาสองเดือน! เจ้าหน้าที่และหัวหน้าแผนกคนอื่น ๆ มองหูยี่กิว ด้วยความสงสาร ทุกคนจะเดือดร้อนหากพวกเขาได้รับมอบหมายให้แก้ปัญหานี้
หลังจากนั้นเหลียงเฉิงเพ็งยังคงคุยกันเรื่องอื่น
ดงซูบินกำลังรออย่างกระตือรือร้นที่จะดูว่าสถานีใดจะได้รับมอบหมายให้เขา สถานีดงซูบินต้องการดูแลสถานีตำรวจหมู่บ้านฮุ่ยเทียน สถานที่นั้นไม่เพียง แต่เป็นบ้านเกิดของเขาเท่านั้น แต่ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ดีกว่าหมู่บ้านอื่น ๆ เนื่องจากมีเหมืองทองคำในบริเวณใกล้เคียง แต่หมู่บ้านฮุ่ยเทียนอยู่ภายใต้เขตอำนาจของหูยี่กิว และดงซูบินจึงไม่ได้มีโอกาสนั้น เขาถอนหายใจ ... ดงซูบินอธิษฐานว่าหมู่บ้านที่เขารับผิดชอบจะไม่ใช่หมู่บ้านที่ยากจนและไร้กฎหมาย
5 นาที…
10 นาที…
การประชุมจะสิ้นสุดลง
ดงซูบินตกตะลึงเพราะหัวหน้าเหลียงไม่ได้มอบหมายหน้าที่ใด ๆ ให้กับเขา! เขาโกรธมาก แม้ว่าทุกคนจะดูถูกเขาเนื่องจากอายุของเขาเขาก็ยังคงเป็นรองหัวหน้าสำนัก เขาจะไม่มีหน้าที่ใด ๆ ได้อย่างไร
ดงซูบินไม่สามารถระงับอารมณ์ได้อีกต่อไป หลังจากการประชุมสิ้นสุดลงเขาก็ไปที่สำนักงานของเหลียงเฉิงเพ็ง “หัวหน้าเหลียงผมคุ้นเคยกับสำนักงานนี้ดี คุณช่วยบอกผมทีว่าผมจะต้ออรับผิดชอบเรื่องไหนดี?”
เหลียงเฉิงเพ็งมองไปที่ดงซูบิน “ทางสำนักจะมอบหมายหน้าที่ให้คุณในม้า”
เร็ว ๆ นี้? อีกกี่วัน? ควรทำในวันแรกของฉัน
เหลียงเฉิงเพ็งตอบเพียงคำง่ายๆเพื่อให้ดงซูบินพ้นๆไปจากสายตาเขา ประการแรกดงซูบินไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้และประการที่สองเหลียงเฉิงเพ็งไม่ได้คิดว่าจะมอบหมายหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทั้งหมดอีกครั้ง อดีตรองผู้ว่าการทำผิดและสถานีและหน่วยงานทั้งหมดที่เขาอยู่ในความดูแลของถูกจับโดยหูยี่กิว ตอนนี้ดงซูบินเข้ารับแทนตำแหน่งรองในอดีตและยังไม่มีงานให้เขาอีกแล้ว
หลังจากออกจากห้องทำงานของหัวหน้าเหลียงใบหน้าของดงซูบินก็ดูเคร่งเครียดขึ้น ระหว่างทางกลับไปที่สำนักงานของเขาเขาสังเกตเห็นทุกคนมองเขาอย่างประหลาด หัวหน้าแผนกบางคนยิ้มให้เขาและไม่ทักทายเขาด้วยความเคารพ พวกเขาปฏิบัติต่อเขาในฐานะรองหัวหน้าที่ไร้อำนาจสั่งการใดๆ
ดงซูบินรู้ดีว่าผู้นำคนอื่น ๆ ทำหน้าที่ทั้งหมด แต่นี่ไม่ใช่ข้ออ้างที่จะไม่มอบหมายหน้าที่ใด ๆ แก่เขา ยังคงเป็นเพราะเขาไม่ได้ทำอะไรเลยเพื่อสร้างความประทับใจให้กับเหล่านผู้นำในสำนัก เหลียงเฉิงเพ็งได้กล่าวคำปราศรัยครั้งสุดท้ายในสำนักและเขาสามารถมอบหมายสถานีบางแห่งให้กับดงซูบินดูแลได้
ดงซูบินยังต้องการแสดงความสามารถของเขา แต่เขาไม่มีหน้าที่ใด ๆ เขาจะพิสูจน์ตัวเองได้อย่างไร เขาจะรอนานเท่าไหร่ ดงซูบิน ได้พบปัญหาที่แท้จริงของเขาเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เขาย้ายไปที่สำนักงานระดับชนบท!
……
ถ้าเป็นวันธรรมดาผู้คนในสำนักจะคุยกับดงซูบินว่า เกี่ยวกับเรื่องของเขาที่ยังไม่ทำหน้าที่ใด ๆ แต่วันนี้ทุกคนในสำนักกำลังพูดถึงการแฮ็คของเว็บไซต์ของรัฐบาลมณฑล ไม่เพียง แต่หัวหน้าเขตเท่านั้นที่โกรธแค้นสมาชิกคณะกรรมการพรรคกฎหมายของมณฑลและรองหัวหน้าเขตซึ่งรับผิดชอบด้านความปลอดภัยสาธารณะโทรเข้ามาที่สำนักงานขณะที่กำลังประชุมอยู่ พวกเขาตำหนิเหลียงเฉิงเพ็งหูยี่กอ่วและผู้นำคนอื่น ๆ พวกเขาเน้นว่ากรณีนี้จะต้องแก้ไขภายในสองวัน!
หูยี่กิว อารมณ์ไม่ดี เขาและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ทำงานตลอดบ่ายและไม่สามารถหาเบาะแสใดๆได้
ทุกคนรู้ว่า หูยี่กิว กำลังมีปัญหา ผู้นำของเคาน์ตีจะไม่ยอมปล่อยเขาไป
เหลียงเฉิงเพ็งยังอยู่ภายใต้แรงกดดันอันยิ่งใหญ่ หัวหน้ามณฑลสำคัญเกี่ยวกับชื่อเสียงของเขา ชื่อของเขาวางอยู่ใต้คอลัมน์รองหัวหน้าและชื่อรองหัวหน้าแทนที่เขา แม้ว่าแฮ็คเกอร์จะทำเช่นนี้ผู้ช่วยหัวหน้าก็ควรมีปัญหาเช่นกัน หากกรณีนี้ไม่ได้รับการแก้ไขรองหัวหน้าผู้บริหารหูยี่กิว และเหลียงเฉิงเพ็งจะมีปัญหา
แต่จนถึง 20.00 น. ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
เหลียงเฉิงเพ็งสั่งให้พวกเขาทำงานตลอดทั้งคืนก่อนออกจากสำนัก เหลียงเฉิงเพ็งยังรู้ว่า 2 วันนั้นเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะแก้ไขกรณีนี้ เขาคิดถึงวิธีแก้ปัญหาเมื่อโทรศัพท์ของเขาดังขึ้น เขาดูที่หน้าจอผู้โทรก่อนรับสาย “พี่เซงหรอ? ทำไมคุณโทรหาฉัน”
มันเป็นหัวหน้าฝ่ายความมั่นคงแห่งรัฐเขตตะวันตกของปักกิ่ง เซงอังเกา มาจากความปลอดภัยสาธารณะของเมืองเฟรยแม้ว่าเขาจะไม่ได้มาจากสำนักเดียวกัน แต่เขาได้พบกับเหลียงเฉิงเพ็งมาหลายครั้งแล้วในอดีต “ฮ่าฮ่าฉันโทรมาถามคุณแล้วถามเกี่ยวกับชายหนุ่มที่ถูกย้ายออกมาจากสาขาของฉัน ซูบินกำลังทำอะไรอยู่”
เหลียงเฉิงเพ็งรู้สึกประหลาดใจ เขารู้ว่าหัวหน้าซูบินเคยทำงานภายใต้เซงอังเกา แต่เขาไม่เคยคาดหวังให้เซงอังเกาโทรหาเขาเป็นการส่วนตัวเพื่อถามเกี่ยวกับดงซูบินเพราะทั้งคู่ไม่ได้ติดต่อกันเป็นเวลานาน “หัวหน้าซูบินเพิ่งมารายงานกับทางสำนักของเราและยังไม่คุ้นเคยกับงานมาก ครับ. ผมจะดูแลเขาในอนาคต” เขาคิดว่าดงซูบินใช้ประโยชน์จากเส้นสายของเซงอังเกาเพื่อให้ได้รับการโอนย้ายมาที่นี้
เซงอังเกาได้ยินสิ่งที่เหลียงเฉิงเพ็งพูดและเข้าใจความหมายของ“การดูแล” “ไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับตัวฉัน ตอนนี้เขาเป็นลูกน้องของนาย เพียงปฏิบัติต่อเขาตามปกติ ฉันไม่ได้มีความหมายอื่น ๆ” ก่อนที่ดงซูบินจะออกจากสาขาตะวันตก พวกเขามีความขัดแย้งบางอย่างซึ่งกันและกัน และ เซงอังเกาจะไม่ช่วยดงซูบินอย่างแน่นอน
เหลียงเฉิงเพ็งรู้สึกว่าดงซูบินและเซงอังเกาไม่ถูกกัน
“พี่เหลียงน้ำเสียงของนายดูไม่ค่อยดีเลยนะ นายทำงานมากเกินไปหรือเปล่า?”
“อย่าพูดถึงมัน ผมมีคดียากอยู่ในมือและทางสำนักงานเมืองให้เวลาเพียง 2 วันในการแก้ไข แต่ตอนนี้เรายังไม่มีเงื่อนงำใดๆเลย”
“กรณีนี้ยากที่จะจัดการ?”
เหลียงเฉิงเปงถูวัดของเขา "ถูกตัอง. เฮ้อ…ตอนนี้ผมพร้อมที่จะถูกลงโทษแล้ว”
เซงอังเกาไม่ได้ถามรายละเอียดของคดีและกล่าวว่า“พี่เหลียงถ้านายไม่มีวิธีอื่นให้มองหาซูบิน”
เหลียงเฉิงเพ็งตกตะลึง “ว่ายังไงนะครับ?” เขาไม่สามารถบอกได้ว่ามีอะไรพิเศษเกี่ยวกับดงซูบิน
"ใช่. แม้ว่าฉันจะไม่ชอบท่าทางของซูบิน แต่ฉันก็ต้องยอมรับว่าเขามีความสามารถจริงๆ หากคุณพบปัญหาใด ๆ เพียงแค่มองหาเขา”